“คดีนี้ญาติผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจอะไรแล้วนะครับ”
“ว่าไงนะครับ!!”หลังจากเสร็จงานศพของเพนนี ร่างสูงของคุณหมอคามินเดินทางมาตามคดีที่โรงพักและคำตอบที่ได้ทำให้ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม เพียงคิดว่าฝ่ายหญิงมีเงินจนสามารถทำอะไรก็ไม่ผิดแต่ในเมื่อกฎหมายทำอะไรเธอไม่ได้ เขานี่แหละจะเป็นคนสร้างกฎแห่งกรรมให้เธอเอง
ในสายตาของคามิน เพนนีเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารและทำเพื่อครอบครัวมาโดยตลอดแต่สำหรับเขาเพนนีเป็นได้แค่เพื่อนสนิทที่ดีต่อกันเท่านั้นและในเมื่อครอบครัวของเพนนีคงไม่สามารถสู้อิทธิพลอะไรได้ เขาเองนี่แหละจะเป็นคนจัดการเอง เพราะเพนนีคือเพื่อนที่มีบุญคุณกับเขา
“ยี่หวาแกเป็นยังไงบ้าง” ประโยคเอ่ยถามจากหญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดสูทสีเทากระโปรงสั้นเหนือเข่าเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของยี่หวาด้วยความเร่งรีบ
“ดีขึ้นแล้ว” รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาว เธอเอ็นดูในความร้อนใจของเพื่อนไม่น้อย เมื่อรู้ข่าวเดียร์หลังจากเสร็จงานที่ต่างประเทศ เธอก็รีบตรงดิ่งมาหายี่หวาที่บริษัททันที
“ทำไมไม่พัก รีบกลับมาทำงานทำไม”
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก หายดีแล้ว” ร่างบางยกแขนขึ้นเขย่าให้เพื่อนสาวดูว่าตัวเองแข็งแรงมากขนาดไหน รอยยิ้มหวานที่แฝงไปด้วยความเศร้าทำให้นาเดียร์สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ยังคงเสียใจของเพื่อนสาวอยู่
“เราไปหาอะไรทานไหม”
“ฉัน” น้ำเสียงกระอึกกระอักของยี่หวาเหมือนต้องการปฏิเสธนาเดียร์แต่ด้วยความเร็วของเพื่อนสาว ทำให้นาเดียร์รีบพูดออกมาก่อนที่จะได้ยินคำปฏิเสธของเพื่อนรัก
“ไปเถอะหน่า ฉันหิวมากเลย ลงเครื่องมาก็รีบมาหาแกเลยนะ”
“เอางั้นก็ได้ ห้างใกล้ ๆ นี่นะ ฉันไม่อยากขับรถ”
“ได้สิ เดินไปนะ” รอยยิ้มกว้างดีใจของนาเดียร์ที่เธอชักชวนเพื่อนสาวได้สำเร็จ เดินเข้าไปคล้องแขนเล็กของยี่หวาเดินควงเพื่อนรักออกจากห้องทำงาน ด้วยรอยยิ้มแต่แววตายังนาเดียร์ยังคงชำเลืองมองเพื่อนรักเป็นระยะ
ร่างบางของหญิงสาวทั้งสองเดินคล้องแขนกันเข้าไปในร้านอาหารเกาหลีเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ อย่างน้อยนาเดียร์ก็ทำให้ยี่หวาลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้บ้าง
“ไอ้คามินมึงมองอะไรวะ” เสียงทุ้มของทิศเหนือหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลามาดคมเข้มตามฉบับชายไทยเอ่ยถามคามินที่มองออกไปยังนอกกระจกไม่กระพริบตา
“ไม่มีอะไร”
“แต่กูเห็นมึงมองนานมากนะ”
“เรื่องของกู” เสียงเข้มของคามินเอ่ยบอกกับทิศเหนือ ใบหน้าที่ดูหงุดหงิดและหัวเสียตอบกลับเพื่อนรักออกไป ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันกลับมานั่งทานอาหารตรงหน้าเงียบ ๆ ใบหน้าหล่อโอนเอียงเหมือนโอปป้าเกาหลียังคงครุ่นคิดตลอดเวลา
“ไอ้ไบรอันไปไหนวะ? ช่วงนี้กูไม่เห็นหน้า”
“ติดเมีย ช่วงนี้มันกำลังมีความรัก” คามินเอ่ยบอกกับทิศเหนือที่วันนี้ดูจะมีคำถามมากมายหลุดออกจากปากของเพื่อนรักจนทำให้ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกฉุนเฉียว
“สรุปเรื่องอุบัติเหตุของเพนนีเป็นไงบ้างวะ” กึก!!คำถามของทิศเหนือทำให้คามินถึงกับชะงัก ใบหน้าตี๋ของคามินเงยหน้าขึ้นมาสบตากับทิศเหนือ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยประโยคเรียบเฉยออกมา
“กฎหมายทำอะไรไม่ได้ แต่กูทำได้” น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยบอกกับทิศเหนือจนชายหนุ่มหน้าคมถึงกับลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่แทนคู่กรณี
“มึงจะทำอะไรไอ้คามิน”
“เปล่า กูไม่ได้จะทำอะไร”
“มันคืออุบัติเหตุ อีกอย่างครอบครัวของเพนนีก็ไม่ได้ติดใจอะไรแล้วแสดงว่าพวกเขาทำใจยอมรับได้และมึงก็ควรทำ”ทิศเหนือพยายามเตือนสติของคามินที่ดูจะหัวร้อนไม่ยอมฟังหรือรับฟังเหตุผลใด ๆ จากใครแม้แต่เขาที่เป็นเพื่อน
“เพื่อนกูตายทั้งคนนะเว้ย กฎหมายยังทำอะไรไม่ได้เลย แม่ง!!ผู้หญิงคนนั้นยังออกมาใช้ชีวิตมีความสุข ต่างจากเพนนีที่ไม่มีโอกาสนั่น มึงก็รู้ว่าเพนนีมีบุญคุณกับกู”
“แต่”
“กูจะทำอะไรก็เรื่องของกู”
“งั้นเราแยกย้ายกันตรงนี้เลยนะ” ร่างบางของนาเดียร์เดินมาส่งยี่หวาใต้ตึกทำงานของเพื่อนรัก ก่อนที่เธอจะรีบกลับไปพักผ่อน เพราะตั้งแต่เธอลงเครื่องมาก็ยังไม่ได้กลับคอนโดเลยด้วยซ้ำ
“ยี่หวาแกอย่าคิดมากนะ”
“ฉันไม่คิดมากหรอก มีอะไรฉันจะโทรหานะ” เมื่อเห็นแววตาเป็นห่วงจากนาเดียร์ร่างบางรีบบอกกับเพื่อนรักให้เบาใจลงและนั่นก็ทำให้นาเดียร์เดินออกจากบริเวณนั้นจนลับสายตา
ขาเรียวสวยกำลังจะก้าวเข้าไปในบริษัทชื่อดังเป็นอันต้องชะงัก เมื่อยี่หวาได้ยินเสียงเข้มจากผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ
“มีความสุขดีนะ”
“คุณ!!” ดวงตากลมโตเบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มในงานศพวันนั้น คำขู่ต่าง ๆ นานา ของผู้ชายคนนี้ทำให้หญิงสาวเก็บเอามาคิด
“ที่ฉันหายไป เพราะกำลังคิดวิธีจัดการกับผู้หญิงอย่างเธอต่างหาก” ชายหนุ่มเหมือนจะอ่านใจหญิงสาวออก คำถามในใจเพียงแค่คิดว่าชายหนุ่มคงเข้าใจในเมื่อรูปคดีถูกตัดสินออกมาแล้วและญาติคนตายก็ไม่ได้เอาเรื่องเธอต่อ
“คุณต้องการอะไรกันแน่” ยี่หวาถามพูดออกไปด้วยความอยากรู้ในเมื่อผู้ชายตรงหน้าของเธอ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวผู้ตายและคิดได้อย่าเดียวคือเขาคงเป็นแฟนของคนเสียชีวิต
“ความสุขของเธอ”
“ฉันไปทำอะไรให้คุณ”
“เธอฆ่าเพนนี” น้ำเสียงเย็นยะเยือกแววตาดุราวกับเกลียดชั่งเธอมาแต่ชาติปางก่อนจ้องมองเธอ
“ฉันบอกคุณกี่ครั้งแล้ว ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจมันคืออุบัติเหตุ เธอวิ่งออกมาตัดหน้ารถฉัน โอ๊ย!!” ยังไม่ทันที่ร่างบางจะพูดจบ แขนเล็กของยี่หวาถูกมือหนาของคามินกระชากเข้าหาตัวอย่างแรง แรงบีบแขนเล็กของเธอเจ็บจนปวดร้าวไปทั่วกระดูก
“ปล่อยนะ ฉันเจ็บ”
“เพื่อนฉันคงเจ็บกว่าเธอเป็นร้อยเท่า” เสียงเข้มเอ่ยบอกกับหญิงสาว ตาเรียวคมหลุบตามองร่างเล็กที่ยืนทำให้เจ็บปวดอยู่ตรงหน้าแต่ไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มสงสารได้แม้แต่น้อย
“เออ ฉันผิด ฉันทำให้เธอตั้งตาย คุณพอใจรึยัง”
“ยัง”
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง ให้ฉันตายตามเธอไปเลยไหม” ดวงตากลมโตแดงก่ำ หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
“คนอย่างเธอความตายง่ายไป อย่างเธอต้องตายทั้งเป็น”