“หนูไม่กล้าหรอกค่ะ” เด็กน้อยตอบกลับด้วยความเกรงใจ คนจนๆ อย่างเธอจะกล้าไปเป็นลูกของเศรษฐีอย่างเศรษฐีใจดีทั้งสองคนนี่ได้ยังไง
“ไม่ต้องกลัว ฉันจะดูแลหนูต่อจากแม่ของหนูเอง หนูอยู่ที่นี่หนูจะมีครอบครัวที่อบอุ่นฉันสัญญา” คุณวลัยภรณ์เอ่ยอีกครั้ง นั่นทำให้เด็กน้อยพยักหน้ารับ เพราะว่าเธอมองไม่เห็นทางเลยว่าเมื่อไม่มีมารดาแล้ว เธอจะสามารถใช้ชีวิตในบ้านที่มีเพียงเพิงสังกะสีเพียงคนเดียวได้อย่างไร
“ต่อไปนี้หนูคือคุณหนูตาว ลูกสาวของฉันและคุณวลัยภรณ์” คุณจักรพันธ์กล่าวด้วยความยินดี แม้ว่าทุกอย่างมันจะรวดเร็วไปหมด แต่เพราะท่านทั้งสองอยากมีลูกสาว แต่เพราะมดลูกของคุณวลัยภรณ์มีปัญหาทำให้ท่านไม่สามารถมีบุตรอีกได้ ทำให้ทั้งคู่มีทายาทสืบสกุลคนเดียวนั่นก็คือแดนไทย การได้ลูกสาวมาแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ มันราวกับของขวัญที่ถูกส่งมาจากเบื้องบนเลยทีเดียว
นั่นเป็นเรื่องราวที่ทำให้ชีวิตของตวิษาพลิกผันในชั่ววัน จากลูกสาวคนเก็บขยะขาย ตอนนี้กลายมาเป็นคุณหนูของบ้านที่มีพร้อมทุกอย่าง รวมถึงการมีพี่ชายที่รักและเอาใจใส่เธออย่างแดนไทย แต่ตวิษาก็ไม่เคยลืมมารดาผู้ให้กำเนิด ผู้เป็นทุกอย่างสำหรับเธอ เธอยังคงใส่บาตรให้ท่านทุกเช้า
ซึ่งคุณวลัยภรณ์ก็ไม่ได้ขัดอย่างใด ท่านกลับดีใจเสียอีกที่เด็กสาวที่ท่านรับมาเป็นบุตรบุญธรรมนั้นเป็นคนจิตใจดี และเป็นคนดี และยิ่งการได้เลี้ยงดูเธอมาทำให้คุณวลัยภรณ์และคุณจักรพันธ์รักเธอราวกับบุตรสาวแท้ๆ ส่วนแดนไทยก็เช่นกัน เขารักและปกป้องเธอ อย่างที่พี่ชายคนหนึ่งจะทำ ตอนนี้ตวิษามีความสุขกับชีวิตเป็นอย่างมาก
แต่แล้วความสุขมันก็อยู่กับคนเราได้ไม่นาน หลังจากที่ตวิษาเรียนจบ คุณวลัยภรณ์และคุณจักรพันธ์ก็พาบุตรสาวไปเที่ยวจังหวัดทางภาคใต้ ซึ่งแดนไทยก็ติดงานด่วนต้องเดินทางไปต่างประเทศทำให้เขาไม่สามารถไปร่วมฉลองกับครอบครัวได้
แน่นอนว่าทุกอย่างถูกลิขิตเอาไว้หมดแล้ว รถยนต์ที่ทั้งสามคนโดยสารระหว่างที่ไปเที่ยวจังหวัดทางภาคใต้เกิดประสบออุบัติเหตุ คนที่รอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้มีเพียงตวิษาคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้หัวใจของหญิงสาวแตกสลายอย่างหนัก เมื่อเธอต้องสูญเสียบิดามารดาพร้อมกัน เธอรักท่านทั้งสองราวกับบิดารมารดาของเธอจริงๆ แต่สวรรค์ก็มาพรากพวกท่านไปอีกแล้ว
เธอเหลือเพียงแดนไทยคนเดียวเท่านั้นที่เป็นหลักยึดเหนี่ยวให้เธอ เมื่อแดนไทยบินกลับมาที่เมืองไทยอย่างเร่งด่วน ทันทีที่ถึงงานศพของบิดามารดา เขากอดตวิษาเพื่อปลอบใจ ในขณะที่ดวงตาที่บอบช้ำภายใต้แว่นดำก็กำลังเต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจ แต่เขาไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น เขาต้องเข้มแข็งเป็นหลักให้น้องสาวของเขา
“คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่กับเราแล้วพี่แดน” ตวิษาร้องไห้ภายใต้อ้อมกอดของพี่ชาย
“ท่านไปสบายแล้ว อย่าร้องไห้เลย ท่านจะเป็นห่วงเอาซะเปล่า” เสียงทุ้มปลอบผู้เป็นน้องสาว แม้ว่าจะเจ็บปวด แต่เขาก็ทำได้เพียงแอบร้องไห้เพียงลำพัง เขาไม่สามารถอ่อนแอให้ใครเห็นได้
“ค่ะ” น้ำเสียงที่อบอุ่น กับอ้อมกอดนี้ของแดนไทยทำให้ตวิษาคลายความเจ็บปวดลงได้บ้าง
ทั้งสองช่วยกันจัดงานศพของบิดามารดาอย่างสมเกียรติ ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติดีทุกอย่าง จนกระทั่งวันที่มีการเปิดพินัยกรรม นั่นทำให้ทุกอย่างในชีวิตตวิษาเปลี่ยนไปอีกครั้ง