7 น่าสมเพช

1503 Words
NAF TALK “รุ่นพี่อย่าลืมโอน 5 แสนนะคะ” แม่บ้านส่วนตัวของผมเอ่ยเตือนเรื่องเงินที่เกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างผมและเธอ “รู้แล้ว งกจริง ไปหยิบมาโอนเองเลยมั้ย” ผมพูดและนั่งตักหมูมาเป่าแล้วยัดใส่ปาก “โอเคค่ะ” แม่บ้านส่วนตัวของผมลุกหายเข้าไปในห้องนอนของผม จากนั้นเธอก็กลับมาพร้อมโทรศัพท์มือถือของผม “รหัสเดิมใช่มั้ยคะ” ยัยนี่เป็นแม่บ้านส่วนตัวที่รู้ทุกเรื่องของผมจริง ๆ ครับ รู้ทุกเรื่องที่คนอื่นไม่รู้ อาจจะเพราะผมอยากลองใจเธอ กระทั่งรู้ตัวว่าเธอไว้ใจได้ เธอจึงได้รู้เรื่องส่วนตัวของผมมากกว่าที่คนอื่นรู้ “อืม” ผมขานรับและนั่งตักซุปมาซด “5 แสนนะ ห้ามเกิน” “ไม่เคยโอนเกินค่ะ หนูซื่อสัตย์รุ่นพี่ก็รู้” ขี้งกด้วยน่ะสิ คนอะไรอย่างงก “เรียบร้อยค่ะรุ่นพี่ หนูจะทำให้ดีที่สุดนะคะ ขอบคุณที่เชื่อใจหนูค่ะ” เธอเอามือถือยื่นมาคืนผม “อืม อย่าลืมหัดยิ้มล่ะ พี่ไปนอนละ” ผมวางช้อนกับตะเกียบ จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอน เดินมาสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้อง ผมมาถึงจุดที่ต้องเสียเงินหลายแสนเพื่อซื้อผู้หญิงมาเป็นคู่หมั้น เพียงเพราะป่าป๊าของผมจะให้ผมแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนเขา คลุมถุงชนเป็นอะไรที่ผมเกลียดที่สุด โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่ตามตื๊อ ตามราวีตั้งแต่เล็กจนโต จนน่ารำคาญ ครอบครัวของผมบังคับพี่ชายของผมไม่ได้ไงครับ เลยมาลงที่ผมแทน เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเพิ่งเกิด มันถูกพูดถึงมาสักพักใหญ่แล้ว แต่ที่ผ่านมาเหมือนผู้ใหญ่จะยังไม่เอาจริง จนกระทั่งผมใกล้จะเรียนจบ ทุกอย่างเริ่มชัดเจน ผมก็เลยต้องรีบปฏิเสธอย่างเต็มตัว แล้วแม่บ้านส่วนตัวของผมก็เหมาะสมมากที่สุด เธอเชื่อฟังผม ไม่แหกกฏ ถ้าผมไปจ้างคนสวย ๆ รับรองได้ว่าเรื่องเยอะ น่ารำคาญ จ้างยัยนี่แหละ รู้ใจผมที่สุดแล้ว ติดก็คงตรงหน้าตาและการแต่งตัวของเธอ แต่ตรงนี้แหละดีแล้ว เพราะถ้าไปเลือกเอาแบบน่ารัก ๆ มายืนข้าง ๆ ป่าป๊าที่แสนฉลาดของผมไม่มีทางเชื่อหรอกครับ ส่วนเรื่องที่มอน่าจะตบตาได้ไม่ยาก ในเมื่อผมไปรับไปส่งแม่บ้านส่วนตัวของผมเป็นประจำ สรุปแล้วคงไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก (มั้ง) ครับ “ทำไมต้องเป็นหนูที่ขับตลอดคะรุ่นพี่ ถ้าเกิดหนูเฉี่ยวชนคันอื่น รุ่นพี่จะไม่หักเงินเดือนหนูหรือไง” เช้าวันต่อมาเธอก็เริ่มโอดครวญเมื่อผมให้เธอเป็นคนขับ ส่วนผมนั่งสบาย “พี่ไม่งกเหมือนเธอนะ” ผมบอกพร้อมปรับเบาะเอนนอน “ของีบหน่อย พี่อิ่มข้าวต้มเมื่อเช้า” เมื่อเช้าเธอทำข้าวต้มหมูเด้ง ฝีมือยัยนี่ทำอาหารคืออร่อยเลยครับ นอกจากเรื่องหน้าตา การแต่งตัวแล้วยัยนี่ไร้ที่ติ แม่บ้านแม่เรือนฉบับสมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้ “ถึงแล้วค่ะรุ่นพี่” เสียงของแม่บ้านส่วนตัวเอ่ยเรียกผม ไอ้ที่ว่าจะงีบสักหน่อยเล่นหลับยาวเลยผม “อืม เย็นนี้อย่าลืมนะ เราไปชุดนี้กันเลยก็ได้” ผมพูดถึงเรื่องที่จะพาเธอไปกินข้าวที่บ้าน พาเธอไปเปิดตัวกับครอบครัวของผม “ไม่ลืมค่ะรุ่นพี่” เธอลงจากรถแล้วไปหยิบกระเป๋า อุปกรณ์การเรียนที่อยู่เบาะหลัง “หนูบอกเพื่อนได้เลยใช่มั้ยคะ” เธอเอ่ยถามเมื่อผมลงมาจากรถ คนอย่างเธอมีเพื่อนแค่คนเดียวเท่านั้นครับ และเพื่อนคนนั้นของเธอไว้ใจได้แน่นอน “อืม บอกเลยก็ได้ พี่ไปนะ” ผมให้คำตอบและเดินออกมา ผมกับเธอเรียนคนละตึกกัน วันนี้เธอเรียนตึกไหนไม่รู้ครับ ผมไม่เคยสนใจ แค่รู้เวลาจากการถามเธอแค่นั้นก็พอ... “กูจะหมั้นนะ” พักเที่ยงของวันนี้ผมกินข้าวที่โรงอาหาร และผมเอ่ยคำนี้ขึ้น พวกเพื่อนในกลุ่มเงยหน้าจากจานข้าวแล้วมองหน้าผม “มึงพูดใหม่ดิ๊ เอาแบบเมื่อกี้เลยนะ” ไอ้หวายมันว่า “กูจะหมั้นนะ” “เหี้ย อะไรดลใจ ใครคือคู่หมั้น ไหนมึงว่ารักพี่สาวกู” ไอ้หวายถามต่อ ไอ้เรซที่รู้อยู่แล้วมันนั่งเงียบ ๆ รอฟังแค่ว่าใครคือคนที่ผมจะเอามาหมั้นด้วย ส่วนไอ้ดินมันมองเหมือนมองผ่าน ซึ่งมันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว “รักแหวนกูก็ยังรักเหมือนเดิม คู่หมั้นก็ส่วนคู่หมั้น” “อย่าบอกว่ามึงยอมหมั้นกับลูกลุงบอมเพื่อนป๊ามึงแล้วนะ” ไอ้หวายยังเป็นคนที่ถามต่อ “กับยัยนั่นให้ตายยังไงกูก็ไม่เอา คนอะไรชื่อน้ำใจแต่ไม่มีน้ำใจกับคนอื่น เห็นแก่ตัวที่หนึ่ง เอาแต่ใจฉิบหาย ใครได้เป็นเมียคงมีกรรมเยอะ” “อุ๊ก อุ๊ก แค่ก แค่ก!!! มึงอคติเองรึเปล่า” ไอ้หวายสำลักน้ำที่มันกำลังกระดก “ไหนมึงว่ามาเรื่องมันยังไง ถ้าไม่ใช่น้ำใจแล้วใคร” “กูจ้างแม่บ้านส่วนตัวมารับหน้าที่คู่หมั้นด้วย” “น้องคนดีอะนะ!” ไอ้เรซมันร้องขึ้น “อืม” “กูไม่เห็นด้วย อันตรายเกินไป คนดีไม่ปลอดภัย” นี่คือประโยคแรกของวันนี้ที่ไอ้ดินเพื่อนของผมมันอ้าปากพูด ผมรู้ว่ามันอันตรายแค่ไหน แต่ผมที่ตัวติดกับยัยเฉิ่มตลอดผมมั่นใจว่าผมดูแลเธอได้ “กูดูแลน้องมันได้” “ทำไมต้องเป็นคนดี เด็กมึงคนอื่นมีเยอะแยะ” ไอ้ดินยังถามต่อ น้ำเสียงมันไม่พอใจผมรู้ แม้หน้าตามันจะนิ่งก็เถอะ แต่ถ้ามันได้พูดยาว ๆ แสดงว่ามันไม่พอใจเอามาก ๆ “น้องมันเชื่อฟังกูสุดแล้ว คนอื่นมันพูดยากน่ารำคาญ กูตกลงกับน้องมันเรียบร้อยแล้วน่า มึงไม่ต้องห่วงน้องสาวมึงหรอก” ผมก็พอรู้ว่าไอ้ดินมันเอ็นดูยัยเฉิ่มมาก อาจจะเพราะสงสารที่ชีวิตของเธอพบเจอแต่ความลำบากมั้งครับ คนอย่างไอ้ดินคงไม่ได้ชอบยัยเฉิ่มหรอก “ถ้าคนดีเจออันตรายจากเรื่องของมึง กูจะเอาน้องกูกลับมาและยกเลิกสัญญาจ้างทุกอย่าง ไม่มีข้อแม้อะไรทั้งนั้น” ไอ้ดินเพื่อนของผมมันยื่นข้อเสนอ ไม่รู้ยัยเฉิ่มจะเห็นด้วยมั้ย แต่ให้ไอ้ดินไปตกลงเอาเองแล้วกัน ผมไม่ยุ่งอยู่แล้ว “อืม” ผมตอบตกลงเพราะผมคิดว่าผมดูแลน้องสาวไม่แท้ของไอ้ดินได้ “กูนี่อยากจะกราบน้องคนดีจริง ๆ ที่ทำให้ไอ้ดินมันอ้าปากพูดกับเพื่อนได้ ถ้าไม่ใช่เรื่องน้องคนดี ไอ้ดินมันคงเงียบเป่าสากเหมือนลืมเอาปากมา” ไอ้หวายที่เงียบไปสักพักมันเอ่ยปากขึ้นอีกรอบ ส่วนไอ้คนโดนกล่าวถึงมันเงียบนิ่งไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก “นาฟ!” เสียงแบบนี้ผมรู้เลยว่าใคร สะเหล่อมาถึงโรงอาหารของคณะวิศวะอีกแล้ว “ขอนั่งด้วยดิ ที่นั่งที่เหลือไม่มีว่างเลย” น้ำใจเอ่ยเสียงหวานหยาดเยิ้ม “นั่งดิ นี่อิ่มพอดี” ผมว่าและลุกขึ้นยืน “อะไรกัน ว่าที่คู่หมั้นอุตส่าห์มากินข้าวด้วย อย่าทำเป็นเล่นตัวไปหน่อยเลยนาฟ” เธอชักสีหน้าใส่ผม และน้ำเสียงที่เธอเปล่งออกมาโคตรจะดัง คนในโรงอาหารได้ยินเกือบครึ่ง “ให้ได้หมั้นก่อนค่อยมาพูดดีว่ามั้ย ไอ้คำว่า ‘ว่าที่’ บางทีมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แล้วอย่ามาขึ้นเสียงกับนี่ นี่ไม่ชอบ” เสียงดังมาเสียงดังกลับสิ ทำไมผมจะต้องผ่อนแรงให้เหมือนว่าตัวเองรังแกผู้หญิง ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนที่ผมจะต้องใจดีด้วย เธอคนนี้เป็นผู้หญิงที่ผมเกลียดเลยก็ว่าได้ “งั้นก็เตรียมตัวไว้เลยนาฟ นายได้มาเป็นสมบัติของเราแน่ นายจำวันนี้ไว้ แล้วอีกไม่นานนายจะได้กลายมาเป็นทาสเรา” น้ำใจลูกสาวของเพื่อนป๊าของผมพูดด้วยท่าทางหยิ่งผยอง คงจะมั่นใจมากสินะว่าผมจะไปเป็นของเธอ ฝันไปเถอะ ให้ใช้ชีวิตกับผู้หญิงคนนี้ สู้ผมเอายัยเฉิ่มมาอยู่ข้าง ๆ ดีกว่าเยอะ “ถ้ายังไม่ตื่นก็ตื่นซะ เพราะฉันไม่มีวันเป็นสมบัติของเธอ ยัยโรคจิต” ผมพูดเสียงดังลั่นแล้วเดินออกมาจากโรงอาหาร ปล่อยผู้หญิงคนนั้นกรีดร้องเป็นเปรตขอส่วนบุญไปเถอะครับ ผมไม่แคร์ผู้หญิงคนนั้นอยู่แล้ว น่าสมเพช... END NAF
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD