ตอนที่ 5 คล้องแขนดื่มสุรามงคลด้วยความเขินอาย

1214 Words
หลินชวนวางถาดอาหารในมือลงบนโต๊ะกลางห้อง "เจ้าหิวไหม มากินอะไรรองท้องสักหน่อยเถอะ ข้ายังต้องไปรับแขก เดี๋ยวจะให้น้องสาวของข้ามาอยู่เป็นเพื่อนดีไหม” เขาพูดพร้อมกับส่งผ้าชุบน้ำให้ซีเหยาเช็ดมือ นางพยักหน้าตอบรับด้วยความเขินอาย หลินชวน เห็นว่าเจ้าสาวของเขารู้สึกอึดอัดก็ไม่ได้อยู่คุยต่อ รีบลุกขึ้นเดินหันหลังออกไปจากห้อง ในใจของเขารู้สึกเต้นแรง แต่ก่อนเขาเห็นนางจากระยะไกลๆ นางมีรูปร่างที่ผอมบางมาก วันนั้นที่เขาช่วยนางขึ้นมาจากน้ำ มือของเขาบังเอิญไปสัมผัสโดนเนินเนื้อหน้าอกอันนุ่มหยุ่นของนาง ในเวลานั้นเขาไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเพียงแต่คิดว่าต้องช่วยคนให้ได้ วันนี้เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นเขาก็รู้สึกหน้าแดงขึ้นมา เจ้าสาวของเขาช่างน่ารักจริงๆ ตอนนางยิ้มดวงตาโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ริมฝีปากเล็กบางน่าจุมพิต... หลินชวนตบหน้าผากของตัวเองเพื่อเรียกสติ นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่! ชายหนุ่มส่ายหัวแล้วรีบเดินไปดูแลแขกที่มาในงาน แม่หลินเมื่อเห็นท่าทางที่เขินอายของลูกชายนางก็รู้สึกโล่งใจ นางเหลือบมองไปที่ห้องหอ รู้สึกผิดอยู่ในใจกับลูกสะใภ้ ไม่รู้ว่าลูกชายจะมีชีวิตรอดกลับมาหรือไม่เมื่อไปเป็นทหาร แต่นางก็จำเป็นต้องทำเพราะว่าตระกูลหลิน จำเป็นต้องมีทายาทสืบต่อไปเพื่อไม่ให้ผิดต่อบรรพบุรุษ นางไม่อยากให้ตระกูลหลินต้องสิ้นสุดลงที่รุ่นของลูกชายนาง แม่หลินไปที่ห้องครัวเพื่อต้มน้ำร้อนหม้อใหญ่ ลูกสะใภ้คงจะเหนียวตัวมากแล้ว แม้ว่าจะนั่งเกี้ยวจนมาถึงที่บ้าน แต่เหงื่อคงจะออกท่วมตัวแล้วกระมัง แม่หลินที่รู้สึกว่าตัวเองติดค้างต่อลูกสะใภ้ นางจึงอยากจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสะใภ้ของนางสุขสบายที่สุดเมื่อแต่งเข้ามาในบ้าน ซีเหยาเป็นเจ้าสาวที่ต้องนั่งรออยู่ในห้องหอ นางไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ ตอนที่กินข้าวเสร็จเวลาล้างชามจึงต้องใช้น้ำชาล้างคราบอาหารและวางมันไว้บนโต๊ะ พรุ่งนี้ค่อยนำไปล้างให้สะอาดอีกที นางนั่งรออยู่นานก็ไม่เห็นว่าน้องสาวของเขาจะเข้ามาอยู่เป็นเพื่อน กลับเห็นว่าเป็นแม่สามีที่ยกถังน้ำร้อนเข้ามาในห้อง หญิงสาวรีบเดินจะเข้าไปช่วยแต่ว่าแม่หลินรีบบอกให้นางถอยออกไป “อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงโต๊ะแล้ว น้ำในถังร้อนมากเดี๋ยวจะกระเด็นถูกเจ้า เจ้ารอให้มันเย็นลงสักนิด ใช้ผ้าชุบน้ำล้างเนื้อล้างตัวเสียเถิด จากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว คงอีกนานกว่าต้าหลางจะรับแขกเสร็จ เจ้าเองก็นอนพักผ่อนเถิด" เมื่อเห็นว่าแม่สามีจะยกน้ำร้อนไปผสมในอ่างให้ นางก็รีบห้ามแม่สามีเอาไว้ นางรู้ว่าแม่หลินรู้สึกติดค้างนางจึงอยากจะทำดีด้วย แต่นางก็ไม่สามารถดูผู้อาวุโสกว่าคอยปรนนิบัตินางได้จริงๆ เพราะว่านางเป็นลูกสะใภ้ “ท่านแม่ ข้าเทเองเจ้าค่ะ ท่านแม่นั่งพักสักหน่อยเถิด” เมื่อแม่หลินได้ยินเสียงนุ่มๆ ของลูกสะใภ้ที่เรียกนางว่าแม่ นางก็ยิ่งรู้สึกผิดถ้าไม่ใช่เพราะว่าอยู่ในช่วงสงคราม คงจะดีที่ลูกชายและลูกสะใภ้ของนางอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา “ได้ๆ แม่ฟังเจ้า” แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นแม่หลิน ก็ยังเทน้ำร้อนใส่เข้าไปในถังอยู่ดี นางลงมือทำอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าลูกสะใภ้จะปฏิเสธ ซีเหยาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ นางไม่มีทางเลือกอื่น จึงถอดชุดแต่งงานออกเหลือแต่เสื้อตัวใน หลังจากหญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ นางก็รีบจับมือของแม่สามีเอาไว้ ไม่ให้นางไปยุ่งเกี่ยวกับถังน้ำอีก นางเป็นคนยกถังน้ำไปเทที่ด้านหลังของห้องหอด้วยตัวเอง ถังไม้ใบนี้แม้ว่าจะไม่หนักมาก แต่แม่สามีก็ยกจากห้องครัวมาถึงที่นี่ คงจะเมื่อยแขนเต็มทีแล้ว “เอาละ...ท่านแม่ มานั่งคุยเป็นเพื่อนข้าเถอะ ข้ารู้สึกเบื่อมาก” แม่หลินพยักหน้าอย่างยินดี ดึงลูกสะใภ้ให้นั่งลงข้างๆ แล้วถามเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตประจำวันของนาง เช่น โดยปกตินางชอบทำอะไรตอนที่อยู่ที่บ้านหรือว่าจะเป็นเรื่องที่นางชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ซีเหยาตอบทุกคำถามของแม่สามีอย่างเชื่อฟัง แม่หลินเมื่อเห็นลูกสะใภ้ดีอย่างนี้ นางก็ทั้งสุขและเศร้าใจ นางดีใจที่ลูกชายได้แต่งงานกับสะใภ้ที่ดี แต่ก็เศร้าใจที่ลูกชายอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกสะใภ้ที่ดีเช่นนี้ไปตลอดชีวิต แม่หลินพูดคุยอยู่ด้วยไม่นาน ก่อนที่จะถูกเรียกจากหญิงวัยกลางคนในหมู่บ้านเดียวกัน ซีเหยานั่งอยู่สักพักหนึ่งก็รู้สึกง่วงนอน นางจึงเดินไปนอนที่เตียง ตอนที่นางหลับเสื้อด้านบนที่ใส่ไว้ค่อนข้างหลวม มันเลื่อนลงมาจนเห็นกระดูกไหปลาร้าที่ขาวเนียน ภายใต้แสงสลัวจากเทียนสีแดงในห้อง… มองดูแล้วเป็นภาพที่ยั่วยวนเหลือเกิน หลินชวนเห็นนางในท่าทางที่ดูยั่วยวนเช่นนี้เมื่อเดินเข้าไปในประตู ในสมองของเขาก็นึกถึงภาพวาดในหนังสือที่แม่ของเขามอบให้ก่อนคืนที่จะแต่งงาน ร่างกายของเขารู้สึกร้อนขึ้นมาและดวงตาก็จ้องอยู่กับส่วนที่ไม่ควรจะมอง ซีเหยารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงผลักประตู ฝ่ายหลินชวนเมื่อเห็นเจ้าสาวลืมตาขึ้นมาสบตากับเขาพอดีเขาก็รู้สึกตื่นตระหนกและร้อนตัวขึ้นมา หลินชวนยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูเป็นเวลานาน และไม่ได้ก้าวเท้าเข้ามาในห้อง เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป เขารู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นซีเหยาลุกขึ้นจากเตียงและมานั่งอยู่ที่โต๊ะ เขาก็ได้สติรีบปิดประตู แล้วเดินเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มเดินไปนั่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร พลันสายตาเขาเหลือบไปเห็นแก้วสุรามงคล ในใจก็นึกขึ้นได้ว่าพวกเขาทั้งคู่ยังไม่ได้คล้องแขนดื่มสุรามงคลกันเลย เขารีบเทสุราใส่แก้วทั้งสองใบ จากนั้นก็ยื่นให้กับเจ้าสาว “พวกเรามาดื่มสุรามงคลกันเถอะ" ซีเหยาเอื้อมมือไปหยิบสุราด้วยใบหน้าแดงก่ำ จากนั้นจึงยกแขนของตัวเอง คล้องกับแขนของเขา แล้วแหงนศีรษะยกแก้วสุราขึ้นดื่ม ในตอนนี้นางและพระเอกของเรื่องได้กลายเป็นสามีภรรยากันตามประเพณีแล้ว...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD