“มาครบแล้วนะครับ ผมขอเปิดพินัยกรรมของคุณจักรพันธ์และคุณวลัยภรณ์นะครับ” คุณพิเชษฐ์ทนายประจำตระกูลได้เอ่ยออกมา หลังจากที่ตวิษาและแดนไทยนั่งอยู่ในห้องเรียบร้อยแล้ว แต่ตวิษาก็ไม่เข้าใจว่าคุณพิเชษฐ์จะเรียกเธอเข้ามาทำไม ในเมื่อเธอคงไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการเปิดพินัยกรรมฉบับนี้ เพราะเธอเป็นเพียงบุตรบุญธรรมของท่านทั้งสอง
“ครับ เชิญคุณพิเชษฐ์อ่านได้เลย” แดนไทยกล่าวเสียงเรียบ เขาคิดว่าบิดามารดาคงยกทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่ให้เขา และคงมีบางส่วนที่ยกให้ตวิษา แต่เขาก็ไม่ได้ไม่พอใจอย่างใด เพราะที่ผ่านมาเขาคิดว่าตวิษาเป็นคนในครอบครัวของเขาเป็นน้องสาวของเขา มันก็คงจะไม่ผิดอะไร ถ้าบิดามารดาจะยกทรัพย์สมบัติบางส่วนให้เธอ
“ครับ” ทนายพิเชษฐ์อ่านข้อความในพินัยกรรมของท่านทั้งสองอย่างช้าๆ แต่เนื้อความในพินัยกรรมนั้นมีเพียงเล็กน้อย และพินัยกรรมของท่านทั้งสองก็มีเนื้อหาและใจความที่เหมือนกัน ทำให้คุณพิเชษฐ์อ่านจบอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อทั้งสองได้รู้เนื้อความของพินัยกรรม ตวิษาถึงหน้าเสียด้วยความตกใจ ในขณะที่สายตาของแดนไทยที่มองมาที่เธอเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขากำลังมองว่าหญิงสาวหลอกล่อให้บิดามารดาทำเช่นนี้ ซึ่งมันไม่ยุติธรรมกับเขาเลยสักนิด มันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่เขาจะแต่งงานกับตวิษาซึ่งเขามองเธอเป็นเพียงน้องสาวตลอดเวลาที่ผ่านมา
ในขณะที่ตวิษาก็อยากอธิบายเหลือเกินว่าเธอไม่เคยรู้เลยว่าท่านทั้งสองจะทำพินัยกรรมเช่นนี้ โดยเนื้อความในพินัยกรรมระบุว่า หากทั้งสองไม่แต่งงานกัน ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของพวกท่านทั้งสองจะยกให้กับองค์กรการกุศล นั่นเท่ากับว่าถ้าแดนไทยไม่ยอมแต่งงานกับตวิษา เขาจะไม่เหลือสมบัติอะไรเลย
“เราเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมฉบับนี้ได้มั้ยครับคุณพิเชษฐ์” แดนไทยรู้ดีว่าคำถามเหล่านี้มันเป็นคำถามโง่ๆ แต่เขาก็ไม่อยากจะทำตามที่พินัยกรรมต้องการ เขาไม่ได้รักตวิษาในฐานะคนรัก เขารักเธอในฐานะน้องสาว และถ้าเลือกได้เขาก็ไม่อยากแต่งงานกับเธอ