หนี้รัก หัวใจซ่อนร้าย EP.11

1673 Words
ณ คฤหาสน์พิทักษ์เทวา...ธราทิปจอดรถแล้วเปิดประตูและปิดมันลงอย่างแรงตามอารมณ์ที่เดือดพล่านอยู่ภายในใจ เขารู้สึกว่าตัวเองโกรธเปรมมิกามาก โกรธอย่างที่ไม่เคยโกรธผู้หญิงคนไหนมาก่อนในชีวิต เปรมมิกากล้าดียังไงถึงขายบ้านหลังที่เขาเคยอยู่กับเธอ บ้านหลังที่เขายกให้เธอเอาไว้ก่อนเลิกรากันไป ถ้าจะขายบ้านที่เขายกให้ เปรมมิกาก็น่าจะโทรศัพท์มาบอกเขาสักคำ ไม่ใช่ขายไปโดยพละการแบบนี้ คิดแล้วมันก็น่าโมโหที่สุด คนอารมณ์เสียเดินผ่านประตูบ้านเข้าไป แล้วเดินตรงไปยังห้องโถง ซึ่งในเวลานี้คงมีบิดามารดาและน้องสาวคนเล็กนั่งสนทนากันอยู่ คงจะเหลือแต่น้องชายอีกคนของเขาที่ยังไม่ยอมเดินทางกลับมาเมืองไทยเสียอีก ไม่รู้จะติดอกติดใจอะไรที่นั่นนักหนา นี่ก็ใกล้ถึงวันแต่งงานของเขาเข้าไปทุกขณะ แต่เจ้าน้องชายตัวดีก็ยังไม่ยอมโผล่หัวกลับมาเลย คุณธนบดีเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์มองบุตรชายคนโต ซึ่งเดินหน้าตาบอกบุญไม่รับเข้ามาภายในห้องโถง นี่ก็ใกล้ถึงวันแต่งงานเข้าไปทุกขณะ แต่ว่าที่เจ้าบ่าวกลับทำหน้าเหมือนคนไม่มีความสุขเอาเสียเลย เกิดอะไรขึ้นมาอีกล่ะ! ถึงทำให้นายธราทิป พิทักษ์เทวา พี่ใหญ่จอมเอาแต่ใจของบ้านแสดงอาการไม่พอใจออกมาซะขนาดนั้น “ใครขัดใจมาอีกหรือค่ะพี่หนึ่ง หน้าบึ้งมาเชียว” เจ้าของเสียงหวานใสเอ่ยถามผู้เป็นพี่ชายอย่างขบขัน เพราะไม่บ่อยนักที่จะมีใครสามารถทำให้พี่ชายจอมเอาแต่ใจของเธอแสดงอารมณ์เดือดดาลได้ขนาดนี้ แล้วขยับกายเข้าไปนั่งชิดมารดาเล็กน้อย เพื่อให้มีที่ว่างพอที่พี่ชายจะนั่งลงได้ “ว่าไงค่ะพี่หนึ่ง ไปทะเลาะกับใครมาอีกล่ะ หรือว่าทะเลาะกับพี่นภา” “เปล่าหรอกยัยหญิง พี่ไม่ได้ทะเลาะกับนภา” “อ้าว! แล้วทำไมพี่หนึ่งถึงอารมณ์เสียล่ะคะ ใกล้ถึงวันแต่งงานแล้วนะคะ ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยสิ ทำเหมือนคนแบกโลกเอาไว้อย่างนั้นแหละ” หญิง หรือ อรุโนทัย พิทักษ์เทวาถามพี่ชายอย่างอารมณ์ดี อยากรู้จังเลยว่าใครกันนะที่สามารถทำให้พี่ชายจอมเอาแต่ใจของเธอหัวเสียได้ขนาดนี้ ถ้าเจอหน้าเธอจะยกมือไหว้แล้วก็ก้มกราบลงที่อกงามๆ สักครั้ง “แบกโลกอะไรของเรานะยัยหญิง พี่มีความสุขมากที่จะได้แต่งงาน” “แล้วทำไมถึงอารมณ์เสียมาล่ะ หน้าตานี่ดูไม่ได้เลย เหมือนกับโกรธใครมาสักสิบชาติ อย่างนั้นแหละ” “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่...” ธราทิปเงียบไปเมื่อนึกถึงเรื่องที่ทำให้เขาอารมณ์เสียอยู่ในขณะนี้ เปรมมิกาทำตัวหายไปเข้ากลีบเมฆจริงๆ ทิ้งทุกอย่างที่เคยทำร่วมกับเขา “แค่...อะไรคะ พูดออกมาให้หมดสิค่ะพี่หนึ่ง มัวแต่อ่ำอึ้งอยู่นั่นแหละ พี่หนึ่งของหญิงไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะคะ บอกมาซะดีๆ ใครกันที่ทำให้พี่ชายสุดหล่อของหญิงอารมณ์เสียได้ขนาดนี้” “ไม่มีอะไรหรอกยัยหญิง” “แต่แม่ว่ามีนะ เพราะหนึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน” คุณอโนทัยเอ่ยถามบุตรชายอย่างเป็นห่วง บทสนทนาระหว่างลูกๆ ฟังดูยังไงก็แปลก ท่านรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าที่ได้ยิน โดยเฉพาะอารมณ์ไม่ปกติของบุตรชายคนโต น้อยครั้งที่บุตรชายคนโตจะแสดงความไม่พอใจออกมามากขนาดนี้ ใครกันที่สามารถทำให้นายธราทิป พิทักษ์เทวา โกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงได้ ท่านคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่ธรรมดาเชียวล่ะ ชักอยากเห็นหน้าคนที่ทำให้บุตรชายคนโตของท่านโกรธขึ้นมาแล้วสิ “ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกครับคุณแม่” แล้วจะให้เขาพูดออกไปได้อย่างไร ว่าเขากำลังโกรธผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ผู้หญิงที่เขาทิ้งมาอย่างไม่ใยดี ไม่สนใจว่าเธอจะเสียใจและเจ็บปวดแค่ไหน เขาไม่เคยคิดเลยว่าเปรมมิกาจะทำได้ถึงขนาดนี้ เธอขายบ้านที่เขายกให้แล้วหายออกไปจากชีวิตของเขาอย่างแท้จริง หายไปอย่างไร้ร่องรอยจริงๆ ทำไมเขาถึงได้รู้สึกหงุดหงิดและหัวเสียนักก็ไม่รู้ เพียงแค่รู้ว่าเปรมมิกาขายบ้านหลังที่เขากับเธอเคยอยู่ด้วยกัน ไม่เพียงแต่ขายบ้านทิ้ง เธอยังลาออกจากงานหลังจากที่เลิกกับเขาได้ไม่ถึงเดือน เบอร์โทรศัพท์ที่เธอเคยใช้คุยกับเขาก็หยุดใช้บริการ บ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่กับญาติที่เชียงใหม่เขาก็ไม่รู้จัก เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่อยากเจอเปรมมิกา “ไม่มีอะไร แล้วทำไมลูกต้องถอนหายใจตลอดเวลาด้วย แถมยังทำหน้าเครียดตลอด บอกแม่มาซะดีๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?” คุณอโนทัยรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา อาการถอนหายใจกับสีหน้ากังวลที่ท่านไม่เคยเห็นมาก่อน ที่ผ่านมาลูกชายคนนี้ของท่านสามารถแก้ไขปัญหาของตัวเองได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือแม้แต่เรื่องส่วนตัว แต่ครั้งนี้ท่านรู้สึกว่าเขายังมีอะไรอยู่ในใจที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ “ก็บอกแม่แกไปสิเจ้าหนึ่ง ว่าแกมีปัญหาอะไร อีกไม่กี่วันแกก็จะแต่งงานอยู่แล้วหรือว่าแกยังแอบมีใครอยู่ในใจ” คุณธนบดีถามบุตรชายเสียงเครียด เมื่อสัมผัสถึงความไม่สบายใจจากสีหน้าของภรรยา ใกล้ถึงวันแต่งงานของธราทิปเข้าไปทุกขณะ แต่ว่าที่เจ้าบ่าวกลับมีปัญหาที่ยังค้างคาใจแก้ไขไม่ได้แบบนี้ แล้วการแต่งงานที่จะเกิดขึ้น มันจะมีความสุขได้อย่างไร ธราทิปอึ้งไปกับคำถามของบิดา เขายังมีอะไรที่ค้างคาใจอยู่อีกหรือ? เขาสามารถพูดออกมาเต็มปากได้เลยว่าไม่มี เรื่องที่เขาไม่สบอารมณ์อยู่ในตอนนี้ก็คือเรื่องที่เปรมมิกาขายบ้านหลังนั้นทิ้งไปก็เท่านั้นเอง “สงสัยพี่หนึ่งแอบมีสาวๆ เอาไว้ในใจแน่เลยค่ะคุณแม่” อรุโนทัยหันมากระซิบบอกมารดาเบาๆ ขณะเหลือบมองสีหน้าเรียบเฉยของพี่ชาย มันต้องใช่แน่เลย เพราะไม่เพียงไม่ปฏิเสธแต่ยังทำหน้านิ่งซะขนาดนั้น แต่จะว่าไปผู้หญิงแบบไหนนะที่สามารถอยู่ในหัวใจของพี่ชายจอมเอาแต่ใจของเธอได้ นอกจากพี่นภาแล้วเธอยังไม่เคยเห็นพี่ชายให้ความสนใจผู้หญิงคนไหนเลย “ผมขอตัวก่อนนะครับคุณพ่อ คุณแม่” หลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน ธราทิปก็เอ่ยขอตัว แล้วลุกออกมาจากห้องโถงทันที ปล่อยให้บิดามารดาและน้องสาวนั่งทำหน้างุนงงกันอยู่ ต่างก็หันมามองหน้ากันแล้วถอนหายใจออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย คุณธนบดีมองจนบุตรชายคนโตเดินหายออกไป ท่านจึงหันมาสบตามองภรรยาอย่างหนักใจ ถ้าสิ่งที่บุตรสาวพูดเป็นจริง เรื่องคงยุ่งแน่ๆ งานแต่งก็จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว แต่ว่าที่เจ้าบ่าวดันมีปัญหาขึ้นมาเสียได้ ผู้หญิงคนไหนกันที่สามารถทำให้นายธราทิป พิทักษ์เทวาต้องคิดหนักได้ขนาดนี้ “คุณแม่ค่ะ พี่หนึ่งหนีไปแล้ว” อรุโนทัยร้องบอกมารดา รู้สึกตกใจกับปฏิกิริยาของพี่ชาย เธอมั่นใจว่าเธอไม่ได้ตาฝาด สายตาของพี่ชายหวั่นไหวเล็กน้อยตอนที่เธอกระซิบถามมารดาเรื่องที่พี่ชายอาจมีผู้หญิงแอบอยู่ในใจ “แม่เห็นแล้ว ทำไมน้องหญิงถึงคิดแบบนั้นล่ะลูก” คุณอโนทัยถามบุตรสาวอย่างแปลกใจ ท่านไม่เคยคิดเรื่องที่บุตรชายคนโตจะมีผู้หญิงอื่นนอกจากว่าที่ลูกสะใภ้เลย ถึงจะออกนอกลู่นอกทางไปบ้างมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย แต่ที่ท่านเห็นบุตรชายคบผู้หญิงอย่างจริงจังก็มีแต่เพียงนภาคนเดียวเท่านั้น “สายตาของพี่หนึ่งมันฟ้องค่ะคุณแม่ ตอนที่น้องหญิงถามคุณแม่ว่าพี่หนึ่งแอบมีผู้หญิงเอาไว้ในใจหรือเปล่า? สายตาของพี่หนึ่งหวั่นไหวไปแป๊บหนึ่งด้วยค่ะ น้องหญิงมั่นใจเลยล่ะคะว่าพี่หนึ่งต้องมีปัญหาเรื่องผู้หญิงแน่นอน” “พ่อว่าน้องหญิงอย่าไปสนใจเรื่องของเจ้าหนึ่งเลย ปล่อยให้เจ้าหนึ่งจัดการเองเถอะ พ่อว่าตอนนี้เราไปทานข้าวกันเถอะ” คุณธนบดีตัดบทแล้วลุกเดินออกมาจากห้องโถง ตรงไปยังห้องอาหาร ถึงในใจจะกังวลอยู่บ้าง แต่ท่านก็มั่นใจว่าบุตรชายคนโตต้องจัดการปัญหาของตนเองได้ โดยที่ท่านและภรรยาไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลือ? “แม่ก็เห็นด้วยกับคุณพ่อนะน้องหญิง ปัญหาของใครก็แก้ไขกันเองล่ะกัน เอาไว้พี่หนึ่งแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว พวกเราค่อยเข้าไปช่วย ก็ยังไม่สายไม่ใช่หรือจ้ะ แม่ว่าตอนนี้พวกเราไปทานข้าวกันเถอะ” ท่านมั่นใจว่าบุตรชายต้องจัดการปัญหาของตัวเองได้ ก่อนลุกเดินตามสามีออกไปจากห้องโถง ตรงไปยังห้องอาหารอีกคน อรุโนทัยยิ้มรับคำตอบของมารดาแล้วลุกตามท่านไปติดๆ บางทีสิ่งที่บิดามารดาพูดอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ พี่ชายของเธอเก่งอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเก่งไปเสียทุกเรื่อง ไม่มีเรื่องไหนที่จัดการไม่ได้ ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD