หลิวชิงเย่วมองหน้ามู่ยวี่เฉินเธอได้แต่ยิ้มให้ เรื่องนี้มันพูดไม่ได้นอกจากได้สัมผัสหรือพิสูจน์ด้วยตัวเอง “ไม่ต้องสงสัยหรอกพี่เฉิน วันหนึ่งเมื่อถึงเวลาพี่จะได้รู้ด้วยตัวพี่เองว่าฉันหมายถึงอะไร” “ครับ พี่เชื่อชิงชิง” มู่ยวี่เฉินยิ้มอ่อนโยนส่งไปให้คนรัก จากนั้นทั้งสี่คนช่วยกันปิดร้านก่อนจะเดินออกมาหาอาหารกินก่อนจะกลับที่พักเพื่อเริ่มต้นใหม่ในวันพรุ่งนี้ วันต่อมามู่ยวี่เฉินและทุกคนเก็บของออกจากโรงแรม เพื่อย้ายเข้าบ้านใหม่เมื่อนำสัมภาระส่วนตัวมาไว้เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มจึงพาน้องทั้งสองคนไปสมัครเรียน ส่วนหลิวชิงเย่วเธอจึงใช้เวลาที่ไม่มีใครอยู่เอาของออกมาจากมิติเพื่อมาจัดบ้าน รวมถึงของใช้ในครัวและอาหารที่เอามาเตรียมไว้ แม้แต่ของกินอื่นๆ เธอนำออกมาเช่นกัน ยังมีจักรยานสองคันเพื่อให้เด็กทั้งสองคนขี่ไปโรงเรียนหนึ่งคัน ส่วนเธอจะไว้ใช้ส่วนตัวหนึ่งคัน หากพี่เฉินไปทำงานเธอแค่ไปรับไปส่งก็พอ เพราะไม่