สัมผัสร้าย 6 ของแก้ขัดชั่วครั้งคราว (1) NC

1583 Words
​ ​ พลันความเงียบงันปกคลุมทั่วทั้งห้อง ก่อนที่เสียงเย็นยะเยือกจะดังขึ้น “ตาลกลับไปก่อน” พูดเสร็จร่างสูงผละออกจากเตียง ลุกไปเปิดไฟจนทั่วทั้งห้องสว่างพรึบ ฉันถึงได้เห็นหน้าคู่ขาของเรซชัดๆ นั่นมันลูกตาลที่ไปหัวหินด้วยกันหนิ “เรซ!?” ลูกตาลไม่ยอมลุกง่ายๆ เหมือนมีหลายอย่างที่อยากจะพูดแต่พอถูกสายตาคมปลาบของเรซเพ่งมองเธอก็เงียบสนิท ลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าจนเข้าที่ ฉวยกระเป๋าใบละสองแสนเดินกระฟัดกระเฟียดออกมายืนจ้องหน้าฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ “อย่าคิดนะว่าจะชนะฉันได้” พลั่ก เค้นเสียงลอดไรฟันเสร็จก็เดินชนไหล่ฉันออกไปอย่างกับหมาบ้า ท่าทางคงจะเจ็บใจน่าดู ฉันมองไล่หลังลูกตาลไปอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะดึงสายตากลับเข้ามาในห้อง เรซกำลังจ้องฉันเขม็ง แววตาดุดันอย่างกับเสือที่กำลังเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเหยื่อ ถ้าพลาดเพียงนิดเดียวก็จะถูกฉีกกระชากจนไม่เหลือชิ้นดี ฉันไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงที่เรซเอาผู้หญิงมานอนด้วย ...ความสัมพันธ์ชั่วครั้งคราวของเราไม่ใช่เรื่องที่ควรไปยึดติด แต่ก็เป็นเพราะไอ้คำว่า ‘ชั่วครั้งชั่วคราว’ นี่ไม่ใช่เหรอที่ทำให้ฉันเลิกกับพี่แสงจนต้องมายืนอยู่ตรงนี้ “โทษนะที่เข้ามาขัดจังหวะ แต่นายพาคนมานอนด้วยทั้งที่ฉันก็อยู่ ถามหน่อยสะกดคำว่าละอายเป็นมั้ย” “แล้วเธอเป็นใคร ถึงมาพูดแบบนี้กับฉัน” เรซเอ่ยด้วยเสียงที่เรียบสนิท แต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนถูกขโมยลมหายใจไป ต่อให้รู้ว่าในสายตาของคนตรงหน้าฉันจะไม่มีค่าอะไรเลย แต่พอได้ฟังตรงๆ ก็ถึงกับหน้าแห้งไปต่อไม่ถูก “ถ้าไม่ใช่เพราะนายยุ่งกับฉันก่อน คิดว่าฉันจะสนใจนายหรือไง ห่วยแตก!” ฉันหันหลังเดินออกมาหลังจากกระแทกน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ใส่เขา แต่ท่อนแขนฉันกลับถูกกระชากอย่างแรงจากด้านหลัง “เรซ! ...” ฉันใจหายวาบ “นายจะทำอะไรเรซ ปล่อยสิ!” ฉันมองใบหน้าเหี้ยมเกรียมของเขาอย่างหวาดหวั่น ดิ้นรนสะบัดมือเขาออกแต่ไม่สำเร็จ เรซลากฉันมาที่เตียงก่อนจะบังคับให้ฉันนั่งลง พอฉันจะลุกเขาก็กดไหล่ฉันไว้ “ปล่อยนะ นายจะทำ…” เสียงฉันขาดหายไปทันทีเมื่อเห็นเรซใช้มืออีกข้างดึงสายเข็มขัดออกจากกางเกง หัวใจฉันพลันกระตุกวูบ ตวัดสายตาขึ้นมองเขาอย่างหวาดหวั่น “ปากเก่งนักไม่ใช่เหรอ ใช้ปากของเธอทำให้ฉันพอใจสิ” เรซรูดซิปกางเกงลง… สายตาคมกริบจับจ้องฉันไม่วางตา ฉันอ้าปากพะงาบๆ ทันทีที่ได้ยินอะไรแบบนั้น มองหน้าเขาสลับกับเนื้อกางเกงชั้นในที่นูนพ้นแนวขอบซิปกางเกงยีนออกมาเลิ่กลั่ก ...มันน่าจะตื่นตั้งแต่ตอนอยู่กับยัยนั่นแล้ว ลำคอฉันรู้สึกตีบตันขึ้นมากะทันหัน สมองเข้าใจในสิ่งที่เรซบอกแต่ทำไม่ลง “คะคือ….” ฉันนิ่งเป็นก้อนหิน มองสิ่งที่ขยายคับกางเกงชั้นในของเรซอย่างกระสับกระส่าย “เธอทำให้ฉันอารมณ์ค้าง เพราะงั้นต้องรับผิดชอบ” เรซใช้นิ้วลูบไล้เรียวปากฉัน กดเน้นหนักเบาชวนวาบหวามจนฉันเผยอริมฝีปากให้อย่างไม่รู้ตัว เรียวนิ้วแข็งแทรกเข้ามาในปาก ลากไล้ไปตามไรฟันและกระพุ้งแก้ม ฉันหดลิ้นหนีแต่เรซก็ไล่ตามมาพัวพันเป็นการบังคับกลายๆ ให้ฉันดูดเลียนิ้วของเขา “อือ…” เสียงครางดังลอดออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ลิ้นตวัดพลิกไปมาตามการชักนำของนิ้วเรียวยาว “…อย่างนั้น” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอย่างพอใจแม้ว่าใบหน้าของเขาจะยังคงเรียบสนิทแต่แววตาที่มองลงมากลับเปี่ยมไปด้วยแรงดึงดูดที่อยากจะทานทน ฉันคล้ายสัตว์เลี้ยงที่กำลังถูกฝึกให้เชื่อง เมื่อเห็นว่าฉันเชื่อฟังดีแล้วเรซก็ถอดนิ้วออก ล้วงเอาสิ่งที่อยู่ใต้กางเกงชั้นในออกมาจ่อปากฉันแทน สติที่หลุดลอยพลันกลับคืนมา ฉันเบิกตามองท่อนเนื้อเป็นลำยาวปูดโปนไปด้วยเส้นเลือดของเรซ หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นชัดและใกล้ขนาดนี้ เพียงระยะอ้าปากก็จะกลืนกินได้อยู่แล้ว ฉันเม้มปากแน่น เบือนหน้าหลบด้วยความรู้สึกขัดขืน สัมผัสร้อนลวกยังคงตามติด กระทั่งนึกโมโหอยากจะตะโกนด่าคนตรงหน้าแต่ก็ทำได้แค่ปิดปาก ป้องกันไม่ให้แก่นกายล่วงล้ำเข้ามาได้ เรซใช้มือโอบศีรษะฉันเอาไว้ไม่ให้ถอยหนี ฉันผลักเขาออก ลอบมองผิวแดงร้อนระอุของเขาด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก เราทั้งคู่ดึงรั้งกันอยู่นานก่อนที่ฉันจะทนแรงบีบที่แก้มไม่ไหว ถูกเรซใช้นิ้วง้างปากออกแล้วดันท่อนเนื้อเข้ามาในที่สุด “อื้อ! ~” ฉันส่งสายตาสบถด่าทอไปให้เขา เม้มปากขัดขวางไม่ยอมให้มันเข้าไปลึกกว่านี้ ใบหน้าหล่อเหลายังคงเรียบสนิท จอนผมชื้นเหงื่อบางๆ หนึ่งชั้น หากแต่กลิ่นอายร้อนแรงประหลาดกลับมาคุอยู่รอบตัว ชวนให้รู้สึกใจสั่นตาม “ทำตัวดีๆ แล้วฉันจะไม่ถือสาที่เธอเปิดประตูเข้ามา” เสียงทุ้มต่ำราวกับชโลมไปด้วยหนามแหลมคม ส่วนหัวล่วงเข้ามาชนกับขอบฟัน ความรู้สึกวาบหวามประหลาดไหลวนทั่วร่างราวกับเกลียวคลื่น ริมฝีปากแนบชิดกับแก่นเนื้อร้อนจัด เรซขมวดคิ้ว ออกคำสั่งเสียงฉุน “อ้าปากกว้างอีก” หัวใจฉันกระตุกไหว รู้สึกเครียดขึ้นสมอง จะผลักออกตอนนี้ก็ไม่ทัน ขากรรไกรค่อยๆ แยกออกกว้าง โอบอมแก่นกายเรซเอาไว้ครึ่งลำ ลิ้นถูกดันเอาไว้ข้างล่าง ขยับไหวไปมาอย่างทำตัวไม่ถูก เหลือบมองคนตรงหน้าขอบตาแดงรื้น เขาจ้องมองลงมาอย่างไม่สะทกสะท้าน สายตาดุดันคล้ายจะสั่งให้ฉันเริ่มงาน ในหัวฉันเบลอไปหมด ลมหายใจติดขัด มือยกขึ้นเกาะเอวกับต้นขาเรซอย่างต้องการที่ยึดเหนี่ยว แค่จะกลืนน้ำลายยังรู้สึกฝืน “ค่อยๆ เลีย...” ฉันสูดหายใจเข้าลึก เมื่อถูกบอกให้ทำก็รู้สึกลังเล แต่อมเอาไว้เฉยๆ ก็ยิ่งทรมาน กลั้นใจกระดกลิ้นขึ้นแตะแก่นลำยาวๆ ลากไล้เลียเล็มเท่าที่พื้นที่ในปากจะอำนวยแต่ท่าทางเรซยังไม่พอใจ “เธอเป็นเด็กหรือไง ทำให้มันถึงใจกว่านี้หน่อยสิ” ฉันรู้สึกอยากจะร้องไห้ ถามตัวเองซ้ำไปมาในใจว่าทำไมต้องมาทนทำอะไรแบบนี้ให้กับผู้ชายตรงหน้าด้วย แต่ฉันก็ได้แต่คร่ำครวญเท่านั้น เอาแก่นกายเรซออกจากปาก กอบกุมส่วนนั้นเอาไว้อย่างเบามือ จดๆ จ้องๆ อยู่ชั่วขณะก่อนกลั้นใจยื่นลิ้นออกมาเลียด้านข้างตั้งแต่โคนจรดปลายแล้วสลับไปเลียอีกข้างซ้ำไปมาอยู่หลายรอบ ร่างสูงยังคงยืนนิ่ง จ้องมองลงมาด้วยสายตาเบื่อหน่าย ตอนที่สายตาเราทั้งคู่ประสานกันฉันรู้สึกกดดันแปลกๆ ฉันเองก็ไม่ชอบโดนดูถูกไม่ว่าจะเรื่องอะไรทั้งนั้น รวบรวมความกล้าให้ตัวเองแล้วก้มหน้าลงตั้งอกตั้งใจทำกว่าเดิม ดูดเม้มเลียเล็มจนมันเปียกชื้นมันวาวไปทั้งลำ “เอาเข้าไป” เสียงแหบทุ้มบอกอย่างหมดความอดทน นิ้วมือเรียวยาวลูบไล้โครงหน้าและใบหูฉันคล้ายกำลังหยอกเย้า ทำให้ฉันเคลิบเคลิ้ม ดูดอมท่อนเนื้อเอาไว้ในปากด้วยความรู้สึกร้อนรุ่ม ขยับเข้าออกตามสัญชาตญาณสลับกับดูดกลืนแรงๆ จนแก้มตอบ กระทั่งเผลอเอาฟันขูดกับหนังกายของเรซ ร่างสูงสะดุ้งเฮือก แววตาดุดันขึ้นมาทันที ฉันใจหายวาบ คิดว่าจะต้องโดนตำหนิแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้เขากำชับตลอดว่าอย่าให้โดนฟัน แต่เรซกลับไม่พูดอะไร ใบหน้าหล่อเหลาเห่อแดงอย่างทนไม่ไหว กดหน้าฉันเข้าๆ ออกๆ ตามใจชอบ “อื้อ…. อื้อ~” ความเร็วที่เพิ่มขึ้นกะทันหันทำฉันปรับตัวไม่ทัน ส่งเสียงประท้วงอู้อี้ในลำคอ แก่นกายรูดรั้งเข้าออกโพรงปากกระแทกกระทั้นถึงลิ้นไก่ น้ำลายไหลย้อยลงตามมุมปาก เสียงดังประหลาดสอดประสานกับเสียงครางปะปนกันจนแยกไม่ออก ฉันยึดกำขากางเกงเรซเอาไว้แน่น ทั้งแตกตื่นทั้งเจ็บ ร่างกายเกร็งจนชาไปหมด ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวร่างสูงตรงหน้าก็เกร็งกระตุก หัวใจฉันหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่ม เบิกตาโพลงและพยายามผลักเรซออก ทุบกำปั้นแรงๆ ใส่หน้าขาและเอวของหมอนั่นเพื่อให้ปล่อยแต่เรซกลับรั้งศีรษะฉันเข้าแนบชิด หยัดสะโพกขึ้นปลดปล่อยเข้ามาในปาก “อื้อ! ~” ฉันส่งเสียงประท้วงด้วยความโกรธ ผลักร่างสูงออกไปสุดแรงเกิด รีบวิ่งเข้าห้องน้ำแข้งขาอ่อน “แหวะ!” ฉันคุกเข่าอยู่หน้าชักโครก โก่งคอคลายน้ำรักของเรซออกมาอย่างพะอืดพะอม เปิดน้ำล้างปากไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ขอบตาแรงรื้นเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา จิตใจหดหู่ถึงขีดสุด ทุบกำปั้นกับโถชักโครกอย่างแค้นเคือง “เรซ ไอ้สารเลว!” ​
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD