ตอนที่ 3

1280 Words
ตอนที่ 3 “พี่ชาย กินเยอะ ๆ นะเจ้าคะ มีแต่ของที่ท่านชอบทั้งนั้นเลย” รอยยิ้มเล็ก ๆ นั่นส่งไปไม่ถึงพี่ชายของนางที่นั่งฝั่งตรงข้าม เขามองไปยังอาหารทั้งหลาย ดวงตาของเขาแดงเล็กน้อย เพราะเขานั้นมึนเมา และชอกช้ำใจ กลับมาก็ยังมีน้องสาว ที่นางเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี “พี่ชาย อีกห้าวัน น้องจะขอตัวกลับจวนนะเจ้าคะ อยู่ที่นี่ท่านก็ไม่ค่อยกลับ แถมท่านป้าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมาเสียที น้องเกรงใจที่รบกวนพี่ชายแบบนี้” นางไม่อยากกลับ แต่ก็ไม่อยากจะเจ็บปวดใจ “อืม มีแต่คนตีจากข้า นางกำลังจะไปพบคนรัก นางทอดทิ้งข้าแล้ว นางทิ้งข้าจริง ๆ” คำพูดที่แปลก ๆ ส่งมาให้น้องสาว ฟางหลินรู้ว่าเขามีใจรักใคร่สตรีนางอื่นที่มิใช่นาง นางก็ได้แค่มอง และหวังว่าเขาจะมองนางบ้าง คนที่เขากำลังพูดถึงนั่นคือสตรีในดวงใจ ใครก็เข้ามาแทนที่นางไม่ได้ ฟางหลินนางรู้ดีแม้จะขมขื่นสักเพียงใด แต่นางก็ยังระบายยิ้มน้อย ๆ พลางเอ่ยขึ้นกับพี่ชาย “พี่ชาย ท่านไม่ลองขอร้องนางเล่าเจ้าคะ” แม้ว่าจะเจ็บปวดไม่น้อย ให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี มิมีใจริษยาสตรีคนนั้น นางขอได้เพียงแค่ได้พูดคุย ได้มอง แม้ว่าจะไม่ได้ครอบครอง นางก็เต็มใจ นางกำลังซ่อนน้ำตาแห่งความเจ็บปวดขมขื่นเอาไว้ หายใจติดขัด อาหารมื้อดึกมันไม่อร่อยแล้ว มันเคล้าไปด้วยความเจ็บปวดชอกช้ำใจ “ข้า...ข้าจะลองพยายามยื้อนางเอาไว้” สองคนพี่น้องรับอาหาร ที่มันไม่อร่อยเสียรสไปแล้ว ด้วยความมืดมัวต่างคนต่างขมขื่น เก็บซ่อนมันเอาไว้ ฝ่ายพี่ชายนั้น เคี้ยวอาหารที่ดูเหมือนจะแสนอร่อย แต่มันจืดชืดไม่รู้รสชาติแต่อย่างใดในยามนี้ เพียงแค่กลัวว่าน้องสาวจะเสียใจ เขาจึงได้ทนฝืนกินมันเข้าไป ให้ดูว่าตนเองนั้นยังกินอิ่ม นอนหลับ เพื่อไม่ให้อีกคนเป็นห่วง อะไรในยามนี้จะถูกปากไปมากกว่าสุรา ที่เขาได้ดื่มย้อมใจตนเอง ส่วนผู้เป็นน้องสาว ก้มหน้าคีบอาหารด้วยมือที่สั่นไหว นางพยายามเป็นอย่างมากที่จะไม่ร้องไห้ออกมา ฝืนทนกล้ำกลืนด้วยใจที่บอบช้ำ แสร้งว่าตนเองไม่รู้สึกอันใด เพราะมันจะทำให้อีกฝ่ายสงสัยในตัวของนาง และอาจจะมองว่านางไม่ดี แอบชอบบุรุษที่มีใจรักมั่นกับสตรีนางอื่นอยู่แล้ว ทั้งคู่กินอาหารได้ไม่กี่คำ ก็กลับเข้าไปในห้องของแต่ละคน ฟางหลินทรุดกายลงที่พื้น อย่างอ่อนแรงไร้เรี่ยวแรงที่จะก้าวเดินไปที่เตียงนอน นางกอดเข่าก้มหน้างุด สองเข่านั้นตั้งชันรองรับใบหน้างามที่กำลังต้องการใครสักคนปลอบใจ นางต้องการเขา แม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจดี แต่ใจไม่รักดีทำไมไม่เจียม จู่ ๆ น้ำใส ๆ ก็ไหลออกจากดวงตาของนาง ใบหน้าที่งดงามก็ดูจะหมองหม่นไม่น้อย เสียงร้องไห้ สะอึกสะอื้นเบา ๆ พลางกอดเข่าทั้งสองข้างเอาไว้ คล้ายดั่งเพื่อนที่รู้ใจในยามโศกเศร้า ผู้เป็นพี่ชาย ล้มตัวลงนอนหลังจากอาบน้ำชำระร่างกาย อีกทั้งยังมีน้ำมันหอมกลิ่นอ่อน ๆ ที่เขาชอบ กว่าจะข่มตาหลับลงนั้นมันไม่ง่ายเลย เขานอนยกแขนแกร่งกำยำขึ้นก่ายหน้าผาก พลางขบคิดหาวิธี พิชิตใจของเสี่ยวอวี้อีกครั้ง หวังให้นางเปลี่ยนใจ ค่ำคืนที่แสนจะเดียวดายโดดเดี่ยวได้จบลง ระหว่างลู่ฟางหลิน ในตอนเช้าตรู่ของวันใหม่ อากาศข้างนอกดีนักแจ่มใส พร้อมกับสายลมพัดผ่าน เสียงนกตัวเล็ก ๆ ร้องขับขานโต้ตอบกันไปมา หมู่มวลบุปผาเอนไหวรับสายลม แต่ใจคนกลับหม่นหมองไม่น้อย นางกำลังจัดเก็บเสื้อผ้าของนางใส่หีบห่อให้เรียบร้อย เพราะอีกไม่กี่วันนางจะกลับไปยังเมืองที่จากมา ที่นั่นมีบิดา มารดาของนางรอคอยอยู่ หากจะให้นางอยู่ที่นี่ต่อไปด้วยใจที่บอบช้ำ ก็เกรงว่าทรมานตนเอง มิสู้ให้นางได้พักกาย พักใจของตนเอง เพื่อให้ก้าวข้ามผ่านเรื่องนี้ไปได้ แม้ว่าเมื่อคืนจะร้องไห้เสียใจขนาดไหน รุ่งเช้ามา นางก็จะทำตัวดั่งเช่นปกติเหมือนเช่นเคย และวันนี้พี่ชายยังอยู่ที่จวนในตอนเช้า นางอาบน้ำแต่งกายด้วยชุดสีอ่อนเป็นสีที่นางชอบนัก ชุดสีเหลืองนวลราวกับเปลือกไข่ ดวงหน้าแต่งชาดบางเบา ดูงดงามไม่น้อย แม้ว่าดวงตาจะบวมช้ำก็ตามที “พี่ชายจะรับสำรับเช้าหรือไม่เจ้าคะ” ฟางหลินเป็นห่วงกลัวว่าเขาดื่มสุรามากไป กระเพาะของเขาอาจจะมีปัญหาก็ได้ “ไม่ล่ะ ขอบใจ” อ้ายเทียนเอ่ยขึ้น เขามิได้ละสายตาไปจาก ดอกไม้หนึ่งดอกในมือที่ถือไว้ เขาเตรียมจะนำไปให้ คนในดวงใจ ลู่ฟางหลิน เห็นเช่นนั้นนางจึงได้ถอดใจ ไม่ว่าอย่างไร นางก็มิอาจจะเข้าไปข้างในใจเขาได้ มันเจ็บแปลบทุกครั้ง ยามที่นางมองเขา มองคนที่ไร้ความรู้สึกกับนาง สองเท้าเล็ก ๆ ของนาง เดินกลับเข้าไปในเรือนนอน และเก็บตัวอยู่ในนั้น จนกว่าพี่ชายจะออกไปเพื่อหลบเลี่ยง สิ่งที่คิดว่าหากร้องไห้ออกไป เขาจะต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง หวังอ้ายเทียน ลุกขึ้นยืนด้วยความสูงของตนเอง ดวงตาของเขามีประกายความหวัง แม้ว่ามันจะริบหรี่ก็ตามที ขอเพียงให้เขามีโอกาสได้พูดกับนางอีกสักครั้งก็พอ ก่อนจะออกไปข้างนอกหานางในดวงใจ เขาจึงได้เอ่ยถ้อยคำ กับพ่อบ้าน “พ่อบ้าน ดูแลน้องสาวข้าให้ดีเล่า ระวังอย่าให้นางออกไปรับลมอีกตอนกลางคืน เดี๋ยวนางจะป่วย” ก่อนจะออกไปข้างนอก ไม่ลืมกำชับท่านพ่อบ้านให้ดูแลน้องสาว “คืนนี้ข้าไม่กลับ บอกนางด้วยว่าให้กินข้าวเสีย แล้วไม่ต้องคอย” อีกเรื่องที่เขาไม่ลืม เกรงว่าน้องจะปวดท้องหาก อดข้าวเพื่อรอเขากลับมา “ขอรับ คุณชายใหญ่” ทุกคนเรียกขานคุณชายใหญ่ เพราะเดิมทีตระกูลนี้มีสองคนพี่น้อง แต่ด้วยว่า น้องสาวคนเล็กของอ้ายเทียน จากไปด้วยอาการเจ็บป่วย ยามที่เขาปกป้องชายแดน เมื่อรู้ว่าน้องสาวเพียงคนเดียวได้จากไปมารดาก็เสียใจนัก จนกระทั่งได้เจอกับญาติผู้น้องฝั่งของมารดา ถูกชะตากับหลานสาวอย่างลู่ฟางหลินให้ไม่น้อย ก่อนที่เขาจะกลับมา น้องสาวญาติห่าง ๆ ก็มาพักอยู่เป็นเดือน สองเดือนแล้วก็กลับ ทำอยู่เช่นนี้บ่อยครั้ง เขาก็อดที่จะเกรงใจนางไม่ได้ นางเดินทางมาเพียงแค่มารดาคิดถึง หลานสาวของมารดา ก็น่ารัก น่าชัง หากใครได้นางเป็นภรรยาคงจะโชคดีไม่น้อย นางทั้งน่ารัก พูดน้อย อีกทั้งเรียบร้อยอ่อนหวาน เขายังคิดไม่ออก ใครจะได้เป็นสามีนาง นับว่าโชคดีเป็นแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD