โปรยปก
‘บิดาของนางต้องพรากจากมารดา ก็เพราะฮั่นหลิวตี้ ฮ่องเต้อันธพาล’
‘ท่านอาที่นางรักเคารพประดุจมารดาแท้ๆ หายสาบสูญไป ก็เพราะฮั่นหลิวตี้ ฮ่องเต้อันธพาล’
‘ซารังน้อย เด็กในปกครองของนางต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ ก็เพราะฮั่นหลิวตี้ ฮ่องเต้อันธพาล’
จางหยูเฟย รังเกียจฮ่องเต้อันธพาลผู้นี้ยิ่งนัก จนไม่อยากเฉียดกายเข้าใกล้ นางถึงขั้นหลอกลวงเบื้องสูงหนีการคัดเลือกนางในก็ทำมาแล้ว แต่เหตุไฉนฮ่องเต้อันธพาลนั่นกลับกล้าปลอมตัวมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กอยู่ข้างกายนาง แล้วยังใช้เล่ห์กลวางหมากหลอกนางเข้ามาในวังแล้วยัดเยียดตำแหน่ง ‘หลานสาวฮองเฮา’ ให้
ตำแหน่งอะไร! ไม่เคยปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์มาก่อน แต่เชื่อเถอะ ฮั่นหลิวตี้ โอรสสวรรค์ผู้นี้ทำได้ทุกอย่างโดยไม่สนกฎหรือธรรมเนียมใดๆ
“เอาหูมานี่”
คุณหนูจางหยูเฟยกระดิกนิ้ว ลี่ถิงเอียงหูมาใกล้นาง จากนั้นริมฝีปากแดงระเรื่อก็ขยับเอื้อนเอ่ยให้ได้ยินกันเพียงสองคน
“ฮ่องเต้ไร้คุณธรรมผู้นั้นรูปงามเสียที่ไหน อ้วนลงพุง คนขายหมั่นโถวที่ตลาดยังรูปงามกว่าหลายเท่า เจ้าไม่เคยเข้าวังคงยังไม่รู้”
คุณหนูคนงามไม่คิดว่าคนที่นางกำลังนินทาจะได้ยินบทสนทนานี้
‘ข้าลงพุงหรือ ข้าขี้เหร่กว่าคนขายหมั่นโถวที่ตลาดงั้นหรือ ดีละ พรุ่งนี้ข้าจะส่งทหารไปลากตัวคนขายหมั่นโถวไปประหาร โทษฐานที่หล่อกว่าข้า’
ฮั่นหลิวตี้ลอบมองจางหยูเฟย พอนางบอกเสร็จก็มองออกไปนอกหน้าต่างขณะที่รถม้ากำลังเคลื่อนไปข้างหน้า
‘ข้าว่าที่เจ้าไม่เข้าวัง คงเพราะคิดว่าข้าอ้วนลงพุงและไม่หล่อ’
“แล้วคุณหนูเคยเห็นพระพักตร์ฮ่องเต้แล้วหรือเจ้าคะ”
“ใช่ ข้าเคยเห็นครั้งหนึ่ง ท่านอาวาดภาพฮ่องเต้พอดี อาสาวของข้ามีฝีมือการวาดภาพยอดเยี่ยม เห็นจากภาพก็เหมือนเห็นจากพระองค์จริงนั่นแหละ แล้วอย่าปากมากเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเล่า ถึงหูฮ่องเต้โฉดเมื่อใด ข้ากับเจ้าอาจไร้เงาหัว”
‘ไม่ต้องห่วงแค่หัว ตัวเจ้าข้าก็จะฉีกเป็นชิ้นๆ’
‘บังอาจเกินไปแล้วนังหนู