หลังจากวันนั้นเก้าทัพก็มักจะมานั่งดื่มที่ผับทุกวันโดยเขาจะมาในเวลาเดิมคือสองทุ่มซึ่งบางครั้งเขาก็มาคนเดียว แต่บางครั้งก็จะมีกลุ่มเพื่อนมานั่งดื่มด้วยกันและเขาจะนั่งมองร่างบางที่เดินไปมาอย่างแข็งขันพร้อมกับพูดคุยหัวเราะยิ้มแย้มกับบรรดาสาว ๆ ที่มาเที่ยวหาความสุขในยามค่ำคืนที่ผับแห่งนี้อย่างเพลินตา
“เหล้าที่สั่งได้แล้วค่ะ”
น้ำเสียงหวานละมุนคุ้นหูดังขึ้นก่อนที่เก้าทัพจะเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ก็เจอกับนับดาวที่ก้มลงวางบรั่นดีที่เก้าทัพสั่งลงบนโต๊ะก่อนที่จะส่งยิ้มหวานให้ผู้ชายที่เธอแอบหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจออย่างน่ารัก เก้าทัพถึงกับหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดูสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าช่างเป็นเด็กที่น่ารักสดใสเสียจริง
“ทำไมวันนี้มาคนเดียวล่ะคะ”
นับดาวถามเก้าทัพด้วยความแปลกใจที่ไม่เห็นพี่ดาร์คและพี่พอร์ช แก๊งเพื่อนรักที่เก้าทัพแนะนำให้เธอรู้จัก โดยเฉพาะพี่ดาร์คนับดาวจำได้ขึ้นใจเลยแหละ เพราะเขาชอบแกล้งเธอบ่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นมนตร์รักผีผลัก ซึ่งหลัง ๆ มาเธอรู้ทัน แต่ก็ยังพลาดท่าพี่ดาร์คจนทำให้เกิดจังหวะความใกล้ชิดกับเก้าทัพอยู่บ่อย ๆ
“สองคนนั้นติดธุระน่ะ ก็เลยมาคนเดียว”
เก้าทัพบอกสาวน้อยหน้าหวานที่พยักหน้ารับคำก่อนที่จะเปิดฝาเหล้าเทบรั่นดีที่เขาชอบดื่มใส่แก้วและหยิบมาดื่มอย่างคุ้นชินกับรสชาติขมที่ปลายลิ้น ก่อนที่จะวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วเงยหน้ามองดวงหน้าหวานของนับดาวที่เขารู้สึกว่าน่ารักจนไม่อาจละสายตาไปทางไหนได้เลย
“วันนี้นับดาวทำงานวันสุดท้ายแล้วนะคะ”
นับดาวบอกเก้าทัพอย่างรู้สึกใจหาย เพราะการมาทำงานที่นี่ทำให้เธอได้เจอเก้าทัพแทบจะทุกวันจนกระทั่งวันนี้วันที่เธอต้องบอกลาผับแห่งนี้ เพราะอีกแค่สองวันเธอก็จะเปิดเทอมแล้ว เธออยากทุ่มเทกับการเรียนให้เต็มที่จึงขอลาออก
หากให้ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเธอคิดว่าเธอไม่สามารถที่จะทำเกรดได้ตามเงื่อนไขของนักเรียนทุนอย่างแน่นอนถึงที่นี่จะเงินดีมากแค่ไหน แต่เธอก็จำใจต้องบอกลา
“เปิดเทอมแล้วก็ตั้งใจเรียนนะคะ” น้ำเสียงหวานละมุนบอกสาวน้อยอย่างรู้ดีถึงเหตุผลที่นับดาวลาออกก่อนที่มือใหญ่จะยื่นไปขยี้ผมนุ่มอย่างรู้สึกเอ็นดู ทำเอานับดาวถึงกับยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจกับการกระทำที่แสนอ่อนโยนของเก้าทัพมีให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นนับดาวไปทำงานก่อนนะคะ”
เด็กสาวบอกเก้าทัพที่พยักหน้ารับก่อนที่นับดาวจะเดินจากไปเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองต่อ เก้าทัพมองตามแผ่นหลังบอบบางของสาวน้อยไปก็ให้หลุดยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี ถึงนับดาวจะไม่ได้มาทำงานที่นี่แล้วแต่เขาก็รู้ว่าเขาสามารถเจอนับดาวได้ที่ไหน เก้าทัพนั่งดื่มคนเดียวเงียบ ๆ โดยที่มีสายตาคู่หนึ่งมองมาที่เขาตลอดเวลาอย่างมีแผนการ
“จ้องขนาดนั้นทำไมไม่เดินไปดีลเลยล่ะ” ไอซ์สาวฮอตประจำผับเพื่อนสนิทไอโซของส้มหวานถามขึ้นยิ้ม ๆ เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอเอาแต่จ้องไปที่ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งดื่มเงียบ ๆ คนเดียวโดยที่ไร้สาวข้างกาย ใบหน้าหล่อเหลาราวกับลูกรักของพระเจ้าทำเอาไอซ์อดที่จะมองด้วยความสนใจไม่ได้หรือว่าส้มหวานจะชอบผู้ชายคนนี้กันนะ
“อยากได้” ประโยคที่แสดงความต้องการอย่างไม่ปิดบังหลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของส้มหวาน ก่อนที่มือบางจะกระดกเหล้าเข้าปากเพื่อเรียกความกล้าที่จะเดินเข้าไปดีลกับผู้ชายที่เคยปฏิเสธเธอมาแล้วครั้งหนึ่งจนเธออายแทบแทรกแผ่นดินหนี แต่รอบนี้เธอจะต้องไม่นกเด็ดขาด
“หล่อเสียขนาดนั้นใครบ้างไม่อยากได้ฉันยังอยากได้เลย”
ไอซ์พูดไปตามความคิด เพราะดูจากหน้าตาที่หล่อร้าย ๆ แบด ๆ ของเก้าทัพแล้วเธอคิดว่าผู้หญิงเกินครึ่งผับที่อยากได้เขาไปครอบครองในค่ำคืนนี้ แต่ดูจากท่าทีที่เมินเฉยและไม่สนใจใครของเขาแล้วเธอคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ง่ายเหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไปที่พอมีผู้หญิงมาเสนอก็พร้อมที่จะตอบสนองในทันที
“หึ หล่อแต่ไม่ง่ายน่ะสิ” ส้มหวานควงแก้วเหล้าพร้อมมองไปที่เก้าทัพไม่วางตา เธออยากจะรู้เหลือเกินว่ารูปร่างภายใต้เสื้อผ้าราคาแพงของเก้าทัพมันจะเพอร์เฟกต์ขนาดไหน
“ถ้าไม่ง่ายก็แค่ทำให้มันเป็นเรื่องง่าย ๆ เสียสิไม่เห็นจะยากเลยถนัดไม่ใช่เหรอ”
ไอซ์พูดขึ้นมายิ้ม ๆ ก่อนที่ส้มหวานจะหันมามองเพื่อนอย่างไม่เข้าใจในคำพูดก่อนที่ไอซ์จะหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นมันให้กับส้มหวาน ดวงตากลมโตพลันทอแสงเป็นประกายวิบวับอย่างมีความหวัง เพราะเธอรู้ดีว่าของที่ไอซ์ยื่นให้เธอมันคืออะไร
“แรงสุดรับรองว่าเย็นชาแค่ไหนก็ต้านเจ้านี่ไม่อยู่”
ไอซ์ขยิบตาหนึ่งข้างบอกส้มหวานที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่มือบางจะรับมาแล้วจัดการชงเหล้าแก้วใหม่ขึ้นแล้วเทผงสีขาวลงไปก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ มีเพื่อนที่รู้ใจมันก็ดีอย่างนี้นี่เอง
อย่างไรแล้วคืนนี้เธอก็ต้องได้เก้าทัพมาครอบครองสมใจอยากแน่นอน หึ คราวนี้เขาไม่มีทางรอดเงื้อมมือเธอแน่ เก้าทัพ กันต์ดนัย
“เดี๋ยวมานะ เตรียมเปิดห้องให้ฉันเสวยสุขกับเก้าทัพได้เลย”
ส้มหวานบอกไอช์ที่พยักหน้ารับก่อนที่ร่างบางในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นจะเดินตรงไปหาผู้ชายที่เธออยากมีเขาเป็นเพื่อนร่วมเตียงในค่ำคืนนี้
ฟุบ
เสียงโซฟาที่อ่อนยวบลง เพราะใครบางคนที่ถือวิสาสะนั่งลงโดยที่เก้าทัพไม่ได้เชื้อเชิญเลยสักนิด ถึงจะรู้ว่ามีผู้มาเยือน แต่เก้าทัพก็หาได้สนใจไม่ เขายังคงนั่งดื่มเงียบ ๆ โดยไร้ซึ่งคำทักทายสาวสวยที่มานั่งลงข้างกายเขา ก่อนที่เขาจะขยับหนีจากอีกฝ่ายที่จงใจเอาหน้าอกอวบ ๆ มาถูไถไปมาที่แขนของเขา
“แหม เมินกันจังเลยนะคะ” น้ำเสียงหวานที่เกิดจากการปรุงแต่งดังขึ้นก่อนที่จะมองใบหน้าหล่อเหลาที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกยินดีกับการมาเยือนของเธอเลยสักนิด เขาทำราวกับว่าเธอเป็นอากาศธาตุที่ไม่มีตัวตนอย่างไรอย่างนั้นเลย ส้มหวานให้รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยกับท่าทีเย็นชาของเก้าทัพที่มีต่อสาวสวยอย่างเธอ
“ของไม่น่ามองก็ไม่จำเป็นต้องมองนี่ครับจริงไหม”
น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นแผ่วเบา แต่ทว่ามันกลับดังเข้าไปกระทบโสตประสาทการรับรู้ของส้มหวานอย่างชัดเจนทุกถ้อยคำ มือบางกำหมัดแน่นด้วยความโกรธและเจ็บใจที่เก้าทัพดูถูกเธอ นิ่งไปสักพักส้มหวานก็กลับมายิ้มหวานอย่างเอาใจเก้าทัพเหมือนเดิม
“หึ ของไม่น่ามองของน้องเก้าอาจจะเด็ดดวงก็ได้ใครจะไปรู้ เพราะน้องเก้าเองก็ยังไม่เคยลองไม่ใช่เหรอคะ”
ส้มหวานขยับเข้ามาใกล้ ๆ ร่างสูงแข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างสมบูรณ์แบบของบุรุษเพศ ก่อนที่จะยกมือขึ้นหมายจะลูบหน้าอกแกร่งภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตา แต่กลับถูกเก้าทัพปัดมือออกอย่างแรงอย่างไม่ไยดี ส้มหวานถึงกับอึ้งไป เพราะคิดไม่ถึงว่าเก้าทัพจะรังเกียจเธอขนาดนี้
“หึ ใครอยากลองก็เชิญครับ ยกเว้นผมคนหนึ่งแล้วกัน”
ดวงตาคมคริบที่แสนเยือกเย็นหันมาจ้องใบหน้าสวยเฉี่ยวของคนข้างกายก่อนที่จะยกเหล้าในมือกระดกเข้าปากอย่างไม่รู้สึกรู้สากับวาจาร้าย ๆ และกิริยาที่แสนหยาบคายที่ตัวเองแสดงต่อส้มหวานเลยแม้แต่น้อย
“โอเคค่ะ ในเมื่อน้องเก้าปฏิเสธพี่ชัดเจนขนาดนี้พี่ก็ไม่หน้าด้านตื๊อต่อ แต่ว่าเหล้าแก้วนี้พี่ตั้งใจชงมาชนแก้วกับน้องเก้า เพื่อไม่ให้พี่เสียน้ำใจรบกวนหมดแก้วได้ไหมคะ”
มือบางยื่นแก้วเหล้าที่มีบางสิ่งบางอย่างผสมอยู่ในนั้นมาตรงหน้าเก้าทัพที่ก้มลงมองอย่างชั่งใจก่อนที่เขาจะรับแก้วมา ส้มหวานถึงกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่เก้าทัพยอมรับแก้วเหล้าที่เธอชงมาให้
“ชนค่ะ”
ยกแก้วของตัวเองที่ถือติดมือมาด้วยยื่นไปตรงหน้าของเก้าทัพก่อนที่เขาจะยื่นแก้วที่รับมาไปแตะกับแก้วของส้มหวานเบา ๆ แล้วยกขึ้นกระดกทีเดียวหมดแก้วอย่างชะล่าใจ เพราะเขาคิดว่าส้มหวานคงรู้จักกิตติศัพท์ของเขาดี
ใจไม่ถึงอย่าลองดีกับเก้าทัพครับ
“ขอบคุณนะคะ”
ส้มหวานยิ้มจนตาหยีก่อนที่จะหยิบแก้วที่ว่างเปล่าไร้น้ำสีอำพันมาถือเอาไว้พร้อมกับลุกเดินจากไปด้วยความดีใจ หึ เธอจะรอดูตอนที่ยาออกฤทธิ์เขายังจะกล้าปฏิเสธเธออีกไหม
ความใคร่มันไม่เข้าใครออกใครต่อให้ขยะแขยงแค่ไหนสุดท้ายแล้วราคะก็มักจะเอาชนะความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเสมอ