5 ไม่สน

1328 Words
“ไง” พี่ดินเอ่ยทักระหว่างที่เราเดินสวนกัน ดูแล้วน่าจะทักฉันเพราะพี่ดินมองมาทางฉัน ไม่ได้มองน้องชายของตัวเอง “สวัสดีค่ะพี่ดิน” ฉันส่งรอยยิ้มให้พี่ดิน “กินข้าวมายัง” มือหนาวางลงที่ศีรษะของฉัน ดวงตาไร้ความรู้สึกเวลามองบุคคลอื่นนั้นกำลังมองฉันด้วยความห่วงใย ฉันไม่ได้คิดไปเอง พี่ดินมักมองฉันด้วยสายตาอบอุ่นแบบนี้เสมอ “คนดีกินแซนวิชมาแล้วค่ะ พี่ดินกินยังคะ คนดีมีมาเผื่อด้วยนะ เห็นดิสเคยบอกว่าพี่ดินชอบไส้ปูอัดทูน่า” ฉันรีบล้วงเอากล่องแซนวิชในกระเป๋าผ้าที่สะพายอยู่ออกมาให้พี่ดิน “ขอบใจนะ ตอนแรกว่าจะชวนไปกินข้าวเป็นเพื่อน” พี่ดินยิ้มให้ฉันและรับแซนวิชไป ใครหลายคนบอกว่าพี่ดินยิ้มยาก แต่น่าแปลกที่ทุกครั้งที่ฉันเจอเขา เขายิ้มให้ฉันเป็นประจำ “อะไรกัน แล้วของเราล่ะ คนดีลำเอียงตั้งแต่เมื่อไหร่” ดิสเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือแล้วทำเสียงเง้างอนใส่ฉัน “คือดิสไม่ชอบกินแซนวิช เราก็เลยไม่ได้เอามาเผื่อ เราเห็นว่าพี่ดินชอบ เราเลยนึกถึงพี่ดิน” มันคือเรื่องจริงที่ว่า ดิสเกลียดอาหารพวกนี้ เขาบอกว่ามันไม่อิ่มเท่าข้าว ซัดข้าวเป็นจาน ๆ ยังอิ่มกว่า ฉันจึงจดจำเอาไว้เสมอมาว่าดิสไม่ชอบอะไรแบบนี้ ความจริงก็มีอีกหลายอย่างที่ดิสไม่ชอบ ซึ่งฉันรู้เยอะพอสมควร “ครั้งนี้เราให้อภัย แต่ครั้งหน้าคนดีต้องคิดถึงเราก่อนพี่ดินนะรู้มั้ย” ดิสยกมือขึ้นปัดมือของพี่ดินที่วางบนศีรษะของฉันออก “พูดอะไรกันดิส ไปเรียนกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน” ฉันบอกกับดิสแล้วหันมาพูดกับพี่ดิน “ไปก่อนนะคะพี่ดิน” “ครับ ตั้งใจเรียนนะ” นิ้วเรียวสวยคล้ายผู้หญิงของพี่ดินวางแนบที่แก้มของฉันแล้วบีบดึงขึ้นเบา ๆ “ยิ้มบ้าง” “ทั้งมอยิ้มให้แค่ดิสกับพี่ดินสองคนก็พอค่ะ เพราะที่เหลือคงไม่มีใครอยากเห็นรอยยิ้มของคนดี” ฉันพูดพร้อมยิ้มให้พี่ดินอีกครั้ง “ไปได้แล้วคนดี พี่ก็ไปเรียนดิ จะมายืนซึนอะไรวะ” ดิสพูดกับฉันและคว้ามือของฉันไปจับ จากนั้นก็หันไปโวยใส่พี่ดินแล้วพาฉันเดินออกห่างจากพี่ดิน “หงุดหงิดอะไร” เมื่อเดินออกมาไกลพอสมควรฉันจึงเอ่ยถามดิส เนื่องจากสีหน้าของดิสดูไม่ปกติเหมือนจะหงุดหงิดเอามาก ๆ “ก็พี่ดินมันชอบสนใจคนดีไง แล้วคนดีก็กลายเป็นเป้าสายตา ไม่สังเกตบ้างหรือไง คนดีก็รู้ว่าพี่ดินฮอตไม่ต่างกับพี่นาฟ แล้วทั้งมอพี่ดินมันก็ให้ความสนใจคนดีคนเดียว” “ก็เราเป็นเพื่อนดิส ก็เหมือนเป็นน้องพี่ดินไง คนอื่นก็รู้กันแบบนี้ไม่ใช่เหรอ แล้วจะแคร์สายตาคนอื่นทำไม” ฉันไม่เคยสนใจสายตาคนเวลาที่มองฉันกับพี่ดิน ไม่เคยสนความต่างที่ฉันได้รับจากพี่ดิน ฉันรู้แค่ว่าที่พี่ดินดีกับฉันเพราะฉันคือเพื่อนของดิส ซึ่งเป็นน้องชายของพี่ดิน ฉันรู้แค่ว่าพี่ดินเป็นคนใจดีสำหรับฉัน ฉันรู้ว่าพี่ดินเลือกใจดีกับคน และฉันคิดว่าที่พี่ดินทำดีกับฉันก็เพราะฉันคือเพื่อนของดิสแค่นั้นเอง “แต่ดิสแคร์ไง ดิสไม่อยากให้ใครเอาคนดีไปพูดในทางเสียหาย” ดิสชักสีหน้า มันเหมือนดิสให้ความสนใจฉันมากกว่าเพื่อนใช่มั้ยคะ แต่ความจริงเราเป็นแค่เพื่อนกันค่ะ แค่เพื่อนกันจริง ๆ ดิสคิดกับฉันแค่เพื่อน “หงุดหงิดอะไรอีกคะที่รัก” เสียงหวานเอื้อนเอ่ย เธอคือพี่รหัสของฉัน เธอชื่อ ‘เกี้ยว’ เรียนปี 2 เธอเป็นแฟนของดิส สองคนนี้เป็นแฟนกันได้หลายเดือนแล้ว เขาสองคนรักกันมาก พี่เกี้ยวเป็นพี่รหัสของฉันก็จริง แต่เธอไม่ได้รู้เรื่องของฉันมากนัก ดิสไม่ได้บอกเธอ “แค่โมโหพี่ดินครับ ชอบมาวุ่นวายกับคนดี ชอบทำให้คนดีเป็นเป้านิ่งของผู้หญิงคนอื่น ๆ” ดิสเล่าให้พี่เกี้ยวฟัง “ก็พี่ดินเขาเอ็นดูน้องสาวของเขามันผิดตรงไหนที่รัก” พี่เกี้ยวส่งยิ้มมาให้ฉัน “ผิดตรงที่พี่ดินมันใจดีกับคนดีแค่คนเดียวไงครับ ถ้ามันเป็นแบบนี้กับคนอื่นบ้างก็คงไม่มีปัญหาอะไร” ดิสยังคงพูดต่อ พูดทำนองที่พูดกับฉันก่อนหน้านี้นั่นแหละค่ะ “ดิสโอเวอร์ค่ะพี่เกี้ยว พี่ดินก็เป็นปกติอยู่แล้ว” ฉันรีบแย้งก่อนที่มันจะวุ่นวายไปมากกว่านี้ “นั่นสิ สงสัยที่รักจะหวงเพื่อนมากเกินไป แต่ก็มีพวกผู้หญิงที่ชอบว่าคนดีเหมือนกันนะ ส่วนมากเป็นพวกขี้อิจฉาที่เป็นแฟนคลับของพี่ดินทั้งนั้น ไม่แปลกที่ดิสจะเป็นห่วงเพื่อน เพราะพี่ก็ได้ยินคนพูดเหมือนกัน คนดีระวังไว้บ้างก็ดีนะ” ดูเหมือนพี่เกี้ยวกับดิสจะเห็นพ้องต้องกันซะแล้ว “โอเคค่ะ ถ้ามันทำให้พี่รหัสกับเพื่อนรักของคนดีอารมณ์ดีขึ้น คนดีจะพยายามไม่สนใจคำพูดคนนะคะ” “มันใช่ที่ไหนล่ะคนดี คนดีไม่สนสายตา ไม่สนคำพูดใครอยู่แล้วมั้ย” ดิสทักท้วงฉัน “ก็เราไม่จำเป็นต้องสนใจคำพูดใครอยู่แล้วไงดิส อย่างน้อยพวกนั้นพูดก็แค่อิจฉาที่พี่ดินพูดดีกับคนดี แต่อย่าลืมสิ เป็นแบบนี้แรงอิจฉาน้อยกว่านะ” ฉันยกมือสองข้างชี้ลงที่รูปร่างของฉัน บางทีก็ไม่อยากจะปิดพี่เกี้ยวเพราะเธอก็เป็นพี่รหัสที่ดีมาก ๆ คอยดูแลฉันดีทุกอย่าง ไม่เหยียดหน้าตา ผิวพรรณ ความต่าง แต่คนเราใช่ว่าจะรักกันตลอดไป แล้วตราบใดที่ฉันยังอยู่ในสภาพนี้ คนรู้น้อยที่สุดย่อมเป็นเรื่องดี ไอ้เรื่องคำพูดดูถูกเหยียดหยามบูลลี่ก็ช่างหัวมันเถอะค่ะ “เฮ้อ คนดีเป็นแบบนี้ไง เราถึงเลือกที่ห้ามพี่ดินแทน แต่พี่ดินมันฟังที่ไหนกัน ฮุ้ย!!!” ดิสก็ยังอารมณ์เสียเหมือนเดิม “เราไปเรียนก่อนดีกว่า ดิสคุยกับพี่เกี้ยวไปก่อนเลยนะ เหลือเวลาอีก 15 นาที” ฉันเลือกที่จะปลีกตัวออกมา พูดไปดิสกับฉันก็คุยกันไม่ลงตัว เดินหนีดีกว่า ดิสจะได้มีเวลาคุยกับแฟนของเขา เรื่องการมีแฟนของดิส ฉันทำใจแล้วค่ะ อาจจะเจ็บบ้างตามประสาคนแอบรัก แต่อย่างที่บอกค่ะ ฉันอยากให้ดิสมีความสุขที่สุด ถ้าการที่เขามีแฟนคือความสุขของเขา เพื่อนคนนี้ก็พร้อมจะยืนมองเขามีความสุข คนแอบรักที่ไม่อยากเสียมิตรภาพไปก็ทำได้เท่านี้ค่ะ แล้วคือเรื่องคำพูดของคนฉันก็พอรู้ เคยได้ยินกับหู แต่ฉันไม่ได้สนใจไงคะ ก็นั่นแหละค่ะ ปลง คนเรามีปากที่ไหน ที่นั่นย่อมมีคำนินทา เราห้ามปากใครไม่ได้ ต่อให้เราดีแค่ไหน แต่เราก็ไม่สามารถดีในสายตาของคนที่ไม่ชอบเรา ฉันก็แค่เป็นของฉันแบบนี้ ขอแค่อย่ามาทำร้ายฉันเป็นพอ แค่คำพูดของคน ฉันพยายามมองข้ามได้ค่ะ ถ้าเราแคร์คำพูดของคนทั้งโลก โลกนี้คงไม่ใช่ที่สำหรับเรา เอาง่าย ๆ เราแค่คิดว่าเขาจิตป่วยแค่นั้นก็พอค่ะ ถือว่าเรื่องของเราเป็นยารักษาเขาแล้วกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD