EP.3 พื้นที่ส่วนตัว

1628 Words
EP.3 NEED PRIVACY " ถ้ามันเป็นแค่ฝันร้ายก็ดีดิวะ แต่มันเคยเป็นเรื่องจริงมาก่อนไง" " กูถึงไม่เคยลืม " ฉันกำหมัดแน่นภาพความทรงจำที่แสนเจ็บปวดนั้น จะผ่านไปกี่ปี ฉันก็ยังจดจำได้.. สิ่งที่แม่พูด เสียงร้องไห้ของแม่ หยดน้ำตาของแม่ที่ฉันเช็ดให้กับมือ และแม่จากไป..เพราะพ่อ.. บนรถเงียบไปสักพัก ก่อนที่สัญญาณไฟแดงจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว " รีบๆขับไปเถอะน่า " ฉันบ่นๆ ก่อนจะหยิบบุหรี่ในกระเป๋าขึ้นมาจุดสูบอย่างไม่ใส่ใจอะไร แอลตัลชะงักไปทันที ก่อนจะหันมามองฉันนิ่งๆ ฟุบ.... เขากระชากบุหรี่ออกจากมือของฉัน ก่อนจะดับด้วยมือเปล่า และโยนทิ้งลงข้างทางไป " ไม่มีผู้หญิงดีๆที่ไหนสูบบุหรี่หรอกนะ " แอลตัลถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ " ทำไมต้องเอาเรื่องผู้หญิงกับผู้ชายมาแบ่งแยกด้วยวะ? " ฉันถามกลับไปและหยิบม้วนที่สองขึ้นมา " ทีผู้ชายทำเรื่องเหี้ยๆมากมาย ทำไมไม่รู้สึกผิดหรือโดนมองว่าเลวบ้างละ? " ฉันถามขณะที่คาบบุหรี่และเตรียมจะจุดมันอีกครั้ง " ถ้ามึงอยากจะสูบบุหรี่ หรืออยากจะทำตัวเหี้ยๆ " " ก็ทำได้นะ แค่อย่ามาทำต่อหน้ากู" สิ้นเสียงนั้นแอลตัลก็กระชากซองบุหรี่ไปทั้งหมด ก่อนจะขย้ำมันจนแหลกละเอียดคามือ และโยนกลับไปที่เบาะด้านหลัง "​เพราะกูคงทนเห็นไม่ได้" มันพูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง " ไอ้แอล " ฉันชักสีหน้าใส่มันอย่างไม่พอใจ " อีกไม่กี่วันจะเรียนจบ ม.ปลายแล้วนะ หันใช้สมองคิดซะบ้าง" " อย่าเอาแต่อดีต ที่เจ็บปวดของตัวเองมาทำลายอนาคต " นั่นคือสิ่งที่แอลตัลพูดใส่ฉันทุกวัน จนฉันโคตรจะรำคาญมัน แกร๊ก ปัง!! ทันทีที่รถจอด ฉันก็ก้าวลงจากรถทันทีโดยไม่สนใจอะไร @โรงเรียนนานาชาติ ISB ฉันเรียน โรงเรียนนานาชาติแห่งนี้มาตั้งแต่อนุบาล จนถึงวันนี้ที่ใกล้จะจบม.ปลายแล้ว อย่าถามเรื่องเกรดเฉลี่ยเลย มันเริ่มห่วยแตกตั้งแต่วันที่ฉันกลายเป็นเด็กกำพร้า...ขาดแม่นั่นแหละ ในคลาสเรียนวิชาแนะนำ " เลือกมหาลัยที่จะศึกษาต่อได้รึยังลูก.. เอวาลีน " ครูแนะนำท่านหนึ่งเดินเข้ามาถามฉัน ที่เอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์อย่างไม่ใส่ใจอะไร " ไม่อะคะ หนูไม่อยากเรียนต่อ " ฉันเงยหน้าตอบไปอย่างนิ่งเฉย " งั้นเอาแบบนี้ดีไหม? " ครูนั่งลงตรงหน้าของฉัน และจับมือของฉันที่ยังคงกดโทรศัพท์แชทอยู่ " อันนี้คือ มหาลัยชั้นนำในประเทศอังกฤษที่ครู คัดเลือกมาให้มีคณะมากมายเลยนะที่เหมาะกับหนู" " หนูลองเอาไปค่อยๆเลือก และตัดสินใจดูก่อนดีไหม? " ครูวางแพลนการเรียนปริญญาตรีให้กับฉัน " พ่อคงให้ครูมาพูดสินะคะ " ฉันตอบไปก่อนจะยิ้มๆ และรับเอกสารเหล่านั้นไว้ อ๊อดดด เสียงบอกเวลาหมดคาบดังขึ้น ฉันลุกขึ้นยืนทันทีและเดินออกไปจากห้อง ก่อนจะทิ้งเอกสารทั้งหมดนั้นลงถังขยะไปทันที " อย่าหวังว่าหนูจะยอมทำตามที่พ่อคาดหวังเอาไว้เลย" " เพราะอะไรที่พ่อเกลียดต่างหาก คือสิ่งที่หนูจะทำ " ฉันกำหมดแน่นและพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เพื่อที่จะโดดเรียนคาบต่อไป ...บนดาดฟ้า... ฉันยังคงนั่งมองท้องฟ้าแบบเดิมทุกๆวัน และยังคงคิดอยู่เสมอว่า " แม่ไม่ควรทิ้งหนูไว้บนโลกนี้คนเดียวนะ " ฉันเงยหน้าถามไปบนฟ้า ทำไมฉันถึงไม่ตายไปในเหตุการณ์วันนั้น ทำไมแม่ถึงจากไปโลกที่โหดร้ายนี้ไปคนเดียว หลังจากที่แม่จากไป จากเด็กร่าเริงคนหนึ่งฉันก็เปลี่ยนเป็นเด็กที่ก้าวร้าว จากคำวินิจฉัยของหมอบ้าๆหลายๆโรงพยาบาล ฉันรักษาตัวอยู่นานเกือบ ครึ่งปี จนศาลตัดสินให้ฉันกลับมาอยู่ใต้การเลี้ยงดูของพ่อ และพ่อจะเป็นผู้ปกครองโดยชอบทำ จนกว่าฉันจะบรรลุนิติภาวะในวัยยี่สิบปี.. แต่สิ่งที่มันไม่สามารถซ่อมแซม หรือรักษาให้หายได้ คือรอยแผลเป็นภายในใจของฉัน ที่มีต่อพ่อ... มันเแปรเปลี่ยนจากความรักที่มี มันกลายเป็นความเกลียด ฉันไม่ยอมรับพ่อ เพราะพ่อนั้นแหละที่ทำให้แม่ต้องตาย แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา พ่อจะไม่มีภรรยาใหม่ หรือแต่งงานกับใครอีก แต่ฉันก็ยังเกลียดพ่ออยู่ดี.. ฟุบ ฟั่บ ฟุบ ฟั่บ ฉันนั่งจุดไฟแชทที่มีตัวอักษรย่อ LA มันเป็นไฟแชทที่เป็นของฝากจากแอลตัล สมัยที่มันไปเที่ยวแอลเอกับครอบครัว " กูบอกว่าอย่าสูบบุหรี่ไง " พูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงน่ารำคาญๆของมันก็โผล่มาทันที " ยุ่งฉิบหาย " ฉันแบะปากใส่หน้ามันไปที " อย่าบอกว่านะ มึงขี้เกียจเรียนถึงขั้นอยากจะเผาโรงเรียนเลยอะ? " มันถามอย่างกวนๆ " ถ้ากูเผาโรงเรียนขึ้นมาจริงๆ มึงจะทำไง? " ฉันลองถามมันไปแบบขำๆ " กูก็คงต้องบอก พี่แววทำอาหารไปเยี่ยมมึงในคุกทุกวัน" ไอ้แอลตัลพูดก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆฉัน พี่แววคือพี่เลี้ยง ควบตำแหน่งแม่บ้านของบ้านแอลตัล และพี่แววก็เลี้ยงทั้งแอลตัลและฉันมาตั้งแต่เด็กเลยเหมือนกัน เพราะว่าเราน่ะตัวติดกันตลอด " ดูมึงดีใจนะ ที่กูติดคุก? " ฉันกระแทกศอกเข้าที่หน้าท้องมันทันที ป๊อกๆ ไอ้แอลตัลดีดหน้าผากของฉันเบาๆ " ดีใจดิ อย่างน้อยมึงก็จะไม่ได้ออกมาสร้างเรื่องให้กูคอยตามแก้ " " แต่ถ้าไม่มีมึง กูก็คง...เหงาอยู่นะ "จู่ๆมันก็พูดขึ้น ก่อนจะนั่งหันหลังและเทน้ำหนักพิงมาที่แผ่นหลังของฉันแบบทั้งตัว " หนักนะเว้ย ตัวอย่างกับควาย" ฉันบ่นๆแต่ก็ไม่ได้ขยับอะไร เราทั้งคู่ต่างคนต่างเงียบไป และปล่อยให้ลมพัดพาร่องลอยไปบนดาดฟ้าสูงของตึกเรียน ซึ่งเป็นที่ประจำที่ฉันและแอลตัลชอบมานั่งพัก " เรื่องเรียนต่ออะ คิดอีกดิ" จู่ๆแอลตัลก็พูดขึ้นมา " โง่ๆแบบกู ต้องเรียนอีกเหรอ? " ฉันบ่นไป เพราะฉันเกลียดคณิต เกลียดวิทย์ เกลียดมันทุกวิชานั่นแหละ " มึงก็เลือกคณะที่คิดว่าใช่ดิวะ มึงชอบแฟชั่น ก็เรียนออกแบบ เรียนสายแฟชั่นไปเลย" แอลตัลยังคงพยายามพูดจาหว่านล้อมฉัน " ไปเรียนมหาลัยเดียวกับกูก็ได้นะ มีคณะที่มึงน่าจะชอบอยู่ " มันพูดต่อเป็นต่อยหอย " พ่อกูบังคับให้มึงมาพูดใช่ปะ?"​ฉันถามไปอย่างเหวี่ยงๆ " คุณอาไม่ได้บังคับ กูแค่อยากพูดในฐานะเพื่อน "แอลตัลส่ายหน้าและชักสีหน้าซีเรียสๆใส่ฉัน " ถ้ามึงอยากไปอยู่ไกลๆบ้าน ทำไมไม่สมัครเรียนต่อต่างประเทศละ คิดดูดีๆ ?​"แอลตัลพูดอย่างให้ข้อเสนอที่ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย " อื้ม " ฉันตอบไปแอลตัลไปแค่นั้น ความรู้สึกของการเป็นรุ่นพี่ปีสุดท้ายของชีวิตมัธยมนี่มันผ่านไปไวดีนะ แป๊บๆ ก็เลิกเรียนแล้ว.... ในระหว่างที่ฉันกับแอลตัลกำลังเดินมาเอารถที่ลานจอดรถหน้าสนามฟุตบอล " วันนี้มีคนขอกลับด้วยนะ " จู่ๆไอ้แอลตัลก็พูดขึ้นมาก่อน " ใคร? " ฉันถามไปอย่างเหวี่ยงๆ " พลอยอะ พอดีเมื่อคืนกู.... วันหลังก็บอกก่อนสิ กูจะได้ขับรถกูมาเอง " ฉันพูดสวนกลับไปทันที " เฮ้ย..มึงเป็นเหี้ยอะไรเนี้ย? "แอลตัลชักสีหน้าและขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ " กูไม่ชอบนั่งรถร่วมกับใคร ที่ไม่รู้จัก " ฉันตอบไปอย่างโมโห ก่อนจะสะพายกระเป๋าและเดินหันหลังกลับทันที " เอวา มึงอย่ามางี่เง่าได้ปะ? "นั่นคือเสียงของไอ้แอลตัลที่ตะโกนไล่หลังฉันมา ฉันยกนิ้วกลางชูกลับไปอย่างไม่พอใจ " งั้นก็แล้วแต่มึง " แอลตัลก็ตะโกนกลับมาอย่างไม่พอใจเช่นกัน เพราะเราเป็นพวกไม่มีใครยอมใครอยู่แล้ว จะงอลก็งอล ไม่มีใครง้อใครทั้งนั้น ชิ ฉันเดินออกมาอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะสวนกับผู้หญิงกระโปรงลายสก๊อตนุ้งสั้นคนหนึ่ง กระดุมเสื้อแทบจะปริออกมา เพราะเธอใส่เสื้อไซส์ที่เล็กจนเกินไป ราวกับบ้านไม่มีปัญญาซื้อเสื้อเลยต้องใส่ตั้งแต่ อนุบาลจนถึงม.ปลาย " อ้าว..สวัสดีจ้ะ เอวาลีน " ยัยนั้นเอ่ยทักฉันที่เดินหน้าบอกบุญไม่รับ ทำให้ฉันหยุดและปรายตาไปมองทางหล่อนเล็กน้อย " เราพลอย..ใสนะ " ยัยนั้นหยุดยืนแนะนำตัวต่อหน้าฉัน ฉันหยุดนิ่งและกลอกตาไปทางอื่นด้วยใบหน้าเอือมระอา ใส่ผู้หญิงคนนั้นไป" แล้วนี่วันนี้ไม่กลับรถแอลตัลเหรอ? " ยัยนั้นถามและโบกมือไปทางแอลตัลที่นั่งอยู่ในรถ "พอดีเราก็กลับบ้านแอลตัลเหมือนกันนะ..." ยัยนั้นพยายามจะแนะนำตัวและบอกให้ฉันเข้าใจในอะไรบางอย่าง " เลิกปลอมที รำคาญ " ฉันถอนหายใจและพูดออกมาทันทีอย่างไม่สนไม่แคร์ พร้อมกับสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD