Pimmada’ s Part.
Prom night party
“และคนที่ได้ตำแหน่งของรุ่นในงานพรอมปีนี้ได้แก่…” พิธีกรชายลากเสียงยาวให้แขกในงานได้มีส่วนร่วมในการลุ้นกับการประกาศรางวัลในครั้งนี้
“เป็นใครไปไม่ได้ค่ะ ขอเสียงปรบมือให้กับนางฟ้าประจำรุ่นของเรา พิมมาดาค่า!!” พิธีกรหญิงประกาศชื่อผู้ที่ได้รับตำแหน่งนางฟ้าของปีนี้ เรียกเสียงปรบมือและเสียงเชียร์จากแขกในงานได้เป็นอย่างดี
“สมมงจริง ๆ นะครับ สวยหวานละมุนตุ้นไปหมด ผมนี่เคลิ้มไปกับนางฟ้าประจำรุ่นของเราจริง ๆ ครับ”
“อย่าเสียงดังไปนะคะ วันนี้แฟนตัวจริงของนางฟ้าก็มาด้วย” พิธีกรหญิงรีบแซวเมื่อเห็นกล้องตัดภาพไปที่คามินที่กำลังยกแก้วเหล้าเป็นการทักทายกล้อง รอยยิ้มที่ดูดิบเถื่อนนั่นเรียกเสียงกรี๊ดจากนักเรียนหญิงภายในงานได้สนั่นห้องบอลรูม
พิมมาดาเดินขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีด้วยความเคอะเขิน สายตานับสองร้อยคู่ที่จับจ้องเธอ ทำเอาเธอตัวหดเหลือสองนิ้ว แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังตั้งใจทำให้งานนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี ด้วยการฉีกยิ้มแล้วก้าวเดินอย่างมั่นใจขึ้นไปรับปีกนางฟ้าและมงกุฎประจำตำแหน่ง
“ตื่นเต้นเหรอ มือเย็นเชียว” คามินเอ่ยถามพร้อมคลี่ยิ้ม หลังจากที่เดินไปรับแฟนสาวลงจากเวทีแล้ว หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เพียงแค่ส่งรอยยิ้มบาง ๆ ให้แฟนหนุ่มกลับไปเท่านั้น
“รางวัลต่อไป เป็นรางวัลคิงออฟพรอม ได้แก่…คุณสามภพครับ!” พิธีกรชายประกาศชื่อผู้ได้รับรางวัลต่อไป “และรางวัลอัศวินดำของรุ่น ได้แก่...คุณทีสองครับ” เสียงกรี๊ดดังสนั่นเมื่อทั้งสองคนเดินกอดคอกันขึ้นมารับรางวัลบนเวที ออร่าที่เปล่งออกมาจากตัวชายหนุ่มเหมือนกับบอยแบนด์เกาหลีที่กำลังขึ้นมาแสดงคอนเสิร์ตบนเวที
“รางวัลต่อไปนะคะ เป็นรางวัลที่ผู้หญิงหลายคนไม่ค่อยอยากได้สักเท่าไหร่ รางวัลนางร้ายของรุ่นนะคะ ขอเชิญคุณไอรินขึ้นมารับรางวัลค่า” พิธีกรหญิงเรียกชื่อหญิงสาวที่สวมชุดเดรสสีแดงเว้าหน้า อวดเต้างามทั้งสองข้างเรียกสายตาของผู้ชายในงานให้จับจ้องมัน
“ว่าไงครับ คุณครูนางฟ้า” วายุ เอ่ยแซวเพื่อนสาวที่เพิ่งได้รับรางวัลนางฟ้าประจำรุ่น
“พิมยังไม่ได้เป็นครูสักหน่อย วายุก็พูดเกินไปแล้ว” แก้มใสขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกแซว ท่าทางเขินอายนั่นตกให้คนที่กำลังมองเธออยู่ละลายไปตาม ๆ กัน
“ถ้าพิมเป็นครูนะ ภพจะจองให้พิมเป็นครูประจำตัวลูกภพในอนาคตเลย” สามภพเดินเข้ามาสมทบ
“หาเมียให้ได้ก่อนเถอะมึงอะ” คามินแค่นหัวเราะ
“จำไว้นะมึง!” สามภพหันไปชี้หน้าเพื่อนสนิทอย่างคาดโทษ กล้าดียังไงมาจี้ปมในใจเขาแบบนี้
“ดีจัง กลุ่มเราได้เข้ามหาลัยเดียวกันหมดเลย” สามภพเอ่ย
“จริงจ้ะ ทุกคนเก่งกันมาก ๆ เลยนะ มาฉลองกันหน่อยเร็ว” พิมมาดายื่นแก้วน้ำส้มของตัวเองไปตรงหน้า หมายจะให้คนอื่น ๆ ชนแก้วด้วยกัน
“นางฟ้าของรุ่นชวนดื่มแบบนี้ ก็ชนสิครับ” วายุยิ้มรื่นก่อนจะยกแก้วเหล้าชนกับแก้วน้ำส้มของพิมมาดา ทำให้คนอื่น ๆ ยกแก้วชนต่อ ๆ กัน
ราเชนทร์ที่เพิ่งทำหน้าที่พิธีกรเสร็จ เดินเข้ามาพร้อมกับสาวอรชรในเดรสสีแดง ไอริน เจ้าของตำแหน่งนางร้ายของรุ่นนั่นแหละ
“ไม่เคยมีใครคิดจะรอกูเลยเหรอ” ชายหนุ่มตีหน้าบึ้งเมื่อเห็นทุกคนเริ่มดื่มกันแล้ว
“เสือกเสนอหน้าไปเป็นพิธีกรเองหนิ” คามินว่าให้
“จะมีสักวันไหมวะ ที่มึงจะไม่ควงสาวนมโต ๆ ไว้ข้างตัวอะ ไอ้ราเชนทร์” สามภพเริ่มกระแนะกระแหนเมื่อเห็นคนเป็นเพื่อนหันไปนัวเนียกับผู้หญิงที่เพิ่งพามาด้วย
“ไว้รอมึงมีเมียก่อนนะ กูจะเลิกให้” ไม่วายที่ราเชนทร์จะตอกกลับปมด้อยของเพื่อนให้เจ็บใจเล่น ๆ
“พิมอยากกินอะไรไหม เดี๋ยวเราไปตักให้” คามินรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอดแนบอก ก่อนจะกระซิบข้างใบหูเล็ก
“ไม่เอาดีกว่า พิมกินไปเยอะแล้ว เดี๋ยวอ้วน” หญิงสาวส่ายหน้าเล็ก ๆ
“เราอยากให้พิมอ้วนแย่ละ สวยแบบนี้ผู้ชายคนอื่นชอบมอง เราเบื่อ” คามินพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง พลางกวาดสายตามองไปยังพวกผู้ชายที่ชอบมองแฟนตัวเอง
“แต่พิมรักคามินคนเดียวน้า” ลูกอ้อนของพิมมาดา ต่อให้เป็นเสือยิ้มยากแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องยิ้มละลายให้กับความน่ารักของเธอทุกคน
“อือ เราก็จะรักพิมคนเดียวตลอดไปเลย”
ร้านสัก Evil tattoo
“พิมชอบดอกกุหลาบเเหรอ” คามินหันไปถามแฟนสาวที่เอาแต่นั่งมองลายสักรูปดอกกุหลาบ
“อื้อ ชอบมากเลย” พิมมาดาตอบพร้อมรอยยิ้ม
“งั้นเราจะสักรูปดอกกุหลาบที่พิมชอบไว้ตรงนี้นะ” ชายหนุ่มชี้ไปที่ต้นคอของตัวเอง “เราอยากให้สิ่งที่พิมชอบติดตัวเราไปทุกที่”
“ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย รู้ใช่ไหมว่ารอยสักมันติดตัวไปตลอดชีวิตนะ ลบไม่ได้ด้วย” พิมมาดาเตือนสติคนที่เหมือนจะคลั่งรักจนเกินพอดี ทำอะไรให้เธอ เธอยินดีรับไว้ทุกอย่าง แต่นี่มันเกินไปแล้ว
“รอยสักมันก็เหมือนแผลเป็นนั่นแหละ มองทีไรก็จะนึกถึงต้นเหตุของมันอยู่ตลอดเวลา”
“แต่ไม่เห็นจะเกี่ยวเลยนี่นา ว่าพิมชอบหรือไม่ชอบอะไร”
“เราจะได้จำได้ไงว่าพิมชอบอะไรบ้าง สักชื่อพิมด้วย โอเคไหม” คามินหันไปถามแฟนสาวอีกครั้ง
“สักได้แต่ดอกกุหลาบนะ พิมไม่อนุญาตให้มินสักชื่อพิมลงบนร่างกายเด็ดขาด” พิมมาดาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ทำไมล่ะ ทุกคนจะได้รู้ไงว่าเราเป็นของพิม”
“มันไม่ดี พิมได้ยินมาว่าถ้าสักชื่อแฟนลงบนร่างกาย ไม่นานก็จะเลิกกัน”
“จริงครับ ลูกค้าพี่สักชื่อแฟนไปยี่สิบคน กลับมาให้พี่ลบสิบเก้าคน” ช่างสักที่กำลังเตรียมอุปกรณ์หัวเราะเบา ๆ
“พิมเชื่ออะไรแบบนี้ด้วยหรือไง” คามินหัวเราะน้อย ๆ ให้กับความเชื่อแปลก ๆ ของแฟนตัวเอง
“เชื่อสิ เพื่อความสบายใจของพิม มินทำให้พิมได้หรือเปล่า”
ณ คอนโดพิมมาดา
เนื่องจากพ่อเสียไป และแม่ไปมีครอบครัวใหม่ที่ต่างประเทศ พิมมาดาจึงต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ให้ก่อนตายก็ค่อย ๆ หมดไปเรื่อย ๆ จะมีก็เป็นเงินของแม่ที่ส่งมาให้ใช้บ้างในแต่ละเดือน
“วันนี้แม่โทรมาหรือยัง”
“โทรมาแล้ว วันนี้พิมบอกแม่ว่ามินจะมานอนเป็นเพื่อน แม่เลยโล่งอกเพราะกลัวว่าพิมอยู่คนเดียวนาน ๆ เข้าแล้วจะเหงา” คนตัวเล็กคลี่ยิ้มให้กับคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงในชุดนอนลายสก็อตสีน้ำเงิน กับผมหน้าม้าที่เปียกลู่ลงมาจนปรกหน้าผาก ทำเอาพิมมาดาแก้มร้อนเห่อขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
คามินมักจะนอนที่โซฟาทุกครั้งเวลาที่มาอยู่เป็นเพื่อนพิมมาดาที่คอนโด เขาไม่เคยล่วงล้ำหรือทำอะไรที่ทำให้พิมมาดารู้สึกอึดอัดใจเลยแม้แต่น้อย เพราะอย่างนี้ เธอจึงไว้ใจแฟนหนุ่มมาก