บทนำ

1709 Words
22.00 น. ร่างบางเดินซวนเซมายังหอพักแถวหน้ามหา’ลัย...เธอกำลังมึนเมา ตาปรือ หน้าแดง เพราะดื่มเหล้ามาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว ใบหน้าอมทุกข์เลอะไปด้วยมาสคาร่าสีดำไหลย้อยลงมาตามน้ำสีใส...เสื้อผ้ารัดรูปเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบสีน้ำตาล ก็เพราะก่อนมาถึงที่นี่เธออาเจียนจนล้มคะมำอยู่ข้างถนน แท็กซี่ที่โดยสารมาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ปล่อยทิ้งขว้างเธออย่างไม่ใยดี พลันให้หญิงสาวต้องเดินถ่อมาเอง ระหว่างที่เดิน...สุนัขต่างพากันเห่าหอนไล่ตามหลัง ผู้คนที่เดินสวนไปมาต่างมองด้วยความสมเพช ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรือไต่ถามสักคำ เพราะใบหน้าเลอะ ๆ นั่นบวกกับตอนนี้เป็นยามวิการทำให้คิดว่าเธอคือผี หรือไม่ก็เป็นคนบ้า...แต่ดูเหมือนจะให้น้ำหนักอย่างแรกมากกว่า เพราะเธอเอาแต่ร้องคร่ำครวญโหยหวนชวนขนลุกราวกับผีขอส่วนบุญ ใครจะไปเข้าใจความรู้สึกของเธอกัน...ไหนจะเสียใจจากเรื่องเก่า...ไหนจะเพิ่งล้มมาอีก อะไร ๆ ก็ประดังเข้ามาพร้อมกัน ไม่รู้วันอะไรถึงได้ซวยขนาดนี้ ก๊อก...ก๊อก ประตูหน้าห้องหมายเลข 1902 ชั้น 8 ถูกเคาะอย่างแรง พลันให้ชายหนุ่มที่กำลังอาบน้ำอยู่ตกใจ “เชี้ย!! ใครมาเคาะดึก ๆ วะ” ปาร์ตี้ ชายหนุ่มเจ้าของห้องสบถพร้อมกับเร่งอาบน้ำอย่างไว แล้วรีบหยิบผ้าขนหนูผืนยาวมาพันรอบเอว ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ ตรงไปยังหน้าประตูที่เสียงเคาะไม่ได้แผ่วลงไปเลย ทว่า...เมื่อเขาเปิดประตูก็ถึงกับสะดุ้งตัวโหยง เพราะนั่นคือ... “ผีเหรอวะ” “ผีอะไรจะสวยเหมือนฉันไอ้ตี้” หญิงสาวแหงนมองชายหนุ่ม ถึงจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แต่พอสบตากันปุ๊บ น้ำสีใสก็ไหลล้นออกมาจากดวงตาคู่สวยอีก ทำเอาปาร์ตี้เป็นกังวล “ไอ้สมายด์ กูตกใจหมดคิดว่าผี” สมายด์ นั่นคือชื่อเล่นของเธอ “หลีกไปดิ” สมายด์ถือวิสาสะผลักตัวปาร์ตี้ออก เป็นฝ่ายเดินเข้าไปในห้องโดยที่เขาไม่ได้ชวนสักคำ ก็เธอน่ะ...มาที่นี่บ่อยมาก เรียกว่าเป็นบ้านหลังที่สองก็ว่าได้ พวกเขา...เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ตอนปี1 ความเกรงใจเลยไม่มีให้กัน “มึงร้องไห้ทำไม” ใบหน้านิ่งเดินตามหลังเธอไปติด ๆ หญิงสาวหย่อนสะโพกนั่งบนพื้นตรงหน้าโซฟา แล้วแหงนไปหาชายหนุ่ม “กูคิดถึงเขาว่ะ” เขาที่ว่าก็คือแฟนเก่าสมายด์ ภายนอกเธอเหมือนผู้หญิงเข้มแข็ง แต่พอเวลาอยู่คนเดียวเมื่อไหร่ก็มักจะร้องไห้ตลอด และส่วนมากคนที่เห็นน้ำตาของเธอก็คือปาร์ตี้ คนตัวสูงไม่พูดอะไรต่อ...เดินไปนั่งบนโซฟาด้านหลังเธอ เอามือหนาวางบนศีรษะหญิงสาว ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เลิกร้องไห้ได้แล้ว” แค่ประโยคสั้น ๆ กลับทำให้สมายด์เสียใจหนักกว่าเก่า ยกเข่าทั้งสองขึ้นตั้งชันงุดหน้าลงไป พร้อมกับร้องไห้โฮ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ เรื่องนี้เขาเคยปลอบเธอมาแล้วหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่ยอมลืมไอ้ผู้ชายเฮงซวยนั่นไปสักที เขาเองก็ขี้เกียจจะพูดมากอีก ลุกไปที่ตู้เย็นหยิบเบียร์เย็น ๆ มาหกกระป๋อง แล้วเดินกลับมาวางบนพื้นตรงหน้าหญิงสาว พร้อมกับหย่อนสะโพกนั่งตรงหน้าเธอด้วย “ในเมื่อเศร้าหนักก็แดกเบียร์ดิ จะได้ลืมมันไป” เขาเอ่ยพร้อมกับหยิบเบียร์ขึ้นมาเปิดกระป๋องหนึ่ง แล้วยื่นไปให้เธอ เป็นจังหวะเดียวกับคนร้องไห้แหงนมามองกันพอดี พวกเขาสบตากัน...ความอบอุ่นที่แสดงออกมาจากนัยน์ตาคมทำให้เธอสบายใจขึ้น พยักหน้ารับเบา ๆ แล้วรับกระป๋องเบียร์ซดดื่ม ส่วนเขาก็เปิดอีกกระป๋องแล้วซดมันเหมือนกัน หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เบียร์หกกระป๋องหมดในพริบตา ปาร์ตี้ดื่มไปสองกระป๋อง ส่วนสมายด์ดื่มไปสี่ อาการของเธอเรียกว่าเมาหัวราน้ำก็ได้ สติร่องรอย เอาแต่นั่งเพ้อคุยเรื่องไม่เป็นเรื่องมาตลอดชั่วโมงเต็ม “เบียร์หมดแล้ว เดี๋ยวฉันไปหยิบมาเพิ่ม” หญิงสาวไม่ประมาณตน ลุกพรวดยืนขึ้น ทันใดนั้นก็เซไปทางชายหนุ่ม เขารับเธอไว้...แต่เอาไม่อยู่...พากันล้มหงายหลังไป เป็นจังหวะให้ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบติดกันด้วยอุบัติเหตุ ชายหนุ่มเบิกตาโพลงก่อนจะหรี่ลงด้วยนัยน์ตาฉ่ำ ส่วนสมายด์ได้สติกำลังจะผงกศีรษะออก แต่กลับถูกชายหนุ่มใช้มือกดท้ายทอยไว้ แล้วพลิกตัวไปด้านข้างให้เธอเป็นฝ่ายอยู่ใต้ร่างแทน ก่อนจะยอมถอนริมฝีปากออก มองสบตากับหญิงสาวที่ตอนนี้ใบหน้าสะสวยยังคงเปื้อนมาสคาร่าเหมือนเดิม แต่พวงแก้มกลับแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้เลยว่าเพราะเมาหรือว่าเขินอาย... น่ารักฉิบหาย! ชายหนุ่มก้มลงไปประกบริมฝีปากกับเธออีกครั้ง เธอไม่ได้ขัดขืน...แต่กลับยกสองมือคล้องคอเขาไว้ ความนุ่มหยุ่นบวกกับความเมาทำให้ทั้งคู่จูบกันดูดดื่ม ความร้อนในร่างกายแผ่ซ่านไปทั้งเรือนร่าง คนด้านบนเริ่มรุกหนักถึงขั้นสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากบาง รสขมปนหวานของเบียร์ทำให้ทั้งคู่ไม่อาจหักห้ามใจได้อีก จังหวะเนิบ ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นรุนแรง ต่างฝ่ายต่างกลัดมันเต็มที่ ปล่อยอารมณ์เลยตามเลยตามความปรารถนา มือหนาช้อนแผ่นหลังบางให้ลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ปาร์ตี้เป็นฝ่ายถอดเสื้อยืดตัวเกะกะของเธอออกไป เผยให้เห็นหน้าอกทรงโตที่ถูกดันด้วยบราเซียลูกไม้สีดำตัดกับผิวขาว ๆ เขาไม่รอช้าที่จะปลดตะขอด้านหลังออก แล้วสอดมือใต้ขอบบราเซีย แตะสัมผัสกับจุกแข็งที่กำลังตั้งชูชัน “อ๊า!” หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย เม้มริมฝีปากไว้แน่น เมื่อเขาเริ่มขยี้เม็ดแข็งด้วยสองนิ้วอย่างเมามันส์ เธอเองก็ไม่ยอมเหมือนกันดึงปมผ้าขนหนูบนเอวหนาออก เผยให้เห็นแกนกายที่เริ่มจะขยายขนาด แวบหนึ่งที่เธอตกใจกับความใหญ่โต...แต่ก็เอื้อมสองมือไปจับกลางลำตัวมันแน่น “ซี้ด!” ชายหนุ่มถึงกับสูดปาก ความอุ่นจากมือบางเอย...การออกแรงของเธอเอย...ทุกอย่างทำให้เขามีอารมณ์ และห้ามไม่อยู่อีกแล้ว ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็เถอะ... ร่างหนาผลักคนตัวเล็กนอนไปกับพื้น จัดการถอดกางเกงขาสั้นของเธอออกไปพร้อม ๆ กับชั้นในใต้กางเกง เผยให้เห็นโหนกอูมอันเล็กจิ้มลิ้ม เขาไม่รอช้ายกขาเรียวขึ้นตั้งชันแล้วแหกออกกว้าง ชายหนุ่มหยุดชะงักไปชั่วครู่ เพราะเม็ดเกรสสีแดงที่เขาเห็นมันช่างยั่วยวนชวนลิ้มรส อึก! เขากลืนน้ำลายเหนียวลงคอ ก่อนจะงุดหน้าลงไปอย่างไวใช้ปลายลิ้นสากตวัดตามเส้นยาวตั้งแต่กลางร่องขึ้นมาถึงติ่งเม็ดงาม พลันให้หญิงสาวเสียวซาบซ่านถึงใจ แอ่นอกขึ้น พร้อมกับใช้สองมือจิกทึ้งลงบนกลุ่มผมหนา เพื่อระบายความเสียว แต่ยิ่งทำอย่างนั้น...เขาก็ยิ่งตักตวงรสหวานมากขึ้น ทั้งดูดทั้งเลียจนสมายด์ครางลากเสียงในลำคอ เด้งสะโพกลอยขึ้นเพื่อให้เขาดูดได้ถนัด ไม่เพียงแค่ลิ้นอย่างเดียวที่ถูกสอดเข้ามาในร่องรัก แม้กระทั่งนิ้วสากก็ด้วย ข้างในมันทั้งอุ่นทั้งตอด ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเริ่มกระดิกปลายนิ้ว พลันให้สมายด์ดิ้นพล่านอยู่ไม่สุข “เบา ๆ หน่อย อ่าห์!” ชายหนุ่มได้ยินเสียงแตกพร่าเอ่ยแบบนั้น แทนที่จะหยุด...กับทำตรงกันข้าม จากนิ้วเดียวก็เพิ่มเข้าไปเป็นสองนิ้ว พร้อมกับหลุบเข้าหลุบออกให้เกิดเสียงแจ๊ะ! แจ๊ะ! ดังไปทั้งห้อง ส่วนปลายลิ้นก็เอาแต่ดุนอยู่ที่เม็ดสวยไม่ยอมผละริมฝีปากออกไปสักที จนในที่สุด... เสียงเล็กก็ลากยาวมาจากคอระหง พลางกระตุกท้องน้อย หอบหายใจแรง บ่งบอกว่าเธอสุขสมแล้ว เขาเลยยอมเอานิ้วออก เอาริมฝีปากออก นั่งยืดเต็มความสูง จับลูกชายแท่งยาวใหญ่ไว้แล้วเสียบพรวดเข้ามาไปในร่องแฉะ พรวด! แต่เข้าไปได้แค่ครึ่งลำเท่านั้น เขาต้องหยุดชะงักค้าง เพราะร่องที่ว่ามันแน่นเสียเหลือเกิน แน่นจนแทบจะทำให้เขาเสร็จสมซะเดี๋ยวนี้ แต่ก็ต้องพยายามอดทนไว้ เพื่อไม่ให้เสียเชิงชายต่อหน้าสาว พอแหงนมองใบหน้าสะสวย แทนที่เธอจะยินดีที่จะได้เจอลำใหญ่ กลับมีสีหน้าเหยเกแสดงออกว่าเจ็บมาก ๆ เขาอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง แต่พอก้มกลับมาเพื่อดึงแกนกายออก กลับพบว่ามีเลือดสีแดงไหลซึมออกมาด้วย ฮะ! เธอยังบริสุทธิ์เหรอ? เป็นไปได้ไงก็เธอมีแฟน... ดวงตาเบิกกว้างกลับต้องหรี่ลง เมื่อคิดได้ว่าเขาคือ ‘คนแรกของเธอ’ ในใจมันปลื้มเอามาก ๆ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้หยุดยังไงได้อีก ว่าแล้วก็จับแกนกายเสียบเข้าไปอีกรอบ...ครั้งนี้กัดฟันดันเข้าไปแรงกว่าเก่าพลันให้ร่างบางสะดุ้งเฮือกน้ำตาเล็ดน้ำตาไหล แต่พอแท่งใหญ่เริ่มขยับเสียดสีช้า ๆ เธอก็เริ่มมีอารมณ์อีกครั้ง ไอ้ครั้งแรกที่ใครต่อใครบอกว่าเจ็บ...ก็ไม่ยักจะเจ็บอย่างที่ว่ากัน หลังจากนี้ไม่รู้จะเป็นไงต่อ? จะมองหน้ากันติดไหม? หรือเลิกคบกันไปเลย...ก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้ขอมันส์ก่อนก็แล้วกัน ตับ! ตับ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD