เซียวฉู่เฮอมองไปที่เทพอสูรโบราณด้วยแววตาเย็นยะเยือก “ในอดีตบรรพบุรุษของข้าได้อาศัยพลังฟ้าดินและสวรรค์บนดินแดนฝูหรงในการผนึกเจ้า”
สายตาเทพอสูรโบราณจ้องมองไปยังเซียวฉู่เฮอด้วยแววตาเย็นเยียบ ก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ไม่คาดคิดเลยว่าเด็กน้อยอย่างเจ้าจะรู้ความลับนี้ แต่รู้อย่างเดียวก็ไม่มีประโยชน์!”
“นับตั้งแต่ดินแดนฝูหรงก่อกำเนิดขึ้นก็มีเพียงเซียวรั่วเฟิงเท่านั้นที่สามารถไปถึงระดับนั้นได้…”
“ดังนั้นไม่ว่าวันนี้เจ้าจะพูดดีขนาดไหน! วันนี้วาระสุดท้ายของทวีปเทียนฉี่และทวีปไห่หรงก็มาถึงแล้ว…”
เมื่อคำพูดสุดท้ายเปล่งออกไป รัศมีพลังสีดำทำลายล้างก็กวาดออก
ทว่าเมื่อประจันหน้ากับรัศมีพลังสีดำ เซียวฉู่เฮอกลับมีสีหน้าสงบ เขาหลับตาลงอย่างช้าๆ อย่างฉับพลัน
ขณะที่เขาหลับตาลง หัวใจของเหล่าพรหมยุทธ์คนอื่นๆ ก็สั่นสะท้าน เนื่องจากพวกเขาสามารถสัมผัสได้อย่างคลุมเครือถึงแรงสั่นสะเทือนที่มาจากทุกมุมของดินแดนฝูหรง…
ตู้ม!
จากนั้นพลังงานปราณในดินแดนฝูหรงก็ปะทุขึ้น ทำเอาเหล่าพรหมยุทธ์ต้องเงยหน้าขึ้น พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังแห่งจิตวิญญาณที่น่าทึ่งกำลังรวมตัวมาที่ใจกลางดินแดนฝูหรง
พลังงานปราณนี้ทรงพลังมาก แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเซียนยุทธ์ขั้นสูงสุดก็ยังรู้สึกหวาดกลัว
พรหมยุทธ์เทพกระบี่จู่เซียนและคนอื่นๆ เงยหน้าขึ้นมองไปกลางอากาศ รัศมีพลังสีดำรุนแรงบริเวณนั้นเริ่มแปรปรวนราวกับว่าถูกฉีกออกโดยบางอย่าง…
ฟิ้ว ฟิ้ว!
ลำแสงสีแดงเลือดพุ่งลงมาจากท้องฟ้าทะลุผ่านรัศมีพลังสีดำ เพียงไม่กี่สิบลมหายใจสั้นๆ รัศมีพลังสีดำอันเชี่ยวกราดที่โหมกระหน่ำราวกับคลื่นมหาสมุทร ก็เต็มไปด้วยรูพรุน…
ลำแสงสีแดงเลือดเหล่านั้นแตกต่างจากคลื่นพลังปราณทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
เซียวฉู่เฮอลืมตาขึ้นพร้อมความเย็นยะเยือกขณะมองไปยังเทพอสูรโบราณ ในเวลาเดียวกันเสียงของเขาก็ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน
“ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อ ข้าก็จะให้เจ้าเป็นพยานด้วยตัวเอง แม้ว่าท่านบรรพบุรุษของข้าจะสิ้นชีพไปแล้ว แต่เจ้าก็ไม่สามารถดูถูกเหยียดหยามเผ่ามนุษย์ได้…”
เสียงของพรหมยุทธ์เทพมังกรดังกึกก้อง ม่านรัศมีสีแดงเลือดขนาดใหญ่เคลื่อนลงมา แยกรัศมีสีดำออกจากกัน
พรหมยุทธ์เทพกระบี่จู่เซียนและเหล่าพรหมยุทธ์คนอื่นๆ ก็เงยหน้าขึ้นด้วยความตกตะลึง คลื่นปราณที่ไหลเวียนระหว่างฟ้าดินมาถึงในระดับที่น่ากลัว
ซึ่งอยู่ในระดับที่แม้แต่จอมยุท์ขุมพลังเซียนยุทธ์ขั้นสูงสุดยังต้องเกรงกลัว
นอกจากนี้ยังมีพลังงานที่น่าทึ่งบรรจุอยู่ในคลื่นปราณสีแดงเลือดอีกด้วย แรงกดดันใกล้เคียงกับพลังงานของดินแดนอย่างมาก
ใบหน้าของเทพอสูรดูเคร่งขรึมลงในชั่วขณะ มันมองไปยังคลื่นพลังสีปราณสีแดงเลือดด้วยแววตาเย็นเยียบ
เทพอสูรเงยหน้าขึ้นมองไปในความว่างเปล่า เวลานี้มันสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่กำลังบีบกดลงมา
ขณะที่เมฆรัศมีสีแดงเลือดโปรยลงมา พื้นที่โดยรอบก็สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นแล้วค่อยๆ รวมตัวกัน ไม่ช้าทุกคนก็เห็นม่านขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือใจกลางดินแดนฝูหรง
“นั่นอะไร?”
พรหมยุทธ์เทพกระบี่จู่เซียนและพรหมยุทธ์คนอื่นๆ มองไปที่ม่านรัศมีที่แผ่กระจายกลิ่นอายลึกลับ ดูเหมือนว่าจะถูกสลักไว้ด้วยทิวทัศน์และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
แรงกดดันที่น่ากลัวแทรกซึมเข้ามา หัวใจของทุกคนก็ไหวโยกด้วยความกลัวจากพลังงานนั้น
เซียวฉู่เฮอมองไปที่ม่านลึกลับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“นี่คือหลักเกณฑ์ของฟ้าดิน และกฏสวรรค์บนดินแดนฝูหรง”
นะ….นี่คือโอกาสในตำนานที่สามารถทำให้ก้าวข้ามขอบเขตเซียนยุทธ์กระนั้นหรือ?
เทพอสูรมองไปที่ม่านรัศมีเหนือใจกลางดินแดนฝูหรงโดยสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ ก่อนจะมองไปยังเซียวฉู่เฮอด้วยความชื่นชมเล็ก “ไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถเรียกกฏของสวรรค์ออกมาได้…”
“แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะรู้สึกถึง หากเจ้าไม่สามารถเข้าใจหลักเกณฑ์ของฟ้าดิน และกฏของสวรรค์ได้อย่างถ่องแท้ มันเป็นความพยายามที่ไร้ผล”
เซียวฉู่เฮอยิ้มอ่อน รอยยิ้มเต็มไปด้วยความมั่นใจขณะที่หัวเราะร่า “ในเมื่อบรรพบุรุษของข้าสามารถบรรลุได้ ในฐานะคนรุ่นหลัง…ข้าก็ไม่ยอมอยู่เบื้องหลังคนรุ่นก่อนแน่นอน”
ฟู่ ฟู่!
พลังปราณสีแดงชาดพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเซียวฉู่เฮอเอิบอาบด้วยความลึกซึ้ง แทรกซึมรัศมีกลิ่นอายประหนึ่งราชันย์มังกร
นั่นคือลมปราณของเทพมังกรที่แท้จริง!
เมื่อปรากฏสีดำขนาดมหึมาปรากฏเหนือน่านฟ้าใจกลางดินแดนฝูหรง ทั่วทั้งดินแดนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง อุณหภูมิบนโลกก็พุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลันราวกับหม้อต้มที่กำลังจะถูกหลอมละลาย
ครืนน!
แรงกดดันน่าเหลือเชื่อแผ่ซ่านมาจากม่านรัศมีพลังแห่งฟ้าดินและสวรรค์
ภายใต้แรงกดดันเหล่าพรหมยุทธ์ทั้งหมด แม้กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังเซียนยุทธ์ขั้นสูงสุดเช่นพรหมยุทธ์เทพกระบี่จู่เซียนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปมาก เนื่องจากพบว่ากระทั่งขยับนิ้วก็ยังทำไม่ได้…
มีเพียงเซียวฉู่เฮอเท่านั้นที่ยังคงแสดงออกอย่างสงบขณะที่สะบัดมือไปมา
ทุกคนจับจ้องไปที่หลักเกณฑ์ฟ้าดินเหนือน่านฟ้าใจกลางดินแดนฝูหรง ม่านรัศมีพลังแห่งฟ้าดินสั่นสะเทือน เสียงดังก้องไปทั่วดินแดนฝูหรง
ตู้ม!
พร้อมกับการเคลื่อนไหวของเซียวฉู่เฮอ ม่านรัศมีพลังลึกลับก็สะท้อนด้วยเสียงดังกึกก้อง รัศมีลึกลับแผ่ออกมาปกคลุมร่างทั้งร่างของเขาเอาไว้…
ณ ใจกลางดินแดนฝูหรง สายตาที่ลุกโชนด้วยความเคารพนับไม่ถ้วนหยุดอยู่ที่ร่างทรงพลังของชายหนุ่มผู้ยืนอหังการอยู่บนท้องฟ้า
“ดูเหมือนว่าดินแดนฝูหรงจะไม่สิ้นชะตา ในอดีตพรหมยุทธ์เทพมังกรรุ่นก่อนก็ยืนหยัดสู้กับอันตราย และในวันนี้เราก็ยังมีพรหมยุทธ์เทพมังกรจากสกุลเซียวยืดหยัดปกป้องเผ่าพันธ์ของเรา…”
“ในที่สุดเผ่าพันธ์มนุษย์ก็มีสุดยอดจอมยุทธ์ที่สามารถเผชิญหน้ากับเทพอสูรได้!”
“…”
เหล่าพรหมยุทธ์ที่อยู่ใจกลางดินแดนฝูหรงเขียนความสุขไว้บนใบหน้า พวกเขารู้สึกสิ้นหวังจากเทพอสูรโบราณ เนื่องจากอสูรตุนนั้นทรงพลังเหลือล้น สามารถปราบปรามจอมยุทธ์ขุมพลังเซียนยุทธ์ทุกคนได้
ทว่าการมีอยู่ของพรหมยุทธ์เทพมังกรคนปัจจุบัน เซียวฉู่เฮอ ไม่ทำให้พวกเขารู้สึกสิ้นหวังเกี่ยวกับเทพอสูรโบราณอีกต่อไป
ในที่สุดพวกเขาก็เห็นแสงสว่างท่ามกลางความสิ้นหวังและความมืดมิด
ทางฝั่งพรหมยุทธ์จากสองทวีปมนุษน์ส่งเสียงโห่ร้องยินดี แต่ทางฝั่งทวีปเทพอสูรกลับฉายสีหน้าไม่น่าดู
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทพอสูรโบราณที่สาดสายตาน่ากลัวใส่เซียวฉู่เฮอ เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์นี้เกินความคาดหมายของเทพอสูรไปไกล
เทพอสูรคิดว่าหลังจากการตายของเซียวรั่วเฟิงจะไม่มีใครในดินแดนฝูหรงสามารถหยุดเขาได้ แต่ยามนี้มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่สามารถไปถึงระดับเดียวกันกับคู่ปรับตลอดชีวิตของเขา นี่…ทำให้เทพอสูรโบราณผู้ยิ่งใหญ่ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
ภายใต้สายตาหลากหลายอารมณ์ เซียวฉู่เฮอก็เงยหน้าขึ้น เขามองไปยังเทพอสูรพร้อมกับเสียงราบเรียบสะท้อนออกมา “ดูเหมือนแผนการของทวีปเทพอสูรที่อยากยึดครองดินแดนฝูหรงจะล้มเหลวแล้ว…”
ดวงตาของเทพอสูรกะพริบด้วยแสงอันตรายขณะกล่าวตอบ “เฮอะ….เจ้าสำเร็จแค่ครึ่งเดียว มั่นใจแค่ไหนที่จะพูดคำเหล่านั้นกับข้า?”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น… ข้าก็ขอคำชี้แนะจากเทพอสูรโบราณหน่อยเถอะ…”