13 : 20 นาฬิกา
หลังจากเล่นน้ำที่ถ้ำพระนางและเดินชมความงามของหินผาปูนเกือบสองชั่วโมง ก้องภพ เพียงตะวัน พินทุอร คาร่า วิทิตและสุเมธก็นั่งเรือมายังเกาะแหวก ซึ่งเกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่อยู่ลึกเข้าไปกลางทะเลลึกแห่งอันดามัน
เพียงตะวันนั่งเรือไปอย่างมีความสุข สายตาก็กวาดมองเกาะรูปร่างสวยงามแปลกตาที่เรือแล่นผ่าน ทะเลแหวกแห่งนี้จะมีช่วงเวลาหนึ่งที่น้ำจะลดระดับน้ำดุจทะเลแหวกออก จนกลายเป็นหาดทรายขาวสะอาดเชื่อมเกาะสามเกาะอย่างน่าอัศจรรย์
เธอจึงมองว่าทะเลแห่งนี้ดูน่าหลงใหลและยังมีความโรแมนติกอยู่ตลอดเวลาทะเลแหวกจะมีชายหาดที่เชื่อมติดกันอยู่ 3 เกาะก็คือ เกาะทับ เกาะหม้อ และ เกาะไก่ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามจากเกาะไก่ไปยังเกาะทับได้ในยามน้ำลง
หากจะให้ดีก็ควรจะเป็นในช่วงน้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน โดยเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ทะเลแหวกถือว่าเป็นไฮไลท์สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของกระบี่เลยทีเดียว
“เราจะแวะอยู่ที่เกาะแหวกแค่ครึ่งชั่วโมงนะครับ”
วิทิตหันมาบอกบรรดาเจ้านายทั้งหลายด้วยสีหน้าเรียบ ชายหนุ่มจอดเรือตรงจุดที่มีเอาไว้บริการลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเที่ยวทะเลแหวกแห่งนี้ หากจะดูให้ดีวันนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะน่าดู อาจเพราะว่าช่วงนี้เป็นฤดูท่องเที่ยวก็ได้ นักท่องเที่ยวก็เลยหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวทะเลแหวกแห่งนี้
“เวลาน้อยจังเลยวิทิต อรขอสักชั่วโมงไม่ได้หรือค่ะ”
“ไม่ได้หรอกครับคุณอร เพราะอีกเดี๋ยวพวกเราจะต้องไปที่เกาะสี่ครับ คุณกลางจะพาไปดำน้ำที่เกาะสี่ครับ ดังนั้นเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงสำหรับเกาะแหวกครับคุณอร”
วิทิตหันหน้ามาอธิบายกับเพื่อนรักของเจ้านายสาวด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ในเมื่อโปรแกรมมันเป็นมาแบบนี้แล้วจะให้เขาเปลี่ยนแปลงโปรแกรมได้อย่างไร
หากจะเปลี่ยนโปรแกรมก็คงจะต้องคุยกับเจ้านายของเขาเท่านั้น เพราะสิทธิ์ในการตัดสินใจว่าจะยืดเวลาอยู่เกาะแหวกหรือเปล่า
“พี่กลางจะไปดำน้ำหรือค่ะ” เพียงตะวันเอียงหน้ามาถามแฟนหนุ่ม จะไปดำน้ำไม่เห็นปรึกษาเธอเลย แล้วเธอจะเอาอะไรไปดำน้ำล่ะในเมื่อเธอไม่ได้เตรียมอุปกรณ์ในการดำน้ำมาเสียด้วย
“ครับ ส่วนอุปกรณ์ดำน้ำของน้องแก้ม น้องอรและคาร่า พี่เตรียมมาให้เรียบร้อยแล้วไม่ต้องห่วง ดังนั้นพวกเราจึงอยู่เล่นที่เกาะแหวกได้ไม่นานนะครับ”
ก้องภพรีบอธิบายให้แฟนสาวฟัง ก่อนจะหันไปสนใจทั้งสองสาวที่กำลังนั่งชมทิวทัศน์รอบๆ เกาะแหวก น้ำทะเลที่ใสสะอาด กับชายหาดสีขาวที่ทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา ภาพเหล่านี้ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจไม่น้อยสำหรับความคิดของทุกคน
“ถ้าอย่างนั้นเราไปเกาะสี่กันเลยดีกว่าค่ะพี่กลาง”
“อรก็เห็นด้วยนะคะพี่กลาง ในเมื่อเราจะไปดำน้ำที่เกาะสี่ งั้นเราก็ไปกันเลยจะดีกว่า”
“แล้วคาร่าล่ะว่ายังไง จะไปกำน้ำที่เกาะสี่เลยไหม หรือว่าจะเดินเที่ยวเกาะแหวกก่อน”
ก้องภพละสายตาไปถามคาร่าก่อนจะหันไปมองลูกน้องที่กำลังนั่งรอคำตอบกันอยู่ ใจจริงเขาก็อยากไปเกาะสี่เลยเหมือนกัน เพราะถ้าจอดเรืออยู่ที่เกาะสี่แค่ครึ่งชั่วโมง ถ้าอย่างนั้นแล่นเรือไปดำน้ำเลยไม่ดีกว่าหรอกหรือ
“คาร่ายังไงก็ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
“โอเค! ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปเกาะสี่กันเลย” ก้องภพพูดก่อนจะหันไปมองลูกน้องแล้วพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าให้ออกเรือมุ่งตรงไปยังเกาะสี่ทันที
เกาะสี่เป็นเกาะที่อยู่เกือบสุดท้ายของหมู่เกาะในอ่าวนาง เกาะสี่เป็นจุดดำน้ำที่เป็นแหล่งที่นิยมมากเป็นอันดับหนึ่งของเกาะอ่าวนาง ในเกาะแห่งนี้ยังมีเกาะหินปูนกลางทะเล ฝูงปลาเสือที่มีมากมาย ปลานกแก้วและปะการังต่างๆ ดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนที่มีมากมาย และหลังจากเหตุการณ์ภัยภิบัติซูนามิ ได้มีปลานะโปเลียนขนาดใหญ่ ปลาหมอทะเล ปลาเก๋ายักษ์ และปลาในแนวปะการังอื่นๆ ทากเปลือย ม้าน้ำ และงูทะเลปรากฏให้เห็น
เมื่อถึงจุดดำน้ำที่ก้องภพอยากพาแฟนสาวมาดำน้ำดูปะการัง และปลาสวยงาม ชายหนุ่มก็หันมาสะกิดแฟนสาว เพื่อที่จะไปยังจุดที่เขาต้องการจะพาเธอไป ส่วนพินทุอรกับคาร่าก็อยู่กับลูกน้องของเขาทั้งสอง และก่อนที่เขาจะแยกตัวออกไปก็ยังไม่ลืมที่จะสั่งให้ลูกน้องจับทั้งสองสาวแยกออกไปดำน้ำคนล่ะแห่งกัน และดูเหมือนว่าแผนการของเขาจะสำเร็จเสียด้วย
คาร่าสนใจที่จะกำน้ำจนลืมไปเลยว่าตอนนี้พินทุอรได้ถูกวิทิตลากไปดำน้ำอีกที่หนึ่งแล้วนั่น ส่วนที่เหลือเขายกให้เป็นหน้าที่ของสุเมธเป็นคนจัดการ จากนั้นก็หันมาชวนแฟนสาวให้ออกว่ายน้ำตรงไปยังจุดดำน้ำที่เขาหมายตาเอาไว้ กว่าจะดำน้ำเสร็จก็กินเวลาไปหลายชั่วโมงทีเดียว สุดท้ายโปรแกรมทัวร์วันนี้ก็ไปไม่ครบอีกจนได้ เพราะพวกเขามัวแต่ดำน้ำกันจนเพลิน
ก้องภพก็ยังใจดีสัญญากับสามสาวว่าจะพามาเที่ยวอีกครั้งและครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวให้ทัวร์กระบี่ หลังจากดำน้ำเสร็จก็เกือบจะค่ำ สุดท้ายทุกคนจึงตัดสินใจขับเรือกลับม่านฟ้า บีช รีสอ์ท
///////////////
20 : 30 นาฬิกา
หลังจากกลับมาจากทัวร์ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับห้องพัก และนัดกันเอาไว้ว่าประมาณสองทุ่มจะมาเจอกันที่ชายหาดหน้ารีสอร์ท เพราะคืนนี้พินทุอรสั่งให้ผู้จัดการรีสอร์ทจัดปาตี้ร์คืนนี้ที่ชายหาด โดยที่พินทุอรไม่รู้เลยว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่เธอได้เจอกับคาร่าเป็นครั้งสุดท้าย
“นี่ถ้าพี่กรมาด้วยคงจะสนุกกว่านี้ แกว่าไหมอร”
“นั่นสิเนอะ ไม่รู้ว่าตอนนี้ตาแก่ของฉันกำลังทำอะไรอยู่ จะกินข้าวหรือยังน่า”
“แล้วทำไมแกถึงไม่โทร. ไปถามพี่กรดูล่ะอร”
“ขี้เกียจ ถ้าโทร. หาบ่อยๆ เดี๋ยวติดนิสัย”
“แกไม่กลัวพี่กรจะน้อยใจบ้างเหรออร ยิ่งพี่กรเข้าใจว่าแกไม่รักอยู่ด้วย อย่าลืมสิไอ้อรว่าคนแก่ขี้น้อยใจจะตาย ถ้าแกยังปล่อยพี่กรเอาไว้แบบนี้ เกิดพี่กรหวั่นไหวไปกับผู้หญิงอื่นแล้วแกจะทำยังไง”
เพียงตะวันเริ่มกระตุ้นความรู้สึกของเพื่อนรัก ขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้เห็นทีพี่ชายของเธอคงถูกสาวไหนคว้าไปล่ะยุ่งเลย ยิ่งชายหนุ่มคิดอยู่เสมอว่ายัยเพื่อนบ้านี่ของเธอไม่รัก หากเป็นอย่างนั้นจริงๆ คนที่จะเสียใจก็คงหนีไม่พ้นยัยบ้านี่แน่
“แกมาพูดทำไมให้ฉันเครียดวะไอ้แก้ม”
พินทุอรหันมาแว้ดเพื่อนรักเสียงเขียว ในหัวใจก็เริ่มกังวลและเครียดขึ้นมาทันทีกับคำพูดแทงใจดำนั่น ถ้าหากภาสกรไปรักผู้หญิงอื่นแล้วเธอจะทำยังไง ไม่ได้สิ! เธอจะต้องไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นยังไงภาสกรก็จะต้องแต่งงานกับเธอ
เฮ้อ!...หรือว่าเธอเล่นแรงไปวะเนี่ย
“ก็มันน่าคิดนี่หว่า เดี๋ยวนี้แกกับคาร่าติดกันยิ่งกว่าตังเม ที่สำคัญแกก็ไม่ค่อยขึ้นไปหาพี่กรที่เชียงใหม่เลยไม่ใช่เหรอ ทุกทีพี่กรก็จะลงมาหาแกที่กระบี่ตลอด”
“นี่สรุปว่าฉันผิดอีกแล้วใช่ไหมไอ้แก้ม”
“แกไม่ผิดหรอกอร แต่แกนะเล่นแรงไปแล้ว ให้คาร่ามาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้พี่กรก็คิดมากสิ แกอย่าลืมนะว่าพี่กรรู้เรื่องที่คาร่าเป็นดี้และที่สำคัญคาร่าก็ชอบแกด้วย”
“อรว่าพี่กรไม่น่าคิดมากขนาดนั้นหรอกมั้ง”
“ก็ไม่แน่นะ เกิดพี่กรคิดว่าแกไม่ชอบผู้ชายและดันชอบผู้หญิงขึ้นมาแล้วแกจะทำยังไง แกอย่าลืมนะว่าพี่กรก็เป็นที่หมายปองของสาวๆ เหมือนกัน ขืนแกยังเล่นตัวอยู่แบบนี้มีหวังถูกแย่งไปพี่กรไปแน่”
////////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...