#วันต่อมา
วันนี้ไม่มีเรียนและก็เป็นวันหยุดของฉันด้วย ตั้งใจว่าจะพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าที่ผ่านมามันเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก
เพิ่งคุยกับดินเรื่องแม่เสร็จ วันนี้อาการป่วยของแม่ดีขึ้น ยังเสียใจที่ตัวเองไม่สามารถกลับไปดูแลแม่ได้ ตอนนี้ได้แต่ฝากฝังให้ดินน้องชายเพียงคนเดียวของฉันดูแลให้ โชคดีที่ดินเป็นเด็กน่ารักว่าง่ายไม่เกเรตามวัย ก็เลยวางใจเรื่องแม่ไปเยอะเพราะเชื่อว่าดินจะต้องดูแลแม่ดีมากๆ
ช่วงนี้อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวและห้องพักของฉันมันไม่มีแอร์เพราะมันเป็นห้องราคาถูกจึงออกมาสูดอากาศด้านนอกระเบียง ก่อนที่สายตาจะเหลือบเห็นรถหรูคันสีดำจอดอยู่ตรงรั้วของหอพัก
หัวใจดวงน้อยพลันเต้นรัวๆ เพราะมั่นใจว่านั่นคือรถของฉลามแน่ๆ ฉันรีบยกมือขึ้นมาทาบที่อกของตัวเองอย่างห้ามปราม
ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำให้รู้ได้ทันทีว่าใครคือคนที่โทรมา
“มะ…มีอะไรหรือเปล่า” ฉันรับสายด้วยความรู้สึกประหม่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพียงแค่รู้ว่านั่นเป็นรถของเขาก็ทำตัวไม่ถูกแล้ว
( ไม่มีเรียนหรือไง )
“วันนี้ไม่มี ฉันลืมบอก”
( อยู่ด้านล่างลงมาหน่อย )
“จะ….พาไปไหนหรอ” ฉันเม้มริมฝีปากแน่น เพราะอะไรกันทำไมถึงรู้สึกตื่นเต้นมากขนาดนี้
( มาก่อน )
ฉลามไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมถึงให้ลงไปพูดจบเขาก็วางสาย ถึงจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายให้ลงไปหาทำไมแต่ก็ยอมไปง่ายๆ ฉันคงชินกับการเป็นเบ๊ให้เขาไปแล้ว
เมื่อฉันเดินมาถึงที่รถฉลามก็ลดกระจกลงแล้วออกคำสั่ง “ขึ้นมาสิ”
“จะพาฉันไปไหน”
“ไปซื้อของ อยากให้ไปช่วยถือหน่อย”
“อ๋อ….ได้สิ”
เพราะนั่นมันคือหน้าที่ของฉันอยู่แล้วจึงไม่รู้สึกแปลกใจอะไร ก่อนจะรีบเปิดประตูเข้ามานั่งด้านในรถคันหรู
ระหว่างนั่งรถมาเราสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยแต่แปลกที่ฉันไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรมากขนาดนั้น อาจเพราะเขาไม่ได้ทำให้กดดันแบบก่อนหน้าจึงคลายความกังวลได้เยอะ
#ห้างสรรพสินค้า
“เลือกสิ ยืนมองอยู่ทำไม”
“…มะ…มันแพงเกินไป” ฉันเม้มริมฝีปากแน่นทำให้ฉลามถอนหายใจออกมาเบาๆ สีหน้าของเขาเริ่มฉายแววความหงุดหงิด “ฉันจะซื้อให้เธอก็แค่เลือก”
เขาทำให้แปลกใจอีกแล้ว ที่บอกจะมาซื้อของจนกระทั่งตอนนี้ผ่านไปชั่วโมงกว่ายังไม่เห็นว่าเขาจะเลือกซื้อของตัวเองเลยสักชิ้น ต่างจากฉันที่ได้ทั้งเสื้อผ้ากระเป๋าและของอื่นๆ จนเต็มไม้เต็มมือ
จริงๆ ไม่ได้อยากได้หรือเต็มใจอะไรเลย แต่เพราะถูกบังคับให้รับไว้มากกว่า และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องมาซื้อให้ฉันด้วย
“พอแล้ว นายซื้อให้ฉันเยอะแล้วนะ” ฉันปฏิเสธก่อนจะวางกำไลคาเทียร์ราคาหลักแสนลง มือยังสั่นไม่หายที่เห็นราคาตรงป้าย ของมีมูลค่าขนาดนี้คงรับไว้ไม่ได้
“อย่าเรื่องมาก” ฉลามกดเสียงต่ำบอกดูเหมือนว่าเขาจัหงุดหงิดจริงๆ สายตาคู่นั้นของเขาทำเอาใบหน้าของฉันนั้นร้อนผ่าว
“มันแพงเกินไปฉันรับไว้ไม่ได้”
ฉลามถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะหันไปบอกพนักงานเหมือนไม่ฟังที่ฉันบอกเลย “เอาอันนี้แล้วกันครับ”
“ฉลาม”
ฉันเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเขาบอกพนักงานแบบนั้นแถมยังทำเป็นเมินฉันอีกต่างหาก หลังจากจ่ายเงินเสร็จฉลามก็จับมือฉันพาเดินไปช็อปแบรนด์เนมอื่นๆ ต่อ
กว่าจะได้กลับมือมันก็เต็มไปด้วยถุงของช็อปแบรนด์เนมต่างๆ
“ทำไมต้องซื้อให้เยอะขนาดนี้ด้วย ทั้งที่ฉันทำรถนายเสียหายจนต้องมาเป็นเบ๊ให้”
ฉันถามฉลามที่เดินนำหน้าท่ามกลางลานจอดรถกว้าง เพราะเขาไม่น่าจะใจดีมากขนาดนี้มันเกิดคำถามมากมายในหัวเต็มไปหมด
ฉลามที่ได้ยินคำถามนั้นเขาก็หยุดเดินก่อนจะหมุนตัวหันมามอง สายตาคู่นั้นมันยากที่จะคาดเดาความรู้สึกของอีกฝ่ายว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“ไม่รู้สิก็แค่อยากให้…หรือเพราะฉันรู้สึกอะไรบางอย่างกับเธอ…”