“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณเจน ผมทานที่โรงอาหารได้ บอกแล้วไงครับว่าอยากลองไปศึกษาดู”
“แต่เจนกลัวมันไม่เหมาะอย่างที่นายวิชญ์ว่าน่ะสิคะ” สีหน้าหญิงสาวดูซีเรียส และให้ความสำคัญกับลูกค้าหนุ่ม จนธัชพงษ์ต้องยิ้มออกมา
“เราไปทานที่ร้านอาหารข้างนอกดีกว่านะครับ ผมขอเลี้ยงข้าวคุณธัชพงษ์สักมื้อ”
“หือ? ช่วงบ่ายนายวิชญ์มีประชุมไม่ใช่เหรอคะ”
“อีกตั้งชั่วโมงกว่า”
“แต่เจนกลัวว่า...” เธอกลัวเขาจะกลับมาเตรียมตัวไม่ทัน แต่เจ้านายกลับเข้าใจผิด คิดว่าเธออยากไปกับลูกค้าสองต่อสอง
มือที่จับไหล่หญิงสาวบีบแน่น ทำเอาเจนจิราสะดุ้ง เพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้เธอกับเตวิชญ์ใกล้ชิดกันจนเกินงาม หญิงสาวขยับตัว พยายามเบี่ยงออกเนียนๆ
แต่เตวิชญ์กลับเลื่อนมือมากุมหัวไหล่เธอแน่น คราวนี้เหมือนเขากำลังโอบกอดเธอต่อหน้าต่อตาลูกค้า หญิงสาวอายจนวางหน้าไม่ถูก แทบอยากมุดพื้นกระเบื้องหนี
“ทัน! เพราะยังไงเราก็ต้องเข้าประชุมพร้อมกัน”
“คะ?...เจนด้วยเหรอ” เจนจิราทำหน้าเหรอหรา เมื่อเจ้านายพูดเหมือนเธอต้องเข้าประชุมด้วย ก็เขาบอกเองนี่นาว่าเธอไม่ต้องเข้า
“ใช่!”
“ค่ะ...ค่ะ งั้นไปกันเลยมั้ยคะ” เธอขยับจะลุกเมื่อต้องรีบไปรีบกลับมาเตรียมตัว แต่เจ้านายกลับกดไหล่เธอไว้ แล้วโน้มตัวลงมาใกล้
“คิดยังว่าจะพาไปร้านไหน อือ...เอาร้านที่เธอชอบและชมบ่อยๆ ว่าอร่อย ก็ดีนะ” รอยยิ้มใจดี ทำเอาหญิงสาวถึงกับขนลุก เจ้านายไม่เคยยิ้มหวานหยาดให้เธอขนาดนี้ เดี๋ยวนะ! เธอเคยบอกเขาตอนไหนว่าชอบกินอะไร และร้านไหนอร่อย
ยังไม่ทันตอบรับ แต่พอหันไปสบตากับลูกค้าหนุ่ม เธอก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ “คุณพงษ์ชอบทานอาหารประเภทไหนคะ เดี๋ยวเจนจะได้พาไปถูก ชอบอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น หรือว่า...”
แล้วร้านที่พวกเธอเคยไปนั่งกิน ดื่มฉลองกันตอนได้โบนัสปลายปีก็ผุดขึ้นมาในหัว ร้านนี้หรือเปล่าน๊า...ที่เธอเคยบอกว่าอร่อย แต่ก็พูดกับนิค ไม่เคยบอกเจ้านายสักหน่อย
“ผมได้หมดครับ แล้วแต่คุณเจนชอบเลย”
แล้วแต่คุณเจน
ทำไมฟังแล้วมันขัดหูชะมัด เจ้านายหนุ่มจ้องหน้าลูกค้าเขม็ง ผู้ชายด้วยกันทำไมจะดูไม่ออกว่ามันสนใจลูกน้องเขา...ฝันไปเถอะ! ยังไงเจนจิราก็ไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่ที่แสงสุขเท่านั้น
“งั้นผมขอเสนอละกันนะครับ ไปร้านอาหารไทยดีกว่า ร้านนี้ขึ้นชื่ออาหารอร่อย มีห้องพิเศษส่วนตัวด้วยน่าจะเหมาะ”
“ผมแล้วแต่คุณเตวิชญ์เลยครับ”
“ดีครับ...ร้านที่ฉันเคยพาเธอไปกิน จำได้มั้ย”
ใบหน้าเจ้านายหนุ่มก้มต่ำลงมาอีก จนแทบจะชนกับหน้าเธอ หญิงสาวต้องผงะออกด้วยความตกใจ ใบหน้าสาวแดงระเรื่อลามไปจนถึงใบหู เมื่อหันไปมองธัชพงษ์ และเขาก็กำลังมองมาที่เธอเช่นกัน
“กะ...ก็ดีค่ะ อาหารอร่อย บรรยากาศใช้ได้ ไม่รู้ว่าคุณพงษ์รู้จักร้านมุมอร่อยมั้ยคะ”
“ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ถ้ายังไงคุณเจนแชร์โลฯ ให้ผมก็ได้”
“งั้นไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเจนนั่งรถไปกับคุณพงษ์ดีกว่าจะได้ไม่หลง”
“เธอไปกับฉัน!” เสียงเจ้านายโพล่งขัดขึ้นมา
“คะ?”
“ฉันจะคุยเรื่องงานที่ต้องเอาเข้าประชุมช่วงบ่าย ยังไงเธอมานั่งรถกับฉันดีกว่า เดี๋ยวให้นิคมันไปนั่งเป็นเพื่อนคุณธัชพงษ์”
“อ้อ...ก็ได้ค่ะ ถ้างั้นเจนขอตามนิคก่อนนะคะ”
หญิงสาวหันไปส่งยิ้มให้แขกหนุ่ม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเลขาเจ้านาย โดยไม่ทันเห็นว่าสองหนุ่มกำลังจ้องหน้ากัน ธัชพงษ์ยิ้มออกมาเหมือนไม่มีอะไร ทั้งที่ในใจคิดไปแล้ว
หวงก้าง!!
“ลูกพี่”
“ไร”
“ลูกพี่!”
“อะไรของแกวะไอ้เดย์ เรียกอยู่ได้” น้ำเสียงติดจะรำคาญ คนกำลังยุ่งมันก็กวนอยู่ได้ แทนที่จะช่วยทำงาน กลับมาสร้างความรำคาญใจ จนอยากจะถีบส่งไปให้พ้นหูพ้นตาเสียจริง
วันนี้เธอลงมาคุมงานที่แปลงหญ้าตั้งแต่เช้า สายตากำลังมองตามรถที่กำลังลงตัดหญ้าแปลงแรกเพื่อส่งไปให้ฟาร์มโคนม ส่วนที่เหลือจะได้ส่งเข้าโรงงานอาหารสำเร็จรูป สีหน้าจริงจัง ในใจกำลังคิดคำนวนต้องแบ่งสัดส่วนเท่าไหร่ จึงไม่สนใจเสียงเรียกจากลูกน้องคนสนิท แต่มือมันก็สะกิดเธอยิกๆ ไม่เลิก
“ลูกพี่...ดูนั่นสิ” เดย์พยักพเยิดไปทางถนนเข้าแปลง แต่ลูกพี่สาวกลับไม่สนใจ หันมาเล่นงานมันแทน
“ฉันสั่งให้แกไปตรวจดูหญ้าตรงโน้น ตกลงแกไปดูมารึยัง”
“ดูมาแล้ว เรียบร้อยดี หญ้าสวยงามครบถ้วนถูกต้องทุกเส้น”
“ไอ้!!” เจนจิราเหวี่ยงเท้าหมายจะเตะก้นลูกน้อง โทษฐานที่มันกวนประสาท แต่พลันสายตาก็เห็นรถกอล์ฟวิ่งเข้ามาใกล้ เท้าชะงักกึก
“ก็นี่แหละ ที่ฉันจะเรียกให้ลูกพี่ดู”
“ดูทำไม” เมื่อได้สติเธอก็หันกลับมามองคนงานตัดหญ้าต่อ ไม่สนใจเรื่องของคนบนรถกอล์ฟนั่น
“ดูว่านายวิชญ์มากับใคร สวยมากเลยนะลูกพี่ สวยขาว หน้างี้หวาน”
“สวยแล้วไง มันใช่เรื่องของแกมั้ย”
“เอ๊า...มันก็ต้องใช่อยู่แล้ว เพราะเดย์ชอบมองสาวๆ สวยๆ เป็นบุญตา”
“ไอ้เดย์! มึงจะทำมั้ยงาน หรือจะออกไปดูสาวๆ ซะให้พอใจ แล้วก็แดกแกลบแทนข้าว”
“ลูกพี่อะ ฉันก็แค่สนใจ อยากรู้อยากเห็นว่าใครกันมากับนายวิชญ์”
“เรื่องของเจ้านาย แกไม่ต้องไปยุ่งกับเค้า” ปากบอกลูกน้อง ในใจก็บอกตัวเองไปด้วย
“ลูกพี่ว่า...จะใช่แฟนใหม่นายวิชญ์มั้ย”
“ฉันจะไปรู้เรอะ”
“แต่ฉันว่าใช่นะ ดูสิ”
น้ำเสียงของเดย์ดูตื่นเต้น จนเธออดใจไม่ไหว ต้องหันกลับไปมอง ภาพบนรถกอล์ฟ หนุ่มสาวกำลังพูดคุยกัน สาวสวยหัวเราะสดใส พลอยทำให้คนอื่นที่มองดูมีความสุขไปกับเธอด้วย ส่วนอีกคนไม่ถึงกับหัวเราะ แต่ใบหน้าก็ดูอ่อนโยน อย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาจะเกือบปีแล้ว
“เรื่องของเจ้านาย มันก็ไม่เกี่ยวกับเรา” เจนจิราสะบัดหน้าหนี ไม่ได้คิดอะไร ก็แค่ไม่อยากมอง
“ฉันก็แค่อยากรู้ เฮ้ย!!..” จู่ๆ เดย์ก็ร้องขึ้นมาเสียงดัง ทำเอาเธอถึงกับสะดุ้ง
“ร้องอะไรของแกวะ ถ้าไม่ทำงานก็ไปที่อื่นไป๊...ฉันรำคาญ”
“ก็ผมเห็นน่ะสิ”
“เห็นอะไร”
“เมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นหอมแก้มนายวิชญ์ด้วย เห็นเต็มตาเลย”
หัวใจกระตุกวาบ เมื่อได้ยินลูกน้องฟ้อง ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ มันเรื่องของเขา จะหอมจะจูบกัน ลูกน้องแบบพวกเธอก็ไม่ต้องสาระแน
ขณะที่รถกอล์ฟกำลังจะขับผ่าน หางตาก็แอบชำเลืองมองดูทั้งคู่ เห็นเตวิชญ์ก้มหน้าเข้าไปใกล้สาวสวยข้างกาย พวกเขาจะจูบกันหรือเปล่า...?!