02.20
“เฮ้!! ไหวไหวเนี้ย”
ร่างสูงที่ถูกใบหน้าสวยซุกซบอยู่ เรียกสติเพื่อนตัวเองเสียงดัง คณิตาเมาหนักจนฟุบลงที่ตักเขา และตอนนี้เขาก็รู้สึกจักจี้แปลกๆ จะยี้เพื่อนตัวเองก็ไม่กล้า แต่เขาไม่ชอบใจเลย ที่เพื่อนมันกำลังแตะเนื้อต้องตัว และอยู่ใกล้ลูกรักที่นอนสงบอยู่ใต้กางเกงผ้าเนื้อดี
“อือ”
“โอ้ย! อีควีนเอาหน้าออกไป๊ ยี้!! ลูกกูมีมลทินหมดแล้ว”
มินพูดด้วยเสียงสุดยี้ แต่การกระทำกลับตรงข้าม เขาช้อนใบหน้าของเพื่อนสาว ขึ้นมาพิงบนบ่าอีกครั้ง ตีไปที่แก้มเบาๆ เพื่อเรียกสติ
“กูว่าไปส่งมันที่คอนโดเหอะ สภาพงี้ขับรถกลับเอง กูว่าไม่น่าจะถึงบ้าน”
ทิวาออกความเห็น เวลาเหล้าเข้าปากแล้วเพื่อนเธอเป็นแบบนี้ทุกที ควีนมันทำงานหนัก นานๆ จะได้พักสักที แล้วผับนี้ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัว เพื่อนเธอเลยดื่มหนักจนเกินลิมิต
“เอางั้นเหรอ งั้นทิวไปเอารถมินขับตามไปละกัน ควีนมันน่าจะจอดรถไว้หน้าร้านอะ เดี๋ยวมินแบกมันไปขึ้นรถเลย”
ร่างสูงสมส่วนขยับตัวลุกขึ้นยืน พร้อมกับอุ้มเพื่อนที่เมามายไว้ในอ้อมกอด ใบหน้าหล่อเหลาตีหน้านิ่งขึ้น เมื่อต้องเดินออกไปจากโต๊ะของตัวเอง เขาจะเป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่กับเพื่อนสนิทเท่านั้น และจะกลับเป็นร่างผู้ชายเวลาที่ใช้ชีวิตปกติ
ร่างสูงก้าวยาวๆ ผ่านทุกโต๊ะในโซนวีไอพี ออกไปนอกร้านด้วยความเร็ว แม้ควีนจะสูงสมส่วน แต่เวลาอยู่กับคนที่อุ้มอยู่เธอดูตัวเล็กไปทันที
“เฮ้ย!! เบลตื่นดิ! ยัยนั่นถูกอุ้มไปแล้ว”
แมททิวตีหน้าเพื่อนตัวเองเพื่อเรียกสติ เพื่อนเขาดื่มเยอะจนฟุบหน้าหลับไปตั้งแต่สองทุ่มครึ่ง อะไรที่เขาเตือน เพื่อนมันไม่ฟังเลย
“ใครถูกฉุดวะ”
ใบหน้าแดงก่ำเงยขึ้นมาถามเพื่อน ได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่ เพราะอาการมึนหัวอย่างหนัก แต่พอจับใจความได้นิดๆ จึงถามเพื่อนที่มองมาด้วยสีหน้าตกใจ
“ควีนถูกไอ้นั่นอุ้มไปหน้าร้านแล้ว” แมททิวซ่อนสีหน้าไว้อย่างเรียบเนียน คนที่เมาอยู่ตรงหน้าเขามีสีหน้าตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นวาวโรจน์เพราะความโกรธ
“แม่งเอ้ย เผลอนิดเดียวเอง”
ชาเบลลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก ตอนนี้สติมีเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย แต่ร่างกายยังอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากฤทธิ์เหล้า ร่างสูงเดินจับโต๊ะเพื่อพยุงร่างเมาๆ ออกไปนอกร้านด้วยความเร็ว ที่เขาคิดว่าน่านะเร็วที่สุดแล้ว
แมททิวมองภาพเพื่อนตัวเองด้วยรอยยิ้ม คำว่าเผลอนิดเดียวของมัน กินเวลานานไปหลายชั่วโมง และไม่รู้ว่ามันจะไปทันคว้าตัวของยัยนั่น กลับมาจากผู้ชายสุดหล่อคนนั้นรึเปล่า
ร่างสูงเดินขาขวิดมายืนมองหา คนที่เขาต้องการเจออยู่หน้าร้าน เมื่อไม่เจอจึงเดินไปบริเวณที่จอดรถ ที่อยู่ห่างออกไปนิดหน่อย ยัยนั่นต้องขับรถมาแน่ๆ และคงไม่ขับไปจอดหลังร้านหรอก หน้าร้านเป็นทางเข้าที่ใกล้ที่สุด และเธอต้องใช้มันหลบนักข่าวเข้าไปแน่ๆ
ใบหน้าหล่อเหลาตึงขึ้นทันทีที่เดินมาถึง ผู้ชายที่อยู่กับเธอ กำลังก้มลงยัดร่างที่หลับใหลของเธอเข้าไปในรถ สองเท้าไม่รอช้าก้าวไปใกล้รถของเธอมากขึ้น แล้วลงมือกระชากผู้ชาย ที่พยายามจะขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ ออกมาด้วยความเร็ว
“จะพายัยนี่ไปไหนว่ะ”
มือหนากำคอเสื้อผู้ชายหน้าตาดีไว้แน่น คนตรงหน้าดูตกใจกับหมัดที่ง้างขึ้นของเขา แต่ไม่นานเขาก็ทำหน้าเรียบเฉย แล้วทาบทับมือที่กำคอเสื้อเขาอยู่
“จะไปส่งที่ห้อง แล้วคุณมายุ่งอะไร เรื่องของผมกับเพื่อน”
ใบหน้าหล่อเหลาซ่อนสีหน้าเขินอายไว้จนมิด จับมือนุ่มๆ ที่กำคอเสื้อตัวเองไว้แน่น ถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามบังคับไม่ให้มันสั่น
‘อร้ายยย! โคตรถูกใจเลย’ เสียงในใจของผู้ชายคนนึงดังระรัว
ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้า ที่ดูยังไงก็ไม่ใช่คนไทย แม้ตรงนี้จะไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ แต่สีตาของเขาไม่เหมือนคนไทยเลย ผิวก็ขาว หน้าก็เนียนจนน่าอิจฉา ถ้าเขาไม่มีหวานใจอยู่แล้ว เขาจะเดินหน้าจีบผู้ชายที่เขากุมมือไว้เต็มที่เลย
“เป็นเพื่อน??” ชาเบลถามอย่างสงสัย ไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้มาก่อน รอบตัวเธอไม่มีเพื่อนหน้าตาแบบนี้ แล้วไอ้คนที่กุมมือเขาอยู่ตอนนี้ มันโกหกรึเปล่าวะ
“เกิดอะไรขึ้นวะมิน” ทิวาที่เพิ่งไปขับเอารถของมิน มาจากที่จอดรถหลังร้าน เปิดกระจกลงมาถาม มองคนทั้งคู่อย่างสงสัย
“ก็เขาคนนี้มาขัดจังหวะ”
“ก็มันจะพายัยนี่ไปไหนไม่รู้” คนทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน
“โอ้ย!จะได้กลับไปนอนตอนไหนวะเนี้ย ชาเบล นั่นเพื่อนควีนกับทิวา มันเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเพื่อบอกข่าวดี ควีนมันเมาขับรถกลับไม่ไหว กำลังจะขับตามกันไปส่งมันเนี้ย”
สาวทอมพูดอย่างหงุดหงิด เธอรู้จักชาเบลดี เพราะเขาตามจีบเพื่อนเธออยู่พักนึง แม้ตอนนี้เขาจะล้มเลิกความตั้งใจไปแล้ว เพราะเจอกำแพงน้ำแข็งของเพื่อนเธอเข้าไป แต่เขาก็ยังเป็นคนที่เธอกับเพื่อนรู้จักอยู่ดี
“อ่า!!”
“อ้าวคุณรู้จักควีนกับทิวาเหรอ”
ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกว้าง ที่แท้ก็คนใกล้ตัว แต่ไม่เคยเห็นหน้าเลยแฮะ อาจจะเพราะเขาไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยละมั้ง ถึงแม้ทุกครั้งที่กลับมาจะนัดควีนกับทิวาออกมาเจอบ่อยๆ แต่ไม่เคยเจอคนตรงหน้าเลยสักครั้ง ถ้าเขาเจอผู้ชายคนนี้ เขาเชื่อว่าเขาจะไม่ตกลงแต่งงานกับแฟนที่คบอยู่แน่ๆ
“อืม อยู่ห้องข้างกันอะ เบลกำลังจะกลับ ไม่ได้เอารถมาด้วย เบลอาสาไปส่งให้ละกัน”
มือหนาดึงมือที่ถูกจับอยู่ออกด้วยความยากลำบาก รู้สึกขนลุกนิดๆ เมื่อมองผู้ชายที่กำลังจัดคอเสื้อให้เข้าที่
“เอาไงดีอะมิน เอางั้นไหม เพราะคอนโดควีนกับคอนโดทิวมันคนละทาง กว่าจะไปส่งกัน ไปมา คงเช้าพอดี” ทิวาออกความเห็นอีกครั้ง ผู้ชายที่ยืนยิ้มอยู่จึงพยักหน้าหงึกหงัก อย่างเห็นด้วย
“ฝากควีนด้วยนะเบล หวังว่าจะเข้าใจนะ ว่าต้องทำยังไง” ใบหน้าสวยมีแววกังวลนิดๆ แต่ก็อยากกลับบ้านไปนอนแล้ว เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้า เธอมีงานซะด้วยสิ
รถคันหรูถูกขับออกไปโดยทิวา ข้างๆ เธอคือผู้ชายที่ทำตาละห้อยอย่างแสนเสียดาย ผู้ชายที่เข้ามาขัดเมื่อสักครู่ ทิวาได้แต่สายหน้าให้เพื่อนสาวของตัวเอง จะแต่งงานอยู่แล้ว ยังมาหวั่นไหวกับผู้ชายคนอื่นอีก มันน่าถีบลงรถชะมัดเลย