“นายครับ! ของที่สั่งผมวางไว้ที่หน้าประตูนะครับ” สมชายบอกด้วยน้ำเสียงที่ปนหอบนิดๆ
“ขอบใจมาก ไปดูงานในไร่ต่อเถอะ” จอมพลตะโกนบอกลูกน้องคนสนิทที่วานให้ไปซื้อของใช้เมื่อสองชั่วโมงก่อน
“ครับ” สมชายขานรับก่อนจะเดินลงบันไดกลับลงไปที่ชั้นล่าง
จอมพลลุกเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก้มลงหยิบถุงกระดาษที่วางอยู่บนพื้น มาส่งให้กับหญิงสาว “อ๊ะ! คุณน่าพอจะใส่ได้”
“อะไรคะ?” จีอาน่ารับถุงกระดาษมา แล้วหยิบของที่อยู่ข้างในออกมาดู
“ก็ผ้าถุงไง” จอมพลอมยิ้มอย่างขำๆ ที่ลูกน้องคนสนิทซื้อของมาให้ตรงตามที่บอกเป๊ะ! จีอาน่าจ้องมองผ้าซิ่นสีแดง อันเต็มไปด้วยลวดลายของดอกไม้อย่างมึนงง
“ใส่ๆ ไปเถอะน่าคุณ” จอมพลแสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุๆ
“ขะ...ขอบคุณค่ะ” จีอาน่ากลั้นใจบอกอย่างเสียไม่ได้
“โอเค! คุณไปใส่เสื้อผ้า หรือจะอาบน้ำก่อนก็ได้นะ แล้วค่อยลงไปกินข้าวกับผม”
“ฉันไม่...”
“ไม่หิวก็ต้องกิน เดี๋ยวตายไปแล้วจะไปหากินที่ไหนได้ ปลาในแม่น้ำน่ะ มันไม่ได้จับง่ายๆ นะ อ้อ! แล้วก็อย่ามาฆ่าตัวตายในบ้านของผมล่ะ ไม่งั้นผมจะให้หมอผีมาสะกดวิญญาณคุณ แล้วจุดธูปเรียกมาข่มขืนทุกคืนเลยคอยดู” จอมพลขู่เสร็จก็เดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
“ไอ้คนบ้า!” จีอาน่าสบถด่าตามหลังอย่างรู้สึกขุ่นเคืองใจกับประโยคในตอนท้ายของอีกฝ่ายที่บอกว่าจะจุดธูปเรียกวิญญาณของเธอมาข่มขืน แม่เจ้า! เกิดมาเธอไม่เจอะเจอผู้ชายคนไหน ปากคอเราะร้ายขนาดนี้มาก่อน
หญิงสาวพยายามข่มอารมรณ์เดือดๆ ให้เย็นลง แล้วเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ
สิบนาทีต่อมา...
“อ้าว! เข้ามาสิคุณ จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม?” จอมพลมองใบหน้าอันงดงามของสาวเจ้า ที่แม้ว่าจะสวมผ้าถุงสีแดงผูกมัดตรงเอวจนเป็นปมหนา ตามด้วยเสื้อคอกระเช้าสีเหลืองอ่อน แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังชวนมองกว่าสาวๆ คนไหนที่เขาเคยพบเจอ ‘หึ! ใส่ชุดนี้แล้วยังกล้าไปโดดน้ำตายอีก พี่ก็นับถือหัวใจน้องสุดๆ ละ’
“เอ่อ...ฉันว่า...” จีอาน่ามองค้อนคนที่ส่งสายตาเหมือนจะเยาะเย้ยมาให้อย่างขุ่นเคือง
“มานั่งเร็วๆ สิ เดี๋ยวกินเสร็จแล้วผมจะได้ขับรถไปส่งคุณ” จอมพลเอ่ยเร่งคนที่ยืนทำหน้าเก้ๆ กังๆ ให้เข้ามานั่งร่วมโต๊ะ
“ค่ะ” จีอาน่าขานรับก่อนจะเข้าไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับอีกฝ่าย
“อะ! กินเยอะๆ ผมอุตส่าห์ย่างรอเลยนะเนี่ย” จอมพลบอกพร้อมกับส่งถ้วยที่มีเนื้อย่างหอมๆ ไปให้
“ขอบคุณค่ะ” จีอาน่ารับมาวางตรงหน้าอย่างเสียไม่ได้
“ชื่ออะไร?” จอมพลเอ่ยถามอย่างเป็นทางการ
“จีอาค่ะ” เธอบอกไม่เต็มเสียง
“ชื่อจริงกับนามสกุล”
“...” จีอาน่ามองหนุ่มตรงหน้าอย่างชั่งใจ
“ขอร้องล่ะ ผมอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้คุยกับคุณ ฉะนั้นได้โปรด...” จอมพลให้เหตุผล
“จีอาน่า พิสุทธิ์ธารากรณ์” เธอกลั้นใจบอกไปตามตรง
“นี่อย่าบอกนะว่าคุณเป็นลูกสาวของ ทัศเทพ พิสุทธิ์ธารากรณ์” คนที่บังเอิญได้อ่านข้อความลับที่บิดาของขุนพัน ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงเช่นเดียวกับบิดาของตน ส่งผิดเข้ามาในแชตไลน์เมื่อห้านาทีก่อน เป็นข้อความขอความช่วยเหลือให้ช่วยตามหาตัวหญิงสาวคนหนึ่ง พอเปิดดูรูปที่ส่งตามมา เขาถึงกับช็อกที่รู้ว่าหญิงสาวที่ได้ช่วยชีวิตเอาไว้ คือทายาทคนเดียวของพิสุทธิ์ธารากรณ์ มหาเศรษฐี ที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ด้วยความอยากรู้...เขาจึงรีบกดเข้าไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมใน Google ก็เห็นข่าวประกาศการยกเลิกงานแต่งอย่างกระทันหันของทัศเทพ ก็ทำให้เดาสาเหตุที่หญิงสาวตรงหน้าคิดจะทำเรื่องบ้าๆ เมื่อคืนได้ทันที
“ค่ะ” เธอตอบพร้อมกับถอนหายใจ ไม่รู้ว่าป่านนี้พิธีแต่งงานของบิดากับปารีณาดำเนินไปถึงไหนแล้ว
“งั้นคุณก็ควรจะรู้ไว้นะว่าพ่อของคุณเลื่อนแต่งงานออกไปแบบไม่มีกำหนด” จอมพลบอกสิ่งที่สาวตรงหน้าควรจะรู้
“จะ...จริงเหรอคะ?” จีอาน่าถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหู ขณะเดียวกันก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างแล่นขึ้นมาจุกที่ต้นคอ
“จริงสิ” จอมพลรีบส่งมือถือไปให้ดู
{มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ทัศเทพ พิสุทธิ์ธารากรณ์ ประกาศเลื่อนงานแต่งออกไปอย่างไม่มีกำหนด}
จีอาน่าอ่านพาดหัวข้อข่าวใหญ่ แล้วปล่อยโฮออกมาทันใด “ฮือๆๆ”
“นี่คือสาเหตุที่คุณจะฆ่าตัวตายใช่ไหมจีอา” จอมพลถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง พร้อมกับส่งผ้าเช็ดหน้าไปให้อย่างรู้สึกเห็นใจ
“ฮึก...ฮือๆๆ” จีอาน่าพยักหน้ารับเบาๆ ไม่รู้ว่าจะปิดบังอีกฝ่ายไปทำไม เพราะหากเธอจะตาย ก็ควรจะมีใครสักคนได้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง
“โอเค! ผมจะไม่ถามอะไรอีกแล้ว เรามากินหมูกระทะกันดีกว่า” จอมพลรีบเบี่ยงเบนความสนใจไปที่เนื้อย่างหอมๆ บนเตา
“ค่ะ” จีอาน่าใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาไหลที่อาบแก้ม แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
“คุณลองชิมนี่ดูสิ! ถ้าคะแนนเต็มสิบคุณจะให้สักเท่าไหร่ดี” จอมพลคีบเนื้อที่สุกกำลังดี วางลงในจานของเจ้าสาวอย่างเอาใจ
คนที่หยุดร้องไห้แล้ว แต่ยังสะอื้นเป็นพักๆ หยิบตะเกียบมาคีบเนื้อย่างจุ่มลงไปในถ้วยน้ำจิ้มที่อีกฝ่ายส่งมาให้ แล้วทานไปอย่างมึนๆ งงๆ
“ใช้ได้ไหม?”
จีอาน่าเคี้ยวเนื้อนุ่มๆ ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำจิ้มรสเลิศ ก็ถึงกับพูดไม่ออก
“ผมว่าคุณอาจจะยังไม่รู้รสชาติ งั้นลองอีกคำก็แล้วกัน” จอมพลรีบส่งเนื้อย่างชิ้นใหม่ไปจ่อที่ริมฝีปากสวยได้รูปทันที
จีอาน่ากำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แต่กลิ่นหอมๆ และรสชาติอันแสนอร่อย บวกกับความหิวระดับสิบ เพราะหลายวันที่ผ่านมาแทบไม่มีอะไรตกถึงท้อง ทำให้เธอจำใจหน้าด้านอ้าปากรับเนื้อย่างที่ส่งมา “อื้ม...”
“เป็นไงครับ?” จอมพลเลิกคิ้วถามยิ้มๆ
“อร่อยค่ะ” จีอาน่าบอกอย่างรู้สึกเขินนิดๆ
จอมพลคีบเนื้อย่างมาลองชิม ก่อนจะถามความเห็น “เนื้อหมักจานนี้ ผมให้ 9 นะ คุณให้เท่าไหร่?”
“10 ค่ะ” จีอาน่าตอบยิ้มๆ ‘อร่อยๆ แบบนี้ถ้าให้กินคนเดียวเป็นกิโล เธอคิดว่าเธอกินหมดได้แบบสบายๆ’
จอมพลอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทีของสาวเจ้าเริ่มจะดีขึ้น จึงย่างเนื้อหมักสูตรใหม่ แล้ววางลงในจานให้คนตรงหน้าชิมต่อ “งั้นถ้าเป็นสูตรนี้ล่ะ”
จีอาน่าคีบเนื้อย่างมาแตะที่น้ำจิ้มรสเด็ด แล้วลงมือชิมอย่างไม่รอช้า “อืม...ให้ 10 ค่ะ”
“หึๆ” จอมพลหัวเราะเบาๆ กับสีหน้าสุดฟินของสาวเจ้า เขาจึงหันไปคีบเนื้อย่างมาลองชิมดูบ้าง “อื้ม...ผมก็ให้ 10 เหมือนกัน”
“คิกๆๆ” จีอาน่าได้ฟังคำตอบก็เผลอหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว
“...” จอมพลได้เห็นรอยยิ้มแรกของสาวเจ้า ถึงกับสตั๊นไปสามวิ
“มะ...มีอะไรเหรอคะ” จีอาน่าเริ่มจะทำตัวไม่ถูก เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็นิ่งไป
“ปะ...เปล่า! คือผมจะให้คุณลองชิมเนื้อหมักอีกจานดูน่ะ” จอมพลที่ได้สติก็รีบดึงความสนใจไปที่เนื้อหมักจานสุดท้าย
จีอาน่าคีบเนื้อในจานที่อีกฝ่ายนำเสนอ ซึ่งมีกลิ่นหอมของน้ำมันงาอ่อนๆ ไปย่างบนเตา พอสุกได้ที่ก็คีบมาแตะน้ำจิ้ม แล้วลิ้มลองรสชาติทันที “อื้ม! อร่อยค่ะ คุณสั่งมาจากร้านไหนคะเนี่ย?”
“ร้านเพื่อนของผมเองครับ” จอมพลตอบพร้อมกับเตือนตัวเองในใจ ‘เฮ้อ...แกต้องหยุดมองหน้าของเธอบ้างนะจอม’
“อร่อยค่ะ” คนที่ตอนนี้ละความสนใจจากเรื่องฆ่าตัวตาย มาเป็นสนใจเนื้อย่างบนโต๊ะที่ยิ่งทานก็ยิ่งอร่อย แถมยังมีผักกิมจิ ผักเบบี้คอสและใบงาเกาหลีให้ทานคู่ มันเป็นอะไรที่เธอโหยหามานาน
“อร่อยก็ทานเยอะๆ ครับ” จอมพลบอกพลางจ้องมองใบหน้างาม ที่ไร้การแต่งแต้มเครื่องประทินโฉมใดๆ ‘ให้ตายสิ! ทั้งสวย ทั้งน่ารักแบบนี้ เขาไม่มีวันปล่อยให้เธอทำเรื่องโง่ๆ เด็ดขาด ถึงแม้ว่าเธอออกจะต๊องๆ ไปสักหน่อยก็ตาม’
ชั่วโมงต่อมา...
หลังจากที่กินหมูกระทะจนอิ่ม จอมพลก็ลุกไปหยิบกระปุกทัพเพอร์แวร์ 3-4 อันออกมาใส่เนื้อย่างสูตรต่างๆ ที่ยังเหลือเก็บใส่ในตู้เย็น แต่พอหันกลับมาอีกครั้ง ก็เห็นสาวเจ้ากำลังจะยกถ้วยกับจานที่วางซ้อนอยู่ในกระบะพลาสติกขึ้น เขาถึงกับตกใจเพราะน้ำหนักของจานกระเบื้องนั้นค่อนข้างจะหนักอยู่พอสมควร
“ผมยกเอง” จอมพลรีบเดินเข้าไปช้อนยกต่อ
“เอ่อ...ค่ะ” จีอาน่าเริ่มทำตัวไม่ถูก
“นี่ที่มีเครื่องล้างจาน คุณใช้เป็นใช่ไหม?” จอมพลถามก่อนจะออกเดินนำ
“ค่ะ” จีอาน่าฉีกยิ้ม แล้วรีบเดินตามคนตัวโตเข้าไปในห้องครัวที่สะอาดสะอ้าน พอหันไปมองรอบๆ ก็เห็นเครื่องครัววางเรียงอยู่ครบครัน พลัน! ความคิดหนึ่งก็แทรกเข้ามาในหัว ‘บ้าจริง! เขาต้องมีเมียอยู่แล้วแน่ๆ ผู้ชายที่ไหนจะชอบเข้าครัวทำอาหารเอง?’
“คะ...คุณอยู่กับใครเหรอคะ” เธอถามอย่างรู้สึกใจคอไม่ดี
“ผมอยู่คนเดียว นี่เป็นบ้านพักท้ายไร่ของผมน่ะ” จอมพลหันไปตอบ
“คุณมีบ้านอีกหลังเหรอคะ?”
“ใช่! บ้านของแม่ผม หลังใหญ่กว่านี้นิดหน่อย”
“แล้วคุณพ่อของคุณล่ะคะ”
“เอ่อ...ท่านจากไปหลายปีแล้วครับ” จอมพลบอกก่อนจะหันไปหยิบจานใส่ลงไปในเครื่องล้าง
“ฉัน...เสียใจด้วยค่ะ” จีอาน่าบอกด้วยสีหน้าเศร้าๆ
“ครับ แล้วคุณล่ะ” จอมพลเปลี่ยนไปถามกลับบ้าง
“ก็...อย่างที่คุณเห็นในข่าว แม่ของฉันตายเมื่อสองปีก่อน ฉันเสียสูญไปพักใหญ่ พอเรียนจบก็รีบกลับมาไทย แล้วก็ได้รู้ว่าพ่อกำลังจะแต่งงานใหม่ ซึ่งมันตรงกับวันครบรอบการจากไปของแม่พอดี” จีอาน่าบอกพร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกอึดอัดนิดๆ ที่ต้องเอ่ยถึงเรื่องที่ไม่อยากจะเอ่ย
“คุณก็เลยออกอาการเฮิร์ตหนัก” จอมพลสรุป
“ก็ทำนองนั้นค่ะ” จีอาน่าพยักหน้ารับเบาๆ
“ผมขอพูดอะไรสักอย่างได้ไหม?”
“ค่ะ”
“อย่าคิดทำเรื่องโง่ๆ แบบเมื่อคืนอีก ถ้าตอนนี้แม่ของคุณดูอยู่ ท่านจะรู้สึกยังไงที่ลูกสาวสุดที่รัก คิดฆ่าตัวตาย” จอมพลบอกด้วยสีหน้าจริงจัง
“...” จีอาน่าได้ฟังก็ถึงกับบ่อน้ำตาแตก ตั้งแต่วันที่ทะเลาะกับบิดา เธอไม่เคยได้ระบายความในใจให้ใครฟัง แม้กระทั่งเพื่อนรักอย่างชาช่า เพราะมันเจ็บเกินกว่าจะเอ่ยถึงคลิปที่เป็นต้นเหตุทำให้มารดาจากไป
“หากสิ่งไหนที่มันทำให้คุณเจ็บ...คุณก็แค่ถอยห่างออกมาตั้งหลักก่อน ชีวิตของคุณมันเพิ่งจะต้น ยังมีเรื่องดีๆ ให้คุณไปพบไปเจออีกมากมาย อย่าเอามาแลกเพียงเพราะความสะใจชั่ววูบเลย มันไม่คุ้มหรอก!” คนที่เคยก้าวผ่านจุดที่ย่ำแย่มาก่อน เอ่ยให้กำลังใจ
“ฮึก...” จีอาน่าซบหน้าลงกับผ่ามือแล้วสะอื้นไห้จนตัวสั่น
จอมพลเดินเข้าไปดึงสาวเจ้าเข้ามากอดปลอบ พร้อมกับขอคำมั่น “มองหน้าผมสิ...แล้วบอกว่าคุณจะไม่ทำมันอีก”
“ฮึก...” จีอาน่าจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหล่าของชายหนุ่มอย่างค้นหา ไม่เข้าใจว่าเหตุใด เขาถึงต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อบนโลกใบนี้
“จีอา ได้โปรด...คุณไม่อยากเป็นผีอยู่เฝ้าสะพานนั้นหรอก ชีวิตหลังความตายน่ะ มันทรมานเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้” จอมพลบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“ฮึก...ฉันจะไม่ทำมันอีกค่ะ” จีอาน่าให้คำมั่น
“สาบานมา” จอมพลขอหลักประกัน
“ฉันสาบานว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีกค่ะ” จีอาน่าเอ่ยย้ำอีกครั้ง
“เยี่ยม! ผมทำสวนส้ม สวนองุ่น แล้วก็ปลูกพืชผักอีกหลายอย่างเลย” จอมพลยิ้มก่อนจะรีบดึงความสนใจของสาวในอ้อมกอดไปยังสวนผักผลไม้ของตน
“เช่นอะไรบ้างคะ?” จีอาน่าเช็ดน้ำตาออกแล้วสูดลมหายใจเข้าปลอดลึกๆ
“กล้วย ข่า ตะไคร้ มะกูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ...”
“มีฟักแฟง กับแตงโมด้วยไหมคะ” เธอชิงถามก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยจบประโยค
“มีสิ! พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปทัวร์เอง รับรองว่าคุณจะต้องชอบ อ้อ! มีลำธารเล็กๆ ไหลผ่าน ห่างจากที่บ้านพักไปประมาณ 20 เมตรด้วยนะ” จอมพลบอกพลางยักคิ้วกวนๆ ส่งให้หญิงสาว ที่ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือน ลิซ่า วง Black Pink
“น้ำใสไหมคะ” คนที่ไม่ได้เล่นน้ำตกมานานถามอย่างสนใจ
“ใสมาก! ผมไปนอนแช่เล่นเป็นประจำเลย” จอมพลสปอยต่อ พร้อมกับปล่อยสาวในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ แล้วชวนไปนั่งเล่นที่มุมด้านนอก
คนที่ได้หนังสือนิยายมาชุดหนึ่ง แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองอ่าน เอ่ยถามยิ้มๆ“คุณชอบอ่านหนังสือนิยายไหม?”
“เอ่อ...ชอบค่ะ” จีอาน่าหันไปมองหนังสือเล่มหนาๆ ที่วางเรียงอยู่บนชั้นอย่างรู้สึกทึ่ง ไม่คิดว่าหนุ่มตรงหน้าจะชอบการอ่านเหมือนกับเธอ
“เยี่ยมไปเลย ผมหวังว่าคุณจะชอบนิยายของนักเขียนคนนี้” จอมพลบอกพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบหนังสือ 9 เล่ม ของนักเขียนดัง เอ๊ย! นักเขียนอยากดังที่แอดมาขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก แล้วยัดเหยียดขายหนังสือนิยายให้ชุดหนึ่ง พร้อมกับบอกว่า...เป็นค่าต่อลมหายใจของมะลิ ไอ้เขาก็คิดว่า...ไม่ลูกสาว! หลานสาว! ก็สัตว์เลี้ยง แต่ที่ไหนได้...กลับเป็นค่างวดรถเก๋งคันสีขาวที่อีกฝ่ายเรียกว่าน้องมะลิ กว่าจะรู้ตัว! หนังสือก็ส่งมาถึงบ้านแล้ว ดีนะที่ปกสวย ไม่งั้นเขาจะโพสต์ด่าให้ดู
“ว้าว! หน้าปกสวยจังเลยค่ะ” จีอาน่าเอ่ยชม
“ใช่ครับ! มี 9 เล่ม 9 เรื่อง แต่ละเรื่อง หนาๆ ทั้งนั้นเลย”
“ฉันชอบหนังสือเล่มหนาๆ ค่ะ มันดูเป็นเรื่องเป็นราวดี”
“ผมแนะนำให้คุณเริ่มจาก...รอยราคีมารก่อนครับ” จอมพลบอกตามที่คนเขียนแนะนำมาในแชต
“ว้าว!” จีอาน่าหยิบหนังสือนิยายเรื่องรอยราคีมารขึ้นมาดู ก็ถึงกับเคลิ้มไปทันใด เพราะพระเอกที่อยู่บนปกหล่อมากกกก
“หึ! ไอ้หมอนี่หล่อน้อยกว่าผมไปหน่อยนะคุณว่าไหม?” จอมพลเอ่ยขัดขึ้นเมื่อเห็นสาวเจ้าเอาแต่อมยิ้ม
จีอาน่าหัวเราะเบาๆ ไม่รู้จะออกความเห็นอย่างไร เพราะอีกฝ่ายกับผู้ชายที่อยู่บนหน้าปกนิยายนั้น แทบจะเรียกได้ว่าคนละสไตล์กันเลยทีเดียว
“ผมชื่อจอมพล คุณเรียกสั้นๆ ว่า จอม ก็ได้ครับ” จอมพลแนะนำตัวพร้อมกับยื่นมือไปรอจับทักทายตามแบบสากล
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณจอม” จีอาน่าส่งมือไปจับอย่างรู้สึกเขินๆ
“เช่นกันครับคุณจีอา” จอมพลยิ้มก่อนจะทำทีเป็นหยิบหนังสือนิยายจากในกองมาเล่มหนึ่งแล้วเปิดอ่าน กลบเกลื่อนบางสิ่งบางอย่างที่กำลังก่อเกิดขึ้นในหัวใจที่ด้านชามานาน
ชั่วโมงต่อมา...จีอาน่าเหลือบมองคนที่บอกว่าจะอ่านหนังสือเป็นเพื่อน แต่กลับมีเสียงกรนเบาๆ ดังขึ้น ขณะที่บนหน้าอกอันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ มีหนังสือนิยายเรื่องอ้อมกอดซาตานเฝ้ารักกางอยู่ เธอจึงลุกจากเก้าอี้หวายตัวใหญ่ ตรงไปหยิบหนังสือมาวางไว้บนโต๊ะ พร้อมกับจ้องมองใบหน้าของคนที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
ใช่! จริงๆ เช้าของวันนี้ มันน่าจะมีข่าวการตายของเธอขึ้นบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ตีคู่กับข่าวแต่งงานของบิดา แต่ทุกอย่างก็ผิดพลาดไปหมด เพราะหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรกรีกคนนี้ ดันลากเธอขึ้นมาจากน้ำ เพื่อให้พบเจอกับความจริงที่ว่า...ลึกๆ แล้ว บิดายังคงแคร์ความรู้สึกของเธออยู่
ขณะที่กำลังนั่งทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ จีอาน่าก็เหลือบไปเห็นมือถือของ อีกฝ่ายวางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ เธอจึงค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบเพราะอยากจะเช็กดูข่าวของบิดาอีกครั้ง
คนที่ประสาทสัมผัสไวปาน หมา เอ๊ย! แมว ลืมตาขึ้นมองทันใด “ทำอะไร!”
“ว้าย!” จีอาน่าตกใจ! รีบวางมือถือของอีกฝ่ายลงที่เดิม
“คุณจะใช้โทรศัพท์ของผมเหรอ?” จอมพลอมยิ้มเมื่อเห็นสาวเจ้าหน้าแดงขึ้นมาราวกับลูกตำลึงสุก
“ค่ะ” จีอาน่าพยักหน้ารับอย่างอายๆ ที่ถูกจับได้
“นี่ครับ” จอมพลลุกขึ้นนั่ง แล้วหยิบมือถือส่งให้
“ขอบคุณค่ะ” จีอาน่ารับมา เตรียมจะกดดูข่าว แต่ทว่า...น้ำเสียงที่เอ่ยแทรกขึ้นมาก็ทำให้เธอต้องหยุดชะงัก
“จะโทรไปหาคุณพ่อเหรอครับ?” จอมพลถามพลางส่งยิ้มยียวนไปให้
“ไม่ค่ะ แค่อยากจะอ่านข่าวอีกครั้ง” จีอาน่ากลอกตากับคำถาม
“เชิญตามสบายครับ” จอมพลยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดๆ เพื่อบอกว่าตนแค่แซวเล่นเท่านั้น
จีอาน่ามองค้อน แล้วก้มลงมองที่หน้าจอมือถือ กำลังจะกดพิมพ์ชื่อของบิดาที่ Google แต่ก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
“มีสายเข้าค่ะ” เธอรีบส่งมือถือคืนให้อีกฝ่าย
จอมพลขยับโน้มตัวไปมองชื่อบนหน้าจอ แล้วถอนหายใจทิ้งอย่างรู้สึกเบื่อหน่ายเมื่อรู้ว่าใครโทร. มา “เอ่อ...คุณช่วยรับสายทีได้ไหม แล้วบอกว่าเป็นเมียผม”
“ยะ...ยังไงคะ?” จีอาน่าถามกลับอย่างรู้สึกมึนงง
“คือผมรำคาญน่ะ คุณช่วยผมหน่อยนะจีอา” จอมพลบอกด้วยสีหน้าเซ็งๆ
“แต่ว่า...” คนที่ไม่เคยรับหน้าที่เป็นไม้กันหมามาก่อน พยายามจะเอ่ยท้วง
“ขอร้องล่ะ แล้วผมจะพาคุณไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ หรืออะไรก็ได้ที่คุณต้องการ” จอมพลยื่นข้อเสนอ
“ก็ได้ค่ะ” จีอาน่าพยักหน้ารับอย่างดีใจ รีบกดรับสายพร้อมกับเปิด สปีกเกอร์โฟนให้อีกฝ่ายฟังการสนทนาไปด้วย
[คุณจอมขา...ทำอะไรอยู่เหรอคะ] ขวัญฤดี บุตรสาวของนักการเมืองดังเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนทุกครั้ง
[เอ่อ...สวัสดีค่ะ] จีอาน่ากลั้นใจทักทายตอบ
[นั่นใครพูดสาย] ขวัญฤดีถามกลับด้วยน้ำเสียงตึงๆ
[ดิฉันเป็น...เอ่อ...ภรรยาของคุณจอมพลค่ะ] จีอาน่าแนะนำตัว
[ไม่จริง!] ปลายสายบอกอย่างไม่เชื่อ
[ฉันไม่มีเหตุผลที่จะโกหกคุณ] จีอาน่าบอกอย่างรู้สึกอินจัดกับบทเมียจำเป็นที่ได้รับ
[กรี๊ดดดด แกเป็นใคร บอกมาเดี๋ยวนะ!] ปลายสายกรีดร้อง เพราะคิดว่าตัวเองคือคนเดียวที่เหมาะสมจะได้ตำแหน่งเมีย มากกว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยเป็นข่าวกับจอมพล แต่ที่ไหนได้ เธอหายไปทำหน้าที่เกาหลีได้ไม่ถึงอาทิตย์ กลับมีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาประกาศตัวว่าเป็นเมียของอีกฝ่าย
[ก็บอกแล้วไงว่าเป็นเมีย ยังจะมาถามอีก เป็นบ้าหรือเปล่า?] จีอาน่าถามกลับด้วยน้ำเสียงกวนๆ
[แก! แกรู้จักฉันน้อยไปแล้ว กรี๊ดดดดด] ปลายสายโกรธจนสั่นเทาไปทั้งตัว
จีอาน่ากดวางสาย แล้วหันมาถามหนุ่มหล่อที่ดูทรงแล้วคงจะเจ้าชู้ไม่ใช่เล่น “ใครเหรอคะ”
“ลูกสาวนักการเมืองน่ะ เขาแวะมาเที่ยวชมสวน จากนั้นก็โทรมาหาผมแทบทุกวัน บางวันก็มาแบบไม่บอกไม่กล่าว ผมต้องหลบอยู่ในดงกล้วยตั้งครึ่งวันแน่ะ” คนเสน่ห์แรงบอกอย่างรู้สึกละเหี่ยใจ
“อ้าว! เธอไม่ใช่แฟนคุณเหรอคะ?” จีอาน่าหัวเราะเบาๆ ไม่มีทางเชื่อสิ่งที่ อีกฝ่ายบอกเป็นอันขาด
“ไม่! ผมไม่เคยมีแฟนมาก่อน” หนุ่มโสดรีบยืนยัน
จีอาน่าอมยิ้มอย่างขำๆ แล้วเปลี่ยนไปคุยเรื่องที่ตัวเองยังติดค้างเขาอยู่ “เอ่อ...ขอบคุณนะคะที่คุณช่วยฉันเอาไว้เมื่อคืน”
“อะไรกัน เมื่อตอนสายคุณยังตื่นมาด่าผมอยู่เลย” จอมพลเอ่ยแซว ขณะเดียวกันก็แอบดีใจที่สาวตรงหน้ายอมเปลี่ยนความคิดและคล้อยตามเหตุผล ของตน
“ก็ตอนนั้นมัน...” คนที่คิดอะไรตื้นๆ อึกอัก อย่างรู้สึกเขิน
“ถ้าหากคุณยังไม่อยากกลับ ก็อยู่กับผมที่บ้านหลังนี้ได้นะ จะไม่มีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายที่นี่นอกจากคนสนิทของผม” จอมพลบอกด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
“คุณพูดจริงเหรอคะ” จีอาน่าถามกลับอย่างดีใจ
“จริงสิ! ว่าแต่คุณเก่งบัญชีหรือเปล่าล่ะ?”
“งานถนัดเลยค่ะ”
“เยี่ยมเลย ถ้าหากคุณว่างๆ ก็ช่วยสงเคราะห์ทำบัญชีให้ผมหน่อยแล้วกัน” จอมพลเสนองานให้ทำ เพื่อที่สาวเจ้าจะได้ไม่มีเวลาไปคิดฟุ้งซ่านเรื่องเก่า
“ได้ค่ะ จะให้ทำความสะอาดบ้าน หรือทำกับข้าวก็ได้ เพื่อแลกกับการอยู่ที่นี่เงียบๆ เพราะ...เอ่อ...ตอนนี้พ่อของฉันคงจะส่งคนออกตามหาตัวให้วุ่น” จีอาน่าเสนอตัวเป็นสาวใช้ เพราะอยากจะหลบอยู่ในที่ที่คนของบิดาเข้าไม่ถึง
“ได้ตามที่ขอครับ ว่าแต่คุณทำกับข้าวเป็นจริงๆ เหรอ” จอมพลย้ำอย่างไม่มั่นใจว่าหญิงสาวที่เติบโตมาในตระกูลที่ร่ำรวย จะทำกับข้าวหรือทำงานบ้านเป็น
“คุณอยากจะทานอะไรล่ะคะ” จีอาน่าเลิกคิ้วถามยิ้มๆ
“อืม...หลายอย่างเลย แต่เนื้อย่างของเรายังเหลือนะ”
“งั้นเย็นนี้กินเนื้อย่างให้หมดก่อนก็ได้ค่ะ” คนที่ยังติดใจในรสชาติเนื้อนุ่มๆ หอมๆ รีบตอบทันใด
“แล้วเสื้อผ้าของคุณ...” จอมพลถามพร้อมกับจ้องมองสาวสวยที่อยู่ในชุดคุณยายอย่างขำๆ ‘ผู้หญิงอะไร ใส่แค่ผ้าถุงกับเสื้อคอกระเช้ายังน่ารักได้ขนาดนี้วะ?’
“หากคุณจะเมตตา...” จีอาน่าส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปอ้อนหนุ่มหล่อ เพราะเมื่อคืนเธอโยนมือถือและกระเป๋าเงินทิ้งลงแม่น้ำไปหมดแล้ว
“โอเค ผมจะขับรถพาคุณไปเลือกซื้อเสื้อผ้าในแบบที่ชอบ แล้วก็แวะซื้อของมาใส่ตู้เย็นเพิ่ม”
“ขอบคุณค่ะ” จีอาน่ายิ้มรับอย่างดีใจ
“คุณตามผมไปที่ห้องนอน เดี๋ยวจะหาชุดใหม่ให้เปลี่ยน” จอมพลบอกพร้อมกับเตรียมจะออกเดิน แต่สายตาของเขาก็ดันเหลือบไปเห็นบางอย่างเข้าพอดี!
พรึ่บ!
“อ๊ะ!” จีอาน่าร้องอุทานอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆ ผ้าถุงที่ใส่อยู่ก็หล่นลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้า จอมพลถึงกับยืนตาค้างอย่างตกตะลึง
“กรี๊ดดดด ห้ามมองนะ!” เธอส่งเสียงกรีดร้อง และสั่งให้เขาหันไปทางอื่น
จอมพลรีบเบือนหน้าหนี พร้อมกับพยายามจะกลั้นหัวเราะ แต่ก็อดไม่ได้ จึงต้องระเบิดเสียงออกมา “ฮ่าๆๆๆ”
“นี่คุณ!” จีอาน่าต่อว่าพลางรีบดึงผ้าถุงขึ้นมาผูกที่เอวด้วยสีหน้าแดงก่ำ
“ขอโทษๆ สงสัยลูกน้องผมจะซื้อกางเกงในมาให้คุณผิดไซซ์” จอมพลพยายามจะลบภาพเมื่อครู่ออก แต่ก็ทำไม่สำเร็จ แถมมันยังวิ่งเข้ามาฉายซ้ำในม่านตาแทบจะทุกๆ สองวินาที ‘พระเจ้า! ไอ้ผ้าถุงหลุดน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้กางเกงในสีแดงที่มีหนังยางมัดจุกตรงเอวนี่สิ โคตรจะติดตาเลย!’
“กรี๊ดดดด คุณเห็นของฉัน” จีอาน่ากรีดร้องน้ำตาคลอหน่วย
“หึๆ ผมเห็นคุณมาหมดแล้วทุกซอกทุกมุมแหละจีอา เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะผมคือคนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณเมื่อคืนไง” จอมพลหันไปบอกหลังรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของสาวเจ้า
จีอาน่ารู้สึกอายจนอยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี ‘ทำไมไอ้คนบ้านี่ไม่ปล่อยให้เราตายๆ ไปซะนะ’
“ผมไม่บอกใครหรอก คุณสบายใจได้” จอมพลให้คำมั่น
“แต่ฉันอาย!” จีอาน่าบอกด้วยสีหน้าตึงๆ
“ผมให้สัญญา” จากที่ขำแบบที่ไม่เคยขำใครขนาดนี้มาก่อน แต่พอได้เห็นใบหน้างามบูดบึ้ง ก็อดสงสารไม่ได้
“...” จีอาน่ายืนจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยสายตาขวางๆ
“นี่ก็เกือบจะบ่ายสามโมงแล้วนะ คุณจะยืนส่งสายตาพิฆาตอยู่ตรงนั้นไปถึงเมื่อไหร่จีอา ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปข้างนอกกันเถอะ”
จีอาน่าไม่ตอบแต่เดินตรงเข้าไปในห้องนอนของอีกฝ่าย ด้วยสีหน้าตึงๆ ทั้งโกรธ ทั้งอาย แต่ก็ต้องทำตามที่เขาบอก เพราะเธอไม่อยากจะใส่ผ้าถุงบ้าๆ นี่อีกแม้แต่วินาทีเดียว แถมกางเกงในสไตล์คุณยายที่ใหญ่เว่อร์วังสีแดงเจ็บจี๊ดน่าเกลียดตัวนี้ ก็ทำให้เธออยากจะกัดลิ้นดิ้นตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอด