เมื่อพิงค์จับได้ว่าคูหมั้นเป็นเกย์ #1

1179 Words
20.14 p.m. ณ The View คอนโดมิเนียมสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้เป็นวันที่ รติรัตน์ หรือ พิงค์ รู้สึกมีความสุขมาก เพราะเป็นวันครบรอบสี่ปีที่ได้รู้จักกับเปรม แฟนหนุ่มซึ่งคบหากันมาสองปีก่อนที่เขาจะขอเธอหมั้น ตอนนั้นรติรัตน์รีบตกลงทันทีเพราะเชื่อมั่นว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่เธอสามารถฝากชีวิตไว้ด้วยได้ เธอรู้จักกับเปรมจากการแนะนำของหัวหน้า เขาเป็นเจ้าของบริษัทนำเข้าน้ำหอมและเครื่องสำอางแบรนด์ดังจากยุโรป ผูกขาดเป็นเจ้าตลาดคนเดียว นอกจากนี้เปรมยังหน้าตาดี แต่งตัวเนี้ยบ และดูแลเธอดีมาก เวลาเดินไปไหนมาไหนด้วยกันเลยทำให้รติรัตน์รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิง หลังจากกลับมาจากทำงานหญิงสาวก็รีบอาบน้ำแต่งตัว เปิดตู้เสื้อผ้าเลือกชุดที่คิดว่าสวยที่สุดออกมา ชุดที่เธอเลือกคือชุดเดรสปาดไหล่สีน้ำเงินที่เพิ่งสั่งซื้อมาทางอินเทอร์เน็ตเมื่อสองอาทิตย์ก่อน แน่นอนว่าสั่งมาเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ หลังจากแต่งหน้าทำผมจนคิดว่าตัวเองสวยเป๊ะแล้ว เธอก็รีบเปลี่ยนชุด แล้วสวมลูบูแตงคู่ใหม่ที่รอของอยู่เป็นเดือนกว่าจะได้มันมาครอง เมื่อสวมรองเท้าคู่นี้แล้วเธอก็รู้สึกมั่นใจมากเพราะมันเสริมให้เรียวขาดูดีแบบสุด ๆ เมื่อสำรวจความเรียบร้อยแล้วรติรัตน์ก็เดินไปหยิบขวดไวน์ที่ซื้อติดมาด้วย ก่อนตัดสินใจกดเรียกแท็กซี่เพราะไม่อยากขับรถกลับเองหากเมาขึ้นมา หลังจากกดเรียกแท็กซี่เรียบร้อยหญิงสาวก็ลงไปรอแท็กซี่ด้านล่าง เธอรู้สึกตื่นเต้นเพราะไม่ได้เจอหน้าเปรมมาเป็นเดือนแล้ว ด้วยเหตุที่ว่าเขาเดินทางไปยุโรปเพราะเรื่องงาน รถแท็กซี่จอดสนิทที่หน้าคอนโดของเปรม รติรัตน์ก้าวขาลงจากรถพร้อมกับคีย์การ์ดห้องของเขา เธอกดเรียกลิฟต์ ก่อนจะก้าวขาเข้าไปข้างในด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม มือบางกดเลขชั้นที่สามสิบสี่ด้วยความรู้สึกประหม่านิด ๆ เพราะไม่ค่อยได้เจอกับเปรมนัก ด้วยต่างงานยุ่งด้วยกันทั้งคู่ และถึงแม้ว่าเขาจะจำวันครบรอบของเราไม่เคยได้ แต่เธอจำได้แม่นเชียวละ ติ๊ง ! เสียงลิฟต์พามาถึงที่หมาย เมื่อประตูเหล็กเปิดออกรติรัตน์จึงเดินเลี้ยวขวามายังห้องของเปรม ขณะแตะคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตูห้อง มือของเธอก็สั่นน้อย ๆ เพราะความตื่นเต้น เธอผลักประตูเข้าไปภายในห้องแล้วถอดรองเท้าเก็บเข้าชั้นตามนิสัยคนรักระเบียบ ทว่าจังหวะที่กำลังจะนำขวดไวน์ไปวางที่โต๊ะอาหาร โสตประสาทของเธอกลับได้ยินเสียงครวญครางเหมือนมีคนกำลังทำอะไรกันอยู่ในห้องนอน สองขาจึงก้าวเดินไปตามเสียงที่ได้ยิน ก่อนช็อกกับภาพตรงหน้าที่ได้เห็น ริมฝีปากบางอ้าค้าง หัวใจเต้นรัวเร็ว นี่มันอะไรกัน ! รติรัตน์ล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทาเพื่อบันทึกวิดีโอการร่วมรักกันของคนรักของเธอและชายปริศนาผู้กำลังครวญครางอยู่ใต้ร่างเขาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องมาด้วยสองเท้าที่เปลือยเปล่า ลืมแม้กระทั่งลูบูแตงลูกรักที่เพิ่งซื้อมาไว้บนชั้นรองเท้าในห้องเปรม เมื่อเดินมาถึงลิฟต์ถึงได้นึกขึ้นได้ แต่ครั้นจะให้กลับไปเอารองเท้าในห้องนั้นอีกครั้งก็คงไม่มีวัน ถึงจะรอเป็นเดือน ๆ เพื่อให้ได้มันมาก็เถอะ ทว่าตอนนี้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนกับภาพที่เพิ่งเห็น จนแทบจะอาเจียนออกมาอยู่แล้ว ติ๊ง ! ลิฟต์เปิดออกอีกครั้งในขณะที่รติรัตน์ก้าวขาไม่ออกเพราะกำลังช็อก จนประตูลิฟต์กำลังจะปิด เธอถึงได้รีบเบียดตัวเข้าไปด้วยขาที่สั่นเทา เธอโดนประตูลิฟต์กระแทกใส่แต่ร่างกายดันไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด น้ำตาที่ไม่มีทีท่าว่าจะไหลในตอนแรกค่อย ๆ พรั่งพรูออกมาราวกับทำนบเขื่อนแตก “ฮือ… ฮือๆ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ทำไมฉันต้องมาเจอผู้ชายแบบนี้ด้วย... ไม่ใช่สิ ! มันไม่ใช่ผู้ชาย ไอ้ลูกหมา ฉันน่าจะกระโดดถีบมันหรือตบมันไปสักที ไอ้ลูกหมาสารเลว” รติรัตน์ก่นด่าเปรมไปร้องไห้ไปราวกับคนเสียสติ โดยหารู้ไม่ว่ามี ‘องศา’ ยืนอยู่ในลิฟต์ก่อนเธอ เขากำลังอยู่ในท่วงท่าสบาย ๆ มือทั้งสองข้างล้วงเข้ากระเป๋าอย่างอารมณ์ดี เขาไม่อยากสนใจเธอแม้แต่น้อย แต่ฟังจากที่เธอคร่ำครวญแล้วก็อนุมานได้ว่าเธอน่าจะเพิ่งเลิกกับแฟนมา หรือไม่ก็โดนผู้ชายเท นัยน์ตาคู่คมอดมองรติรัตน์ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่ได้ เรียวขาสวยที่พ้นชายเดรสออกมาเมื่อไล่สายตาลงมองถึงได้เห็นว่าเธอไม่สวมรองเท้า ชายหนุ่มถึงกับลอบกลืนน้ำลายดังเอื๊อกเมื่อกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเธอลอยเข้ามาปะทะจมูก เขาไม่อยากจะคิดลามกหรอกนะ แต่หุ่นของเธอเอ็กซ์เป็นบ้า เอวคอดกิ่วที่รับกับสะโพกผายงอนมันทำให้เขามีอารมณ์ แต่มันใช่เวลาไหม… เธอเพิ่งโดนทิ้งมา คงเป็นไปไม่ได้ที่จะขอเบอร์โทรเพื่อสานสัมพันธ์ น่าเสียดาย แต่ช่างเถอะ ผู้หญิงคนอื่นก็มี ขอแค่เป็นผู้หญิงสวยที่เตะตาก็พอแล้วสำหรับความสัมพันธ์อันฉาบฉวยที่ไม่มีวันเป็นมากกว่าคู่นอน รติรัตน์ใช้แขนเช็ดน้ำมูกบนใบหน้า ทำให้องศาอดใจไม่ไหวต้องยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอ เธอเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่โดยสารลิฟต์มาด้วย พร้อมกับเอ่ยขอบคุณเบา ๆ “ขอบคุณค่ะ” จากนั้นรติรัตน์ก็สั่งน้ำมูกใส่ผ้าเช็ดหน้าผืนที่รับมาอย่างไม่รักษาภาพลักษณ์ ตอนยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา สายตาของเธอดันปะทะเข้ากับแหวนหมั้นบนนิ้วของตัวเองพอดีจึงตัดสินใจดึงมันออกแล้วเขวี้ยงปาลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี ราวกับแหวนวงนี้ไม่มีค่า “ต่อไปนี้เราเลิกกัน ขาดกันถาวร ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ! ไอ้ลูกหมา ! ฮึก… ฮือ ๆๆ” กระทั่งประตูลิฟต์เปิด รติรัตน์ก็รีบวิ่งออกไปยืนรอเรียกแท็กซี่ ก่อนจะมีแท็กซี่มาจอดรับเธอขึ้นไป ส่วนองศาที่ถูกทิ้งไว้ภายในลิฟต์ก็ได้ก้มหยิบแหวนที่ถูกปาลงพื้นขึ้นมาดู โดยประมาณแล้วคิดว่าน่าจะแพงอยู่ แต่หญิงสาวคนเมื่อครู่กลับทิ้งมันราวกับมันมีค่าไม่ถึงหลักร้อย ชายหนุ่มหยิบมันใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินออกไปยืนรอคนขับรถส่วนตัว ตั้งใจว่าวันนี้จะเข้าไปดูที่บาร์เสียหน่อย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD