แม้จะรู้สึกผิดที่พาลูกก้าวเข้ามาในวังวนของคนบาป แต่หลี่เจิ้งก็ไม่เสียใจเมื่อเขาได้ตัดสินใจทำเพื่อทดแทนบุญคุณของบิดา มาเฟียหนุ่มหวนนึกถึงคำพูดของเด็กสาวคนนั้นขึ้นมาอีกครั้ง
“ลูกเสือย่อมไม่ทำตัวเหมือนลูกสุนัข ลูกมังกรย่อมเป็นมังกรไม่ใช่งูดิน”
เมื่อเขาเป็นมังกร ลูกชายก็ควรเป็นมังกรเช่นเดียวกับเขา เหมือนที่พ่อของเขาเป็นมังกร ลูกชายอย่างเขาก็ไม่อาจลดตัวกลายเป็นงูดินเช่นกัน
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!!!
เสียงปืนดังขึ้นสามนัดซ้อน ลูกกระสุนถูกปล่อยจากปลายกระบอกปืน แล่นตรงไปเจาะเข้าเป้าตรงจุดตายทุกนัด คนยิงลดปืนลงพร้อมกับหันมาสบตากับคนที่นั่งดูอยู่ คิ้วดกหนายกขึ้นสูงเมื่อเห็นท่าทีเงียบเฉยนั้น
“คุณพ่อ ฝีมือผมยังดีไม่พอเหรอครับ” เด็กชายวัยสิบสี่หันมาถามผู้เป็นพ่อ
หลี่เจิ้งแย้มมุมปากยิ้มให้ลูกชาย “ดี ดีมากเลยอาทิตย์”
เขาขยับลุกจากเก้าอี้ พยักหน้าให้ลูกน้องเลื่อนเป้าซ้อมมาใกล้ๆ สายตามองดูรอยพรุนบนเป้าอย่างพอใจ
สี่ปีแล้วที่อาทิตย์หรือหลี่ไท่หยางลูกชายของเขาได้ฝึกฝนยิงปืน รวมถึงการต่อสู้ด้วยมือเปล่าทุกชนิดจากการเคี่ยวเข็ญของผู้เป็นปู่ ลูกชายตัวน้อยของเขาสามารถทำได้ดีเยี่ยม ฝีมือพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงจิตใจที่กล้าแกร่งและสติปัญญาอันชาญฉลาด สมกับเป็นทายาทคนเดียวของหัวหน้าแก๊งหงส์ไฟตามที่หลี่เสวียนต้องการ หลี่เจิ้งหวนนึกถึงบิดาของเขาไม่ได้ ท่านจากไปอย่างสงบเมื่อสองปีก่อน หลังจากวางมือมอบตำแหน่งหัวหน้าแก๊งหงส์ไฟให้เขาครอบครองแล้ว มาเฟียหนุ่มยังจำคำพูดสุดท้ายของผู้เป็นพ่อได้ดี
“อาเจิ้ง อำนาจเปรียบเสมือนไฟร้อน หากไม่รู้จักใช้มันให้เป็น มันจะเผาเราจนตาย ในการปกครองคนจงใช้สติปัญญาให้มากกว่าอารมณ์ จงเชื่อตัวเองอย่าเชื่อคนอื่น และอย่าวางชีวิตของตัวเองไว้ในมือของใคร เพราะศัตรูอาจจะมาในคราบของมิตร หากจำเป็นต้องฆ่าก็จงฆ่า แต่อย่าฆ่าเพื่อความสนุก จงเป็นซาตานกับศัตรูและเหลือความเป็นมนุษย์ไว้เพื่อคนที่เรารัก ทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลนัก ลูกต้องเจอกับบททดสอบอีกมากมาย จำสิ่งที่พ่อสอนไว้ให้ดีนะ อาเจิ้ง”
สี่ปีบนเส้นทางสายนี้ เพาะบ่มให้ชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งกร้าวแกร่งขึ้นทุกวัน หลี่เจิ้งนึกภาพของตนเองเมื่อสี่ปีก่อนแทบไม่ออก เขาเคยชินกับการเป็นมาเฟียจนแทบลืมความสงบสุขในวันวาน ทุกวันจะมีปัญหามาให้แก้ไข มีเรื่องราวและผู้คนมาทำให้เขาต้องวุ่นวายเขาผ่านความโหดร้ายทารุณทุกรูปแบบมาหมดแล้ว ความตาย... คนตาย... ไม่มีผลต่อจิตใจของเขาอีกต่อไป
หัวใจของหลี่เจิ้งกระด้างเย็นชาต่อผู้คนภายนอก เขาสามารถมองดูการฆ่าคนโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร ครั้นพอกลับเข้ามาในบ้านเขาก็สามารถกลายเป็นหลี่เจิ้งคนเดิมของมารดา เป็นสามีที่น่ารักของภรรยา เป็นพ่อของลูกได้อย่างน่าชื่นชม คล้ายกับมีสองตัวตนในร่างกาย
“เมื่อไหร่ผมจะได้ยิงคนจริงๆ” เด็กชายถามผู้เป็นพ่อ
คำถามนี้ทำให้คนฟังนิ่วหน้า
“การฆ่าคนไม่ใช่ของสนุกนะอาทิตย์ ถึงเราจะเป็นมาเฟีย แต่เราก็ไม่ได้ฆ่าคนเล่น”
หลี่เจิ้งสั่งสอนลูกชายเสียงเข้ม
“ผมเห็นลูกน้องของคุณพ่อทรมานเชลยที่ห้องใต้ดิน คนพวกนั้นสมควรตายใช่ไหมครับ”
คนเป็นลูกเอ่ยถามอีก
หลายครั้งที่หลี่ไท่หยางตามบิดาลงไปที่ห้องใต้ดินของตึกแดงแห่งนี้ เพื่อดูการสอบสวนคนทรยศและเชลย เด็กชายเห็นการทรมานนักโทษและเรียนรู้วิธีการเปิดปากเชลยทุกรูปแบบ หากเป็นคนทั่วไปอาจทนดูไม่ไหว แต่เด็กชายเคยชินกับสิ่งเหล่านี้ เพราะผู้เป็นปู่ได้สั่งสอนให้เขาเรียนรู้มาตลอด บิดาเองก็เป็นถึงหัวหน้าแก๊งหงส์ไฟ แก๊งมาเฟียหนึ่งในสี่แก๊งใหญ่ของฮ่องกง เขาในฐานะทายาทรุ่นต่อไป จึงถูกเคี่ยวเข็ญให้เรียนรู้
“ไม่มีใครสมควรตาย แต่เราจำเป็นต้องฆ่าเขาด้วยเหตุผลของเราเอง”
หลี่เจิ้งแตะไหล่ของลูกชายที่กำลังเติบโตสู่วัยรุ่นไว้ หมุนร่างให้หันมาเผชิญหน้า ดวงตาคู่คมจ้องมองลูกชายนิ่ง เขาเข้าใจอารมณ์และความคิดของเด็กวัยนี้ได้ดี หลี่ไท่หยางคงอยากรู้อยากลองและและอยากสร้างตัวตนให้คนยอมรับ หลี่เสวียนผู้เป็นปู่ทำให้ลูกชายของเขาเรียนรู้การใช้อำนาจเกินวัย หลี่ไท่หยางถึงได้กลายมาเป็นเด็กที่คิดอะไรเกินตัว
“อาทิตย์ อำนาจทำให้เราอยู่เหนือคนอื่น แต่เราต้องรู้จักวิธีใช้มันอย่างถูกต้อง อย่าให้มันเป็นนายเรา ตัวเราต่างหากที่ต้องเป็นนายมัน เข้าใจหรือเปล่า”
เด็กชายพยักหน้ารับ แววตาทอประกายวาวจ้า
“เข้าใจครับ คุณพ่อ”
หลี่เจิ้งยิ้มพอใจ ตบไหล่ลูกชายแรงๆ
“ดีมาก ต่อไปลูกคือทายาทของตระกูลหลี่ ลูกต้องปกครองผู้คนในแก๊งหงส์ไฟต่อจากพ่อ ขอให้เรียนรู้จากพ่อให้มากเหมือนที่พ่อได้เรียนรู้จากคุณปู่เช่นกัน”
หัวหน้าแก๊งหงส์ไฟถือโอกาสสั่งสอนลูกชาย ก่อนจะเดินนำออกมาจากห้องซ้อมยิงปืน ตรงไปยังโรงยิมฝึกซ้อม ที่แห่งนั้นมีเด็กชายสามสิบคนกำลังฝึกการต่อสู้กันอย่างแข็งขัน โดยมีหวังไป่ฉีเป็นคนดูแล เมื่อร่างสูงสง่าเดินผ่านประตูเข้าไป ทุกคนก็รามือจากการซ้อม ยืนตัวตรงโค้งคำนับ
“ไม่เป็นไร ซ้อมกันต่อเถอะ ฉันแค่แวะมาดู”
หลี่เจิ้งยกมือโบก แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้มุมห้อง
หลี่ไท่หยางตามผู้เป็นพ่อเข้ามาในโรงฝึกซ้อม เขาเดินหายไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับมาอีกครั้งด้วยชุดฝึก การฝึกวิชาต่อสู้เป็นอีกสิ่งที่หลี่เจิ้งเคี่ยวเข็ญให้ลูกชายทำ โชคดีที่หลี่ไท่หยางชื่นชอบจึงไม่เป็นการบังคับใจกัน เด็กชายเรียนการต่อสู้จากบิดาตั้งแต่อายุสี่ขวบ จึงมีทักษะเหนือกว่าเด็กคนอื่นๆ ที่บิดานำตัวมาอุปการะและส่งเสียให้ร่ำเรียน
เมื่อสี่ปีก่อนหลี่เจิ้งสั่งให้หวังไป่ฉีนำตัวเด็กชายกำพร้าจากทุกมุมโลกมาอุปการะ พวกเขาได้รับโอกาสให้ก้าวเข้ามาอยู่ในอาณาจักรของตระกูลหลี่ด้วยความสมัครใจ หลี่เจิ้งบอกถึงจุดประสงค์ของเขาให้เด็กเหล่านั้นรับรู้ และคัดเลือกคนที่พร้อมทั้งกายและใจให้เข้ามาอยู่ใต้ร่มเงาของตระกูลหลี่ ทุกวันในช่วงเช้าและหลังเลิกเรียน เด็กๆ จะถูกฝึกฝนวิชาการต่อสู้อย่างหนัก รวมถึงการใช้อาวุธปืนและเรียนรู้จากครูอย่างหลี่เจิ้ง
ทุกคนเต็มใจทำเพื่อแลกกับการได้รับการดูแลอย่างดี ได้รับการศึกษาตามความสามารถและสติปัญญาของพวกเขา หลี่เจิ้งเลี้ยงทุกคนเหมือนลูกชายของเขา เพียงลดาเองก็ทำหน้าที่เป็นแม่ของเด็กๆ มอบความรักให้พวกเขาไม่ต่างจากพ่อแม่แท้ๆ ไม่แปลกหากเด็กเหล่านี้จะรักและยอมถวายชีวิตให้แก่คนในตระกูลหลี่
“คุณไท่หยางฝีมือดีกว่าเด็กพวกนี้มาก สมกับที่เป็นทายาทของตระกูลหลี่”
หวังไป่ฉีเอ่ยชมนายน้อยของตนอย่างชื่นชม
“พวกเขาจะเป็นกองกำลังที่สำคัญในอนาคตของตระกูลหลี่ ภายใต้ชื่อหน่วยพิฆาต”
หลี่เจิ้งยิ้มเย็น สายตามองกลุ่มเด็กในโรงฝึกอย่างหมายมาด
อีกสิบปีเมื่อเด็กเหล่านี้เติบโตขึ้นมา ความสามารถของพวกเขาจะเพิ่มพูน และเป็นกองกำลังระดับพระกาฬจนยากที่ใครจะต้านทานไหว พวกเขาไม่ใช่คนของแก๊งหงส์ไฟแต่เป็นคนของตระกูลหลี่ จะรับคำสั่งจากผู้นำของตระกูลหลี่เท่านั้น หลี่เจิ้งทอดสายตามองการฝึกซ้อมของเด็กอย่างผ่อนคลายมากขึ้น เขาเตรียมกองกำลังไว้ให้ลูกชายได้ใช้สอยในอนาคตแล้ว สำหรับตัวเขาในขณะนี้หลี่เจิ้งก็คัดคนที่มีความสามารถมาฝึกเป็นนักฆ่า และเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวเช่นกัน พวกเขาถูกส่งตัวไปฝึกที่เกาะแห่งหนึ่ง ทุกเดือนหลี่เจิ้งจะไปทดสอบเพื่อนำคนที่มีความสามารถกลับมาใช้งาน และส่งคนใหม่ไปฝึกแทนที่
เพียงสี่ปีหลี่เจิ้งได้กลายเป็นเจ้าพ่อมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าหลี่เสวียนผู้เป็นบิดา แต่ใช่จะไม่มีผู้ที่คิดกำจัดเขา หัวหน้าของแก๊งมาเฟียต่างแอบส่งคนมาลอบประลองกำลังกับเขาบ่อยครั้ง หนึ่งในนั้นมีคนของแก๊งมังกรรวมอยู่ด้วยจางเหวินหัวหน้าแก๊งมังกรเป็นเพื่อนรักของหลี่เสวียนและเป็นพันธมิตรของหลี่เจิ้งเช่นเดียวกัน