9. เซอร์ไพรส์เพื่อนเก่า

1305 Words
“สวัสดีค่ะคุณหมอ” เหล่าสาวพยาบาลกล่าวทักทายนายแพทย์หนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่กำลังเดินเข้ามาภายในโรงพยาบาล “สวัสดีครับ” เขาตอบทักทายพวกเธอตามปกติก่อนจะเดินตรงไปยังห้องทำงานของเขา หมอภัทรล้มตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในห้องพลางเงยใบหน้าแหงนมองบนฝ้าเพดานด้วยอาการเหม่อลอย แอ๊ด~ ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับมีหญิงสาวผิวขาวหุ่นดี ที่อยู่ในชุดกาวน์คนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู หมอภัทรเลื่อนใบหน้าออกไปมองรู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นเธออยู่ที่นี่ “จะไม่เชิญเราเข้าไปหน่อยเหรอ” แพทย์หญิงคนดังกล่าวเอ่ยกับแพทย์เจ้าของห้อง “เข้ามาก่อนสิ แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงริน” หมอภัทรเอ่ยถามกับหมอริน รินลดา หมอศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมองที่เคยเรียนมาด้วยกันกับเขามา แต่หลังจากเรียนจบทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป “ฉันย้ายมาทำงานที่นี่แล้วล่ะ” “ที่นี่ ที่โรงพยาบาลของฉัน” หมอภัทรเลิกคิ้วถามหญิงสาวตรงหน้า เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพ่อกับแม่จะรับศัลยแพทย์เพิ่ม “ใช่ นายดูแปลกใจมากเลยนะ ไม่ดีใจรึไงที่เราจะได้อยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน” หมอรินเอ่ยขึ้นถึงเหตุการณ์ครั้งที่พวกเขาเคยเรียนด้วยกันที่เมืองนอก พวกเขามีกลุ่มเพื่อนอยู่สามคนที่ได้ไปเรียนด้วยกัน และพวกเขายังอยู่บ้านหลังเดียวกันอีกด้วย ดังนั้นเวลาไปไหนมาไหนจึงไปด้วยกันตลอด ช่วงหลังเพื่อนของเขาอีกคนย้ายออกไปอยู่กับคนรักจึงเหลือแค่เธอกับเขาสองคนเท่านั้นที่อยู่ในบ้านด้วยกัน “เปล่า ก็ดีใจนะที่ได้หมอเก่งๆ อย่างเธอมาร่วมงาน แค่แปลกใจนิดหน่อยที่ไม่คิดว่าเธอจะย้ายมาที่นี่” “เรากะจะมาเซอร์ไพรส์นายไง” ใบหน้าของเธอเผยรอยยิ้มกว้างแสดงความดีใจเป็นอย่างมาก ที่ได้กลับมาเจอหน้ากันอีกครั้งหลังจากแยกกันไปเกือบสองปี “ยินดีต้อนรับนะริน แล้วห้องของเธออยู่ไหน” “ข้างๆ นายนี่เอง” หมอรินชี้ไปทางผนังห้องฝั่งขวามือซึ่งเป็นห้องที่ทางโรงพยาบาลจัดให้เธอขณะทำงานอยู่ที่นี่ “งั้นฉันขอตัวไปตรวจคนไข้ก่อนนะ” หมอภัทรพยักหน้ารับ หมอรินจึงกลับออกไปยังห้องทำงานของตนทันที ….. “พี่กัญจ์กลับบ้านก่อนก็ได้นะคะ จะได้ไปนอนพักด้วย พาฝันอยู่เองได้ค่ะไม่ต้องห่วง” พาฝันเห็นชายหนุ่มนั่งหาวอยู่หลายครั้งดูท่าคงจะเหนื่อยและง่วงเป็นอย่างมาก เพราะเขายังไม่ได้นอนทั้งคืน “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่นอนตรงโซฟานี้ก็ได้ เผื่อน้องพาฝันรู้สึก ไม่สบายจะได้เรียกพี่” นายตำรวจหนุ่มยังคงรั้งอยู่ต่อด้วยความเป็นห่วงหญิงสาวตรงหน้า “เอางั้นก็ได้ค่ะ” พาฝันเชื่อฟังอย่างว่าง่าย ขณะที่สารวัตรกัญจ์ขยับตัวล้มลงนอนบนโซฟาตัวยาว เธอก็ลุกไปหยิบหนังสือสอนทำอาหารที่อยู่บนโต๊ะมาอ่านแก้เหงา “เมนูนี้ทำง่ายดี น่าจะลองทำให้พี่หมอลองกินดู” พาฝันเปิดอ่านอยู่หลายเมนูแล้วเกิดสนใจอยากลองทำขึ้นมา เธอจึงลุกไปเปิดดูของที่มีอยู่ในตู้เย็นเพื่อเช็กดูว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง ระหว่างนี้เธอก็เปิดหนังสือพลางลงมือทำไปด้วย ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งแต่ก็ออกมาไม่เป็นดั่งใจ “แค่เมนูง่ายๆ เองทำไมทำยากอย่างนี้นะ” เฮ้อ~ เสียงลมหายใจถูกถอนออกมาจากคนที่ไม่พอใจในฝีมือของตน เธอตั้งใจจะลองทำสปาเก็ตตี้ซอสหมู แต่ไม่ว่าจะลองทำยังไง ทั้งรสชาติและหน้าตาก็ไม่น่ากินเลย ถ้าไม่เละก็เค็ม เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนบ่าย กัญจ์ที่นอนหลับอยู่ก็ยังคงไม่ตื่น ส่วนเธอไม่ต้องถามว่าหิวหรือไม่ เพราะเธอชิมสปาเก็ตตี้ฝีมือของตัวเองจนไม่อยากกินอะไรอีกแล้วตอนนี้ “โอ๊ย!” พาฝันร้องดังลั่น ขณะที่เธอกำลังต้มน้ำเพื่อลวกเส้นสปาเก็ตตี้ อีกครั้งแล้วเกิดซุ่มซ่ามเผลอเอามือไปปัดโดนหม้อน้ำร้อนเข้าอย่างจัง สารวัตรกัญจ์ที่กำลังนอนหลับอยู่สะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงร้องดัง เขาหันซ้ายหันขวาหาที่มาของเสียงก็ได้ยินเสียงสะอื้นดังมาจากห้องครัว ฮึก ฮึก~ พาฝันหยิบเศษผ้ามาเช็ดน้ำร้อนที่เธอทำตกเรี่ยราดเต็มพื้นห้องครัว แพรขนตาสองข้างเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา เธอพยายามข่มเสียงร้องไม่ให้ดังแต่ก็ยังมีคนได้ยินเข้าอยู่ดี “เกิดอะไรขึ้นครับน้องพาฝัน” กัญจ์รีบวิ่งมาดูเห็นหญิงสาวกำลังร้องไห้นั่งเช็ดน้ำอยู่ที่พื้น สองตาเหลือบไปเห็นหม้อใบใหญ่วางคว่ำอยู่ข้างเตาแก๊สที่ยังติดไฟ บริเวณโดยรอบเปียกไปด้วยน้ำที่มีไอน้ำลอยฟุ้ง “ไม่เป็นไรค่ะพี่กัญจ์ พาฝันซุ่มซ่ามเองค่ะ ฮึก~” พาฝันยังคงนั่งอยู่อย่างนั้นดูเหมือนเธอจะได้รับบาดเจ็บ เขาจึงรีบเข้าไปพยุงตัวเธอลุกขึ้นแล้วประคองพาไปนั่งตรงโซฟา “เจ็บมากมั้ยครับ” เขาย่อตัวลงนั่งอยู่ด้านล่างขณะที่เธอนั่งบนโซฟา มือหนาเลื่อนไปจับมือของเธอข้างที่เอาไปปัดโดนหม้อจนเกิดรอยปื้นสีแดง ฟู่~ ลมเย็นจากปากของกัญจ์ถูกเป่ารดไปที่มือเล็กที่กำลังเจ็บปวด ใบหน้าหล่อเรียวได้รูปเลื่อนขึ้นมองใบหน้าคนตัวเล็กด้านบนอย่างอ่อนโยน “พี่ไปหายามาทาให้นะ รอแป๊บนึงนะครับ” คำพูดอ่อนโยนที่แฝงไปด้วยความห่วงใยของกัญจ์ถูกเอ่ยออกมาให้กับคนตรงหน้าที่กำลังยกมือบางขึ้นปาดน้ำตาบนพวงแก้มนวล กัญจ์ลุกไปหายาตามชั้นวางของและตู้ลิ้นชักภายในบ้านแต่ก็หาไม่เจอ จึงได้โทรหาเพื่อนของเขา (ฮัลโหล) (ฮัลโหลไอ้หมอ นายเก็บยาไว้ตรงไหนวะ) (นายจะเอายาอะไรไอ้กัญจ์) หมอภัทรถามกลับคนที่โทรมาหา (พาฝันโดนน้ำร้อนลวกเว้ย ฉันกำลังหายาไปทาให้เธออยู่) หมอภัทรได้ยินดังนั้นรู้สึกร้อนรนจนนั่งไม่ติด และบ้านของเขาก็ไม่มียาสำหรับทาแผลพุพองเลย (นายพาเธอไปล้างด้วยน้ำเกลือก่อน แล้วไปเด็ดว่านหางจระเข้ ที่สวนหลังบ้านของฉันมาทาให้เธอ เดี๋ยวฉันจะรีบซื้อยากลับไป) (เออๆ แล้วน้ำเกลืออยู่ไหนวะ) (นายเดินขึ้นไปบนชั้นสองก็จะเห็นตู้ยาติดกับฝาผนังด้านบน) เมื่อทั้งคู่คุยกันเสร็จก็วางสายไป หมอภัทรมองดูนาฬิกาเหลืออีกห้านาทีก็จะหมดเวลาทำงาน ถึงแม้พ่อแม่ของเขาจะเป็นเจ้าของที่นี่ แต่เขาก็ปฏิบัติตามกฎเหมือนหมอที่ถูกว่าจ้างมาคนหนึ่งเสมอ เมื่อได้เวลาเลิกงานแล้วหมอภัทรก็รีบถอดเสื้อกาวน์แขวนไว้แล้วออกจากห้องไปทันที “อ้าวภัทรจะกลับแล้วเหรอ ว่าจะชวนไปกินข้าวด้วยกัน” “ไว้วันหลังนะริน เรารีบ” หมอภัทรเร่งรีบออกจากโรงพยาบาลทันทีที่ตอบกลับหมอรินเสร็จ ระหว่างทางเขาแวะร้านขายยาเพื่อซื้อยาแล้วรีบกลับมาหาพาฝันที่บ้านทันทีด้วยความร้อนใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD