ตอนที่ 2

1902 Words
ฉันที่ยืนค้างเพราะความตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ฉันไม่ได้คิดว่าจะเจอมัน คือฉันรู้ว่ามันจะมา แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะมาเร็วแบบนี้ หรือฉันฟังเพื่อนไม่เข้าใจ ไอ้ควายยิมมันลุกจากโซฟา แล้วมันก็เดินมาหาฉัน ท่าทางการเดินของมันดูแบดบอยมาก แต่สายตาที่มันมองฉันดูเฉยชา ความตกใจของฉันทำให้ฉันก้าวขาไม่ออก ทำตัวไม่ถูก หัวใจเต้นจนแทบจะทะลุ แล้ว ณ จุดนี้ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากฉันกับมัน ไอ้ควายยิมมันเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน สองมือของมันเหน็บที่กระเป๋ากางเกง สายตาของมันมองมาที่ฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วมันก็ค่อย ๆ เอนตัวเข้ามาใกล้ฉัน มันทำเหมือนจะจูบฉันเลย ฉันไม่ได้มโนไปใช่ไหม ก็ฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดใบหน้าฉัน ถ้ามันจะจูบฉัน แสดงว่ามันไม่ได้เกลียดฉันแล้วใช่ไหม และที่สำคัญถ้ามันทำจริง ฉันใจง่าย ฉันยินยอม ยอมพลีกายเลยนะ ถึงแม้ร่างกายมันจะมีรอยสักมากมาย แต่นิสัยมันอาจจะเป็นเหมือนเดิมก็ได้! “เหอะ! เคยเป็นยังไงก็เป็นแบบเดิมมาจนถึงทุกวันนี้เนอะมึงอ่ะ ดูสภาพสิ” เดี๋ยวนะ เดี๋ยว ๆ เมื่อกี๊ฉันขอเปลี่ยนคำพูด ที่ว่าจะยอมมัน เพราะมันกำลังเบะปากมองฉันอย่างสมเพช “ได้ข่าวว่าเมาโดนเอาจนท้อง จำหน้าพ่อของลูกไม่ได้ เหอะ! น่าสงสารลูกมึงเนอะ ที่มีแม่มั่ว ๆ อย่างมึง” ทุกคำที่มันพูดดังก้องเข้ามาในหูของฉันเน้น ๆ มันพูดจบก็ส่ายหัวก่อนจะเบะปากมองฉันอย่างรังเกียจกัน ‘ไอ้ควายนี่ ไอ้คนที่เอากูก็มึงนั่นแหละ’ ฉันได้แต่จ้องมันแล้วด่าในใจ “แล้วจะเสือกอะไร **ก็**กูไหม ลูกกูก็เบ่งออกมาเอง บ้านกูรวย กูมีปัญญาเลี้ยงของกู คนอื่นอย่าเสร่อ ไม่มีพ่อลูกกูก็โตมาได้” ฉันตอกกลับทันที คิดว่าคนอย่างอีแจงจะร้องไห้กับประโยคที่มันด่าเหรอ ฮึ! ทำไมจะไม่ร้องล่ะ แต่เอากลับไปร้องที่บ้าน อีแจงจะไม่อ่อนแอให้มันเห็น “เพราะมึงคิดได้แค่นี้ไง” มันมองฉันแล้วยกยิ้มที่เหนือกว่า “คิดได้แค่นี้แล้วจะทำไม มึงเสือกอะไร” ฉันจ้องมันอย่างหาเรื่อง ตอนนี้ฉันพร้อมบวกเลยล่ะ มันมองฉันนิ่ง ๆ ด้วยสายตาที่ร้าย ๆ ก่อนจะ... “ก็ไม่ทำไม ก็แค่จะบอกว่านี่แหละเหตุผลที่กูไม่รักมึง เพราะเป็นมึง ต่อให้สวยแค่ไหนกูก็ไม่มีวันรัก รักไม่ลงว่ะ แต่ถ้าอยากได้แค่ร่างกายแบบต่างคนต่างสนุกชั่วคราว กูก็ให้ได้นะ ถ้ามึงอยากเอากับกู” มันกระซิบที่ข้างหูฉันเบา ๆ ทุกประโยค แต่มันดังก้องเข้าไปในโสตประสาทของฉันทุกคำ มันพูดจบมันก็ทำเหมือนจะหอมที่แก้มฉัน “หอมไม่ลงว่ะ เหม็นเหล้า นอนก็ยังน้ำลายเน่า” ไอ้ควายยิมมันพูดเสร็จมันก็จูบลงที่ต้นคอของฉันแทน หัวใจฉันกำลังทำงานหนัก มันเต้นโครมครามจนแทบทะลุ “เหอะ! ห้ามใจตัวเองบ้างนะ เต้นจนแทบจะทะลุออกมาละ อ่อนจริง ๆ” มันพูดพลางเอามือมาทาบที่หน้าอกข้างซ้ายของฉัน “มึง...” “คิดจะต่อปากต่อคำกับกู ก็เลิกรักกูก่อนเถอะ คนอย่างมึงแค่กูอยู่ใกล้ จับนิดจับหน่อย หัวใจมึงก็ทำงานหนักละ” มันพูดแทรกขณะที่ฉันยังคิดคำเถียงไม่ออก น้ำเสียงของมันฟังดูก็รู้ว่าเยาะเย้ยฉัน “หลงตัวเอง คิดว่ากูจะโง่รักควายอย่างมึงอีกหรือไง ที่กูใจเต้นกูก็แค่ตกใจ กูเลิกรักคนแบบมึงแล้วเถอะ คนแบบมึง...” ฉันหยุดพูดแล้วมองมันตั้งแต่หัวจรดเท้า “คนอย่างกูทำไม” “ไม่เห็นมีตรงไหนให้อยากรักเลย ตอนนั้นกูเด็ก แค่แยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร” ฉันเบะปากคืน “งั้นเหรอ งั้น...เอา กัน ไหม” มันขยับเข้าใกล้มากกว่าเดิม “อะ อะไรนะ” ฉันถามย้ำ “เหอะ แค่นี้ถึงกับหูอื้อเลยเหรอ ก็แค่ถามว่า... กล้าเอากับยิมไหมแจง” มันโน้มมากระซิบข้างหูฉันอีกแล้ว แล้วดูสรรพนามที่มันแทนตัวสิ มันตั้งใจ ไอ้ควายยิมมันตั้งใจยั่วความรู้สึกฉัน ไอ้บ้านี่มันทำใจฉันเต้นอีกแล้ว “แม่แจงจ๋า มาแล้วจ้า” เสียงของจัสมินตะโกนมาก่อนตัว ฉันจึงขยับออกจากไอ้ควายยิม และในเวลาต่อมาจัสมินก็วิ่งมาหาฉัน ตามด้วยแม่ของไอ้ควายยิมที่เดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม “เจอกันแล้วเหรอแจง ดูสิ ดูสภาพมัน แม่ด่ามันเท่าไหร่มันก็ทำหูทวนลม” แม่ของไอ้ควายยิมบ่นและมองสภาพลูกชายเพียงคนเดียวของท่าน “แม่ไม่เข้าใจศิลปะไง ยิมไปข้างนอกดีกว่า” ไอ้ควายยิมมันหันไปพูดกับแม่ของมัน แล้วก็เดินออกไป “อ้อ! เกือบลืมแน่ะ อย่าลืมนะแจง กล้าไหม” มันหันมาพูดกับฉัน และทำท่าเหมือนมันชนะ มันรู้จักฉันดีว่าฉันไม่ชอบคนท้า เพราะฉันจะบ้าเดินตามเกม ไอ้ควายยิมมันกลับมารอบนี้ มันเลี้ยงหมาไว้ในปากด้วย มันตั้งใจ มันตั้งใจจะท้าฉัน ไอ้ควายยิมปากหมามันตั้งใจหาเรื่องอีแจงแสนสวยคนนี้ ฉันจะแพ้มันไม่ได้ ถ้าฉันแพ้ นั่นแปลว่าฉันยอมรับว่ายังรักมัน ฉันต้องห้ามรักมัน ห้ามแสดงความรู้สึกให้มันเห็น ฉันต้องทำให้ได้ และฉันจะไม่ไปนอนกับมันแน่นอน! “ทำไมลุงคนนั้นน่ากลัวจังเลยคะ มองแม่แจงไม่ดีด้วย” เมื่อมาถึงบ้านลูกสาวของฉันก็เริ่มพูดขึ้น “เขาใจดีค่ะ แต่เขาแค่ชอบทำหน้าดุ” เป็นการโกหกที่ไม่เนียนเอาซะเลย “จริงเหรอคะ คนหน้าดุใจดีจริงเหรอ ตอนที่เขาเดินเข้ามาในร้านตอนบ่ายแล้วถามยายอันจ๋าว่าจัสคือใคร พอยายอันจ๋าบอกว่าเป็นลูกแม่แจง เขาก็มองตาดุ ๆ ใส่จัส” ไอ้หมายิม ไอ้ห่ารากนี่ “อ้อ ช่วงนี้ลุงเขาอารมณ์ไม่คงที่ค่ะลูก ลุงเขาเพิ่งมาจากต่างประเทศ เขาปรับตัวกับสภาพอากาศไม่ทัน อารมณ์เขาเลยแปรปวน สติเขาไม่ค่อยดีหนูอย่าถือสาเลยนะคะ” “โอเคค่ะ ลุงเขาสติไม่ดี น่าสงสารจัง จัสจะเข้าใจนะคะ ยายแจ๋มขาาาาา จัสมินมาแล้วค่า” ลูกสาวฉันยกมือชูนิ้วว่าเข้าใจ แล้วจากนั้นก็เดินตะโกนแหกปากเรียกยายแจ๋ม นิสัยแหกปากนี่คงเลียนแบบฉันแน่ ๆ เห็นชัดขนาดนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้ ฉันเดินขึ้นห้องหลังจากที่ลูกสาวเดินไปอยู่กับยายแจ๋มแม่ฉันเป็นที่เรียบร้อย (แจง: เมื่อคืนใครเก็บศพกูมาวะ) (ภาม: พวกกูไงจะใครล่ะ นึกว่าซ้อมตายเถอะ เกือบพาแวะวัดละ) (แจง: ใครแก้ผ้ากู) (พีค: กูมั้ง) (แจง: สัสพีค เอาความจริง) (แพท: แพทกับเค) (แจง: อ่อ เจ้าประจำ ขอบคุณน๊าาาาา) (เค: ชินละ เห็นบ่อย ๆ อีกหน่อยคงพิศวาสผู้หญิงละล่ะ) (ภาม: อยากตายเหรอเค) (เค: หยิกกูทำไมครับ) (ภาม: ก็มึงจะมองหญิง) (เค: พูดไปงั้นเถอะ เจอผู้หญิงแบบแจงคงเอือมตาย) (แจง: เดี๋ยว ๆ พวกมึงอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องพิมพ์มาก็ได้ กูรู้กูสวย) (พีค: มึงบ้าต่างหาก) (แจง: เออนี่ ไอ้ควายยิมมันกลับมาตอนไหนวะ กูเจอมันละ มันแม่งกวนส้นตีนกู ปากก็หมากว่าเดิมอีก คงต้องเรียกไอ้หมายิมละ) (นาย: มาตอนที่มึงซ้อมตายไง) (แจง: เดี๋ยวเถอะไอ้นาย) (แจง: กูแม่งหงุดหงิด โมโหสัส แม่งกวนตีนกู) (แจง: มาพูดท้าทาย คิดว่ากูจะตกหลุมไง) (แจง: สงสัยกูสวยมั้ง) (ยิม: แค่พูดความจริง อย่าสำคัญตัวเอง) “ไอ้เวร!” ฉันกดออกจากกรุ๊ปไลน์ทันที ไอ้หมายิมมันเข้ากลุ่มตั้งแต่เมื่อไหร่วะ “อีแจง อีโง่ ทำไมมึงไม่ดูแจ้งเตือนก่อน” ฉันด่าพร้อมกับทึ้งหัวตัวเองทันทีที่เห็นแจ้งเตือนว่าไอ้หมายิมถูกดึงเข้ากลุ่มตั้งแต่เช้าแล้ว (ยิม: อีเน่า ควรไปอาบน้ำ ไม่ใช่นั่งดึงหัวตัวเองแบบนั้น) ไลน์ส่วนตัวเด้งเข้ามา ฉันอ่านแล้วจึงหันไปทางหน้าต่างห้องนอน ไอ้หมายิมมันกำลังมองมาที่ฉัน (แจง: ยุ่ง) ฉันกดตอบกลับไปแล้วชักสีหน้าใส่มันก่อนจะเดินไปปิดม่าน ฉันคงลืมเล่าให้ฟัง ว่าห้องของเราตรงข้ามกันด้วย และตลอดเวลา 5 ปีที่มันหายไป เวลาที่ฉันคิดถึงมันฉันมักจะยืนมองห้องนอนมันนี่แหละ 5 ปีที่มันหายไป ฉันไม่เคยได้คุยกับมันเลยสักครั้ง เพราะมันบอกเองว่าอย่ารู้จักกันอีก ฉันจึงพยายามไม่เข้าไปมีส่วนในชีวิตของมัน (ยิม: เขินอยู่เหรอ ไหนว่าไม่รักกูแล้วไง) (ยิม: อย่างมึงเลิกรักกูไม่ได้หรอก ถ้าเลิกได้มึงมีผัวเป็นตัวเป็นตนไปแล้ว) (ยิม: แต่กูไม่รักมึงหรอกนะ) ฉันอ่านข้อความแล้วกดโทรไลน์ไปหามันทันที พร้อมกับเดินไปเปิดม่าน เพราะคิดว่ามันต้องยืนเย้ยฉันอยู่ “เลิกส่งมาได้แล้ว กูรู้ว่ามึงเกลียดกู ไม่ต้องย้ำ กูจำใส่ใจฝังกระดูกดำไว้ละ และกูก็จำได้ว่ามึงบอกเองว่าต่อไปไม่ต้องยุ่ง ไม่ต้องรู้จักมึง กูทำมาตลอด 5 ปี เพราะฉะนั้นตอนนี้กูก็จะทำต่อไป เราคือคนไม่รู้จักกัน กูกับมึงไม่รู้จักกัน” ฉันพูดจบก็กดวางสายพร้อมกับปิดม่าน จากนั้นฉันก็เดินมาทิ้งตัวบนเตียงแล้วผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ การที่มันกลับมา แล้วเราได้พูดคุยกัน ทุกอย่างมันมีผลต่อหัวใจของฉัน แต่ถ้าจะให้ฉันไปเป็นคู่นอน เพื่อสนองความรู้สึกตัวเอง ฉันไม่ทำอีกแล้ว และไอ้คำท้าบ้า ๆ นั่นมันก็มีแต่ฉันเสียเปรียบ ตั้งแต่ร่างกายกระทั่งความรู้สึก ฉันมาทบทวนดูเมื่อ 3 นาทีก่อน ฉันคิดว่าไม่ยุ่งกับมันดีที่สุด ไม่เอาตัวเองลงไปเล่นก็ไม่ต้องเจ็บ ที่ผ่านมาฉันเจ็บมามากพอแล้ว ฉันจะไม่เจ็บเพราะผู้ชายคนนี้อีกแล้ว และฉันไม่อยากวุ่นวายให้ลูกต้องเกิดความสงสัย ไอ้หมายิมมันจะเป็นแค่ผู้ชายคนแรกที่ฉันรักเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD