“ไปไหนครับ”
“ไปธนาคาร”
“คนขับรถไม่อยู่หรือครับ”
“อยู่แต่แม่อยากจะให้กัญจน์ไปเป็นเพื่อนแม่”
“จะเบิกเงินหรือครับ”
“เบิกเครื่องเพชร”
“เบิกเครื่องเพชรจะเอาออกมาทำอะไรครับ”
คุณมัทวันไม่อาจบอกวัตถุประสงค์ในการเบิกเครื่องเพชรในครั้งนี้ได้
“กัญจน์อย่าโกรธแม่นะถ้าแม่จะถามว่าเมื่อไหร่ ลูกจะเอ่อ...” คำถามที่เคยเอ่ยถามกัญจน์หลายครั้งถึงคำตอบจะเหมือนเดิมแต่ท่านยังอยากถามซ้ำ
“อ้ำอึ้งแบบนี้แสดงว่ามีอะไร”
“มีจ้ะ”
มารดาคนสวยเงียบไปครู่ มองหน้าบุตรชายสลับกับเพื่อนสนิท ที่สนิทเกินสนิทจนถูกคนนินทา เกี่ยวกับความสนิทระหว่างสองหนุ่ม ไร้ช่องว่างให้ผู้หญิงแทรกกลางได้ คุณไกรวีประมุขคนสำคัญแห่งตระกูลวิษณุพงศ์ สั่นคลอนกับคำนินทาหนาหูหากแต่ยังยินดีปักใจเชื่อมั่นในตัวกัญจน์คงไม่ผิดธรรมชาติอย่างที่หลายกล่าวหา
เมื่อหลายวันก่อนคุณมัทวันได้คุยกับเพื่อนสนิทไม่ได้พบกันนานนานนับสามสิบสองปี ครั้นได้หวนกลับมาเจอกันเมื่อเดือนที่แล้วในงานเลี้ยงรุ่นมัธยม เมื่อสองสาวเพื่อนสนิทมาก ได้โคจรมาพบกันอีกครั้งการพูดคุยตามประสาคนคิดถึงจึงเริ่มต้นขึ้นใช้เวลายาวนาน มาวันนี้กัญจน์เองต้องขึ้นรับตำแหน่งสูงสุดในบริษัท เพื่อรับช่วงต่อจากบิดา ท่านคอยอยู่เบื้องหลัง
กฎของตระกูลมีมาชั่วนาตาปีผู้ขึ้นดำรงตำแหน่งสูงสุดในวิษณุพงศ์ กรุ๊ปต้องมีถานภาพแต่งงานเท่านั้น ที่สำคัญต้องแต่งงานอย่างเป็นทางการก่อนจะขึ้นรับตำแหน่ง ปัญหามีอยู่ว่ากัญจน์ไม่ยอมลงเอยกับผู้หญิงคนใดสักคน ทั้งที่อีกไม่กี่วันกี่เดือนจะขึ้นรับตำแหน่งแล้ว ร้อนให้คุณมัทวันรีบหาผู้หญิงเพื่อแต่งเข้าตระกูล คราวนี้เธอหมายตาสาวสวยไว้คนหนึ่ง ฐานะ การศึกษา หน้าตาทางสังคมเหมาะสมกันดี แล้วพรุ่งนี้เธอจะหาทางหลอกล่อลูกชาย ไปสวมแหวนหมั้นให้เธอคนนี้ให้ได้
รถยนต์เคลื่อนเข้ามาจอดหน้าธนาคารชื่อดังย่านถนนวิทยุ คุณมัทวันก้าวลงจากรถพร้อมๆกับบุตรชายและเพื่อนของบุตรชาย ที่มักติดสอยห้อยตามกันไม่ห่างกาย ไม่รู้ฐานะที่แท้จริงต่อกันคือเพื่อนหรือมากกว่าเพื่อน แม้จะแนะนำต่อคนอื่นว่านี่คือเพื่อน หากคำว่าเพื่อนยังติดค้างในใจสำหรับทุกคน เพื่อนอะไรมักตามติดกันราวกับเหาฉลาม
“แม่ครับกฎที่แม่เล่าให้ผมฟังมีจริงๆหรือครับ”
“จริงสิลูกพ่อของกัญจน์ต้องรับกฎนี้ด้วยเหมือนคนอื่นๆในตระกูล ตอนที่พ่อรับตำแหน่งจากคุณปู่ท่านต้องรีบจัดงานแต่งงานกับแม่ ทั้งที่เพิ่งคบกันได้แค่ปีเดียวเอง”
“ใครตั้งกฎนี้ล่ะครับคิดได้ยังไงต้องให้มีเมียก่อนรับตำแหน่ง”
“กัญจน์” คุณมัทวันกระซิบเรียกลูกชาย ชายหนุ่มชะงักช้อนตามองมารดาด้วยสายตาฉงน เกิดมาเป็นมนุษย์ย่อมมีคู่เขาเองก็มีคู่มานักต่อนัก ทว่าเมื่อคิดถึงการแต่งงานเขาถึงกับต้องก้าวถอยหลัง หันกลับมามองตัวเองใหม่เขาจะสามารถดูแลใครได้จริงๆหรือ
“ครับแม่”
“ว่าแต่กัญจน์ไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวลือใช่ไหม” ถึงปากจะกระซิบกับบุตรชายปรายตามองเพื่อนสนิทบุตรชายนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่อีกมุม
“แม่... ข่าวลือน่า” เขารู้จักตัวเองดีใครจะลืออะไรช่างประไรไม่เป็นซะอย่างข่าวคือข่าวไม่มีผลต่อชีวิตอยู่แล้ว
“จริงนะ”
“ไว้ค่อยคุยกันที่บ้านครับที่นี่ไม่เหมาะ”
จากนั้นกัญจน์เดินไปหย่อนก้นนั่งปทิตต่างสนใจหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน พานให้มารดามองจนตาแทบถลน ยิ่งเมื่อบุตรชายไม่ยืนยันคำตอบ หัวใจคุณมัทวันเต้นผิดจังหวะ ถึงเลี้ยงมาดีเมื่อออกไปพบเพื่อนฝูงผู้คนนอกบ้านไม่ได้ตามไปด้วยจึงไม่อาจรู้ได้หนุ่มสาวสมัยนนี้เขาทำอะไรที่ไหนยังไงกัน กัญจน์ไปเรียนเมืองนอกเมืองนาร่วมหลายปี ห่างตาพอกลับมาดันเกิดเหตุการณ์ให้ต้องเสียใจมากที่สุดในชีวิต อาจเป็นอีกประเด็นหนึ่งคือสาเหตุให้บุตรชายห่างจากผู้หญิงโดยช้านาน คุณมัทวันภาวนาให้ข่าวเก้งกวางกลายเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น
“นี่น่ะหรือไม่ใช่...ตากัญจน์เอ้ย” พรูลมหายใจก่อนก้าวไปติดต่อเจ้าหน้าที่ของธนาคาร
“พรุ่งนี้ไปธุระกับแม่ที่บ้านเพื่อนแม่หน่อยนะตากัญจน์” พอเสร็จธุระคุณมัทวันย่อกายนั่งเบาะหลังของห้องโดยสารในรถเอ่ยชวนบุตรชายให้ช่วยไปธุระสำคัญกับตัวเอง
“ไปไหนครับ”
“ธุระสำคัญมากจ้ะ รับปากแม่ก่อนว่าจะไปกับแม่”
“ยังไม่รู้เลยผมธุระอะไรหรือเปล่า”
“เถอะน่าไปกับแม่หน่อยธุระแม่สำคัญมากไม่อยากใช้คนรับใช้ให้ขับรถให้”
“เกี่ยวกับเครื่องเพชรชุดนั้นหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ...มีส่วน”
“แม่ดูมีลับลมคมในนะครับ มีอะไรบอกผมได้นะจะนัดดูตัวให้ผมอย่าคิดเลยครับ ผมหาเองได้แค่เมียไม่ต้องรบกวนแม่หรอกครับ”
“อีกไม่กี่วันลูกต้องรับตำแหน่งแล้วนะ หากยังไม่แต่งงานมีหวังพ่อยกตำแหน่งให้อาของกัญจน์แน่”
“ใช่สินะอากมุทแต่งงานมีครอบครัว และมีลูกถึงสองคนคุณสมบัติพร้อมกว่าผมซะอีก”
“นั่นสิถ้ากัญจน์ยังชะล่าใจ มีหวังพ่อยกตำแหน่งให้อาของกัญจน์จริงๆคราวนี้เราหมดตัวเลยนะทางนั้นจ้องจะฮุบทุกอย่างอยู่แล้ว”
“เอาเถอะครับแม่กัญจน์จะรีบหาเมียให้ได้” เขารับปากไม่จริงจังนักเพื่อตัดบทกับมารดาเท่านั้นเอง
“พูดเหมือนหาซื้อเสื้อผ้าไปได้กัญจน์”
“ลูกของแม่หล่อล่ำเพียบพร้อมเป็นที่หมายตาของสาวๆซะขนาดนี้ กระดิกนิ้วนิดเดียวก็ได้เมียแล้วล่ะครับ”
“ผยองเหลือเกินอย่าไปเอาพวกสาวกลางคืน นางแบบนักร้องมาทำลูกสะใภ้แม่ล่ะ กัญจน์ก็รู้เต็มอกแต่งแล้วจะหย่าไม่ได้ถึงหย่าได้คงอีกนาน”
“ใครช่างตั้งกฎเหล็กกดดันทายาทไม่แต่งงานไม่มีสิทธิ์รับตำแหน่ง ผมล่ะเชื่อคนคิดตั้งกฎจริงเลย” กัญจน์ครวญ
“คงบรรพชนรุ่นก่อนๆนั่นล่ะ แต่เท่าที่ผ่านมาทุกคนปฏิบัติกันได้นะกัญจน์ ลูกเองควรจะทำให้ได้ด้วยถ้าลูกไม่ใช่แบบที่เขาลือกันจริงไหมปทิต” ขอลูกชายเสร็จขอความเห็นเพื่อนกัญจน์ซะเลยถามแกมประชดปทิต
“อ๋อ...ครับคุณแม่กัญจน์ควรจะทำตามกฎหากไม่อยากชวดตำแหน่งสูงสุดในวิษณุพงศ์ กรุ๊ป”
ทำไมปทิตจะไม่รู้ในประโยคคำถามของคุณมัทวันแอบประชดเห็นเขาเป็นเก้งกวางกับกัญจน์ เป็นไปได้อย่างไรฟ้าผ่ากันพอดี