ตอนที่ 8

1412 Words
“โอ๊ย...” เขาร้องดิ้นทุรนทุราย ในหัวเหมือนมีคีมใหญ่เข้ามาบีบ ตาของเขาเริ่มเหลือก หายใจติด ๆ ขัด ๆ สองมือยังกุมบีบไปที่ขมับของตัวเองอยู่ “เป็นอะไรไอ้รุจ มึงเป็นอะไร” อาทิตย์ตกใจรีบเข้าไปประคองเพื่อน “กูปวดหัวว่ะ ทิตย์ กูปวดหัวมาก ปวดมาก ปวด... โอ๊ย...” วิษรุจตาเหลือก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอกไปหมด ตัวของเขาค่อย ๆ เลื่อนลงไปจากเก้าอี้ที่นั่ง สีหน้าทรมานอย่างชัดเจน หน้าแดงก่ำ เริ่มเขียวคล้ำ อาทิตย์จับไปบนตัวของเพื่อน ช่วยประคอง และเริ่มเขย่าตัววิษรุจแรง ๆ "ไอ้รุจ มึงเป็นอะไร ไอ้รุจ เฮ้ย... มึงอย่าเป็นอะไรนะ ไอ้รุจ..." วิษรุจนอนหงายลงไป หน้าแดง ตาเหลือกโปน “ไอ้รุจ ไอ้รุจ มึงอย่าทำแบบนี้นะ มึงอย่าตายนะ” อาทิตย์กดฝ่ามือลงไปที่หน้าอกของวิษรุจที่นอนแผ่หลา ปั๊มเข้าไปตรงหน้าอกข้างซ้ายของวิษรุจอย่างแรง ปากก็ร้องเรียกชื่อของเพื่อนไปด้วย และร้องตะโกนให้คนมาช่วย อาทิตย์เช็กไปที่ปลายจมูก วิษรุจยังหายใจอยู่ เขาจึงวิ่งวุ่นตามคนมาช่วยเหลือ แล้วพาร่างที่ไร้สติของวิษรุจส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว นานนับชั่วโมง อาทิตย์นั่งหน้าเครียดอยู่ต่อหน้าคุณหมอ "อาการของคุณวิษรุจดีขึ้นแล้ว ตอนนี้คุณก็วางใจได้ แต่หมออยากจะถามจริง ๆ คุณปล่อยให้เพื่อนคุณดื่มเหล้าแบบมาราธอนแบบนี้ได้ยังไง มันมีสิทธิ์ทำให้เพื่อนของคุณตายได้เลยนะครับ” คุณหมอตำหนิ อาทิตย์ลูบใบหน้าของตัวเองพ่นลมหายใจอย่างโล่งอก ณ เวลานั้น เขานึกว่าจะสูญเสียวิษรุจเพื่อนรักไปแล้วเสียอีก “วิษรุจจะต้องรักษาตัวอีกนานไหมครับ” “ก็ต้องรอดูอาการก่อน ผมจะให้จิตแพทย์เข้ามาคุยด้วยนะครับ เพราะอาการที่เป็นต้องรักษาอาการทางใจควบคู่กันไปด้วย” “ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ” อาทิตย์ยกมือไหว้ “คนเรานี่ก็แปลก อะไรที่รู้ว่าไม่ดีต่อสุขภาพตัวเองยังกินดื่มเข้าไปได้ ทุกวันนี้ที่ป่วยกันเยอะ ๆ สาเหตุหลักก็เพราะการตามใจปากนี่แหละครับ” นายแพทย์ท่านคงเบื่อหน่ายกับการรักษาคนไข้ในแต่ละวัน ซึ่งก็มาด้วยหลาย ๆ โรค แต่สาเหตุหลัก ถ้าทุกคนดูแลรักษาสุขภาพดี ๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ก็คงไม่มีใครป่วย อาทิตย์เดินออกมาจากห้องของคุณหมอ กำลังจะไปติดต่อเรื่องห้องพิเศษให้กับวิษรุจ มือถือในกระเป๋าของเขาก็สั่นขึ้น “นิ้ง” เขาเรียกชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ “ฮัลโหล โทร. มาได้จังหวะพอดีเลยนะนิ้ง” (“ทำไมคะ พี่รุจเป็นอะไรคะ”) เธอถามถึงวิษรุจด้วยความเป็นห่วง ไม่เจอกันหลายสัปดาห์ กุหลาบแก้วก็พยายามติดตามเรื่องของวิษรุจผ่านมาทางอาทิตย์ “รุจอยู่ที่โรงพยาบาล มันดื่มเหล้าจนน็อกไปเลย” (“อะไรนะคะ”) กุหลาบแก้วทำน้ำเสียงตกใจ จนคนที่นั่งอยู่ใกล้หันมามอง กัมปนาทเลิกสนใจหนังสือในมือ ขยับตัวมานั่งใกล้ ๆ ภรรยาเงี่ยหูฟังเรื่องราวที่กุหลาบแก้วคุยกับอาทิตย์แบบเสียมารยาท แต่เขากลับทำหน้ายิ้ม สอดแขนรัดเอวของภรรยาเอาไว้แน่น “ใช่ พี่เพิ่งหามไอ้รุจมาส่งที่โรงพยาบาลเนี่ย ดีนะที่มันยังรอด มันยังไม่ตาย พี่พยายามห้าม พยายามเตือนแล้วนะ แต่มันก็ไม่ยอมฟัง ดื่มเหล้ามาราธอนมาได้เกือบสามอาทิตย์แล้ว นิ้งพี่ขอร้องนิ้งสักเรื่องหนึ่งเถอะ มาเยี่ยมไอ้รุจมันที่โรงพยาบาลหน่อย มาพูดมาปลอบใจอะไรมันก็ได้ อย่างน้อยมันอาจจะทำให้รุจได้คิด พี่เข้าใจไอ้รุจนะ รุจมันรักนิ้งมาก แต่ในเมื่อนิ้งก็ตัดสินใจเลือกผู้ชายคนนั้นไปแล้ว พี่อยากจะขอร้องแค่นิ้งมาช่วยให้กำลังใจเล็ก ๆ กับไอ้รุจมัน หน่อยได้ไหม” กุหลาบแก้วได้ยินถึงกับเศร้า เธอทั้งรักและเป็นห่วงวิษรุจ แต่วิษรุจเป็นได้แค่เพียงพี่ชายเท่านั้น เธอไม่คิดมากไปกว่านั้น (“พี่รุจอยู่ที่โรงพยาบาลไหนคะ”) อาทิตย์เอ่ยชื่อโรงพยาบาลออกไป “รีบมาก็แล้วกันนิ้ง มาดูใจมันหน่อย พี่สงสารไอ้รุจมาก ๆ” (“นิ้งก็รักและเป็นห่วงพี่รุจนะคะ ยังไงนิ้งไปหาพี่รุจแน่นอนค่ะ”) "พี่รุจของคุณเป็นอะไร" กัมปนาทที่เปลี่ยนลงไปนอนที่ตักของภรรยาเอ่ยถามแบบหน้าตากวน ๆ กุหลาบแก้วจึงเหน็บไปที่เนื้อแขนของสามีอย่างหมั่นไส้ "เพราะคุณนั่นแหละ" "เพราะพี่น่ะเหรอ" "พี่รุจน็อกไปเพราะดื่มเหล้าเมาทุกวัน นิ้งจะทำยังไงดีคะ" "นิ้งไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เวลาต่างหากจะเยียวยารักษาแผลของหัวใจได้ แค่นิ้งต้องให้กำลังใจพี่รุจเท่านั้น" "พูดดีจริง ๆ นะคะ" "พี่โชคดีไงที่นิ้งรักพี่" เขาทั้งกอดทั้งหอมเธอ "อะแฮ่ม..." คุณแจ่มจันทร์ทำเสียงกระแอมไอ ทั้งสองจึงหันไปมอง "แม่นึกว่าเราสองคนจะไปอยู่กับคุณพ่อเสียอีก" "ก็ไปมาแล้วน่ะสิครับแม่ พ่อก็ไล่กลับมานอนที่บ้านเนี่ย สงสารกลัวนิ้งกับหลานจะเหนื่อย" "พรุ่งนี้นิ้งจะไปแต่เช้าค่ะ เพราะคุณพ่อมีทำคีโม" "ตอนนี้กำลังใจสำคัญที่สุด ว่าแต่ว่ามีใครเห็นยายรุ้งบ้าง" คุณแจ่มจันทร์ถาม น้อยเดินเข้ามาพร้อมกับถาดใส่แก้วนม "ขึ้นห้องไปเมื่อตะกี้นี้คะ ถามอะไรก็ไม่พูดไม่จา เดินหน้ามุ่ยขึ้นไปแล้ว" น้อยเล่าในสิ่งที่เธอเห็น "กินข้าวกินปลาหรือยัง พรุ่งนี้จะกลับเชียงใหม่แล้ว ไม่รู้เก็บข้าวของครบไหม" คุณป้าก็บ่นไปตามเรื่อง "เธอให้คนขับรถส่งกระเป๋าไปกับบริษัทขนส่งแล้วค่ะ บอกว่าจะขึ้นเครื่องแบบตัวปลิว ไม่ต้องขนของอะไรให้เหนื่อย" "เรื่องฉลาดเนี่ยต้องยกให้ยายรุ้งละ" คุณป้าชมหลาน "น้อย พรุ่งนี้ให้คนขับรถไปส่งคุณรุ้งด้วยนะ" “ค่ะคุณนิ้ง” "แม่ครับอาเกตุกับโตล่ะครับ" "คุณโตพาคุณแม่เข้านอนแล้วค่ะ หลังอาหารเย็น กินยาแล้วก็..." "น้อยไปทำอะไรก็ไปทำไป" กุหลาบแก้วเห็นน้อยทำท่าจะพูดจ้อ เลยเบรกแล้วไล่ไป "นิ้งดีใจค่ะคุณแม่ที่อาการของอาเกตุดีขึ้น" กุหลาบแก้วดีใจที่ได้ช่วยเหลือสองคนนั้นด้วย "โตมาขออนุญาตผมครับแม่ บอกว่าถ้าอาเกตุอาการดีขึ้นกว่านี้ และโตเรียนจบ ม. หก อยากจะพาแม่ไปอยู่ที่นิวซีแลนด์ น้องชายของอาเกตุเขาเอ่ยปากให้โตพาพี่สาวของเขาไปอยู่ด้วยน่ะครับ" "แม่ว่าก็ดีเหมือนกันนะ ไปที่นู่นก็ได้เจอสังคมใหม่ เจอคนใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ เกตุวดีอาจจะดีขึ้นและหายได้" "คุณพ่อเอ่ยปากจะให้เงินอาเกตุกับโตสักก้อนน่ะค่ะ" กุหลาบแก้วเล่า "ก็เป็นพระคุณ บารมีกุศล ใครสร้าง คนนั้นก็ได้รับ" คุณแจ่มจันทร์อนุโมทนาไปด้วย "แล้วแม่ได้ยินหนูเอ่ยถึงใครที่ว่าไม่สบาย" "พี่รุจค่ะคุณแม่ เพื่อนพี่รุจโทร. มาว่าดื่มเหล้ามากจนน็อกเข้าโรงพยาบาล" นิ้งบอก "เป็นอะไรมากไหมลูก" "เพื่อนพี่รุจบอกมาว่า ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่นิ้งคิดว่าจะไปเยี่ยมพี่รุจอยู่ค่ะ แต่ต้องดูแลคุณพ่อก่อน โรงพยาบาลที่พี่รุจรักษาตัวก็ไม่ไกลจากโรงพยาบาลที่คุณพ่อรักษานะคะ" "เฮ้อ... แม่เข้าใจรุจนะ เขาคงเสียใจมาก ถ้าต๊ะว่าง ก็ควรไปเยี่ยมเขาพร้อมกันกับน้อง" "แน่นอนครับแม่ ผมไม่ปล่อยให้นิ้งไปคนเดียวหรอก เดี๋ยวถ่านไฟเก่าคุ" ปึก เธอกระทุ้งหมัดไปที่หน้าท้องของเขา "คุณแม่ดูสิคะ ก็ปากพี่ต๊ะเป็นแบบนี้" เธอฟ้อง กัมปนาทลุกขึ้นนั่ง แล้วกอดภรรยาเอาไว้แน่น “เมียใครใครก็ห่วง พี่รักนิ้ง” เขาทำหวานไม่แคร์สายตาของคุณแม่ คุณแม่ได้แต่หัวเราะที่สองคนหยอกเย้ากัน ท่านมีรอยยิ้มฉาบอยู่บนใบหน้า รู้สึกดีใจที่คนสองคนที่ท่านรักและเอ็นดูลงเอยและรักกันได้ด้วยดี มีแต่ลุ้นให้สร้างครอบครัวให้ใหญ่ขึ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD