หลินชวนผู้ที่พึ่งได้ลิ้มรสกายสาวครั้งแรกเหมือนกับว่าเขาเสพติด ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยการร่วมอภิรมย์อันน่าหลงใหล ทุกสิ่งเป็นไปโดยธรรมชาติตามสัญชาตญาณของร่างกาย
เช้าวันรุ่งขึ้นชายหนุ่มลืมตาและเห็นภรรยาสาวผู้บอบบางนอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาอดไม่ได้ที่จะกอดนางแน่นขึ้น โดยปกติในช่วงเวลานี้เขาต้องลุกขึ้นไปออกกำลังตั้งแต่เช้าแต่วันนี้เขาค่อนข้างตื่นสาย
ชายหนุ่มไม่อยากลุกขึ้นจากเตียงเลย แต่เพื่อร่างกายที่แข็งแรงในตอนออกรบเขาจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานหน่อย เขาจึงฝืนใจลงจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้เสียงดังรบกวนจนนางตื่นขึ้นมา
ไม่นานหลังจากที่หลินชวนลุกจากเตียง หญิงสาวก็ตื่นขึ้นด้วยร่างกายที่ปวดเมื่อย ตามธรรมเนียมของชาวชนบท ในเช้าวันแรกของการแต่งงานลูกสะใภ้จะตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารให้ครอบครัวของสามีกิน มันคล้ายเป็นการทดสอบทักษะการทำอาหารของเจ้าสาวใหม่ และเป็นการแสดงความเคารพต่อญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว
เมื่อซีเหยาเดินไปที่ห้องครัว นางก็พบว่าแม่สามีอยู่ที่นั่นแล้ว หม้อใบใหญ่ยังต้มน้ำร้อนอยู่
แม่หลินเคยผ่านประสบการณ์ในห้องหอมาก่อนรู้ดีว่าเมื่อคืนนั้นเกิดอะไรขึ้น นางจึงไม่ได้สนใจว่าลูกสะใภ้จะตื่นเช้าหรือสาย
"แม่ต้มน้ำหมดแล้ว หมั่นโถวเพิ่งนึ่งเสร็จ อาหารก็มีแค่ผัดผักไม่กี่อย่างเท่านั้น เนื้อสัตว์ที่เหลือเจ้าเอากลับไปเยี่ยมบ้านเดิมเถอะ..."
แม่หลินเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าลูกสะใภ้ ดวงตาของนางแดงก่ำราวกับว่ากำลังร้องไห้
“เกิดอะไรขึ้น บอกแม่มาว่าไอ้เด็กตัวเหม็นนั่นรังแกเจ้าหรือ รีบบอกมา...แม่จะไปจัดการเด็กนั่นให้เอง”
เมื่อมองไปที่หญิงวัยกลางคนที่แสดงความห่วงใยต่อหน้านาง ซีเหยาก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
“ท่านแม่ ไม่ใช่อย่างนั้น สามีดีกับข้ามากเจ้าค่ะเพียงแต่เมื่อเห็นท่านแม่แล้ว...ข้าก็คิดถึงท่านแม่ที่จากไปของข้าเท่านั้น” แม่หลินเห็นว่าลูกสะใภ้กำลังคิดถึงแม่แท้ๆของตัวเอง นางก็รู้สึกสงสารเอื้อมมือลูบศีรษะของนาง พาไปนั่งที่โต๊ะยื่นแก้วน้ำอุ่นให้ดื่ม
“ท่านแม่ ขอบคุณมากเจ้าค่ะ ท่านใจดีกับข้ามาก”
แม่หลินเห็นว่านางคลายความเศร้าแล้ว จึงลุกขึ้นยืนเดินไปให้อาหารไก่ที่หลังบ้าน หลังจากที่ซีเหยาทำกับข้าวเสร็จ ก็เรียกทุกคนในครอบครัวมาร่วมวงกินด้วยกัน น้องสาวของสามีชื่อว่า หลิวซางในปีนี้เพิ่งอายุเก้าขวบเท่านั้น หน้าตาน่ารักมากนางชมพี่สะใภ้ของนางว่าทำอาหารอร่อย ทั้งครอบครัวกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข
หลังจากมื้อเช้านางพาลูกชายและลูกสะใภ้ไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษด้วยกัน จุดธูปคุกเข่าบอกบรรพชนว่าตอนนี้บุตรชายในตระกูลหลิวได้แต่งงานแล้ว
ในตอนที่พวกเขาเดินกลับหลินชวนเดินอยู่ใกล้นางมาก ยามที่ท่านแม่ไม่ได้สนใจมอง เขาก็มักจะลูบแขนของนาง
หญิงสาวมองเขาด้วยความเขินอาย ชายหนุ่มชอบรอยยิ้มของนางมากเป็นพิเศษ ก้มหน้าจนแทบจะสัมผัสกับใบหน้านวล แม่หลินเห็นท่าทางเจ้าชู้ที่ลูกชายทำกับลูกสะใภ้แล้วนางก็รู้สึกยินดี แต่นางก็ยังส่งเสียงกระแอมไอออกมาสองสามครั้ง เพื่อเตือนให้เขาสำรวมในตอนที่อยู่นอกห้องนอนของพวกเขา
ช่วงสายซีเหยาต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมหลังแต่งงาน ทั้งคู่พากันเดินไปตามถนนของหมู่บ้าน ระยะทางค่อนข้างที่จะไกล แต่พวกเขาเดินด้วยกันแล้วกลับไม่รู้สึกเหนื่อยเลย