Episode-๐๘ ความสัมพันธ์แบบร้านเหล้า

1905 Words
“ใครสั่งใครสอนให้จีบคนที่ยังลืมแฟนเก่าไม่ได้วะ” “จีบคนที่ยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ยังไม่น่ากลัวเท่ากับจีบคนที่เขารักตัวเองเลยนะ เขารู้ว่าต้องใช้ชีวิตยังไงและใช้ชีวิตคนเดียวได้เก่ง การมีแฟนสำหรับเขาคือมันต้องดีกว่าอยู่คนเดียว” “รู้แบบนี้แล้วมึงก็ยังยืนยันที่จีบ ?” “ก็ชอบ...น่ารัก!” “อาการนี้น่าจะเรียกว่าหลงเด็กนะไม่น่าจะเป็นแค่ความชอบ” “ก็ถ้าเด็กมันน่าหลงก็หลงเถอะ” “ฮั่นแน่...” ไม่ได้สนใจเสียงเอ่ยแซวของเพื่อนสักเท่าไหร่เพราะเอาแต่มองคนตัวเล็กที่อยู่โต๊ะข้าง ๆ “มองขนาดนี้ไม่ไปนั่งด้วยเลยวะ” ไอ้โฮปกระแนะกระแหนต่อ “นั่งอะไรมึง น้องเขาชื่ออะไรมันรู้หรือยังเหอะ” ไอ้ยิวก็เอาด้วยอีกคน “เพียงฝัน” น้องชื่อเพียงฝันครับผมไปสืบมาแล้ว “เชี่ย! ไอ้แบบนี่มึงเอาจริงเหรอ” “ตายแล้ว... เพื่อนกูหลงเด็กเหรอเนี่ย” น้ำเสียงของมันสองคนเหมือนไม่ค่อยเชื่อครับแต่เชื่อเถอะเพราะผมจะจีบจริง ๆ “ไม่เห็นแปลกเลย น้องก็น่ารักดี” “น้องน่ะไม่แปลกแต่มึงน่ะแปลก” “กูแปลกยังไง” “เอาตรง ๆ นะ พวกกูชินกับออกแบบคนที่หน้านิ่ง ๆ ไม่ยิ้มพร่ำเพรื่อให้คนที่ไม่รู้จักอะ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กจนอายุจะแตะเลขสามอยู่ปีสองปีนี้แล้วกูยังไม่เคยเห็นมึงคิดจะจีบใครสักที ขนาดปิ่นก็ยังเป็นฝ่ายจีบมึงก่อน” “ไม่รู้ว่ะ อธิบายไม่ถูก” บอกออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง ก่อนหน้านี้ผมเจอน้องหลายครั้งแล้ว เราบังเอิญเจอกันบ่อยมากแต่น้องไม่รู้จักผมและตอนนั้นเจ้าตัวเขามีแฟนด้วยแหละ ผมก็ไม่ได้อะไรแค่ตามกดหัวใจให้ในโซเชียล ไม่เคยทักไปคุยหรือคอมเมนต์อะไรเลยครับ เป็นแค่เพื่อนในโลกออนไลน์เท่านั้นเอง อยู่มาวันหนึ่งสถานะโสดมันขึ้นหน้าฟีดตามด้วยโปรไฟล์สีดำสไตล์คนอกหัก ด้วยความที่แอบมองเป็นทุนเดิมอยู่แล้วผมก็ส่องและติดตามมาตลอดว่าเลิกจริงไหมหรือแค่งอนกันเฉย ๆ ปรากฏว่าครั้งนี้ยุติความสัมพันธ์จริงครับ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่กล้าทักไป ไม่รู้จะเริ่มยังไงด้วยซ้ำ กระทั่งวันหนึ่งเธอมาส่งของนั่นแหละความกล้าของผมมันถึงมีมากขึ้น ถ้าไม่แสดงตัวตอนนี้ก็คงต้องแก่ตายคนเดียวแล้ว “มิลล์บอกกูว่าปิ่นจะย้ายกลับมาแล้วนะ” มิลล์คือเพื่อนผมนี่แหละแล้วก็เป็นแฟนไอ้ยิว ปิ่นที่กำลังพูดถึงนี้คืออดีตคนเคยรักของผมเองเราจบกันไม่ดีสักเท่าไหร่ “ถ้ากูดูตารางงานมาไม่ผิดโครงการหน้าเราจะได้ร่วมงานกันด้วยนะ” “อืม” “อืม ?” “ทำไม ? มึงอยากได้คำตอบแบบไหนเหรองานก็ส่วนงานเรื่องส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัวโตแล้วแยกแยะหน่อย” “เนี่ย! มันต้องแบบนี้พี่ออกแบบที่กูรู้จัก” ไอ้โฮปพูดแทรกขึ้นก่อนจะสะกิดผมแล้วพูดต่อ “เรื่องอื่นช่างมันก่อนตอนนี้กูอยากเห็นเพื่อนมีความรักอีกครั้ง” “ยัง... รอก่อน” “รออะไรวะ” “รอเขาจัดการความรู้สึกตัวเองให้ได้ก่อน” คนเราต้องมีระยะห่างครับ ผมรู้จักน้องมาสักระยะหนึ่งแล้วก็จริงแต่อย่าลืมสิว่าน้องไม่รู้จักผม “จริงด้วยแฮะ กูก็ลืมไปว่ามันมีกฎข้อนี้อยู่ที่บอกว่าอย่าเพิ่งคบกับคนที่เพิ่งเลิกกับแฟนถ้าไม่อยากเป็นตัวแทนของใคร” “ไร้สาระ! คนเรามันแทนกันได้ที่ไหน” ไม่มีใครแทนใครได้หรอกมีเยอะแยะที่เลิกกันเพราะคนเก่ากลับมา แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่ผมแน่นอนเพราะก่อนจะยุติความสัมพันธ์มันก็ต้องผ่านช่วงเวลาที่สุดของที่สุดมาหมดแล้ว ยื้อให้นานที่สุด อดทนให้มากที่สุด เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรต้องนึกเสียดายหรือทิ้งอะไรเพื่อถอยกลับไปหากันอีกจบก็คือจบ ดื่มต่ออีกพักหนึ่งก็กลับครับเพราะอีกสองสามวันผมต้องไปหน้างานที่ชลบุรีเวลาพักมีไม่มากแล้วแต่ก็บ่นไม่ได้เพราะเลือกเอง ผมมีพี่สาวสองคน คนโตเป็นผู้จัดการฝ่ายขายกับบริษัทเอกชนแต่งงานมีครอบครัวแล้ว คนรองเป็นแอร์โฮสเตสที่นาน ๆ จะได้กลับบ้านสักทีทั้งบ้านเลยเหลือแค่พ่อกับแม่เพราะตัวผมเองก็อยู่หน้างานเป็นส่วนใหญ่ ชีวิตวิศวกรก็แบบนี้ เช็คบิลเสร็จออกมาบังเอิญเจอน้องกับเพื่อนที่ลานจอดรถครับ ผมแค่มองแล้วยิ้มให้ไม่ได้พูดอะไรซึ่งเธอเองก็มองเหมือนกันแต่เป็นสีหน้าเรียบนิ่งนะ “ไม่ทักเหรอวะ” “ทักแล้ว” “แค่นี้นะเรียกว่าทักแล้ว ความสัมพันธ์อะไรของมึง ความสัมพันธ์แบบร้านเหล้าเหรอ” “เออ” มันสองคนถึงกับส่ายหน้าให้ครับ เรื่องอะไรจะบอกว่าแอบหยอดมาหลายครั้งแล้ว หลายวันผ่านไป ผมมาหน้างานที่ชลบุรีแล้ว เป็นรีสอร์ตที่กำลังจะเปิดใหม่ภายในสิ้นปีนี้ วิวดีติดชายทะเล “โน่นก็ไม่ลงตัวนี่ก็ไม่ลงตัว เหนื่อยฉิบหายเลยทำงานกับคนเรื่องมาก” ไอ้ยิวบ่นพลางทิ้งตัวลงนอนอย่างเหนื่อยหน่าย “แก้ปัญหาด้วยการหาของอร่อยกินแล้วนอนพัก” “ไอ้แบบกูกำลังจริงจังอยู่นะ” “กูก็จริงจังอยู่นี่ไง งานก็มีปัญหาทั้งนั้นแหละมึงเลิกบ่นเถอะ” “มึงแม่งใช้ความเงียบสยบทุกเรื่องเลยจริง ๆ ช่วยมีมนุษย์สัมพันธ์หน่อยครับด่าได้ก็ด่าเถอะกับบางคนไม่จำเป็นต้องใช้ความอดทนโว้ย!” ... : ฮ่า ๆ “แอลกอฮอล์เท่านั้นที่จะเยียวยาทุกอย่าง” “เออ” ช่วงหัวค่ำก็พากันมายังร้านนั่งชิวที่อยู่ระแวกบ้านพักนั่นแหละ บรรยากาศก็ร้านเหล้าทั่วไปครับแต่นักท่องเที่ยวจะเยอะเป็นพิเศษ “เฮ้ย! นั่นมัน...” เหมือนไอ้โฮปจะพูดอะไรแต่มันก็เงียบไปอีกก่อนจะหันมาพูดกับผม “กูตาฝาดหรือกูเมาแล้ว” “อะไรของมึง” “ข้างหลังมึงถัดจากเราไปสามโต๊ะหน้าเหมือนสาวน้อยของมึงเลยไอ้แบบ นั่นเขาเดินไปทางห้องน้ำแล้ว” มองตามที่มันบอกก็เห็นหลังไว ๆ ครับ “เดี๋ยวกูไปดูเอง” จบประโยคก็เดินตามออกมาเลย ไม่แน่ใจว่าใช่ไหมแต่ความรู้สึกผมมันบอกว่าใช่ มาถึงบริเวณห้องน้ำคนเยอะพอสมควรครับ กวาดสายตาไปรอบบริเวณจนเห็นใครบางคนยืนอยู่ด้านหน้าซึ่งเป็นน้องจริง ๆ ไอ้โฮปไม่ได้เมา น้องกำลังพูดคุยกับผู้ชายคนหนึ่งไม่แน่ใจว่ารู้จักหรือมาด้วยกันไหมแต่เมื่อกี้ที่เห็นผมว่าเขามากับน้องผู้หญิงนะ มองชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเกิดเหตุการณ์ฉุดกระชากกันขึ้นเห็นแบบนั้นผมจึงเดินเข้าไปซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่น้องผู้หญิงเดินออกมาพอดี “โทษนะมีอะไรให้ช่วยไหมครับ” “เขาจะลวนลามเพื่อนหนูค่ะ” น้ำเสียงใสเอ่ยพลางชี้มือไปยังใครอีกคน “ยังไม่ได้ทำอะไรเลยน้องอย่าพูดพล่อย ๆ สิครับเดี๋ยวแฟนพี่เข้าใจผิด” “ไหนคะแฟน ? เรียกมาเลยค่ะเดี๋ยวก็รู้ว่าเข้าใจผิดหรือเข้าใจถูก” ปลายนิ้วเรียวชี้หน้าอย่างเอาเรื่องแถมยังตวาดเสียงดังเพื่อให้ผู้คนได้ยินแล้วหันมาสนใจเหตุการณ์ แน่นอนครับว่าวิธีของเธอมันได้ผลหมอนั่นมันเดินจากไปทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เข้าใจเอาตัวรอดดีแฮะ “เพียงฝันเธอไหวไหม” “ไหว ขออ้วกแป๊บหนึ่ง” จบประโยคก็พากันเข้าห้องน้ำไป ราวครึ่งชั่วโมงก็ประคองกันออกมาดูท่าทางเมาไม่เหลือสติด้วยซ้ำแต่ยังดีที่เพื่อนคอยดูแลอยู่ “ให้พี่ช่วยไหมครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะเรื่องเมื่อกี้” เธอว่าพลางก้มศีรษะให้เล็กน้อยเป็นการขอบคุณ “ไม่เป็นไรพี่เห็นแต่ทีแรกแล้วคิดว่าเป็นแฟนกันทะเลาะกันเลยดูอยู่ห่าง ๆ” “ไม่ใช่ค่ะ เพื่อนหนูไม่มีแฟนหรอกขอบคุณอีกครั้งนะคะ” “ครับ แล้ว...” “ออกแบบครับ! พวกกูเห็นนะ ฮั่นแน่...” ไอ้โฮปกับไอ้ยิวครับ “สัส! กูอุตส่าห์มีโอกาสได้คุย” หันไปด่าพวกมันเพราะเสียงเอ่ยแซวทำให้คำพูดของผมขาดหายไปแถมน้องคนนั้นก็พาเพียงฝันกลับโต๊ะไปแล้วด้วย “เมายับขนาดนั้นมึงยังคุยรู้เรื่องอีกเหรอ” “เออ หรือมึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นน้องคนเมื่อกี้แทนแล้ว” “เฮ้อ!! คุยกับพวกมึงแล้วเหนื่อย” “ขอโทษได้ไหมล่ะเดี๋ยวกูสองคนจะหาโอกาสดี ๆ มาชดใช้” ไอ้ยิวว่ายิ้ม ๆ พลางเดินมากอดคอผม “ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดสาวน้อยของมึงพักอยู่บ้านข้าง ๆ พวกเรานะ กูเห็นอยู่แต่คิดว่าคงตาฝาดจนไอ้โฮปทักแล้วมึงมาเจอนี่แหละ” “พระเจ้า... นี่มันพรหมลิขิตชัด ๆ เลย” “...” เช้าอีกวันก็ออกไปทำงานตามปกติ ดื่มได้เที่ยวได้ก็ต้องทำงานได้ด้วย ตลอดทั้งวันไม่ได้สนใจเรื่องไหนเลยนอกจากงานตรงหน้า เป็นอยู่แบบนั้นกระทั่งหมดวันนั่นแหละ “อื้อหือ! ทะเลขาวมาก” “มีมารยาทด้วยครับอย่าแซวเรื่อยเปื่อยทุกคนเขาใช้ชีวิตตามปกติ” “มึงเงยหน้ามองก่อนค่อยว่ากู” ไม่พูดเปล่าไอ้ยิวมันยังจับผมหันไปทางชายหาดอีกด้วย “กูบอกแล้วว่าจะหาโอกาสมาชดเชยให้ ฮ่า ๆ” “ว่าแต่ชื่อน้องอะไรนะ” “อยากรู้มึงก็ไปถามสิ” “จัดให้ครับ” จบประโยคไอ้โฮปก็เดินตรงไปทางเพียงฝันทันทีซึ่งน้องไม่ได้อยู่คนเดียวครับแต่ความใจกล้าหน้าด้านของเพื่อนผมมีเยอะมันเลยไม่แคร์อะไร “มันคุยอะไรวะจะถูกต่อยไหมเนี่ย” “มึงคิดเหมือนกูเลย” ปากพูดกับไอ้ยิวก็จริงแต่สายตาก็ยังคงจ้องมองไปที่ใครอีกคนอยู่ตลอด “น้องเขามองมึงด้วย” “มึงสนใจสายตาของพี่ชายเขาดีกว่า” “พี่ชาย ? เดี๋ยวนะไอ้แบบนี่มึงไปสืบประวัติโคตรเหง้าเขามาแล้วเหรอเนี่ย” “สนใจเขาก็ควรสนใจคนรอบข้างเขาด้วยสิ” “สุดยอด! ข้าน้อยขอคารวะ” แค่เพียงไม่นานไอ้โฮปก็เดินกลับมาพร้อมรอยยิ้มแสนกวนส้นตีน “น้องเขาบอกว่าเพื่อนหนูชื่อเพียงฝันค่ะโสดแต่ยังจีบไม่ได้เพราะว่าพี่ชายหวงมาก แต่ดูท่าแล้วหวงจริงแทบจะหักคอกูอยู่แล้ว” “ฮ่า ๆ กูให้ไปถามสาวน้อยคนนั้นเสือกไปถามอีกคน” “กูถามแล้วน้องมันย้อนมาว่าคนที่ให้มาถามชื่ออะไรกูก็เลยเสนอหน้าบอกไปว่าเพื่อนพี่ชื่อออกแบบครับ” “ขี้เสือกกันจริง ๆ” “ไม่ได้หรอก เรื่องของเพื่อนก็เหมือนเรื่องของกู”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD