ตอน 3

1625 Words
“ไม่ค่ะอาไตรถ้าอาไตรยังนับถือพ่อ และเอ็นดูเพียง อาไตรเลิกพูดเรื่องนี้กับเพียงเถอะค่ะ ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย สำหรับที่เราจะพูดกัน” หญิงสาวจริงจังแววตาไม่ได้ล้อเล่น หรือเห็นเรื่องนี้สนุกสนาน             “เอาเป็นว่าอาได้คุยแล้ว อีกวันหรือสองวันหนูเพียงค่อยให้คำตอบอาก็ได้นะ อย่าเพิ่มรีบร้อน”             “คุณอา…” เพียงธาราลากเสียงยาว บอกให้รู้ว่าเธอไม่ต้องการสิ่งพวกนี้ บ้านที่เธออยู่กับแม่และพี่ชายมันก็ไม่ได้ผุพัง เงินเดือนของเธอพออยู่ได้ แม้จะไม่มากไม่มายเหมือนพวกเศรษฐีเงินเหลือเที่ยวเอามาแจกจ่ายเลี้ยงผู้หญิง โถ...บ้านเหรอ รถเหรอ ใครจะไม่อยากได้ แต่ถ้าได้มาเพราะต้องเอาตัวเข้าแลกขอขับรถเก่าๆ ของบิดาที่ทิ้งไว้ให้ก่อนอำลาโลกยังดีกว่า             “จ้ะๆ หนูเพียงอาจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก โอเคนะ” ไตรยอมจำนนกับความหัวดื้อ หยิ่งในศักดิ์ศรีของหญิงสาว เขารู้สึกชื่นชมนิสัยใจคอเด็ดเดี่ยวของเด็กคนนี้มากกว่าจะต่อว่าในความหัวดื้อ จนแล้วยังหยิ่งยโสใดๆ เลย               หญิงสาวเดินจากไปพร้อมศักดิ์ศรีค้ำคอ ไตรมองตามร่างบางไปจนลับตา เธอไม่เหมือนใครจริงๆ  มิน่าเฮนลี่ถึงได้ต้องการตัวเธอ เขาเชื่อว่าเฮนลี่ไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ ยิ่งอะไรที่ได้ยากชายหนุ่มจะทุกทุกหนทางเพื่อได้ตัวเธอ ไตรเชื่อว่าเพียงธารากำลังเจอศึกใหญ่             พอเพียงธาราเดินเข้าไปในบ้าน พบมารดาอยู่ในห้องนั่งเล่นเล็กๆ  จัดเป็นส่วนเดียวกับนั่งดูโทรทัศน์ บ้านหลังเล็กนิดเดียวมีห้องหับไม่มาก ต่างจากบ้านใหญ่โตของพวกเศรษฐี             “คุยงานกับอาไตรเสร็จแล้วหรือลูก”             “ค่ะแม่ เออ...แม่คะพี่ภูยังไม่กลับอีกหรือคะ หมู่นี่กลับดึกทุกวันเลย”             “ไม่ใช่แค่ดึกสิเพียง เดี๋ยวนี้พี่ภูของเพียงบางวันไม่กลับยังมี แม่ล่ะกลุ้มกะจะคุยกับเพียงเรื่องนี้อยู่พอดี”             “จริงหรือคะแม่” เพียงธารามองหน้ามารดาด้วยความไม่เข้าใจ ปกติพี่ชายไม่เคยทิ้งมารดาและน้องสาวไปไหน เลิกงานกลับบ้าน แต่ระยะหลังมานี้พี่ชายมักหายหน้าหายตา ไม่ค่อยกลับบ้านเธอเองยุ่งกับงานใหม่ ที่เซซาน ซัพพลาย คุณไตร อุตส่าห์ฝากให้ทำงานในตำแหน่งพนักงานประชาสัมพันธ์ เธอจึงต้องตั้งใจทำงานให้คุ้มกับคนฝากหน่อย ตอนนี้ยังอยู่ในระยะทดลองงาน กลับต้องมาพบกับเรื่องหนักใจพรรค์นี้อีก จะทำงานได้ถึงจบทดลองงานหรือเปล่ายังไม่รู้ชะตาชีวิต               เพียงธารายังจำได้ดี คราวที่ลาออกจากงานกะทันหัน สาเหตุทนเจ้านายหัวงูไม่ไหว วันๆ คอยจ้องแต่จะลวนลามเอาเปรียบเธอ และแล้ววันหนึ่งที่หญิงสาวอยู่เคลียร์งานกลับช้ากว่าคนอื่น ขณะกำลังง่วนอยู่กับการเก็บของเจ้านายหัวงูเข้ามาทัก มือไม้ไม่อยู่สุข พยายามจับโน่นนี่ กระทั่งย่ามใจว่าไม่มีใครเห็น  ฉวยโอกาสเข้ามาลวนลามในนาทีนั้นในสมองก็คิดว่าเป็นไงเป็นกัน จะติดคุกยอมมือคว้าได้กระถางต้นไม้ ออกแรงสุดกำลังฟาดลงกลางกบาลเจ้านายหัวอนาคอนด้า เจ็บปวดร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เพียงธารารวบรวมสติเห็นเลือดสดเต็มสองตา ไหลบนศีรษะล้านของเจ้านายอาบตามใบหน้า ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือ ขาแข้งแข็งไปหมดอยากวิ่งหนีแต่ขาขยับไม่ได้  นอกจากนั่งรอตำรวจมาจับ พอเรื่องถึงโรงพักภรรยาเจ้านายเป็นฝ่ายยอมความ รู้จักนิสัยใจคอสามีเป็นอย่างดี เพียงธาราจึงเข้าไปขอโทษขอโพยภรรยาเจ้านายจอมหื่น เธอถูกเจ้านายหัวงูด่าสาดเสียเทเสีย ไม่พ้นฝีมือภรรยาให้ความยุติธรรมกับเธอ จ่ายเงินค่าทำขวัญให้กับเพียงธารา แทนที่จะจับเข้าคุกในข้อหาทำร้ายร่างกายสามีของนาง             เหตุการณ์นั้นทำให้เธอเข็ดขยาด จนห่างหายการทำงานร่วมปี จนกระทั่งไตรยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ฝากงานดีๆ ให้เจ้านายไม่หื่นอย่างที่เคยพบมา แต่แล้วเธอก็ต้องพบกับสิ่งนั้นอีก โชคดีตรงที่ว่าเขาไม่ลงมือจัดการกับเธอเอง ให้เลขาคนสนิทเข้ามาเจรจาก่อน นับว่ายังพอให้เธอได้เตรียมตัวเตรียมใจ ใครๆ ต่างอิจฉาที่เธอเกิดมาสวยเด่น ความสวยกลับเป็นภัยกับตัว             เพียงธาราสวยสง่าไม่ว่ารูปร่าง ใบหน้าเรียวมนรับกับจมูกโด่งรั้นเล็กน่ารัก หน้าผากโหนกนูน คิ้วโด่งโค้งพาดผ่านดวงตาเปี่ยมด้วยเสน่ห์ดึงดูด ยิ่งริมฝีปากด้วยแล้วอิ่มเอิบ สอดประสานกับแก้มเนียนเปล่งปลั่งไร้สิวฝ้าให้ระคายสายตา ลำคอระหงดุจนางพญาหงส์เหิน สมกับความสูงเกินมาตรฐานหญิงไทย 170 เซนติเมตร ส่งผลให้ลงตัวที่ความสวยระดับที่ทำให้ผู้ชายทุกคนเห็นแล้วต้องมองจนตากลับ แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังอดมองไม่ได้ ยิ่งพวกทอมบอยมองจนค้างอยากได้มาเป็นแฟน ในเดือนแรกที่เธอทำงานในหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้กับ เซซาน ซัพพลาย ลูกค้าสั่งจองสินค้ากันยาวเหยียด จัดส่งไม่ทันกับความต้องการ ต้องรอออเดอร์กันข้ามปี ผลิตตามความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเกินครึ่ง มาถึงวันนี้หญิงสาวทำงานร่วมสองเดือนเข้าเดือนที่สาม ความสวยกลับไปเตะตาต้องใจ ผู้บริหารสูงสุดหนุ่มเนื้อแน่น เขาขึ้นชื่อเลืองลือใช้ผู้หญิงเปลืองที่สุดในวงการหนุ่มหล่อ             “แม่....แม่ ยัยเพียงกลับมาหรือยัง”  เสียงของภูเบศน์ดังขึ้น               “กลับมาซะทีนะตาภู น้องพึ่งถามถึงเราอยู่หยกๆ”                “สวัสดีครับแม่ ว่าแต่ยัยเพียงอยู่ไหนครับ”             “อยู่บนห้อง” บุ้ยหน้าไปบนห้องส่วนตัวบุตรสาว             “มีธุระอะไรกับน้องล่ะตาภู ป่านนี้ยัยเพียงคงนอนแล้วมั๊ง” นางพรนิสาหยิบรีโมททำท่าจะกดปิดโทรทัศน์ เมื่อละครเรื่องโปรดจบ             “ขอบคุณครับแม่” ไม่ได้ตอบคำถามมารดา แต่กลับวิ่งตึงๆ ขึ้นบันไดไปยังห้องนอนน้องสาวเคาะประตู ประตูเปิดกว้างร่างสูงแทรกเข้าไปในห้องน้องสาว                 “อ้าว พี่ภู”             “เออ พี่เองเพียงนอนแล้วหรือ ขอโทษที่พี่มารบกวน”             คนที่เอ่ยขอโทษรบกวนการนอนของน้อง หย่อนก้นลงนั่งกับเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ภูเบศน์แสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนในการอ้าปากต้องการพูดกับน้องในบางเรื่อง             “มีอะไรก็ว่ามา เพียงจะได้นอน”             “พี่ไม่อ้อมค้อมล่ะนะ คือพี่ขอยืมเงินเพียงหน่อย พี่ต้องการใช้เงิน”             “เท่าไหร่พี่ภู” ปกติพี่ชายไม่ค่อยรบกวนเรื่องเงินเรื่องทอง รู้แก่ใจน้องสาวพึ่งทำงาน             “สามแสน” คราวนี้จำเป็นจึงต้องรบกวน เผื่อน้องสาวมีเงินเก็บบ้าง             “หา !!! ว่าไงนะสามแสน พี่ภูล้อเพียงเล่นแน่ๆ เพียงเพิ่งทำงานจะมีเงินมากมายขนาดนั้นได้ยังไง สามหมื่นยังไม่ถึงเลย”             “โธ่เพียงพี่จำเป็นต้องใช้ ไม่มีเลยหรือสามแสน”             “ไม่มีเยอะขนาดนั้น ว่าแต่พี่ภูไปติดเงินอะไรใครเขาไว้ บอกเพียงมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นเพียงฟ้องแม่จริงๆ ด้วย”             “ชู้ว….เบาๆ สิพี่กำลังจะบอกว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับแม่อยู่พอดี”             “ถ้าให้เพียงเดา พี่ภูแอบเล่นการพนันใช่มั๊ย เห็นแม่ว่ากลับดึกทุกวัน บางทีก็ไม่กลับ บอกมาซะดีๆ ถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูแม่” แค่แกล้งถามไม่อยากคิดว่าพี่ชายจะทำเรื่องแบบนั้นจริง ใบหน้าพี่ชายตอนนี้บ่งบอกเรื่องที่เธอถามเป็นจริง             “เออ ไม่ยืมก็ได้ พี่จะหาทางเอง จำไว้เลยนะยัยเพียง แกใจร้ายไม่ช่วยพี่”             ภูเบศน์ตัดความรำคาญเลี่ยงไม่ตอบ ผิดหวังที่น้องไม่มีเงินให้ เพื่อพอช่วยเขาได้บ้าง แต่อย่างว่าเพียงธาราเพิ่งเรียนจบ ทำงานที่แรกก็เจอเจ้านายหัวงู มาทำที่ใหม่ได้สองเดือน จะเอาเงินที่ไหนมาให้ ความหวังเดียวของเขาพังทลายคงต้อง บากหน้าไปกู้เงินนอกระบบไปจ่ายหนี้             ใครจะคาดคิดผู้ชายแสนดีรักแม่รักน้องอย่างภูเบศน์กลายเป็นคนละคน เพียงเพราะเชื่อคำชวนของเพื่อน ที่เคยไปเล่นมาแล้วได้เป็นกอบเป็นกำ หากไม่ลองคงไม่หลวม ไม่เกิดความติดใจ ทีแรกภูเบศน์ได้ติดไม้ติดมือ จึงติดใจไปเล่นที่บ่อนอีก จากนานไป เห็นว่ามือขึ้นจึงไปแทบทุกวัน ครั้นสามวันมานี้เสียตลอด จนกลายเป็นหนี้คนในบ่อนหัวโตถึงสามแสนบาทพร้อมดอกเบี้ยอีกร้อยละสิบ เจ้าหนี้ตามทวงให้เวลาจ่ายแค่ห้าวัน ระยะเวลานิดเดียวจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ตั้งสามแสน ถ้าแอบหยิบของในบ้านไปขายไม่มีอะไรพอขายได้ หนทางเดียวคือกลับเข้าไปในบ่อนนั้นอีก หยิบยืมจากเจ้าของบ่อน ค่อยล้างตาใช้คืนหวังว่าโชคจะเข้าข้างบ้าง ภูเบศน์รีบเร่งออกจากบ้านไปอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่สบายใจของเพียงธารา เธอต้องรู้ให้ได้ว่าพี่จะเอาเงินมากมายจำนวนนั้นไปทำอะไร มันต้องไม่ใช่หนี้ธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นคนอย่างภูเบศน์ต้องบอกความจริงกับเธอกับมารดาแล้ว 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD