I บทนำ

1300 Words
“เฮ้ย...เสร็จสักที” หนูนา หรือ นีน่า ถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากทำความสะอาดห้องพักนักร้องชื่อดังของอเมริกา ที่ตอนนี้ไปทัวร์คอนเสิร์ตมีกำหนดกลับวันนี้   หนูนา หรือ นีน่า ที่ต้องมีสองชื่อเพราะตอนนี้เธอกำลังศึกษาระดับปริญญาโทอยู่ที่ประเทศอเมริกาด้วยแหล่งเงินทุนของตัวเอง จึงต้องหางานทำระหว่างเรียนสำหรับค่าอยู่ค่ากิน ‘นีน่า’ จึงเป็นชื่อที่คนที่นี่ใช้เรียกเธอ เพื่อง่ายต่อการออกเสียงสำหรับชาวตะวันตก  วันนี้เธอรีบเข้าสตูดิโอของค่ายเพลงดังแห่งหนึ่งในอเมริกา เพื่อรีบจัดการงานที่ได้รับว่าจ้างเพราะช่วงบ่ายเธอมีเรียน หนูนาได้งานที่นี่เมื่อสองอาทิตย์ก่อนจากการช่วยเหลือของรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ที่ช่วยแนะนำให้ในตำแหน่งพนักงาน      Part Time ที่ดูแลเรื่องทั่วไปที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด  สำหรับหนูนางานจะหนักแค่ไหน เธอไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ขอให้เป็นงานสุจริตเพราะการเป็นนักศึกษาจะหางานทำในต่างแดน...มันไม่ง่ายเลย เกือบสองเดือนแล้วที่เธอเข้ามาเป็นนักศึกษาในอเมริกา ตอนนี้เธอกำลังเรียนปรับภาษาปรับพื้นฐานให้ครบสามเดือน เธอจะต้องอยู่ที่นี่อีกสองปีตามหลักสูตรการศึกษา ด้วยค่าครองชีพที่สูงสำหรับหญิงสาวที่มีต้นทุนชีวิตที่ต่ำ เธอทำงานหาเงินเรียนตั้งแต่เริ่มเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองไทยแล้ว และหลังจากเรียนจบก็ทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองไทย เพื่อเก็บเงินเก็บประสบการณ์ เพื่อที่จะมาเรียนต่อที่อเมริกา  หนูนายังหารายได้พิเศษจากการเป็นนักเขียนนวนิยาย นามปากกาว่า   ‘รุ่งอรุโณทัย’ ให้กับสำนักพิมพ์ในไทยด้วย ถึงแม้ผลงานของเธอจะมีออกมาแค่สองเล่ม แต่ก็เป็นที่ชื่นชอบและมียอดจำหน่ายระดับที่พอให้เธอมีเงินทุนในการเรียนต่อ ตอนนี้เธอพักงานเขียนมากว่าห้าเดือนแล้ว เนื่องจากไม่มีเวลาและยังคิดเรื่องใหม่ไม่ออก ซึ่งทางสำนักพิมพ์ได้สอบถามเธอมาเป็นระยะเช่นกัน ทันใดนั้นเมื่อสายตาเหลือบหันไปมองนาฬิกาข้างผนัง “ว้ายยยย!!!!...สายแล้ว” ร้องบ่นกับตัวเองเป็นภาษาไทยรีบเก็บของและหยิบเป้คู่ใจวิ่งออกจากห้องไป โดยไม่รู้ตัวว่าได้ทำบางอย่างร่วงจากช่องกระเป๋าเล็กของเป้ที่ปิดไม่สนิท  “แกร้ง...” หลังจากหนูนาออกไปได้ไม่นาน ประตูห้องพักก็ถูกผลักเข้าอีกครั้งโดยเจ้าของห้องในสตูดิโอแห่งนี้ ซึ่งหลังจากผ่านการทัวร์คอนเสิร์ตตลอดสองเดือนที่ผ่านมาของทวีปเอเซียในหกประเทศ ปีเตอร์ มาร์ส  นักร้องหนุ่มที่กำลังถูกล่าวถึงเป็นอย่างมากอีกหนึ่งคน ด้วยวัยยี่สิบเก้าปี  อเมริกันโดยแท้ มากมายด้วยความสามารถทั้งในการร้องเพลง เล่นดนตรี แต่งเพลง แต่กลับมีเบื้องหลังชาติกำเนิดที่ไม่ธรรมดาเหนือกว่าความสามารถทางดนตรี...และอีกทั้งยังเพียบพร้อมในเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่ทำให้สาวๆเห็นแล้วต้องโหวตให้เขาติดอันดับหนึ่งในสิบของผู้ชายเซ็กซี่ที่เป็นที่ต้องการของหญิงแท้และหญิงเทียม “อืม!...” ทันทีที่ปีเตอร์ก้าวเข้ามาก็แปลกใจกับสภาพห้องที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ความสะอาดเป็นระเบียบที่มีมากกว่าที่ผ่านมา มีกลิ่นหอมอ่อนๆเมื่อได้กลิ่นแล้วก็รู้สึกผ่อนคลาย  พร้อมด้วยแจกันดอกไม้ที่มีดอกไม้สดที่เขาก็ไม่แน่ใจในชื่อเพราะมีหลายชนิด แต่ที่แน่นอนคือดอกกุหลาบสีขาวที่มีมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่น เห็นแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นไปอีก   WOW!!!  THE GOODNESS!!!! เมื่อสมาชิกในวงต่างก็เดินตามกันมาร้องอุทานด้วยความประหลาดใจ ต่างก็คิดว่า...เกิดอะไรขึ้นกับห้องพักของพวกเขากัน จอนนี่ หนึ่งสมาชิกในวงก็ถอยออกมาจากห้อง เพื่อมองขึ้นไปที่ป้ายตรงประตูว่า...ใช่ห้องพักของพวกเขาไหม? เพราะอาจเป็นไปได้ที่พวกเขาจะเข้าผิดห้องแต่เมื่อเห็นป้ายก็ยังเป็นชื่อ ปีเตอร์ มาร์ส ไม่ผิด!! แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับห้องของพวกเขา หลังจากกลับทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้ ปีเตอร์ซึ่งตอนนี้อยู่ข้างหน้าทุกคน เดินไปที่โซฟาที่วางอยู่ริมห้องอีกฝั่ง ขณะที่กำลังจะนั่งก็รู้สึกถึงว่ากำลังเหยียบอะไร ก้มมองดูเห็นเป็นพวงกุญแจมีกุญแจอยู่สามดอกที่มีพวงกุญแจเป็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงตัวเล็กผมหยิกยาวในชุดเอี๊ยมกางเกงยีนส์ขายาว และตรงหน้าอกปักตัวอักษรที่เขาอ่านไม่ออก แต่จากที่เขาพึ่งไปทัวร์คอนเสิร์ตล่าสุด ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประเทศไทย น่าจะเป็นภาษาไทยเพราะพอคุ้นๆอยู่บ้าง “อะไร?” สตีฟ อีกหนึ่งสมาชิกในวงถามหลังจากเดินมานั่ง  “กุญแจนะ คงเป็นของใครมาทำตกไว้” ขณะที่พูด ตาก็มองอยู่ที่หน้าตุ๊กตาแอบยิ้มนิดๆ โดยที่ไม่มีใครได้ทันสังเกตุเห็นรอยยิ้มนั้น และคิดว่า ‘น่ารักดี!’ “ว่าแต่ว่า มันเกิดอะไรขึ้นในห้องพักของพวกเรากัน” ไรอัล สมาชิกอีกคนหนึ่งที่อายุมากที่สุดในวงด้วยวัยสามสิบสองปี กล่าวออกมาด้วยเสียงที่ราบเรียบตามลักษณะนิสัยที่ใจเย็น “ก๊อก..ก๊อก!!!” ซึ่งยังไม่มีใครได้พูดหรือถกเถียงกันต่อถึงห้องพักที่เปลี่ยนไป เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเพื่อขออนุญาตเปิด ปรากฎร่างชายใส่สูทชาวอเมริกันเข้ามา   “เป็นไงบ้างทุกคน คงเหนื่อยกันละสิ” ทักด้วยร้อยยิ้ม และกวาดสายตามองรอบๆห้องพร้อมกับยิ้มและคิดในใจ “นีน่าใช้ได้จริงๆ” เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้เข้ามาห้องนี้นานกว่าสองอาทิตย์แล้ว ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่พานีน่ามา  “สวัสดีครับ...นิดหน่อยครับ” ไรอัลหันไปมองและทักทายพร้อมตอบคำถามแทนทุกคนเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะใครจะรู้นักร้องของวงอย่างปีเตอร์กลับเป็นคนที่พูดน้อยที่สุด เขาจะนั่งเงียบๆ แต่เมื่อขึ้นเวทีเขากลับเป็นอีกคนไม่ว่าจะร้องเพลงและคุยกับแฟนเพลงพร้อมด้วยรอยยิ้มที่แทบจะไม่มีใครได้เห็นเลยถ้าเป็นเวลาอื่น “คุณเอียน พอจะทราบไหมครับ...ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่” พอล สมาชิกคนสุดท้ายของวงที่อายุน้อยที่สุดเพียงยี่สิบห้าปี เป็นฝ่ายเอ่ยถาม ซึ่งจอนนี่และสตีฟพวกเขาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับปีเตอร์ ปีเตอร์เมื่อได้ยินก็ละสายตาจากตุ๊กตาพวงกุญแจในมือมองมาที่เอียน          ผู้จัดการที่กำลังเดินมานั่งที่เก้าอี้ที่ว่างใกล้ๆ อย่างคุ้นเคยโดยไม่จำเป็นต้องเชิญ “ นีน่า นักเรียนไทยที่มาทำงานพาร์ทไทม์ที่นี่ เธอมีหน้าที่ดูแลพวกคุณและทุกอย่างในสตูดิโอแห่งนี้ สงสัยคงมีเรียนคิดว่าพรุ่งนี้คงได้เจอกัน แล้วจะมาแนะนำให้พวกคุณรู้จัก” เมื่อได้รับคำตอบทุกคนต่างก็พยักหน้าเป็นที่รับรู้ และคุยกันในเรื่องการทัวร์คอนเสิร์ตที่ผ่านมาเป็นปกติ และเป็นที่รู้และเข้าใจว่าหนึ่งในนั้นจะมีผู้ฟังที่ดี นานๆจะมีคำพูดออกมาเมื่อจำเป็นต้องแสดงความเห็นความคิดและตอบคำถามต่อผู้ร่วมงานที่เปรียบเสมือนพี่น้อง ที่รู้จักและร่วมงานกันมากว่าแปดปีแล้ว ❅❈❅❈❅❈❅❈
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD