“จ๊ะเอ๋ ตะวันกลับมาแล้วค่า” น้ำเสียงสดใสของตะวันเอ่ยทักทายพ่อและแม่ของเธอ ที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ของโฮมสเตย์ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวเธอเอง
“ตะวัน มาถึงแล้วทำไมไม่โทรหาแม่”
“เซอร์ไพรส์ไงคะแม่” หลังจากที่สอบเสร็จและปิดภาคเรียนใหญ่ ตะวันบินกลับมาช่วยงานที่บ้านทันที
ช่วงปิดเทอมกินเวลาหลายเดือนกว่าเธอจะเปิดเทอมขึ้นปีสี่และแน่นอนว่าปีสี่เธอต้องออกฝึกงานและอาจจะไม่ค่อยมีเวลากลับบ้านสักเท่าไหร่จึงรีบกลับมาในครั้งนี้
“เด็กคนนี้หนิ”
“ตะวันคิดถึงพ่อกับแม่ที่สุดเลยค่ะ” ตะวันรีบวิ่งเข้าไปกอดพ่อและแม่ของเธอพร้อมกัน เป็นภาพที่ดูอบอุ่นเสมอ ครอบครัวของเธอไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนักแต่ก็ไม่ได้ลำบาก ทำกิจการเล็ก ๆ แต่ครอบครัวของเธอก็มีความสุขดี
“พ่อกับแม่ก็คิดถึงลูกมากเลย”
“จริงอ๋อ ไม่ใช่ว่าสวีทกันจนลืมลูกสาวคนนี้นะคะ”
“ใครจะไปลืมเจ้าแสบของพ่อได้ลงคอ”
“ให้จริงเถอะค่ะ” รอยยิ้มแห่งความสุขของครอบครัวมักอบอุ่นเสมอ ตะวันไม่เคยรู้สึกด้อยไปกว่าคนอื่นเลยแม้น้อย เธอเกิดมาด้วยความรักและความอบอุ่นที่พ่อและแม่ของเธอมอบให้เสมอ
“โห่!!วันนี้มีแต่อาหารที่ตะวันชอบทั้งนั้นเลย” น้ำเสียงสดใสร่างเริงของตะวันดังขึ้น เธอเดินลงมาจากบนห้องหลังจากอาบน้ำเสร็จ
“ชอบก็กินเยอะ ๆ นะ”
“แน่นอนเลยค่ะ จะจัดให้เรียบเลยค่อยดู”
“ว่าแต่เรียนเป็นยังไงบ้าง ใกล้จะจบแล้ว”
“หนักใช้ได้เลยค่ะพ่อ” ตะวันนั่งทานข้าวกับครอบครัว ทานอาหารไปด้วยนั่งทานข้าวไปด้วย เสียงภายในบ้านดังไปด้วยเสียงใสของตะวันที่กำลังเล่าเรื่องราวการเรียนแถมยังได้ที่ฝึกงานที่ตัวเองต้องการให้พ่อกับแม่รับฟัง
“ลูกสาวแม่สวยขนาดนี้ มีคนมาจีบรึเปล่าลูก”
“แน่นอนว่าต้องมีค่ะคุณแม่”
“ไม่เห็นพาแฟนมาให้พ่อรู้จักเลย”
“มีแต่คนมาจีบ แต่ตะวันยังไม่ได้ตกลงปลงใจกับใครหนิคะ”
“ไม่ชอบเหรอลูก”
“เป็นเพื่อนกันได้ แต่ถ้าเป็นแฟนตะวันคิดว่าไม่ได้ค่ะ”
“จะคบใครก็ดูดี ๆ หน่อยนะลูก”
“นี่พ่อไม่หวงตะวันเลยเหรอคะ? ไม่เหมือนคุณพ่อบ้านอื่นเลยรึไง” ใบหน้าแสนงอนของตะวัน แกล้งงอนผู้เป็นพ่อด้วยท่าทางน่ารัก จนพ่อของเธออดเอ็นดูไม่ได้ยกมือขึ้นโยกหัวตะวันเบา ๆ
“จะหวงทำไม ไอ้หนุ่มบ้านไหนมาขอลูกสาวพ่อ พ่อจะแถมข้าวให้อีกตันหนึ่งไปเลย”
“โห่!!พ่อ พูดแบบนี้ได้ไงคะ ผู้ชายต่างหากที่ต้องมาสู่ของตะวัน”
“จ๊ะ ๆ พ่อกับแม่จะรอนะลูก” ใบหน้าล้อเลียนลูกสาวของทั้งสอง ทำให้ตะวันถึงกับมุ่ยหน้างอนแก้มป่อง กอดอกมองค้อนใส่พ่อและแม่ของตัวเอง
“ว่าแต่พี่เตวินไปไหนเหรอคะ” ตะวันเอ่ยถามพี่ชายของตัวเอง เพราะตั้งแต่กลับมาถึงบ้านยังไม่เห็นพี่ชายโผล่หัวมาให้เห็น
“ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน”
“เพื่อนหรือแฟนคะ”
“รายนั้นก็เหมือนเรานั่นแหละ ยังไม่มีใครเอา”
“แม่อะ!!ตะวันงอนแล้วนะ” ตะวันกอดอกเบะปากงอนแม่ของตัวเองอีครั้ง เธอไม่ใช่ว่าไม่มีใครเอาแต่เธอยังไม่เอาใครต่างหาก
“โอ๋ลูกสาวแม่ ทำยังไงให้หายงอนดีนะ”
“พรุ่งนี้ขอขนมจีนน้ำเงี๊ยวค่ะ”
“โอโค ค่ะ ลูกสาว” เรื่องกินเรื่องใหญ่สำหรับคนอย่างตะวัน เมื่อได้คำตอบที่น่าพึงพอใจคนตัวเล็กก็กลับมายิ้มอีกครั้ง ทั้งสามทานอาหารเสร็จก็พากันมานั่งดูทีวีที่ห้องรับแขกของบ้านก่อนจะแยกตัวกันกลับไปนอน
“ว่าไงน้องสาว”
“กว่าจะโผล่ศีรษะมาให้น้องเห็นได้นะ ว่าแต่ไปไหนมาคะพี่ชาย” วันนี้ตะวันออกมาช่วยงานแม่ที่โฮมสเตย์ เธอกำลังวุ่นอยู่กับการเคลียร์ยอดเงินอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์
“ไปพักผ่อนบ้างสิ พี่ทำงานทั้งปี”
“ไหนของฝากน้อง” ตะวันแบมือรอรับของฝากจากพี่ชาย มือหนาเหมือนควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าก่อนที่จะวางความว่างเปล่าไว้บนมือของน้องสาว
“อะไร” ใบหน้างุนงงของตะวัน ทำให้พี่ชายของเธอต้องรีบเฉลย เพราะกลัวน้องจะโง่ไปมากกว่านี้
“นี่แม่ไม่ได้บอกเหรอ? ว่าพี่เข้าป่าไปพักผ่อนหย่อนใจ”
“ไปทำไม บ้านตัวเองป่าเยอะพอรึไง”
“คนละฟีล”
“เออ จะไปไหนก็ไปคนจะทำงาน” ตะวันก้มหน้าเคลียร์เอกสารตรงหน้าต่อโดยที่เธอไม่ได้หันไปสนใจพี่ชายตัวเองอีก เธอกำลังเร่งทำงานให้เสร็จก่อนอาหารเย็น
โฮมสเตย์ของเธอเป็นโฮมสเตย์เล็ก ๆ มีห้องพักแค่สิบห้องเท่านั้นแต่รับรองว่าวิวสวยจนคนที่มาพักถึงกับประทับใจ ไม่ว่าจะฤดูไหนก็มีคนมาพักไม่ขาดสายเพราะเป็นที่พักหลักพันแต่วิวหลักล้าน รายล้อมไปด้วยภูเขาและลำธาร
“คนสวยของแม่ ทำงานไปถึงไหนแล้ว”
“เสร็จพอดีเลยค่ะ”
“กลับบ้านไปทานข้าวกันเถอะลูก”
“รับทราบค่ะ”
“ลุกเลยนะพี่เต”
“ไม่”
“แต่นี่มันที่ของตะวันนะ”
“ไหนมีเขียนชื่อติดเอาไว้รึเปล่า”
“แม่!” เสียงตะโกนเรียกแม่ของตะวันดังลั่นบ้าน ทำให้พ่อและแม่ของเธอรีบวิ่งมาดู เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ท่านทั้งสองถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
ภาพตรงหน้าเป็นเรื่องที่ปกติของบ้านแต่จะเงียบหายไปเมื่อตะวันไม่อยู่บ้านเท่านั้น เพราะพี่น้องบ้านนี้รักกันแต่ก็มักจะกัดกันอยู่ตลอด
“ขี้ฟ้อง”
“ลุกเลยนะ นี่มันที่นอนดูซีรี่ย์ของฉัน”
“ไม่”
“ไม่ลุกใช่ไหม ได้”
ตุบ/โอ๊ย!!ตะวันกระโดดลงไปทับตัวของพี่ชายตัวเองที่นอนเอกเขนกอยู่โซฟาหน้าทีวี ร่างสูงของพี่ชายเธอถึงกับตัวงอเพราะความจุก ถึงแม้ว่าตะวันจะน้ำหนักไม่มากแต่ก็สามารถทำให้พี่ชายจุกได้เหมือนกัน
“โอ๊ย!!” ไม่พอแค่นั้นตะวันผลักพี่ชายลงจากโซฟาลงไปนอนกองกับพื้น สายตาอาฆาตของพี่ชายที่ไม่สามารถทำอะไรน้องสาวตัวน้อยได้มองค้อนส่งมาให้เท่านั้น
“แม่กับพ่อรู้ไหม ว่าเธอเป็นคนแบบนี้”
“คนแบบไหน”
“คนที่เรียบร้อยต่อหน้าแต่ลับหลังเธอมันนางมารร้ายชัด ๆ” น้ำเสียงอาฆาตบวกกับแววตาหาเรื่องของพี่ชายเธอ ทำให้ตะวันหัวเราะดังลั่นห้องรับแขก
“อ่อนแอก็แพ้ไปจ๊ะ”
“ฝากไว้ก่อนเถอะ วันไหนพ่อกับแม่ไม่อยู่จะเอาหมอนอุดหน้าให้”
“นี่น้องเองนะเตวิน”
“นี่พี่ชายเองนะตะวัน” สองพี่น้องจ้องกันไม่มีใครยอมใคร สายตาเจ้าเล่ห์ของทั้งสองปะทะกันอยู่หน้าทีวี
“พี่จะไม่ยอมฉันใช่ไหม”
“ทำไมพี่ต้องยอม พี่เป็นพี่นะ”
“เป็นพี่สิต้องยอมน้อง”
“ไม่เด็ดขาด”
“พูดเองนะ”
“ไม่ ๆ ตะวัน อย่า!!โอ๊ย” ตะวันกระโดดขี่หลังพี่ชายของตัวเองทันที เธอรัดคอด้านหลังของพี่ชาย เขย่าตัวเอง ดิ้นไปมาบนหลังของพี่ชายตัวดี
เสียงเอะอะโวยวายของทั้งคู่เถียงกันดังลั่นบ้านอย่างไม่มีใครยอมใคร จนผู้เป็นพ่อและแม่ต่างพากันส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจ ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะโตแค่ไหนก็ไม่เคยหยุดทะเลาะกันได้สักที
“จะยอมน้องสาวคนนี้ไหม”
“เออ ยอม ๆ”
“พูดคำว่า (ขอโทษน้องตะวันคนสวยก่อน) ”
“พี่ขอโทษตะวันคนสวย” เสียงพึมพำของพี่ชายที่ยังมีน้องสาวห้อยหลังอยู่ เธอยังคงเกาะติดพี่ชายอยู่อย่างนั้น
“พูดดัง ๆ หน่อยตะวันไม่ได้ยิน”
“ขอโทษครับน้องตะวันคนสวย”