หลังจากวันนั้น น้ำฟ้าพยายามเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าข้ามทำอะไรเกินงาม ขีดเส้นให้หัวใจตัวเอง เพราะรู้สึกว่ากราฟเองก็ไม่ชอบการกระทำนั้น ทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้ เขามักจะเบือนหน้าหนี เดี๋ยวนี้แทบไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวเธอด้วยซ้ำ ต่างจากเมื่อก่อน ที่สกินชิปกันค่อนข้างบ่อย
“น้ำฟ้ากับกราฟทะเลาะกันเหรอ”
ดารณีหรือดาว มองหน้าเพื่อนสาวที่นั่งอยู่อีกฟากของม้าหินอ่อน เมื่อเพื่อนไม่ยอมตอบคำถามก็หันไปหาคำตอบจากเพื่อนอีกคนในกลุ่ม
“ฉันก็ไม่รู้เด้อ”
อภิญญาหรือฝ้าย สาวอีสานสุดคูลตอบคำถามที่ส่งมาถามทางสายของดารณี
“ไม่ได้ทะเลาะหรอก”
น้ำฟ้าตอบเสียงเบา ไม่ได้ทะเลาะกันจริงๆ เพียงแต่มันรู้สึกไม่ค่อยเหมือนเดิมเท่านั้นเอง
“แล้วนี่คนงามของกลุ่มไปไหน?”
ฝ้ายถามหาเพื่อนสาวอีกคนที่หน้าตาดีที่สุด ทุกคนต่างส่ายหน้า เพราะไม่รู้ว่าวีร่าไปไหนจริงๆ รายนั้นชอบแว๊บไปแว๊บมา ถ้าไม่บอกว่าจะมารวมกลุ่มกัน ก็ไม่ต้องหวังว่าจะเจอ
“นู้นไง! ตายยากชะมัด”
ดาวยิ้มกว้างเมื่อเห็นผู้หญิงที่ดูดีทุกท่วงท่าเดินเข้ามาใกล้ ก่อนที่เธอจะมองเห็นผู้ชายหน้าตาดีมากๆคนหนึ่งเดินตามหลังเพื่อนสาวมา
“กรี๊ด! ยัยวีหิ้วผู้ชายมามหาลัย”
ฝ้ายถึงกับกรี๊ดลั่น ปกติเพื่อนสาวไม่ควงใครออกนอกหน้าแบบนี้ ส่วนมากเห็นแต่แอบคุยลับๆ เป็นบุญตามากที่ได้เห็นผู้ชายของเพื่อน
เพื่อนทุกคนที่นั่งอยู่ในละแวกนั้น มองตามสายตาของฝ้ายไป ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทุกคนมีสีหน้าตกตะลึง น้ำฟ้าเองก็ไม่ต่างกัน แต่สติเธอมีมากกว่ารีบหยิบแว่นสายตาขึ้นมาสวม ดึงผมด้านหน้าลงมานิดหน่อย เพื่อปิดบังใบหน้าไว้ ไม่ให้ผู้ชายคนนั้นจำตัวเองได้
“ไม่ใช่คนนั้นนี่วี?”
ดาวสะกิดไหล่เพื่อนสาวที่เดินมานั่งลงข้างๆตัวเอง ยิ้มให้อีกคนที่เลือกนั่งลงข้างๆน้ำฟ้า สำรวจทุกอย่างบนใบหน้าของเขา ก่อนจะสรุปและยกให้เป็นสามีแห่งชาติไป
ดวงตาสีดำเหล่มองคนข้างๆ ที่พยายามหลบหน้าหลบตา ก่อนจะมองผู้หญิงที่มาด้วยกันนิ่งๆ
“คนนั้นแหละค่ะ น้ำฟ้า”
วีร่า วีรญามองหน้าเพื่อนสาวตัวเองที่อยู่ดีๆก็ทำตัวเป็นยัยเฉิ่มด้วยสายตาโกรธเคืองนิดๆ ด้วยรู้เรื่องทั้งหมดจากคนที่มาด้วยแล้ว
“งั้นเธอมาคุยกับฉันน้ำฟ้า”
“นี่! อะไรของคุณเนี่ย! ปล่อยเลยนะ!”
น้ำฟ้าโวยวายเมื่ออยู่ดีๆก็ถูกลากออกไปจากม้าหินอ่อนที่นั่งอยู่ เขาไม่สนอะไรเลยรึไง อยู่ดีๆก็ลากเธอออกไป รู้ไหมว่าการทำแบบนี่มันทำให้ขาเธอครูดกับเก้าอี้
“ไม่ต้องตามไป!”
วีร่ามองผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่ต้องการให้ใครเข้าไปขัดจังหวะญาติตัวเองทั้งสิ้น มองคนที่มีท่าทีฟึดฟัดก่อนจะตัดสินใจลุกเดินเข้าไปใกล้
“ถ้าตามไปยุ่งเรื่องของพี่ปืน ฉันบอกยัยน้ำหมดแน่ ว่าระหว่างแกกับฉันเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
วีร่าขู่ผู้ชายที่มีความสัมพันธ์กับตัวเองมายาวนานถึงสองปี ด้วยใบหน้าจริงจัง เธอไม่ต้องการให้เขาเข้าไปยุ่ง เพราะต้องการแยกคนทั้งสองออกจากกันอยู่แล้ว เธอรู้ดีว่าเขาเริ่มรู้สึกแปลกๆกับเพื่อนสนิทของตัวเอง ส่วนเธอรักเขาก็ไม่ผิด เธอมีสิทธิ์เรียกร้องเอาตัวเขามา แม้จะได้กันเพราะความผิดพลาด แต่เธอก็ได้ชื่อว่าเมียของเขาไปแล้ว
“อย่ามาขู่นะวี!”
“ไม่ได้ขู่!”
“แม่งเอ้ย!”
ร่างสูงนั่งลงอย่างหงุดหงิด ซบหน้าลงกับโต๊ะหินอ่อนด้วยความโกรธ เขาพลาดมีอะไรกับเพื่อนตัวเอง เพราะแบบนี้ถึงไม่กล้าบอกน้ำฟ้า กลัวทุกอย่างที่มีในตอนนี้จะพังลง
“เล่ามาเลยนะ มันเกิดอะไรขึ้น?”
ดาวกับฝ้ายถามขึ้นพร้อมกัน เมื่อเห็นว่าวีร่ากลับมานั่งลงที่เดิม ใบหน้าสวยที่ติดจะดูร้ายนิดหน่อยกระตุกยิ้ม จนเพื่อนสาวทั้งสองเสียงสันหลังวูบวาบ ด้วยรู้ดีว่าวีร่านั้นไม่ใช่ผู้หญิงใจดีเท่าไหร่ เป็นผู้หญิงสวยและโคตรจะร้าย
“คนนั้นชื่อพี่ปืน ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ว่าที่ผัวเมียเขามีเรื่องต้องคุยกัน”
วีร่าพูดเสียงดัง ให้คนที่นั่งฟุบหน้าอยู่อีกโต๊ะได้ยินด้วย มองปฎิกิริยาเขาไปด้วย ว่าจะทำอะไรบ้าๆอีกไหม ถ้าได้ยินแบบนั้น
“หมายถึงคนที่น้ำฟ้าบอกว่าครอบครัวอยากให้แต่งด้วยเหรอ”
เพราะได้ยินเพื่อนบ่น เลยกล้าพูด แต่น้ำฟ้าบอกว่าพ่อของเธอจะไปคุยให้แล้วนี่นา แล้วไปคุยอีท่าไหนละนั่น ถึงได้กลายเป็นว่าที่ผัวเมียกันแบบนี้
“อืม ก็ตามนั้น”
วีร่ายิ้มอย่างชั่วร้าย แม้จะโกรธมากตอนที่พี่ปืนบอกว่าครอบครัวของเพื่อนบีบบังคับให้เขาแต่งงานด้วย แต่นั่นมันดีสำหรับเธอ ถ้าน้ำฟ้าแต่งกับพี่ปืนได้ ไอ้หน้าโง่ที่อยู่ตรงนั้นจะได้ตัดใจสักที น้ำฟ้าเองก็ด้วย ยัยนั่นไม่รู้จักความรัก แยกแยะไม่ออกด้วยซ้ำว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับกราฟ เธอไม่อยากให้ความเข้าใจผิดของน้ำฟ้า ดึงหัวใจของเขาไว้
“เห้ย! แล้วนั่นจะไปไหนอีกวะวี?”
เพื่อนสาวทั้งสองเอ่ยถามเพื่อนที่ลุกพรวดพราดขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปยืนหยุดอยู่ตรงหน้าพ่อเดือนคณะที่ฟุบใบหน้าอยู่ที่โต๊ะ
“ไปหาผัวใหม่ ผัวเก่าแม่งไม่ได้เรื่อง!”
วีร่าเหล่มองคนที่เงยหน้าขึ้นมาจ้องตัวเองเพียงครู่ ก็สาวเท้าเดินจากไป เธอต้องกระตุ้นให้ไอ้บ้านี่หึงหวงตัวเองสักหน่อย แม้ความหวังจะมีน้อยมาก แต่เธอก็ยังคิดว่าตัวเองพอจะมีหวังอยู่
“แรด!”
พึมพำด่าตามหลังไป ก่อนจะฟุบหน้าลงที่โต๊ะเหมือนเดิม ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าตอนนี้รู้สึกยังไง ช่วงที่เขากับน้ำฟ้าห่างกันเมื่อครู่ เหมือนเขาจะรู้ตัวเองมากขึ้น เพราะผู้หญิงอีกคนที่เขาอยู่ด้วยทุกคืน เขาสับสนจนไม่กล้าตามใครไปทั้งนั้น
หลายสายตาจับจ้อง มองไปยังชายหญิงที่กำลังลากกันไปตามทางเดินของมหาวิทยาลัย น้ำฟ้าได้แต่เดินตามไปเงียบๆ เพราะเขาขู่ว่าถ้าเธอร้องโวยวายเขาจะทำให้เธออับอายขายขี้หน้า จะจับเธอกดเล่นหนังสดต่อหน้าคนทั้งมหาวิทยาลัย รู้แหละว่าเขาแค่ขู่ แต่คนบ้าแบบเขาคาดเดาไม่ได้ เขาอาจจะทำขึ้นมาจริงๆก็ได้ เธอจึงพยายามเงียบให้ได้มากที่สุด
ร่างสูงผลักคนตัวเล็กเข้าไปในรถ ที่เจ้าของเปิดประตูออกกว้าง มองคนที่เริ่มตั้งท่าจะขัดขืนด้วยสายตาไม่พอใจ กำลังจะอ้าปากตะโกนขู่ เธอก็ทำตัวว่าง่าย เข้าไปนั่งข้างในเงียบๆ
น้ำฟ้าได้แต่นั่งเงียบ ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเธอหาข้อมูลเขามาแล้ว เลยรู้ว่าคนที่ตัวเองต้องแต่งงานด้วย กับคนที่เคยลากเธอไปที่บ้านในวันนั้นเป็นคนเดียวกัน เธอไม่เข้าใจว่าเขามาที่นี่ทำไม พ่อเธอเดินทางไปคุยกับครอบครัวของเขาแล้ว แม้จะยังไม่รู้ผล แต่เธอคิดว่างานแต่งงานน่าจะล้มเลิกไปแล้ว
“เสื้อฉันล่ะ?”
ปืนใหญ่ถามหาเสื้ออามานี่สุดรักของตัวเอง มองคนที่นั่งมองออกไปนอกหน้าต่างรถตาเขม็ง
“ทิ้งไปแล้วค่ะ”
โกหกแหละ! เธอยังไม่ได้ทิ้ง และยังไม่ได้ซักด้วย สูทราคาแพงขนาดนั้นต้องส่งซักไง แน่นอนว่าเธอยังไม่มีเงิน
“บอกว่าให้เอามาคืน!”
“ก็ตอนนั้นฉันไม่รู้จักคุณนี่นา!”
ดวงตากลมโตตวัดมองคนที่คว้าข้อมือเธอไปจับ ไอ้บ้านี่เป็นหมอจริงหรือเปล่าวะ ทำไมถึงได้รุนแรงกับเธอนัก ไม่มีใครสอนหรือไงว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า แม่งจับแต่ละที กระดูกจะหลุดออกจากกันอยู่แล้ว!