KONDEE TALK
ฉันชื่อ ‘คนดี’ ชื่อนี้เหมือนเป็นกรณีบังคับให้เป็นตามชื่อคล้ายกับว่าครอบครัวเฝ้าหวัง รักฉันมากมาย ทว่าความจริงมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
ฉันเป็นนักศึกษาปี1 เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล เรียนเพราะใจรัก และตามเพื่อน อันนี้ข้อสำคัญ
ซึ่งการเลือกเรียนของฉันมันสวนทางกับบุคลิกที่ฉันเป็นโดยสิ้นเชิง ฉันเป็นคนที่มีเพื่อนน้อยมาก เพื่อนมีอยู่เพียงคนเดียว เป็นเพื่อนที่คบกันตั้งแต่สมัยเด็ก เขาชื่อ…
“คนดีเลิกเรียนแล้วไปรอพี่นาฟหน้าตึกซีนะ ดิสมีนัดไม่ได้ไปด้วย คนดีไปคนเดียวได้ใช่มั้ย” นี่ไงคะเพื่อนเพียงคนเดียวของฉัน เขาชื่อ ‘ดิส’ เป็นคนเดียวที่ฉันไว้ใจ
“เข้าใจแล้ว ไม่ต้องห่วง” ฉันส่งยิ้มไปให้ดิส
“หัดยิ้มบ่อย ๆ หน่อย รู้มั้ยว่าคนดียิ้มแล้วน่ารัก” ดิสส่งรอยยิ้มกลับมา เขาเป็นคนเดียวที่ฉันยิ้มให้ เพราะเขาคือคนเดียวที่บอกว่าฉันน่ารักในทุกเวลา
พี่นาฟ คือพี่สายรหัสของฉัน พี่นาฟอยู่ปี3 เขาเป็นรุ่นพี่ที่รุ่นน้องทุกคนเคารพ ฉันก็เช่นกัน
แต่ฉันพยายามเคารพนะ ที่พูดแบบนี้เพราะฉันหาจุดที่จะเคารพเขาไม่ได้สักนิดไง เอาเป็นว่าถ้าเจอเขาก็จะรู้เองว่าเขาเป็นคนยังไง
และแล้วเวลาหลังเลิกเรียนก็มาถึง ฉันดั้นด้นเดินมาตึกซีตามคำสั่งของพี่นาฟที่ฝากบอกผ่านดิสมา ถามว่าทำไมไม่บอกฉันเอง ก็เพราะฉันไม่มีเครื่องมือสื่อสารอะไรทั้งนั้น
ฉันคิดว่ามันไม่จำเป็น จึงไม่ต้องมีมาเพื่อพกพาให้ลำบากการแบก
“ช้า” เมื่อเดินมาถึงฉันก็โดนต่อว่าโดยหนุ่มหน้าหล่อ หนุ่มฮอตของคณะวิศวะ หนุ่มหล่อที่คลั่งสาวไซซ์มินิตัวเล็กน่ารักน่ากอด ซึ่งฉันคนนี้ไกลโขจากสเปกของเขามาก
และมันเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะฉันที่ได้เห็นความหื่นกามของเขาจนฉันสะอิดสะเอียนนั้น ฉันรับไม่ได้ถ้าหากวันใดวันหนึ่งเขามาทำตัวหื่นใส่ฉัน
“ขอโทษค่ะรุ่นพี่” ฉันขยับกรอบแว่นเล็กน้อยตามนิสัยที่สร้างให้มันเกิดความเคยชิน ‘รุ่นพี่’ คือคำที่ฉันเรียกเขา ฉันไม่เรียกชื่อ เพราะเราไม่สมควรสนิทกัน
“ถ้าช้าอีก ทีหลังจะให้เดินกลับเองนะเฉิ่ม แล้วอย่าหาว่าใจร้าย” พี่สายรหัสโยนกระเป๋าของเขามาให้ฉันรับ และแน่นอนว่าฉันคือคนถือมัน ส่วนเขาเดินตัวเบาสบาย
และ ‘เฉิ่ม’ คือชื่อที่เขาเป็นคนตั้งให้ฉัน ไม่สิ ไม่ใช่แค่เขา หลาย ๆ คนก็พากันตั้งให้ฉัน เนื่องจากฉันมันคนเฉิ่มเชยมาก ๆ สวมกระโปรงยาวถึงตาตุ่ม ถ้าวันไหนใส่กางเกงก็อย่าหวังว่าจะใส่แบบรัด ๆ ส่วนเสื้อช็อปก็ใส่ตัวใหญ่ ๆ อย่าคิดว่าจะได้เห็นความเซ็กซี่ เพราะฉันไม่มีให้ดู หัวฟูหยิกหยอง ผิวคล้ำ ติดไปทางดำเลยก็ได้ ใส่แว่นหนาเตอะกรอบโคตรโบราณ ปกปิดทุกอย่างไร้ซึ่งเสน่ห์ดึงดูด
และนี่แหละคือฉัน!
ฉันถึงบอกไงว่าฉันไม่เหมาะที่จะเรียนคณะที่เลิศหรูหนุ่มหล่อมากมายขนาดนี้ อ้อ รวมถึงการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยนี้เลยก็ว่าได้ แต่สุดท้ายฉันก็เอาตัวเองมาอยู่ที่นี่ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าฉันไม่สมควรอยู่ ที่มาอยู่ก็เพื่ออนาคตของฉัน!
“อร่อยดี” พี่สายรหัสของฉันเอ่ยปากชมเมื่อตักกะเพราหมูกรอบใส่ปากคำแรก
“ขอบคุณค่ะรุ่นพี่” ฉันพูดเสียงราบเรียบและเดินออกจากห้องครัวของคอนโดหรูที่ฉันอาศัยอยู่
“ไม่กินข้าวเหรอเฉิ่ม”
“รุ่นพี่กินเลยค่ะ หนูยังไม่หิว”
“แต่อีกเดี๋ยวเด็กพี่จะมา เฉิ่มก็รู้กฏดี”
“งั้นหนูตักเข้าไปไว้ในห้องก่อนก็ได้ค่ะ” ฉันเดินกลับมาที่ครัว เดินมาตักข้าวและกับข้าวใส่จาน
ทำไมต้องพูดหนู ทั้งที่ไม่อยากพูด ก็เพราะเขาสั่งห้ามฉันแทนตัวด้วยชื่อ เนื่องจากชื่อของฉันไปซ้ำกับคำที่เขาเอาไว้เรียกบรรดาสาวไซซ์มินิของเขา
ฉันจึงแทนตัวเองว่าฉัน เขาก็บอกมาว่ามันดูปีนเกลียวเพราะเขาแก่กว่า
‘แทนตัวว่าหนูแล้วกัน แม้จะไม่น่าทะนุถนอมแบบผู้หญิงคนอื่นก็เถอะ’ คือคำพูดของพี่สายรหัสที่หลาย ๆ คนคลั่งไคล้หนักหนา
ความดีของเขาที่ฉันมองเห็นน่าจะมีอย่างเดียว คือทนอยู่ร่วมกับคนที่ตรงข้ามกับสเปกของเขาทุกอย่าง
ถ้าคุณกำลังคิดว่าเราสองคนอยู่อาศัยใต้หลังคาเดียวกัน คุณคิดถูกต้องค่ะ
ฉันอยู่กับพี่สายรหัสสุดหล่อ แต่ฉันไม่ได้ชื่นชอบหรือแอบชอบเขาหรอกนะ บอกตามตรงว่าหาส่วนชอบไม่เจอเลยจริง ๆ
อย่าคิดว่าฉันคือคนโชคดีที่ได้เจอน้ำใจของเขานะคะ เพราะฉันเปรียบเสมือนคนรับใช้ของเขา ทำทุกอย่างจริง ๆ สารพัดงานเลยล่ะ
เขาโหดมากของมาก ของมากที่สุด
พี่สายรหัสของฉันเป็นหนุ่มหล่อสายเปย์ที่สาว ๆ ต่างอยากได้เป็นเจ้าของ
แต่เขาไม่คิดเอาใครมาเป็นตัวจริง ได้ยินเพื่อนของเขาที่ฉันค่อนข้างสนิทด้วยระดับหนึ่งเล่ามาว่าพี่สายรหัสของฉันเขาหลงรักเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของตัวเอง แต่เพื่อนคนนั้นไม่ได้สนใจเขา ทั้งที่เขาทุ่มเทมาก ๆ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เห็นค่า ไม่ได้คิดกับเขาเกินเพื่อน
พี่สายรหัสของฉันจึงเสียใจมาก และก็เลยเลือกที่จะมีสาว ๆ ไซซ์มินิตามสเปกของตัวเองไปเรื่อย ๆ
แน่นอนว่าเศษซากหลังความใคร่ฉันคือคนเก็บกวาดทุกอย่างภายในห้องนี้ให้สะอาดสะอ้าน และห้ามให้เด็กของรุ่นพี่เห็นการมีชีวิตของฉันในห้องนี้ นี่คือกฏหนึ่งข้อจากหลาย ๆ ข้อที่ฉันต้องปฏิบัติตาม
แต่ข้อที่สำคัญมาก ๆ คือฉันห้ามโกหก เพราะเขาเกลียดคนโกหก
ห้องนอนของฉันอยู่คนละฝั่งกับห้องที่พี่สายรหัสเอาไว้ใช้นอนกับบรรดาสาว ๆ และห้องของเขาเก็บเสียงเป็นอย่างดี ฉันจึงไม่ได้ยินเสียงผสมพันธุ์กัน
สามชั่วโมงผ่านไป…
ก๊อก ก๊อก…
“ค่า” ฉันรีบเดินมาเปิดประตูห้อง
“พี่จะไปคลับนะ ไปทำความสะอาดห้องให้ด้วย เอาให้สะอาด” พี่สายรหัสที่สวมเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวยืนกอดอกออกคำสั่งกับฉัน
“รับทราบค่ะรุ่นพี่” อย่าคิดว่าฉันจะลุ่มหลงหุ่นเพอร์เฟกต์ของเขา เพราะแค่คิดว่าสาวหลายต่อหลายคนได้สัมผัส ฉันก็ไม่อยากจะใกล้พี่สายรหัสของฉันสักนิด
“ดีมาก แล้วเราก็อาบน้ำนอนได้เลยนะ วันนี้พี่จะนอนที่คลับ ขี้เกียจขับรถไปกลับ พรุ่งนี้เช้าเอาชุดไปให้พี่ก่อน 8 โมงเช้าด้วย”
ลำบากฉันอีกตามเคย “เข้าใจแล้วค่ะรุ่นพี่”
พี่สายรหัสยักคิ้วให้ฉันหนึ่งครั้งและหมุนตัวกลับเดินไปที่ห้องของเขา ฉันเดินตามมาติด ๆ เพื่อเข้ามาทำความสะอาดห้องของเขา
ก็มีเก็บซากถุงยางที่ใช้แล้วสองสามชิ้น เก็บชุดคอสเพลย์ใส่ตะกร้าเตรียมซัก เก็บโซ่แส้กุญแจมือ บางทีก็ต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนตามระยะเวลาความเหมาะสม และความเลอะเทอะ
เอาตามตรงก็นะ…เดือนแรกก็ไม่ชิน แต่หลัง ๆ มาเริ่มชินกับอะไรแบบนี้ คงเพราะค่าตอบแทนราคาสูงด้วยนั่นแหละ
คำว่าเงินทำให้ฉันชินกับงานนี้
แม่บ้านส่วนตัวของพี่สายรหัสอย่างฉัน ต้องทำทุกอย่างตามที่นายจ้างสั่ง ทุกอย่างเพื่อเงินล้วน ๆ
ยอมให้เขาโขลกสับเพื่อเงินจากกระเป๋าของเขา
แค่ทนกับพี่สายรหัสคนนี้ ฉันคิดว่ามันคงไม่หนักหนาสาหัสอะไรมากนัก เพราะอย่างน้อย เขาก็เป็นคนที่ทำให้ฉันมีชีวิตที่ดีขึ้น และฉันสบายใจที่ได้อยู่ที่นี่
แม้ว่าเขาจะหื่นใส่บรรดาสาว ๆ ไซซ์มินิของเขา แต่สำหรับฉันเขาไม่แสดงความบ้ากามใส่ฉันแน่นอน