หลายวันต่อมา
เสาร์อาทิตย์และเวลาช่วงกลางคืนธาดายังคงติวข้อสอบให้หวายตามปกติ วันนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่ธาดากลับมาจากมหาวิทยาลัยเขาก็เข้าไปอาบน้ำทันทีก่อนจะเริ่มติวเข้มในเวลาสองทุ่ม
ธาดาใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำสิบกว่านาทีก็ออกมา
" เข้ามาทำอะไร "
ธาดาถามขึ้นทันทีที่เห็นหวายอยู่ในห้อง ตอนนี้เขานุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พอจะช่วยปกปิดความกำยำของร่างกายเอาไว้ได้
" เอ่อ หนูเห็นอาจารย์อาบน้ำเลยเข้ามาเตรียมชุดให้ค่ะ นี่ค่ะชุด "
หวายคลี่ยิ้มพร้อมกับส่งชุดนอนที่มีกางเกงบ๊อกเซอร์ไซส์กะทัดรัดวางทับอยู่ด้านบนไปให้ธาดาด้วยท่าทางใสซื่อ ในขณะที่ธาดาทั้งตกใจแล้วก็รู้สึกเขินทันทีที่หวายยื่นกางเกงใส่นอนมาให้
ในชีวิตของเขาไม่เคยมีใครมายุ่งย่ามกับเสื้อผ้าของเขา โดยเฉพาะกางเกงชั้นใน เขาไม่เคยให้ใครเห็นหรือแตะต้องมาก่อน
ธาดารีบรับชุดพวกนั้นแล้วเอาไปซ่อนไว้ด้านหลัง
“ ขอบคุณแต่คราวหลังไม่ต้องนะ ผมจัดการเองได้ ”
หวายพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแต่ถึงอย่างนั้นก็กำลังคิดว่าธาดาเป็น"เกย์" ที่หวงเนื้อหวงตัวต่างจากเพื่อนที่โรงเรียนของเธอที่มักจะเปิดใจกับ มากกว่านี้
“ ระวัง!ตรงนั้นมันลื่….น! ”
ธาดาพูดในตอนที่หวายกำลังจะออกไปจากห้องเพราะเขานึกขึ้นได้ว่าเผลอทำขวดออยส์หล่นใส่พื้นแต่ยังไม่ได้เช็ดออก หวายที่ไม่ได้ดูให้ดีก็เลยเผลอเหยียบเข้าไปเต็มๆแต่โชคดีที่ธาดาเข้าไปช่วยไว้ทัน
ในความตกใจทั้งคู่สบตากันนิ่ง หัวใจหวายเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ
“ ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ”
ธาดาพูดขึ้น เขายังประคองเด็กสาวอยู่ในอ้อมอกที่เขาเองยังนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เม็ดน้ำเกาะอยู่ตามตัวเพราะยังเช็ดไม่แห้งดีภาพตรงหน้าทำให้หวายเผลอมองเต็มสองตา
“ มะ…ไม่เป็นไรค่ะแต่อาจารย์ช่วยปล่อยหนูก่อนได้มั้ยคะ ”
หวายพูดด้วยท่าทีที่เขินธาดาอย่างออกนอกหน้าเมื่อปากกับสายตาอยู่ใกล้กันเกินไปแถมยังถูกอีกฝ่ายกอดตัวเองในสภาพที่ล่อแหลมเช่นนี้ หวายรับรู้ได้ถึงใบหน้าที่ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ พอธาดารู้ตัวเขาก็รีบปล่อยทันที
ธาดาหันหลังให้หวายด้วยความรู้สึกแปลกๆเพราะเวลาอยู่ต่อหน้าผู้หญิงเขาไม่เคยแต่งตัวไม่สุภาพ
“ ผมขอเวลาแต่งตัวสิบนาทีนะ เราค่อยเข้ามาใหม่แล้วกัน ”
หวายพยักหน้าให้ธาดาก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้อง
ทำไมอาจารย์ธาดาทำให้หัวใจเราเต้นแรงขนาดนี้ หรือว่าเราจะชอบเกย์เข้าแล้ว
ไม่นะ!!หวาย
หวายกุมหัวใจที่กำลังเต้นแรงอยู่ประตูด้านนอกห้องธาดา เธอพยายามสลัดความคิดบ้าๆออกไปก่อนจะกลับเข้ามาอีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไปสิบนาที หวายหอบหนังสือหลายเล่มเข้ามาด้วย ตอนนี้ธาดาแต่งตัวเรียบร้อยแล้วแต่ก็ไม่อาจลบภาพตอนที่เขานุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแล้วกอดเธอเอาไว้ออกไปจากหัวหวายได้อยู่ดี
มันยังติดตาอยู่
“ วันนี้ผมจะทบทวนที่เรียนไปเมื่อคืนนี้ คราวที่แล้วเราทำคะแนนได้แค่ผ่านหวังว่าครั้งนี้จะทำได้ดีกว่าเดิม ผมให้เวลาสี่สิบห้านาที เริ่มได้ ”
ธาดาวางกระดาษคำถามวิชาคณิตศาสตร์ลงตรงหน้าของหวายก่อนที่เขาจะจับเวลาแล้วไปนั่งที่เตียงระหว่างที่รอเหมือนทุกครั้ง หลังจากนั้นหวายก็ลงมือทำข้อสอบ
“ อาจารย์ธาดาคะ หนูทำเสร็จแล้วค่ะ ”
ธาดาวางหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ลงแล้วเดินไปหาหวาย เพราะไม่ทันจะคิดให้ถี่ถ้วนและไม่ได้ระวังตัวเองในขณะที่กำลังตรวจข้อสอบอยู่นั้น ใบหน้าของธาดาจึงอยู่ใกล้กับหน้าของหวายมากจนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกันอยู่แล้ว
หวายเขินอาจารย์ธาดาของเธออีกแล้ว
“ คะแนนดีขึ้นนะแต่ยังต้องพยายามกว่านี้ เข้าใจมั้ย ”
น้ำเสียงนุ่มน่าฟังของธาดาดังอยู่ไม่ห่างจากใบหน้าของหวาย สายตาจริงใจที่มองทุกอย่างผ่านกรอบแว่นทำให้เวลานี้ธาดาดูดีในสายตาของอีกคนมาก
วันต่อมา
ธาดาพาหวายมาที่บ้านเพราะคุณปู่ของเขาโทรมาบอกว่าอยากกินข้าวกับหลานสะใภ้และอยากให้ยายหลานได้เจอกันก่อนที่ยายของเธอจะกลับนครสวรรค์
ระหว่างที่ทานข้าวกันอยู่
“ ตักกับข้าวให้น้องหน่อยสิ ”
ทิพย์ธาราหันไปบอกลูกชาย เพื่อไม่ให้ทุกคนสงสัยธาดาจึงเอื้อมไปตักผัดผักให้
" กินเยอะๆนะ "
“ ขอบคุณค่ะ ”
หวายบอกธาดาอย่างเกรงใจ ปกติที่อยู่กันตามลำพังเขาสองคนจะต่างคนต่างกิน ที่คอนโดของธาดา ทั้งคู่นั่งทานข้าวโต๊ะเดียวกันก็จริงแต่ก็ไม่ได้พิเศษอะไร มีแค่บางมื้อที่ธาดาเป็นคนลงมือทำกับข้าว
“ ทำไมตักแต่ผักให้น้องล่ะ ”
ทิพย์ธาราอดไม่ได้ที่จะต่อว่าให้ลูกชาย ของกินอร่อยๆเต็มโต๊ะดันตักผักซะนี่
“ ไม่เป็นไรค่ะ หนูชอบกินผักค่ะ ”
“ ชอบกินผักจริงๆหรือถูกพี่ชายผมยัดเยีนดกันแน่ครับ ”
ภาคิณที่นั่งฟังอยู่นานก็พูดขึ้นบ้างแต่ธาดาก็ไม่ได้สนใจคำพูดของน้องชาย เขายังคงตั้งหน้าตั้งตาทานข้าวต่อ
“ ชอบกินจริงๆค่ะบวกกับอาจารย์เขาก็ชอบทำผัดผักให้กินด้วย ”
“ อาจารย์ ทำไมหนูเรียกพี่เขาว่าอาจารย์ล่ะ ”
ทิพย์ธารามองหน้าทั้งคู่สลับกัน
“ เอ่อ คือว่า……. ”
“ เพราะผมช่วยติวหนังสือให้ไงครับ ผมก็เห็นว่าไม่ได้เสียหายอะไร ”
“ ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ยังไงเราสองคนก็เป็นสามีภรรยากัน เรียกแบบนี้แม่เกรงว่าถ้าคนอื่นได้ยินเขาจะเข้าใจผิดเอานะ ”
“ ผมจะระวังไม่ให้มีใครเข้าใจผิดได้ครับ ”
“ วันนี้แกกับหนูหวายก็นอนกันที่นี่แหละ ฉันให้เด็กเตรียมห้องไว้ให้แล้ว ”
คราวนี้ปู่ของธาดาพูดขึ้นบ้าง เขาสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างจึงออกอุบาย
“ แต่ว่าเราสองคนยังต้องกลับไปติวหนังสือกันอีกนะครับ ”
ธาดาพยายามหาข้ออ้างเพราะเขารู้จักคุณปู่ตัวเองดี
“ ไม่ติวสักวันมันจะเป็นอะไรไป น้องไม่ใช่แกนะที่จะก้มหน้าใส่หนังสือได้ทั้งวันทั้งคืนโดยที่ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ”
“ แม่เห็นด้วยนะให้น้องได้พักสมองสักวันเถอะลูก อีกอย่างตอนนี้ฝนก็ตกหนักด้วยอย่าขับรถเลยพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับเถอะ แม่เป็นห่วง ”
ทิพย์ธาราที่อ่านแผนการของพ่อสามีอย่างทะลุปรุโปร่งจึงได้ช่วยพูดอีกแรง ธาดาไม่อยากขัดใจคุณปู่เลยยอมตอบตกลง จากนั้นทุกคนก็ลงมือทานข้าวต่อ ยกเว้นยายของหวายที่ขอทานข้าวอยู่อีกที่หนึ่งเพราะไม่ชินกับการนั่งทานโต๊ะอาหารหรูๆ
ก่อนที่ทุกคนจะทานอิ่มและแยกย้าย ทิพย์ธาราก็ส่งสัญญาณมือให้สาวใช้คนหนึ่งไปยกชาร้อนๆเข้ามาเสริฟ มันเป็นชาสำหรับให้ผู้ชายดื่มเพื่อเพิ่มศักยภาพทางเพศ
“ ดื่มชาก่อนสิลูก ”
ทิพย์ธาราส่งแก้วชาไปให้กับธาดา ในใจก็กำลังยิ้ม
“ อะไรกัน มีแค่ของพี่ธาดาหรอครับแล้วของผมล่ะ เอ่อ…ไม่เอาดีกว่าผมว่าจะไปจิบเบียร์เย็นๆก่อนนอนสักหน่อย ”
ภาคิณแกล้งพูดแหย่ทิพย์ธาราแต่เพราะถูกสายตาพิรุธของแม่เบรกเอาไว้เขาจึงต้องเปลี่ยนใจกระทันหัน ธาดารับแก้วชาไปดื่ม
“ ชาอะไรหรอครับ ”
ธาดาถาม แม้รสชาติมันจะแปลกๆแต่โดยรวมก็ถือว่าไม่เลว
“ เป็นชาชั้นดีที่เพื่อนแม่เอามาฝากจากจีนเชียวนะ ถ้าอร่อยก็ดื่มให้หมดสิลูก ”
" แล้วของทุกคนไม่มีหรอครับ ทำไมให้ผมดื่มคนเดียว "
ธาดาเห็นทั้งโต๊ะมีอยู่แค่แก้วเดียว
" ไม่ดีกว่า แม่ติดกาแฟก่อนนอนน่ะ คุณปู่ก็เหมือนกัน ส่วนน้องก็จิบเบียร์ก่อนนอนจนเคยตัวไปแล้วล่ะ ใช่มั้ยคะคุณพ่อ ใช่มั้ยตาคิณ "
ทิพย์ธาราหันไปยิ้มบังคับให้เออออไปด้วย แน่นอนว่าสองคนนั้นก็รู้เห็นเป็นใจ
" เอ่อ ใช่พี่ช่วงนี้ผมติดเบียร์งอมแงเลยคืนไหนไม่ได้ดื่มสักหน่อยมีหวังผมต้องลงแเดงแน่ "
ภาคิณพยายามพูดเต็มที่เพื่อให้แผนการร้ายครั้งนี้สำเร็จ
" ไม่ควรดื่มกาแฟก่อนนอนนะครับมันไม่ดีต่อสุขภาพ เลิกได้ยิ่งดี แกก็เหมือนกันดื่มแอลกอฮอล์เยอะๆมีแต่จะเป็นผลร้ายต่อร่างกาย "
" จ่ะ ไว้แม่จะเพลาๆลงนะ ส่วนน้องเราเดี๋ยววันหลังแม่ให้คนเอาเบียร์ไปซ่อนเอง ดีมั้ย ลูกน่ะรีบดื่มชาให้หมดเถอะจะได้พาน้องขึ้นไปพักผ่อน "
" คุณแม่แน่ใจหรอครับว่าพี่ธาดาจะได้พักผ่อน "
ภาคิณยิ้มมุมปากทำให้ทิพย์ธาราถึงกับต้องแอบหยิกไปที่เอวของเขาจนเป็นเลขแปด ทั้งที่เจ็บมากแต่ภาคิณก็เก็บอาการได้เป็นอย่างดี
จากนั้นธาดาก็ยกชาดื่มไปจนหมด ทิพย์ธารากับปู่ของธาดามองหน้ากันอย่างชอบอกชอบใจ ภาคิณรู้สึกสงสารและเห็นใจพี่ชายที่ดื่มชาไปเยอะขนาดนั้นแต่พอคิดดีๆคนที่น่าสงสารและน่าเห็นใจที่สุดน่าจะเป็นพี่สะใภ้ของเขามากกว่า
ออกศึกครั้งแรกก็หนักหนาเลยหรอเนี่ยพี่ชายเรา ฮะฮ่าาา!! ยันหว่างแน่ๆ