วันรุ่งขึ้น 15.00 น.
ร่างแบบบางลืมตาขึ้นมาด้วยความเหนื่อยอ่อน รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวโดยเฉพาะบริเวณท้องน้อย และกลางกายสาว ดวงตาสีฟ้าสวย มองรอบตัว ก่อนจะหยุดลงที่ใบหน้าหล่อเหลา ของคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี
ชิบหาย!! เธอลากไอ้นี่มาตั้งแต่ตอนไหน แล้วสภาพเธอกับเขาตอนนี้ ไม่ต่างจากคนที่เพิ่งรบกันมาเลยสักนิด เสื้อผ้าเธอกับเขากระจัดกระจายกองอยู่ข้างเตียง ผ้าปูเตียงเธอยับย่นและมีบางส่วนมี่เปื้อนเลือด ผ้าห่มผืนใหญ่ของเธอส่วนหนึ่งร่วงไปกองอยู่ข้างเตียงฝั่งที่เธอนอน โดยที่เปิดเปลือยร่างของเขาสู่สายตาเธอ
อุจาดตาที่สุด ไอ้นี่มานอนเปลือยแบบนี้ได้ยังไง
สมองคิดประมวลผลด้วยความเร็ว เธอจำได้ว่าไปดื่มกับทิวาและมิน แล้วไหงไอ้คนที่อยู่ข้างห้อง ถึงได้มานอนอยู่ตรงนี้ แถมยังมีรอยแดงเต็มตัว เหมือนเพิ่งจะผ่านพ้นคืนวันอันแสนเหนื่อยล้า ไปพร้อมๆ กับเธอนั่นอีก
เท้าเล็กๆ ถีบคนที่นอนอยู่บนเตียงเต็มแรงๆ ร่างเปลือยเปล่าสวยงามตามแบบฉบับผู้ชายรักสุขภาพ กลิ้งตกลงไปข้างเตียง แต่เขาไม่ยักกะจะตื่นแฮะ แสดงว่าเขาน่าจะเมาเหมือนกัน
ร่างเล็กห่อตัวกับผ้าห่ม เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบกาย หยิบผ้าปูที่นอนใหม่มาเปลี่ยนให้เรียบร้อย ทำทุกอย่างเหมือนว่าเมื่อคืน ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ถ้าได้กับชาเบล ก็คงต้องให้มันเป็นเพียงเรื่องที่ผิดพลาดตอนเมานั่นแหละ
ร่างสวยของนางแบบสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยสภาพเรียบร้อย ชุดเสื้อยืดกางเกงขายาว ไม่ได้ทำให้เธอดูดีน้อยลงเลย อะไรที่อยู่บนตัวเธอ มันยิ่งขับให้เธอดูสวยสะดุดตา
ก็แหงละ เธอเป็นนางแบบหน้าใหม่ของเมืองไทย ที่เพิ่งจะดัง ถึงจะเพิ่งมีผลงาน เมื่อหนึ่งปี แต่ทุกงานของเธอล้วนแต่ดังเปรี้ยงปร้าง เป็นพลุแตก ด้วยหุ่นที่สูงเพรียว ใบหน้าลูกครึ่งสวยหวาน กับตาสีฟ้าอ่อน ผมสีเทาเกือบขาวก็โดดเด่นสะดุดตา ทุกอย่างบนตัวเธอจึงดูสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
แต่ก็ยังมีส่วนที่เธอยังไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก นั่นคือหน้าอก ถึงปกตินางแบบจะไม่ค่อยเน้นเรื่องขนาดหน้าอกเท่าไหร่นัก แต่เธอไม่ชอบใจหน้าอกตัวเองเลย มันเล็กจนรู้สึกเหมือนไม่มี ครั้นจะไปเสริมให้มันใหญ่ เธอก็ไม่อยากจะทำเพราะความกลัว หรือเธอจะไปทำบ้าง มันจะดีไหมนะ
คณิตา หรือควีน มองร่างตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่อีกครั้ง หลังออกมาจากห้องน้ำ เธอจะทำแบบนี้ทุกครั้ง เพราะเธอค่อยข้างที่จะอ่อนไหวเรื่องรูปร่าง เหมือนมันเป็นปมติดตัวไปซะแล้ว ส่วนไหนที่เธอไม่มั่นใจ เธอจะเข้าฟิตเนตจนกว่าส่วนนั้นจะถูกใจเธอ เพราะแบบนั้น เธอจึงมีหุ่นที่สวย และยอมรับว่ามันสวยด้วยน้ำแรงตัวเองทั้งนั้น
คณิตา เดินมาหยุดปลายเตียง ดีที่ก่อนจะไปอาบน้ำ เธอหาผ้าห่มมาปิดร่างอันแสนอุจาตตานั้นไว้ ไม่งั้นตาสีฟ้าสวยของเธอได้เจอภาพอันไม่น่ามอง ของผู้ชายที่กองอยู่ข้างเตียง เพราะผ่าเท้าเธอแน่ๆ
“ตื่น!” คณิตาใช้เท้าถีบไปบริเวณที่คิดว่าน่าจะเป็นร่างสูงใต้ผ้าห่ม ถีบซ้ำแรงๆ อีกสองสามที ร่างสูงที่กองอยู่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นสักนิด ตายแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้
“ตื่นเลย ชาเบล” เสียงหวานก้มลงไปตะโกนข้างหู ผู้ชายหน้าหล่อที่เธอรู้จักดี
“ชาเบล ตื่น!!!” เท้าเล็กๆ ยกขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เปลี่ยนจุดหมายใหม่ ตั้งใจจะถีบท้องให้เขาจุก ข้อหาแอบพรากทุกสิ่งของเธอไปตอนเมา
“อ่า เหนื่อยแล้ว ค่อยต่อสิ” เสียงนุ่มทุ่มจากร่างสูงพึมพำเบาๆ ร่างบางที่กำลังยกเท้าขึ้นเตรียมถีบอีกครั้ง ถึงกับชะงัก
อะไร!! ต่ออะไรอีก ไม่ได้ปลุกมาต่อ! ตื่นมาคุยกันเดี๋ยวนี้
“ชาเบล ตื่น ถ้าไม่ตื่นควีนจะถีบลูกรักเบลให้เป็นหมัน ใช้งานไม่ได้ตลอดชีวิต” คณิตาไม่ได้เบาเสียงลงเลย ก้มลงไปตะโกนข้างหูเขาดังๆ ตั้งใจเอาให้คนที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง หูดับไปทั้งสองข้าง
“แม่ง รำคาญ!” น้ำเสียงติดรำคาญอย่างที่พูด ส่งผ่านริมฝีปากสีแดงสดของร่างสูงออกมา คนที่ก้มหน้าอยู่ใกล้ๆ จึงเอื้อมมือไปตีปากนั้นแรงๆ
“โอ้ย!” ร่างสูงที่ถูกตีปากอย่างแรง ผุดลุกขึ้นนั่งด้วยความเร็ว หันมองคนที่หยัดตัวยืนตรง ด้วยความโกรธ
“ตื่นแล้วสินะ งั้นมาคุยกัน ไม่ต้องใส่ คุยสภาพนั้นแหละ” ร่างสูงแบบบางเดินไปนั่งปลายเตียง ดุคนตัวสูงที่พยายามมองหาเสื้อผ้ามาใส่ เมื่อมองตัวเองแล้วเจอสภาพเปลือยเปล่าโผล่พ้นผ้าห่มออกมา
“ไม่อายเหรอควีน หรือตั้งใจอยากจะเห็นอะไรแบบนี้” ใบหน้าหล่อเหลามีแววขี้เล่น เอ่ยอย่างอารมณดีให้คนสวยที่นั่งหน้านิ่งตามปกติ นี่ก็คือร่างจริงของเขาเวลาปกติเหมือนกัน
“เล็กแค่นั้น ดูไปก็ไม่ได้ทำให้มีอารมณ์หรอก” ใบหน้านิ่งเฉยพร้อมคำพูดเฉยชา ทำคนที่นั่งอยู่ที่พื้นเบ้หน้า
อะไรที่ยัยนั่นว่าเล็ก มันแค่นอนหรอก ถ้ามันตื่นมันโตกว่านี้หลายเท่า
“ดูตอนมันตื่นไหม ตอนนี้มันกำลังจะตื่นแล้วด้วย”
พลั่กกกกก!!
หมอนใบโตฟาดเข้าเต็มหน้าร่างสูง คนที่กระทำ มองทุกอย่างด้วยความเฉยชา ต่างจากคนที่ถูกกระทำ สีหน้าของเขายังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แค่นี้ไม่เจ็บหรอก หมอนไม่นุ่มเท่าตัวเธอด้วยซ้ำ
“อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ปล่อยให้มันเป็นแค่ความผิดพลาด เรื่องเมื่อคืนจะไม่มีอะไรให้ไปต่อทั้งนั้น”
“พูดบ้าอะไรวะ นี่จริงจังนะเว้ย ได้กันแล้วก็ต้องคบกันดิ”
“ใครเขาอยากคบกับด้วย จำไว้นะชาเบล ถ้าพูดเรื่องเมื่อคืน หรือทำอะไรที่ล้ำเส้นมากกว่านี้ ควีนเอาแกตายแน่ ออกไปได้แล้ว”
พูดจบร่างบางของควีนก็ลุกขึ้นยืน เก็บสีหน้าทุกอย่างให้เรียบเฉย ทั้งที่ทุกๆ ครั้งที่เธอขยับตัว ร่างกายจะปวดหนึบอยู่ตลอด
“จะให้เป็นผัวในความลับเหรอวะ” ร่างสูงเดินเข้ามาชิด ดึงเธอไปใกล้ตัวด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปจากเดิม
“ไม่ เราจะไม่เป็นอะไรกันทั้งนั้น”
“ควีนแม่งใจร้ายที่สุดเท่าที่เคยรู้จักผู้หญิงมาเลยวะ ได้แล้วไม่มีความรับผิดชอบ”
“ไม่ใช่นะ!”
คำว่าไม่มีความรับผิดชอบ มันเหมือนคำต้องห้ามของเธอ ที่ฟังทีไรแล้วกระวนกระวายใจทุกที เพราะเธอทำงานเป็นนางแบบ ไม่เคยชอบใจสักครั้งที่ถูกดุว่าไม่มีความรับผิดชอบ เธอจึงไม่เคยทำแบบนั้นเลย แต่ตอนนี้ไอ้คนที่อยู่ชิดร่างเธอกำลังกล่าวหาเธอ ว่าเป็นผู้หญิงไม่มีความรับผิดชอบ
“ใช่เลย! ควีนเป็นแบบนั้นแหละ เอาเบลจนพรุนแล้วไม่รับผิดชอบเบลเป็นผัว เบลจะประกาศให้คนทั่วประเทศได้รู้ ว่าควีนไม่รับผิดชอบเบล”
คนที่สูงกว่าหันใบหน้าหนี จากคนที่เงยหน้ามามองด้วยสายตาหวั่นไหว รอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นจากใบหน้าหล่อเหลา เท่านี้ยัยนี่ก็จะรับผิดชอบเขาทุกอย่าง
“อย่านะ! ถ้าทำแบบนั้นงานในวงการของควีนพังแน่ เรามาตกลงกันก่อนไหม”
ใบหน้าสวยพยายามไกล่เกลี่ย ไอ้คนตรงหน้ามันบ้ากว่าที่ทุกคนเห็น มันอาจจะเอาเรื่องทั้งหมดไปป่าวประกาศจริงๆ แล้วทีนี้ชีวิตเธอต้องพังแน่ๆ เธอทำงานอะไรไม่เป็นเลย นอกจากงานนางแบบ แล้วถ้ามันพัง ชีวิตเธอจะทำมาหากินอะไรล่ะ
“ไหนลองพูดมาสิ ว่าจะรับผิดชอบเบลยังไง” มือหนาเชยคางคนตรงหน้าขึ้น มองสบดวงตาสีฟ้าของเธอนิ่งๆ ใบหน้าสวยครุ่นคิดอย่างหนัก จนสีหน้าคนตัวโตกังวลกับคำตอบของเธอ
“อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร แล้วครีนจะยอมทำตามเบลทุกอย่าง”
คำตอบที่แสนจะถูกใจชาเบล ดังออกมาจากปากเล็กของคนตรงหน้า เธอจะยอมทำตามเขาทุกอย่างแหละ
แต่เอ๊ะ อะไรนะ ประโยคข้างหน้าเขาฟังไม่ค่อยชัด
“อะไรนะควีน?? ห้ามบอกใครได้ไง”
“ตามนั้นแหละชาเบล ถ้าบอกใครเรื่องนี้ ควีนเอาตายแน่”
คณิตาผลักร่างสูงที่ทำหน้าไม่พอใจออกห่าง เดินไปนั่งบนโซฟาในห้องรับแขก อย่างต้องการให้คนที่ยืนโกรธอยู่ ได้ทำธุระส่วนตัว
เขาจะเป็นคนในความลับ ที่เธอจะไม่มีวันบอกใครทั้งสิ้น และเขาจะเป็นได้แค่นั้นแหละ แค่คนในความลับของเธอ
เธอไม่ต้องการเรื่องอื้อฉาว เธอตัวคนเดียว รับงานเอง ดูแลงานทุกอย่างเอง เธอไม่มีความมั่นใจว่าจะรับมือกับเรื่องพวกนี้ได้ จึงพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด แต่ถ้าชาเบลเอาเรื่องนี้ไปป่าวประกาศ ชีวิตในวงการเธอพังแน่ๆ