“ แต่หนูไว้ใจอาจารย์ค่ะ ”
หวายยังคงจ้องใบหน้า "อาจารย์ธาดาของเธอ"
และน้ำเสียงที่ดูจริงจังก็ทำให้ธาดาหันมาหาอีกคนจนได้ ทั้งคู่ต่างก็นอนมองหน้ากันเงียบๆอยู่เป็นนาทีก่อนที่ธาดาจะตัดสินใจพูดในสิ่งที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้
“ อย่าไว้ใจผมเลยเพราะตอนนี้ผมเองก็เริ่มจะไม่ไว้ใจตัวเองแล้ว ”
คำพูดที่มาพร้อมกับสายตาที่เริ่มเปลี่ยนไปทำให้หวายรู้สึกแปลกๆ
“ อาจารย์หมายความว่าไงคะ ”
“ ชาที่ผมดื่มเข้าไปน่าจะมีส่วนผสมบางอย่างที่ทำให้ผม…… ”
ธาดาหยุดเอาไว้แค่นี้
“ ทำไมหรอคะ ”
พอเห็นว่าหวายให้ความสนใจ ธาดาก็ลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองไปยังหวายแล้วค่อยๆพูด
“ ชานั่นมันทำให้ผม.......มีความต้องการแบบนั้น ”
ธาดารู้สึกแย่กับตัวเองมากที่ต้องพูดเรื่องแบบนี้ออกมาแต่ทว่า อีกคนกลับไม่ได้เข้าใจขึ้นมาเลย
“ แล้วความรู้สึกแบบนั้นมันคือแบบไหนคะ ”
หวายถามเพราะไม่เข้าใจจริงๆ
“ ก็….แบบที่สามีภรรยาเขา......ชอบทำกัน ”
หวายทำท่านึกก่อนจะพูดขึ้น
" นอนดูหนังด้วยกันน่ะหรอคะ "
คำถามของหวายทำเอาธาดาถึงกับพูดไม่ออก
อะไรจะไร้เดียงสาขนาดนี้
" ผมหมายถึงกิจกรรมบนเตียงน่ะ "
คราวนี้ธาดาต้องกัดฟันพูดมันออกมา เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องมาพูดเรื่องแบบนี้กับเด็กคนนึงด้วย
หวายมีสีหน้าที่ตกใจ เธอไม่คิดว่าทิพย์ธารากับคุณปู่จะทำเรื่องแบบนี้ได้ หวายขยับเข้าไปใกล้ธาดาแล้วมองเขาใกล้ๆ
“ อาจารย์แน่ใจหรอคะ ”
“ คิดว่าไงล่ะ ”
ธาดาไม่ถามเปล่า คราวนี้สายตานุ่มลึกที่แม้จะถูกกรอบแว่นหนาบดบังก็ยังสามารถทำให้หวายเริ่มระแวงขึ้นมา ธาดากลัวว่าตัวเองจะยับยั้งชั่งใจไว้ไม่อยู่เขาเลยเลือกที่จะลุกออกจากเตียงไปหลายก้าว
“ ผมจะเข้าไปอยู่ในห้องน้ำก่อนแล้วกัน ”
ธาดาบอกพร้อมกับข่มอารมณ์ไปด้วย ใบหน้าหวานของเด็กสาวที่มีแต่ความใสซื่อทำให้ธาดาไม่อาจจะทำร้ายเธอเพียงเพราะฤทธิ์ยาพวกนั้น แม้ตอนนี้ความเป็นชายจะแข็งขืนจนพร้อมเผด็จศึกแล้วก็ตาม
“ แล้วต้องอยู่ในนั้นนานแค่ไหนคะ ให้หนูออกไปข้างนอกก่อนมั้ย ”
“ ประตูถูกล็อกจากด้านนอกเราออกไปไม่ได้หรอกจนกว่าจะเช้า ”
หวายกำลังคิดว่าทำไมแม่สามีของเธอถึงได้แสบขนาดนี้นะ ธาดาสังเกตุเห็นรอยยิ้มนั่น
" ยิ้มอะไร "
ธาดาก็เริ่มจะเขินตัวเองแล้วเหมือนกัน
“ เปล่าค่ะ แต่ในห้องน้ำนั่น อาจารย์จะอยู่ยังไง ”
“ ผมอยู่ได้แล้วกันเพราะถ้าขืนผมยังอยู่ตรงนี้ผมอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้ นอนเถอะ ไม่ต้องห่วงผมหรอก ”
ตอนที่ธาดากำลังจะเข้าไปในห้องน้ำหวายก็ส่งเสียงใสตามไปติดๆ
“ อาจารย์คะ สู้ๆนะคะ ”
หวายกำสองมือขึ้นเพื่อให้กำลังใจ
เพราะความใสซื่อของหวายทำให้ธาดาได้แต่รีบปิดประตูห้องน้ำเพื่อไปจัดการตัวเอง
ผมจะไม่ยอมให้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราเด็ดขาด เพราะเรา...ไม่ได้รักกัน
รุ่งเช้า
ทิพย์ธาราให้คนไปปลดล็อกกลอนประตูก่อนจะมานั่งรอทุกคนอย่างอารมณ์ดี พอทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารแล้ว ทิพย์ธาราก็ให้สาวใช้คนนึงเอาไข่ลวกมาเสริฟ
“ บำรุงหน่อยนะลูก ”
สายตาปลาบปลื้มของผู้เป็นแม่ทำให้ธาดานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เกิดขึ้นในห้องน้ำ สามชั่วโมงเต็มๆที่เขาต้องต่อสู้กับตัวเองเพราะเขาเกือบจะเปิดประตูออกไปจัดการเหยื่อตัวน้อยๆที่นอนรออยู่ข้างนอกอยู่หลายครั้งแต่เพราะความหนักแน่น สุดท้ายเขาก็เอาชนะมันจนได้
ธาดายิ้มก่อนจะพูดขึ้น
“ ขอบคุณสำหรับความหวังดีของคุณแม่กับคุณปู่นะครับแต่คราวหน้าผมหวังว่าทั้งสองคนจะไม่ทำแบบนี้อีก ”
“ พี่ก็อย่าว่าให้คุณแม่กับคุณปู่เลย ท่านหวังดีกับพี่แล้วก็พี่สะใภ้นะ ”
ภาคิณพูด เขาอดที่จะคิดถึงเรื่องศึกหนักของทั้งคู่ไม่ได้เหมือนกัน
“ แกอยากลองดื่มชานั่นบ้างมั้ยล่ะ ”
ธาดาหันไปหาน้องชายของเขาก่อนจะทานข้าวต้มพร้อมไข่ลวกต่อ
“ ไม่ล่ะ อย่างผมไม่ต้องใช้ของแบบนั้นช่วยหรอก ”
ภาคิณไม่พูดเปล่า เขายักคิ้วข้างหนึ่งขึ้นด้วยความมั่นใจตัวเอง ภาคิณขึ้นชื่อว่าเป็หนุ่มคาสโนว่าที่ชอบควงสาวไม่ซ้ำหน้าแต่ความจริงเขาก็ไม่เคยร่วมหลับนอนกับผู้หญิงคนหนมาก่อน เพียงแต่ไม่มีใครรู้แต่ธาดารู้
" เหรอ "
คำพูดของธาดาทำเอาภาคิณถึงกับไม่กล้าข่มพี่ชายต่อ
“ ถ้าฉันกับแม่แกไม่ทำแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้อุ้มเหลนสักทีล่ะ แกน่ะมันชักช้า! ”
หลังจากที่นั่งฟังมานาน คุณปู่ของธาดาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ เขาคาดหวังกับการเผด็จศึกเมื่อคืนเอาไว้มาก
“ผมรู้ว่าคุณปู่กับคุณแม่หวังดีแต่เรื่องนี้ขอให้เราสองคนตัดสินใจกันเองนะครับ ”
แม้คุณปู่จะไม่ค่อยพอใจคำพูดและสายตาของธาดาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“ เอาล่ะๆเรื่องของลูกแม่จะไม่ยุ่งแล้วก็ได้ หนูหวายจ๊ะ ต่อไปนี้ต้องดูแลตัวเองมากๆนะรู้มั้ย นี่จ่ะ แม่ซื้อของบำรุงมาให้หนูด้วยนะ หนูเอาไปต้มใส่กระติกเก็บความร้อนไว้นะ กินก่อนนอนรับรองว่า….. ”
สายตาที่ออกอาการเขินแทนของทิพย์ธาราทำให้ทุกคนแม้แต่สาวใช้ที่ยืนอยู่ก็รู้ว่าหมายถึงเรื่องบนเตียงของทั้งคู่แน่ๆ
“ เอ่อ…ขอบคุณค่ะ ”
เพราะความหวังดี หวายเลยได้แต่ยิ้มแล้วรับกล่องยาบำรุงมาด้วยความจำใจ
พอมื้อเช้าจบลง ธาดากับหวายก็กลับมาที่คอนโด ธาดาออกไปสอนที่มหาวิทยาลัยตามปกติ ส่วนหวายก็ทบทวนบทเรียนอยู่ที่ห้อง เป็นแบบทดสอบที่ธาดาทำให้เธอเมื่อคืนนี้ หลังจากที่หวายทำแบบทดสอบเสร็จเธอก็เปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมาเพาะตั้งแต่เริ่มติวข้อสอบเธอก็ไม่ได้ปั่นนิยายที่รักต่อเลย โชคดีที่ก่อนหน้านี้เธอแต่งเอาไว้หลายตอน ไม่งั้นแฟนนิยายของเธอคงได้ค้างกันไปหลายวันแน่ๆ
ในระหว่างที่หวายกำลังคิดพล็อตเรื่องอยู่นั้น ทิพย์ธาราก็โทรมาพอดีและยังบอกอีกว่ากำลังมาหาเธอกับธาดาและใกล้จะถึงคอนโดแล้วด้วย พอวางสายได้หวายก็รีบโทรไปบอกธาดา ธาดาก็รีบกลับทันที
“ ทำไมอยู่ๆคุณแม่กับคุณปู่ถึงจะมาที่นี่ล่ะคะ ”
ทันทีที่ธาดาเปิดประตูเข้ามา หวายก็รีบถาม
“ คงจะอยากมาเช็คเรื่องของเราน่ะ ไม่เป็นไร ตอนนี้ช่วยผมจัดห้องก่อน ”
จากนั้นธาดากับหวายก็ช่วยกันจัดห้องให้ทุกอย่างกลับเข้าที่เดิมเพราะตอนนี้ห้องของพวกเขาไม่ได้บ่งบอกว่าอยู่ในสถานะสามีภรรยาแม้แต่น้อย ทั้งการแยกห้องนอน โซฟาที่อยู่กันคนละมุมและโต๊ะทานข้าวที่แยกกันอย่างชัดเจน
เมื่อจัดการห้องเรียบร้อยทิพย์ธารากับคุณปู่ก็มาถึงพอดี ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับภาพที่ธาดายืนโอบไหล่หวาย เป็นภาพที่ทำให้ผู้มาเยื่อนถึงกับยิ้มได้
“ จะมาทำไมไม่บอกก่อนล่ะครับ ”
ธาดาถามในขณะที่เดินนำมาที่โซฟารับแขก
“ ฉันก็แค่อยากเห็นว่าแกอยู่ยังไง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ”
คุณปู่พูดพร้อมกับเดินสำรวจไปทั่วๆห้องตามวิสัยนักธุรกิจที่มักจะชอบตรวจสอบทุกอย่างให้มั่นใจ โชคดีที่ธาดาทำลายหลักฐานหมดแล้ว
“ ไม่มีปัญหาครับ ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ”
“ ถ้าคุณปู่กับคุณแม่อยากมาตอนไหนก็มาได้นะคะ ”
หวายอยากทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนสบายใจเลยช่วยธาดาพูดอีกแรง
“ งั้นหรอจ๊ะ งั้นแม่จะมาทุกอาทิตย์เลยดีมั้ย ”
“ ได้สิคะ ”
หวายยิ้มให้ทิพย์ธาราและแอบส่งสายตาขอโทษไปยังธาดาที่เธอเหมือนจะทำให้เรื่องยุ่งยากกว่าเดิม
ผ่านไปสองชั่วโมง ตอนนี้ท้องฟ้าข้างนอกก็เริ่มมืดลง ธาดามองนาฬิกาข้อมือของเขาแล้วพูดขึ้นในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่
“ จะกลับเลยมั้ยครับ ”
“ คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่ แกมีห้องว่างไม่ใช่หรอ ”
ธาดากับหวายต่างก็มองหน้ากัน
เอาแล้วไง!!
“ แต่ก่อนนอนคุณปู่ต้องทานยาด้วยไม่ใช่หรอครับ ”
“ ฉันเตรียมมาแล้ว ”
คุณปู่หยิบถุงยาที่ว่าออกมาวางที่โต๊ะแล้วนั่งไขว่ห้างอย่างสบายใจ
" แต่ช่วงนี้ฝนตกบ่อยอากาศเย็นผมเกรงว่าอุณหภูมิในห้องจะทำให้คุณปู่ไม่สบายได้ ผมว่ากลับไปนอนที่บ้านจะสบายกว่านะครับ "
ธาดาพยายามหาเหตุผลให้คุณปู่กลับ
" ฉันตรวจสภาพอากาศมาแล้ว คืนนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งอากาศเย็นกำลังน่านอน อีกอย่างฉันก็เตรียมเสื้อผ้าหนาๆมาแล้ว ถุงเท้าฉันก็เอามา อ่อ แล้วก็ยังมีผ้าห่มขนแกะแท้ที่แกซื้อให้ฉันด้วยนะ แกเป็นคนบอกเองว่ามันห่มอุ่นมากไม่ใช่หรอ "
คุณปู่อธิบายอย่างคนที่้เหนือกว่า
หึ! ฉันเลี้ยงแกมา ทำไมฉันจะไม่รู้ทันแก
พอได้ยินแบบนี้ ธาดาเองก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาพูดให้ยอมกลับบ้าน เขาได้แต่ถอนหายใจยาว
“ คืออย่างนี้นะ พอดีว่าพรุ่งนี้คุณปู่ลูกนัดเพื่อนเก่าเอาไว้ที่โรงแรมใกล้ๆนี่เองก็เลยไม่อยากนอนบ้าน ลูกก็รู้ว่าหมู่นี้สุขภาพคุณปู่ไม่ค่อยดี ถ้าต้องรีบตื่นแต่เช้าแล้วนั่งรถนานๆจะไม่ดีเอา ลูกเข้าใจใช่มั้ย ” ทิพย์ธารารีบอธิบาย
แม้ทั้งหมดจะเป็นเรื่องจริงแต่เพราะอยากมาสังเกตุการณ์ชีวิตคู่คุณปู่เลยต้องลงทุนนัดเจอเพื่อนเก่าทั้งที่พึ่งเจอกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เ
“ นอนได้ครับ ผมไม่มีปัญหาอะไรแต่ถ้าจะให้ดีคุณปู่น่าจะเพลาๆเรื่องนัดเจอกับเพื่อนลงบ้างนะครับ ”
ธาดารู้ดีว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นแต่ยังไงเขาก็อดที่จะเป็นห่วงสุขภาพคุณปู่ไม่ได้อยู่ดีและที่สำคัญ เขาไม่อยากขัดใจคุณปู่
“ ฉันรู้แล้วน่า ”
“ งั้นแม่ขอตัวกลับก่อนนะ ยังไงพรุ่งนี้ฝากลูกไปส่งคุณปู่ด้วยนะ ”
ทิพย์ธาราลุกขึ้น
“ ครับ ”
“ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูว่าง หนูช่วยไปส่งคุณปู่ได้ค่ะ ”
แม้ว่าจะรู้จักคุณปู่ได้ไม่นานแต่หวายก็ชอบคุณปู่มาก เช่นเดียวกับที่ชายชราก็เอ็นดูเด็กสาวมากเหมือนกัน