"มายด์"
ร่างบางที่บอบช้ำไปทั้งตัวถูกปล่อยออกมาจากห้องนรกนั้น เธอเดินหอบร่างกายที่แทบจะไม่ไหวเข้าไปหาเพื่อนที่มายืนรอเธออยู่ที่ด้านหลังของผับ
"ขวัญเธอไปโดนอะไรมา ใครทำอะไรเธอ"
มายด์รีบวิ่งเข้าไปกอดพลอยขวัญที่สภาพแทบดูไม่ได้ทันที ก่อนจะประคองเอาไว้อย่างดีไม่ให้เพื่อนล้มลงไปกองกับพื้น
"ไม่มีอะไร"
พลอยขวัญที่ถูกปล่อยตัวออกมาพร้อมกับคำขู่ว่าถ้าเธอเปิดปากพูดเรื่องที่เกิดขึ้น คนพวกนั้นจะฆ่าเธอทิ้งรวมถึงฆ่าเพื่อนของเธอด้วย เธอก็เลยได้แต่ส่ายหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้เพื่อนได้เห็น ทั้งที่ร่างกายเจ็บปวดจนแทบยืนไม่ไหว
"ฉันจะไปแจ้งตำรวจ คนพวกนี้จะต้องเจอดีที่ทำกับพวกเราแบบนี้"
มาริษาพูดออกมาอย่างโกรธแค้นที่ใครก็ไม่รู้มาทำกับเพื่อนและก็เธอแบบนี้ ลำพังเธอไม่เป็นอะไรมากเพราะแค่โดนยาสลบแต่ดูเพื่อนเธอสิไม่รู้ไปโดนอะไรมานัก
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร เรากลับหอกันเถอะ"
พลอยขวัญรวบรวมแรงยกมือขึ้นโบกแท็กซี่ที่ผ่านมาพอดีเพื่อจะได้กลับไปพักที่หอเสียที เธอเหนื่อยเต็มทนแล้วและก็ไม่อยากเห็นสถานที่แห่งนี้อีกแล้ว
"แต่"
มาริษายังคงไม่ยอมเพราะสภาพของพลอยขวัญดูแย่มากเลย คนพวกนั้นจะต้องชดใช้กับสิ่งที่ทำลงไป
"เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก"
พลอยขวัญได้แต่ส่ายหน้าให้เพื่อนของเธอหยุดคิดที่จะทำแบบนั้น เธอยังพอทนเจ็บได้และไม่นานก็คงจะลืมเรื่องนี้ไปได้ แต่เธอจะไม่ยอมให้เพื่อนต้องมาตายเพราะเธอ
"ขวัญ"
มาริษารับร่างบางของพลอยขวัญแทบไม่ทันเมื่อเธอเป็นลมล้มพับกลางอากาศ เธอเลยจำต้องยอมเก็บเรื่องแจ้งความเอาไว้ก่อนแล้วพาพลอยขวัญกลับหอพักเพื่อรักษาตัวให้หายดี
"เป็นอะไรไปมายด์ทำไมทำหน้าแบบนั้น"
พลอยขวัญที่กำลังจะออกไปฝึกงานวันแรกหันไปมองหน้าเพื่อนสาวที่มายืนรอแท็กซี่เป็นเพื่อนเธอ หน้าตาของมาริษาบูดบึ้งผิดกับเวลาปกติที่จะมีแต่รอยยิ้ม
"เธอยังไม่หายดีเลย ฉันยังไม่อยากให้เธอไปฝึกงานเลย หยุดอีกวันเถอะนะ"
มาริษาจับมือเพื่อนรักเอาไว้แน่นเพื่อจะพาเดินกลับเข้าไปในหอพัก ด้วยหน้าตาของพลอยขวัญยังดูไม่สดใสเต็มที่ ถึงเธอจะยังไม่รู้ว่าวันนั้นพลอยขวัญไปเจอกับเหตุการณ์อะไรมา แต่ถ้าพลอยขวัญยังไม่เหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์เธอไม่มีวันปล่อยเพื่อนคนนี้ออกไปข้างนอกเด็ดขาด
"ฉันหายแล้ว ดูสิแข็งแรงแล้ว"
พลอยขวัญดึงมือของเธอออกจากมือของมาริษาก่อนจะตั้งท่าเบ่งกล้ามให้เพื่อนรักของเธอดู ร่างกายของเธอแข็งแรงดีแล้วจริงๆแต่ที่หน้าตายังซีดเซียวก็เพราะสภาพจิตใจของเธอยังไม่กลับคืนมาเหมือนดั่งเดิม
"ให้อาจารย์ลมโทรไปลาให้อีกวันก็ได้"
มาริษาที่รู้ดีว่าไม่อาจห้ามพลอยขวัญได้ก็รีบหาตัวช่วย เพราะเมื่อวานก็ใช้ตัวช่วยนี้ได้ผลพลอยขวัญถึงกับนอนพักต่ออีกตั้งหนึ่งวัน วันนี้เธอก็หวังว่าจะได้ผลเพราะทางนู้นคงไม่หักคะแนนเพื่อนของเธอด้วยอาจารย์สุดหล่อของเธอช่วยพูดให้เป็นอย่างดี
"อย่างอแงสิเดี๋ยวตอนเย็นเราก็เจอกันแล้ว ฉันไปละนะ"
พอเพื่อนพูดถึงอาจารย์ที่คอยช่วยเหลือเธอมาตลอดก็ยิ่งทำให้พลอยขวัญต้องรีบออกไปฝึกงานให้เร็วขึ้น เพราะเมื่อวานเริ่มฝึกงานกันวันแรกเธอก็ต้องทำให้อาจารย์ต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องของเธอเสียแล้ว และทางนู้นจะคิดยังไงถ้าเธอจะหยุดอีก คงไม่ดีแน่ๆ
"ถึงแล้วโทรมาด้วยนะ"
มาริษาจำต้องยอมรับว่าไม่อาจรั้งเพื่อนเอาไว้ได้ ได้แต่มองตามร่างบอบบางที่ผอมลงเป็นกิโลอย่างเป็นห่วงเท่านั้น
"จ้า"
พลอยขวัญฉีกยิ้มกว้างให้มาริษาเพื่อนรักของเธอก่อนจะก้าวขึ้นรถแท็กซี่ที่มารับเธอพอดี เธอทำให้ตัวเองดูสดใสขึ้นเพื่อให้เพื่อนคนนี้ของเธอสบายใจ
มาริษายืนส่งพลอยขวัญจนรถแท็กซี่ขับออกไปไกลจนสุดสายตาของเธอ หญิงสาวเลยรีบเรียกแท็กซี่อีกคันบ้างเพื่อจะไปฝึกงานอีกที่หนึ่งทันที
"สวัสดีค่ะท่านผู้การ"
พลอยขวัญยกมือไหว้ตำรวจยศใหญ่ตรงหน้าที่เธอถูกพามาพบ ท่าทางของเธออ่อนน้อมตามแบบฉบับที่แม่ของเธอที่เป็นครูที่ดุที่สุดในจังหวัดสอนมา
"เรียกลุงเหมือนเดิมนั่นแหละ ไม่ต้องเรียกผู้การให้ลำบากหรอก"
ผู้การเลิศพันธ์รับไหว้เด็กสาวด้วยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นเหมือนกับทุกๆครั้งที่ได้เจอเด็กสาวคนนี้ที่บ้านสวนที่ต่างจังหวัด ก่อนจะผายมือให้เด็กสาวนั่งลงบนเก้าอี้รับแขกที่ตั้งอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขา
"ขวัญเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานนะคะ"
พลอยขวัญต้องการจะเป็นแต่นักศึกษาฝึกงานทั่วๆไปไม่ได้ต้องการได้รับสิทธิพิเศษอะไร เธอเลยตอบคนตรงหน้าไปตามความจริง ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเด็กเส้นที่พ่อของเธอฝากเข้ามาก็ตาม แต่ที่ทำไปนั้นก็เพราะพ่อของเธอเป็นห่วงเธอไม่อยากให้ไปฝึกงานกับคนอื่น
"งั้นก็ตามใจ"
เลิศพันธ์ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเด็กสาวอีกครั้งพร้อมกับภูมิใจแทนเพื่อนสนิทไม่น้อยที่เลี้ยงลูกมาได้ดีขนาดนี้ ก่อนจะพาไปยังโต๊ะทำงานที่เตรียมเอาไว้ให้ที่อยู่ตรงหน้าห้องของเขา เพื่อเริ่มทำงานในหน้าที่คอยช่วยเลขาของเขาอีกที
"ผู้กอง"
กัลยาหรือผู้หมวดไข่หวานเลขาหน้าห้องของผู้การเลิศพันธ์ที่นั่งแต่งหน้าทาปากมาแล้วเกือบจะทั้งวัน ลุกขึ้นยืนทำความเคารพต้อนรับผู้กองที่เธอนั้นแอบปลื้มมานานแล้วทันทีที่เขาเดินเข้ามา
"คุณ"
พลอยขวัญเงยหน้าขึ้นจากงานที่กำลังทำอยู่มองไปตามเสียงที่ได้ยิน แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจตาโตเมื่อผู้กองที่พี่เลี้ยงของเธอกำลังทักทาย เขาคือซาตานร้ายที่สร้างฝันร้ายให้กับชีวิตของเธอ
"สวัสดีครับ"
คาวีทักทายเพื่อนร่วมสายงานเดียวกันกับเขาตามปกติ แล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของผู้การเลิศพันธ์ที่เขาโทรมานัดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วทันที
"รู้จักผู้กองกระทิงด้วยเหรอ"
กัลยารีบนั่งลงทันทีและขยับเก้าอี้เข้าไปหาพลอยขวัญด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะเธอนั้นเห็นหญิงสาวตกใจจนตาโตเมื่อผู้กองของเธอเดินผ่านไป
"มะไม่รู้จักค่ะ"
ใบหน้าหวานก้มลงแสร้งทำเป็นอ่านงานตรงหน้าต่อทันที ทำเป็นเหมือนไม่รู้จักคนที่เพิ่งจะเดินผ่านหน้าเธอไป ทั้งที่ในใจกับในสมองกำลังตีกันให้วุ่นด้วยในใจเขาคือชายในฝันที่เธออยากพบหน้าแต่ในสมองสั่งว่าเขาคือคนไม่ดีอย่าไปยุ่ง
"ผู้กองกระทิงโครตหล่อ ถ้าจะจีบก็ต้องแข่งกันหน่อยนะ ถึงเธอจะสวยกว่าพี่ก็เหอะแต่เรื่องนี้พี่ไม่ยอม แต่ขอเตือนเอาไว้เลยนะว่าผู้กองเขาอาจจะไม่เลือกใครเลย สาวทั้งสำนักงานนี้กินแห้วกันมาแล้วทุกคน"
กัลยากระซิบกระซาบให้พลอยขวัญฟังก่อนจะหัวเราะออกมา เพราะเป็นที่รู้กันทั่วว่าผู้กองคนนี้ตั้งใจทำงานอย่างเดียวเรื่องอื่นเขาไม่เคยสน
"ขวัญไปชงกาแฟให้หน่อยสิ ผู้การขอมา แล้วเอาไปเสิร์ฟให้ด้วยนะ พี่ไม่เข้าไปหรอกผู้การเสียงเครียดพี่กลัว"
แต่หัวเราะได้ไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะกัลยาเสียก่อน เป็นโทรศัพท์สายในที่โทรมาจากในห้องของผู้การเลิศพันธ์เพื่อจะสั่งกาแฟ แต่ที่ทำเอากัลยาตีอารมณ์กลับแทบไม่ทันก็เพราะเจอเข้ากับน้ำเสียงที่ฟังดูเครียดมากของผู้การเข้า น้ำเสียงที่น่ากลัวยิ่งกว่าไฟไหม้สำนักงานเสียอีก ถึงจะเจอไม่บ่อยแต่ถ้าเจอเธอจะไม่เข้าใกล้ทันทีเพราะอาจจะโดนดุจนถึงขั้นร้องไห้
"แต่"
พลอยขวัญมืออ่อนแรงจนปากกาที่ถืออยู่ในมือร่วงลงเมื่อได้ยินคำไหว้วานของกัลยา เรื่องชงกาแฟเธอพอทำได้เพราะกัลยาสอนเธอมาแล้วเมื่อเช้านี้ แต่เธอไม่อยากจะไปเผชิญหน้ากับซาตานอย่างเขา
"ผู้กองกระทิงเอาไว้เจอตอนไหนก็ได้พี่รอได้ ขวัญไปเถอะ"
กัลยาเข้าใจดีว่าเด็กสาวอยากให้เธอไปเจอกับคนที่แอบปลื้มมานานด้วยเพราะเกรงใจเห็นว่าเธอเป็นรุ่นพี่ แต่เธอไม่เสี่ยงดีกว่ามันสยองมากเวลาที่ผู้การดุขึ้นมา