“ถ้าเช่นนั้นก็รีบไปเอาสมุนไพรมาได้แล้ว…” ลั่วชิงอีกล่าวขึ้นด้วยท่าทางเรียบเฉย ภายใต้สายตาอันตกตะลึงของเถ้าแก่ร้านขายสมุนไพร
“ขอรับ!…นายท่าน” เถ้าแก่ร้านขายสมุนไพรรีบวิ่งแจ้นไปหยิบสมุนไพรด้วยตนเองทันที หลังจากได้ยินน้ำเสียงที่ดูจะไม่ค่อยพอใจมากนักจากลั่วชิงอี
อันที่จริง ลั่วชิงอีไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอะไรเลย นางออกจะดีใจด้วยซ้ำ เพราะว่าไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อสมุนไพรจากร้านอื่นให้เสียเวลา
“มาแล้วขอรับนายท่าน ทว่าต้องขออภัยด้วย ทางร้านเรามีเพียงแค่เตาปรุงโอสถระดับต่ำ เกรงว่าจะทำให้นายท่านไม่พอใจแล้ว” เถ้าแก่ร้านขายสมุนไพรรีบกล่าวออกมาอย่างเร่งร้อน ด้วยสีหน้าวิตกกังวล เพราะเกรงว่าจะทำให้ลั่วชิงอีไม่พอใจ
“ไม่เป็นไร…” เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงอีก็กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูคล้ายจะไม่ใส่ใจมากนัก
เตาปรุงโอสถระดับต่ำ สำหรับลั่วชิงอีไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ขอแค่มันเป็นเตาปรุงโอสถ นางก็สามารถหลอมเม็ดโอสถขึ้นมาได้อยู่ดี..
“สมุนไพรระดับต่ำ 10 ชุด เตาปรุงโอสถระดับต่ำ 1 เตา รวมแล้ว 4 เหรียญทองขอรับ” เถ้าแก่ร้านขายสมุนไพรเมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของลั่วชิงอี เขาก็ถอดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นก็บอกราคาสิ้นค้าทั้งหมดให้ลั่วชิงอีทราบ
“4 เหรียญทอง? ตอนนี้ข้ามีเพียงแค่ 3 เหรียญทอง เห็นทีคงต้องขอให้เถ้าแก่เอาสมุนออกให้สัก 5 ชุดแล้ว” เมื่อทราบราคา ลั่วชิงอีก็กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูคล้ายจะเสียดายอยู่พอสมควร
เอาเถอะ…สมุนไพร 5 ชุด ก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะ!
เถ้าแก่ร้านขายสมุนไพรเมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่ เขาก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา พลางคิดเองเออในใจว่า ‘นักปรุงโอสถท่านนี้น่าจะไม่ค่อยชอบพกเงินติดตัวสักเท่าไหร่ เออ…บางที อาจจะลืมหยิบมาก็ได้’ ด้วยเกรงว่าจะทำให้ท่านตรงหน้าเข้าใจผิด คิดว่าโดนดูถูกว่าไม่มีปัญญาจ่ายเงิน ดังนั้นเขาจึงรีบกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตร
“นายท่าน เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ท่านที่มาซื้อสมุนไพรจากร้านเล็กๆ ของข้า ดังนั้นข้าน้อยยินดีที่จะลดราคาสิ้นค้าทั้งหมด ให้เหลือ 3 เหรียญทอง ข้าน้อยเพียงหวังเอาไว้ว่าภายภาคหน้าจะได้ทําการค้าร่วมกันกับนายท่านอีก”
เสีย 1 เหรียญทอง แต่ถ้าได้คบค้ากับนักปรุงโอสถก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว…
“ย่อมได้ ครั้งหน้าข้าจะแวะมาที่ร้านของเจ้าอีก” ลั่วชิงอีกล่าวด้วยน้ำเสียงยินดี ในเมื่อเจ้าของร้านสมุนไพรลดราคาให้ ไฉนเลยจะปฏิเสธให้เสียน้ำใจอีกฝ่าย
พอชำระเงินค่าสมุนไพรและเตาหลอมโอสถเรียบร้อย ลั่วชิงอีก็กล่าวลาและเดินออกมาจากร้านสมุนไพรพร้อมถุงหอบถุงหนึ่งพาดหลังเอาไว้ จากนั้นนางก็เดินมุ่งตรงไปยังประตูเมืองทันที
หลังจากเดินออกมาจากประตูเมืองฟ้ากระจ่าง ลั่วชิงอีก็ใช้ย่างก้าวเมฆาออกไป มุ่งตรงไปยังป่าที่อยู่ทางตอนใต้ของเมือง
ระหว่างที่เดินทางในป่า ลั่วชิงพยามหลบเลี่ยงสัตว์อสูรตลอดทาง จนเดินมาถึงยังสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่งดงามตระการตาอย่างมาก
ซู่ ซู่ ซู่
เสียงน้ำตกกระทบหินดังซูซ่า สายธารเบื้องล่างไหลกระทบกับโขดหินจนเกิดเป็นเป็นละอองฟอง
สายน้ำในลำธารเบื้องล่างของน้ำตกใสเป็นอย่างมาก สามารถมองเห็นฝูงปลานานาชนิดที่กำลังแหวกว่ายทวนกระแสน้ำไปมา
พื้นที่โดยรอบของน้ำตกเต็มไปด้วยป่าเขียวขจี ต้นไม้น้อยใหญ่สลับซับซ้อนเรียงตัวกันสวยมาก สถานที่แห่งนี้เป็นดั่งความสวยงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งพบเห็นได้น้อยมากบนโลกใบนี้
ทว่าสิ่งที่ทำให้ลั่วชิงอีสนใจมากที่สุดก็คงจะเป็นถ้ำหลังน้ำตก ที่อยู่ด้านหลังของม่านน้ำตกที่ไหลลงสู่สายธารเบื้องล่าง
เมื่อเห็นดังนั้นลั่วชิงอีก็ใช้ก้าวย่างเมฆาออกมา นางกระโดดเหยียบลงบนผิวน้ำอย่างนิ่มนวล ก่อนจะดีดตัวพุ่งไปยังถ้ำหลังน้ำตกอย่างรวดเร็ว
ใช้เวลาไม่นาน ลั่วชิงอีก็เข้ามายังภายในถ้ำหลังน้ำตกได้สำเร็จ พอเข้ามาด้านในของถ้ำแล้ว นางก็หาที่นั่งและเตรียมความพร้อมสำหรับการหลอมโอสถทันที
ครืน ครืน ครืน ลั่วชิงอีในขณะนี้นั้นกำลังโยนสมุนไพรทั้งหมดสำหรับหลอมโอสถลมปราณระดับต่ำ 1 เม็ด ลงไปในเตาหลอมโอสถ
สำหรับนักปรุงโอสถคนอื่น หากพวกเขามาเห็นการกระทำของลั่วชิงอี พวกเขาคงได้สบถด่าแบบไม่บันยะบันยังอย่างแน่นอน เพราะว่าการหลอมโอสถนั้นจะต้องเริ่มจากการสกัดสมุนไพรแต่ละชนิดให้มีความบริสุทธิ์เสียก่อน จากนั้นจึงนำสมุนไพรมาควบแน่นรวมกันในเตาหลอมโอสถ แล้วจึงหลอมรวมสมุนไพรทั้งหมดสร้างเป็นเม็ดยาโอสถขึ้นมา
สำหรับขั้นตอนที่กล่าวมานี้ ล้วนไม่มีขั้นตอนใดเลยที่ง่าย เพราะแต่ละขั้นตอนต้องอาศัยความปราณีต ความแม่นยำที่สูง และความเข้ารอบรู้ด้านสมุนไพร ดังนั้นนักปรุงโอสถในแคว้นจินหลงจึงมีอยู่ไม่มาก เพราะว่าพวกเขาขาดความเข้าใจด้านสมุนไพร
ทว่าสําหรับลั่วชิงอีที่เป็นถึงเซียนโอสถผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนเซียน ไฉนเลยจะต้องสนใจวิธีพื้นฐานเช่นนั้น
ถ้าไม่ติดที่ว่าตัวนางมีระดับลมปราณต่ำแล้ว ลั่วชิงอีไม่จำเป็นต้องใช้เตาหลอมโอสถให้ยุ่งยากเลยด้วยซ้ำ นางสามารถหลอมเม็ดโอสถขึ้นมาได้ในทันทีที่มีวัตถุดิบครบ
“ไม่คาดคิดเลยว่า เซียนโอสถเช่นข้าจะต้องมาหลอมโอสถด้วยวิธีสามัญเช่นนี้…” แม้ลั่วชิงอีจะเอ่ยออกมาราวกับว่าเป็นเรื่องง่าย ทว่าการที่จะสกัดสมุนไพรทั้งหมดพร้อมกัน 10 ชนิด สําหรับนักปรุงโอสถคนอื่นคงได้แค่เพียงเพ้อฝัน หากเป็นอัจฉริยะในศาสตร์ปรุงโอสถก็อาจจะสามารถทําพร้อมกันได้เพียงแค่ 2-3 ชนิดเท่านั้น
ทว่าถ้าหากให้พวกเขา มาทำแบบที่ลั่วชิงทำ บอกได้คำเดียวเลยว่าเหมือนเอาสมุนไพรมาเผาทิ้งดีๆ นี้เอง…