ตอนที่ 6 หิวข้าวอีกแล้วเหรอ

2025 Words
แต่เรื่องราวมันไม่ง่ายแบบนั้น เมื่อขวัญข้าวล็อกเป้าหมายไว้ที่ตัวเขาแล้ว เย็นนั้นเขาจึงได้รับการ์ดเชิญให้ไปร่วมรับประทานอาหารกับเธอ เขาจึงตอบรับไปกับพนักงานที่นำการ์ดมาให้ ว่าเขาจะไปและขอพาเพื่อนไปด้วยสองคน “ดีใจนะคะ ที่คุณรับคำเชิญ” ขวัญข้าวเอ่ยต้อนรับเขาและเพื่อน “ครับ” “สวัสดีค่ะ ฉันขวัญข้าว หรือเรียกข้าวก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” “ครับ ผมพิชญะ เรียกน้ำเหนือ หรือเหนือก็ได้ครับ นี่เพื่อนผม ราวิน หรือหมอวิน นี่ก็พริมาหรือหมอพรีมครับ” “ยินดีที่ได้รู้จักคุณหมอทุกคนนะคะ” “ยินดีเช่นกับครับ” ราวินเอ่ยขึ้น “ยินดีเช่นกันค่ะ” พริมาตอบรับคำทักทาย “เชิญนั่งก่อนค่ะ วันนี้ขออนุญาตเลี้ยงขอบคุณหมอเหนือนะคะ ที่อุตส่าห์ช่วยดึงตัวข้าวเอาไว้ตอนเราเดินชนกัน ไม่งั้นข้าวหงายหลังล้มกับพื้นแน่ค่ะ” คำพูดเหล่านั้น สร้างความไม่พอใจให้หมอสาวคนสวยเป็นอย่างมากเพราะแค่มองด้วยหางตาก็รู้ว่าแม่นั่นจ้องจะงาบผู้ชายที่เธอหมายปองมานาน “เหนือก็เป็นสุภาพบุรุษแบบนี้เสมอแหละค่ะคุณข้าว ไม่ต้องคิดมากนะคะ” ภายใต้รอยยิ้มหวานของหมอสาวซ่อนความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้อย่างมิดเม้น “ทานข้าวกันดีกว่าค่ะ สัมมนาเครียดกันทั้งวันคงหิวกันแย่” เจ้าบ้านเชิญแขกให้ร่วมรับประทานอาหารที่เธอเลือกสรรแต่ละเมนูที่มีชื่อของโรงแรมเธอทั้งสิ้น ขวัญข้าวเปิดไวน์แดงราคาแพงต้อนรับแขกกลุ่มนี้ด้วย “เหนือทานปลาช่อนลุยสวนนี่สิ ของโปรดเหนือไม่ใช่หรอ” หมอสาวตักอาหารของโปรดใส่จานให้พิชญะ เธอเอาอกเอาใจเขาเป็นพิเศษ เพราะต้องการแสดงตัวว่าตนเองนั้นเป็นคนพิเศษของหมอหนุ่มที่เจ้าของโรงแรมมองตาเป็นมัน “เอ่อ คุณข้าวเก่งจังเลยนะครับ ยังสาวอยู่แท้ๆ แต่ต้องมารับผิดชอบงานในตำแหน่งใหญ่ๆแบบนี้” “มันจำเป็นน่ะค่ะ คุณพ่อคุณแม่มีข้าวคนเดียว ถ้าข้าวไม่ตั้งใจเรียนรู้งานให้มากก็กลัวจะทำโรงแรมที่ท่านสร้างมากับมือเสียหาย” “ได้ข่าวว่าคุณข้าวจบมาจากอเมริกาหรือครับ” ราวินชวนคุยเพราะอยากคลี่คลายบรรยากาศมาคุบนโต๊ะอาหาร “ใช่ค่ะ ข้าวถูกส่งไปเรียนที่นั่นตั้งแต่ขึ้น ม.ปลายเลยค่ะ” “อยู่เมืองนอกเมืองนานานๆแบบนี้ ไม่ติดเอาวัฒนธรรมฝรั่งมาหรือคะ กลับมาอยู่บ้านเราวัฒนธรรมต่างกันมากน่าอึดอัดแย่เลยค่ะ” คำถามชี้นำหลุดออกมาจากปากหมอสาว หวังให้พิชญะเห็นข้อเสียของผู้หญิงตรงหน้านี้ให้มาก “ก็ไม่อึดอัดนะคะ เพราะข้าวเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนค่ะ” “คุณข้าวมั่นใจในตัวเองดีจังเลยนะคะ น่าอิจฉาจัง” “อย่าอิจฉาข้าวเลยค่ะ มั่นๆแบบนี้นี่ไง ถึงมีแต่ข่าวเสียหาย” เธอว่าพลางหัวเราะน้อยๆ พร้อมยกไหล่บอบบางนั่นนิดหน่อย เป็นภาษากายว่าเธอก็ไม่แคร์ “ข่าวลือพวกนั้นไม่สร้างปัญหาให้คุณข้าวแย่หรือคะ ผู้ชายที่เข้ามาจีบเขาจะเข้าใจหรือเปล่า” พูดเหมือนหวังดี แต่จริงๆหมอสาวต้องการตอกย้ำกับพิชญะให้ได้นึกถึงข่าวคาวๆที่หญิงสาวเคยเจอมา “หมอเหนือรังเกียจไหมคะ” หญิงสาวพูดพลางสบตาชายหนุ่มไปตรงๆ เล่นเอาทั้งสามคนต่างอึ้งในความตรงไปตรงมาของเธอ “เอ่อ ผมไม่สนหรอกครับ ถ้าผมรักเธอคนนั้นจริงๆ จะผ่านอะไรมาผมก็รับได้” คำตอบของหมอหนุ่มยิ่งสร้างความเจ็บแปลบให้แก่หมอสาวเพื่อนสนิท เธอรู้สึกตั้งแต่แรกแล้วว่าพิชญะมีอาการแปลกๆไป แต่เพราะเธอรู้เรื่องราวในอดีตของเขามาพอควร จึงไม่สนใจคิดว่าขวัญข้าวเป็นคู่แข่ง แต่หลายๆอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งคำพูดและสายตาของเขาทำให้เธอแอบหวั่นใจ แล้วการรับประทานอาหารเย็นมื้อนี้ก็ผ่านไปด้วยดี โดยมีราวินและขวัญข้าวครองการสนทนาตลอดมื้อ ด้วยความพูดเก่งลื่นไหลของราวิน และความเป็นคนตรงๆไม่เสแสร้งของขวัญข้าว ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดีขึ้นถนัดตา เมื่อมื้ออาหารจบลง ขวัญข้าวก็ชวนคุณหมอทั้งสามลงไปดื่มและฟังเพลงกันต่อที่คลับของโรงแรม หญิงสาวสวยมีเสน่ห์แสดงความเป็นตัวตนของตัวเองเต็มที่ให้เขาได้เห็น ซึ่งคนที่สนุกสนานที่สุดในการลงมาดื่มกันในวันนี้คือหมอราวินและขวัญข้าวนั่นเอง ทั้งสี่นั่งดื่มและพูดคุยกันจนถึงเวลาคลับปิดก็กลับขึ้นห้องพักพร้อมกัน หมอสาวออกจากลิฟต์ก่อนใครเพราะห้องอยู่ชั้นล่างกว่าหนุ่มๆ ส่วนคนทั้งสามที่เหลือพักอยู่ชั้นเดียวกัน พอจะออกจากลิฟต์ ราวินก็นึกได้ว่าลืมโทรศัพท์ไว้เคาน์เตอร์บาร์ จึงขอตัวกลับลงไปที่คลับอีกครั้งแล้วให้พิชญะเดินไปส่งขวัญข้าวที่หน้าห้องพัก เธอมีท่าทีมึนๆเล็กน้อย เมื่อถึงหน้าห้องพัก เธอแตะคีย์การ์ดแล้วใช้ความรวดเร็วดึงตัวหมอหนุ่มที่ยังไม่ทันตั้งตัวเข้ามาในห้องของเธอ หญิงสาวสายรุกโอบแขนเรียวคล้องคอแกร่งไว้ เธอจ้องตาเขานิ่งพร้อมโน้มคอเขาลงมา “คุณข้าว คุณเมามากแล้วนะครับ รู้ตัวรึป่าวว่าทำอะไรอยู่” เขาบ่ายหน้าหนีการรุกเร้าจากเธอ เธอหัวเราะเบาๆ ด้วยความเอ็นดูในความหวงตัวของเขา แล้วเริ่มใช้มือน้อยข้างหนึ่งลูบไล้ไปมาที่หน้าอกหนั่นแน่นของเขา “น่ารักจัง ข้าวไม่ทำอะไรหมอหรอกค่ะ ไม่เห็นต้องหวงตัวขนาดนี้เลย กลัวข้าวหรอคะ” หญิงสาวเอียงคอถามอย่างน่ารักในสายตาเขา จนต้องกัดกรามข่มอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่นขึ้นมาเมื่อได้แนบชิดกับกายนุ่มนิ่มหอมหวาน หมอหนุ่มชักสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยที่ตนเองโดนสบประมาทว่ากลัวผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอ แม่สาวนี่ช่างไม่รู้อะไรเสียแล้ว เขาหรือจำเป็นต้องกลัว เขาก็เสือร้ายตัวหนึ่ง ไม่ใช่ลูกแมวเหมียวตัวน้อยน่ารักให้เธอมาลูบหัวเล่นได้ คิดดังนั้นจึงผลักเธอชิดติดผนังห้อง ปากหยักปล้นจูบปากกระจับอวบอิ่มสีสดอย่างดุดัน เมื่อโดนรุกอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวทำเอาหญิงสาวตกใจจนอ้าปากจะร้องประท้วง ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้หมอหนุ่มสอดแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้าไปหยอกเย้ากับลิ้นน้อยของเธออย่างง่ายดาย เขาเกี่ยวพันดูดดึงลิ้นเธออย่างหิวกระหาย สักพักจูบที่ดุดันหิวโหยนั้นก็แปลเปลี่ยนเป็นอ่อนหวานเรียกร้องและรุกเร้าอยู่ในที ทั้งสองเคลิบเคลิ้มมัวเมาดำดิ่ง เธอจูบเขาตอบอย่างไม่ค่อยประสานักจนเขาแค่นยิ้ม คิดในใจว่าเธอช่างมารยานัก ทำเป็นไร้เดียงสาทั้งๆที่คงจะถึงอกถึงใจกับฝรั่งตาน้ำข้าวมานักต่อนักแล้ว หนุ่มสาวหลงใหลถลำตัวไปกับความปรารถนา ลมหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอัตราการเต้นของหัวใจ หมอหนุ่มถอนจูบอกมาอย่างอ้อยอิ่ง เขากัดกรามแกร่งแน่นเพื่อข่มกลั้นอารมณ์ที่เกือบจะเตลิดไปไกล “ทีหลังอย่าพูดแบบนี้กับผู้ชายอีก เพราะคุณอาจไม่ได้โดนแค่จูบ” หญิงสาวผู้ยังหลงอยู่ในมนต์สะกดของจูบรสหวาน ยังคงงงงวยตั้งสติไม่ได้ ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดนัก “พูดว่าอะไรคะ ข้าวบอกชอบหมอออกไปหรอ” นั่นไง สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจริงๆ “ผมหมายถึงอย่าพูดจาสบประมาทผู้ชาย ผมไม่ชอบ” “ทำไมคะ แต่ข้าวชอบหมอนะ” “แต่ผมไม่ได้ชอบคุณ ผมขอเตือน อยู่ห่างๆผมไว้จะดีกว่า” “ไม่จริงหรอกค่ะ หมอก็ชอบข้าว ข้าวดูออก” “คุณนี่หลงตัวเองจริงๆ ทำไมครับ ชินกับการที่ผู้ชายทุกคนต้องมาสยบแทบเท้าคุณหรอ” เขาว่าแดกดันไปถึงข่าวเสื่อมเสียของเธอ “ค่ะ ถ้าข้าวอยากได้ ก็ต้องเอาให้ได้” “มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกครับ ถ้าผมไม่อยากได้ ทำยังไงผมก็ไม่เอา” โรคความอยากเอาชนะของเธอกำเริบขึ้นมาทันทีที่เขาพูดแบบนั้น “อย่าเพิ่งแน่ใจในตัวเองนักเลยค่ะหมอ ข้าวจะทำให้หมอเป็นฝ่ายมาอ้อนวอนขอความรักจากข้าวให้ได้ แล้วคุณจะได้เห็นว่าขวัญข้าวคนนี้ทำอะไรได้บ้าง” ทั้งคู่ประสานสายตาอย่างไม่มีใครยอมใคร เธอเชิดหน้าสวยๆนั้นขึ้นเล็กน้อยด้วยความถือดี เขามองไล่สายตาลงไปจนเจอปากสีสดที่บวมเจ่อจากการกระทำของเขาเมื่อสักครู่ สิ่งยั่วยวนตรงหน้าทำเอาหมอหนุ่มที่ร่างกายเต็มไปเลือดเนื้ออดใจไม่ไหว เอามือแกร่งรั้งคอเธอดึงเข้าหาใบหน้าของเขาแล้วประกบปากบดจูบอย่างเร่าร้อนทันที หนุ่มสาวผู้ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดเนื้อไม่อาจหักห้ามใจได้ไหวอีกต่อไป ริมฝีปากอุ่นบดจูบดูดดื่มเนิ่นนานแล้วถอนออกเพียงชั่วอึดใจ ก็ขบเม้มริมฝีปากอวบอิ่มเบาๆสลับกับกดจูบหนักๆ หยอกล้อเธออยู่ในที มือแกร่งลูบไล้เอวบางอย่างแผ่วเบาจนทั่ว ก่อนจะลากเลยขึ้นมาถึงอกอวบอิ่มล้นมือของเธอ เขาสัมผัสหน้าอกขนาดใหญ่ของเธอผ่านเนื้อผ้าอย่างเชื่องช้าแผ่วเบาก่อนเคล้นคลึงหนักหน่วง เสียงครางแว่วหวานอื้ออึงหลุดออกจากปากอวบอิ่มที่ยังคงถูกปากอุ่นและลิ้นร้ายของเขารุกรานอยู่ สติที่กระเจิดกระเจิงของทั้งคู่ถูกเรียกให้กลับคืนมาสู่ตัวทันทีที่มีเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เป็นราวินนั่นเองที่โทรเข้ามาขัดจังหวะ “ว่าไงไอ้วิน” พิชญะส่งเสียงแหบพร่าปร่าแปร่งไปตามสาย คนเป็นเพื่อนกันมานานรู้ใจในทันที “อยู่ไหนวะไอ้เหนือ กลับมาที่ห้องไม่เจอ” “อยู่ห้องคุณข้าว เดินมาส่งเขา กำลังจะกลับแล้ว” หมอหนุ่มกระแอมเล็กน้อยเพื่อปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ “อะไรกันวะ เพิ่งกินไป หิวข้าวอีกแล้วเหรอ หึหึ” ราวินเอ่ยกระเซ้าเพื่อนอย่างรู้ทัน ก่อนวางสายไป เสียงปร่าแปร่งแหบพร่าขนาดนี้ ไม่ต้องดูก็รู้ว่าคนพูดกำลังทำอะไรอยู่ ไหนบอกจะตัดไฟเสียแต่ต้นลม แล้วไปทำอะไรเธอทำไมกัน พอเข้าอีหรอบนี้คงไม่แคล้วเพื่อนของเขาจะตัดเธอออกจากชีวิตไม่ได้ง่ายๆแน่ ความรักมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ พอได้เกิดขึ้น ก็ยากนักที่จะต้านทานมัน “ผมกลับล่ะ” ชายหนุ่มเปิดประตูเตรียมออกจากห้องก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินเสียงหวานเอ่ยขึ้น “เจอกันพรุ่งนี้นะคะหมอเหนือ” เขาหันกลับมามองก็พบสาวสวยผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับย่น ริมฝีปากบวมเจ่อ แก้มแดงเรื่อเป็นสีชมพูมีเลือดฝาด หมอหนุ่มรีบหันหน้าหนีแล้วเดินออกจากห้องไปทันทีก่อนที่เขาจะอดใจไม่ไหว กระโจนเข้าตะครุบเธออีกรอบ มีหวังรอบนี้ แม่สาวช่างยั่วคงเหลือแต่กระดูก ขวัญข้าวให้เลขาหาเบอร์โทรหมอหนุ่มให้ทันที เธอแอดไลน์แล้วทักหาเขาไปเพื่อบอกฝันดี หมอหนุ่มหน้านิ่งอ่านแต่ไม่ตอบ แต่ก็กดรับแอดเพื่อนเธอเข้าไว้ ขวัญข้าวนอนยิ้มกับหน้าจอโทรศัพท์ที่ว่างเปล่าไร้การตอบรับของเขา “หยิ่งจริงนะคะหมอ เดี๋ยวข้าวจะทำให้ร้องเมี้ยวๆเลย ชิ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD