“ก๊อก...ๆๆๆ” เสียงเคาะประตูนำพร้อมกับประตูที่ถูกผลักเข้ามา อย่างไม่ต้องรอเสียงขออนุญาตต่อบุคคลภายในห้อง เพราะเป็นธรรมเนียมรู้กันอยู่แล้ว เมื่อมีไฟดวงเล็กๆสว่างที่หน้าประตู แสดงว่ามีเจ้าของห้องกลุ่มศิลปินกำลังทำงานอยู่ หนูนาค่อยๆเดินเข้าไปพร้อมปิดประตูเบาๆ และกวาดสายตามองไปรอบๆ ตอนนี้ทุกคนในวงอยู่ที่ตำแหน่งเครื่องดนตรีของแต่ละคน ทุกคนหยุดกิจกรรมทุกอย่าง และหันมามองที่สาวเอเชียร่างบางที่ยืนอยู่ใกล้ประตู ด้วยสีหน้าที่บอกความรู้สึกกันไปคนละแบบ
สำหรับหนูนาทราบดีอยู่แล้วว่าใครเป็นใคร เพราะพวกเขาคือกลุ่มศิลปินที่ดังมาก และไหนจะโปสเตอร์รูปพวกเขาที่ติดตามฝาผนังในห้องนี้อีก ถึงแม้ว่าเธอพึ่งจะรู้จักพวกเขาในนามเมื่อสองอาทิตย์ก่อน แต่พอมาเห็นตัวจริงไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกอย่างไร ถึงแม้เธอจะเป็นนักเขียนนิยายก็ตาม
“สวัสดีค่ะ! ฉันนีน่าค่ะ พวกคุณเรียกฉันเหมือนกับที่คนที่นี่เรียกได้เลย...คิดว่าพวกคุณคงพอจะทราบแล้วว่าฉันมีหน้าที่ดูแลพวกคุณที่นี่...”เงียบ!!!หลังจากที่หนูนาพูดจบก็ยังเกิดความเงียบภายในห้อง หนูนาเห็นสายตาของทุกคนที่ยังจ้องมาที่เธอโดยไม่มีใครได้เอ่ยอะไรเลย
“ฮะ..แอ้ม!”เสียงกระแอมของนักร้องนำดังขึ้นมา เพื่อทำลายความเงียบที่กำลังสร้างความอึดอัดให้สาวน้อยเพียงหนึ่งเดียวในห้องนี้ เรียกสติเพื่อนๆเขาที่ยังจ้องเธอตาไม่กะพริบกัน ซึ่งเขารู้สึกไม่ชอบสักเท่าไหร่ และทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นหนูนามองตามต้นตอของเสียงเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
“อืม...สวัสดีครับ ผมไรอัลเป็นตัวแทนของทุกคนยินดีต้อนรับครับ และหลังจากนี้รบกวนด้วยครับ” ไรอัลเป็นผู้กล่าวทักทายและต้อนรับหนูนาอย่างเป็นทางการและให้เกียรติสาวน้อยเพียงหนึ่งเดียว ณ ห้องแห่งนี้ และทุกคนก็กล่าวทักทายพร้อมแนะนำชื่อตัวเอง และคนสุดท้าย..
“ปีเตอร์...เรียกว่า ‘พีท’ แล้วกัน” หลังจากสิ้นเสียงไร้อารมณ์ของปีเตอร์เหล่าสมาชิกในวงได้หันและย้ายสายตามาที่ปีเตอร์ อย่าง งงๆ และอึ้งๆด้วยความประหลาดใจ เพราะต่างคนคงคิดไปทางเดียวกันว่าหญิงสาวตรงหน้าคง...ซึ่งทุกคนเข้าใจความหมายกันชัดเจนแค่เพียงสบตากันเอง
“พูดยาวแฮะ...” พอลพึมพำเบาๆและหันไปขยิบตากับไรอัล
หนูนาหันมายิ้มพยักหน้ารับกับคำทักทายกลับพร้อมแนะนำชื่อของทุกคนและจนมาถึงคนสุดท้ายนักร้องนำ ที่แนะนำตัวกับเธอแบบเย็นชาไร้ซึ่งรอยยิ้มหนูนาหุบยิ้มทันทีเมื่อได้สบตาคุณชายชาเย็น แต่แล้วจู่ๆเธอก็กลับยิ้มอีกครั้งทั้งใบหน้า เพราะทันทีที่เธอได้เห็นตัวจริงพร้อมกับได้ยินน้ำเสียงของเขาครั้งแรกพร้อมตั้งฉายาให้เพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม ไอเดียร์นิยายเรื่องใหม่ก็เกิดขึ้นทันทีซึ่งรอยยิ้มและแววตาของหนูนาไม่ได้รอดพ้นไปจากสายตาของปีเตอร์ได้เลย
“น่าจับมาชิมจริงๆ” เขาคิดได้ทันทีที่เห็น โดยไม่รู้ถึงเหตุผลเลยว่าการที่เธอแสดงสีหน้าและอารมณ์แบบนั้นเกิดจากอะไร เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ซึ่งเขาอยากรู้จริงๆ อะไรในความคิดของเธอถึงทำให้เธอดูสดใสน่ามองมากมายขนาดนี้ ตาจ้องตากันจนไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน
พอล ละ จากเครื่องดนตรีประจำตำแหน่ง เดินตรงมาที่ “นีน่าพวกเราคงไม่ออกไปหาอะไรกิน...มื้อเที่ยงรบกวนนีน่าช่วยจัดการให้ด้วย ได้มั้ย?”
หนูนาตื่นจากภวังค์ไอเดียร์ที่มันพุ่ง “ เดี๋ยวคืนนี้จะไปปั่นโครงเรื่องเสนอสำนักพิมพ์”คิดได้ดังนั้น “ค่ะ...พวกคุณอยากทานอะไรกัน เดี๋ยวนีน่าจัดการให้...”
“ได้ทุกอย่างครับ พวกเราทานง่ายๆ แต่พีทแพ้ถั่วครับ”
“ค่ะ....รับทราบค่ะ...รอสักครู่นะคะ”
“OH!…WOW…” ทันทีที่หนูนาออกจากห้องไป เสียงเหล่าสมาชิกในวงก็ร้องออกมาแทบจะพร้อมกัน ยกเว้นปีเตอร์ที่แสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจกับเพื่อนร่วมวง เพราะรู้สึกหวงเธออย่างไม่เข้าใจตัวเอง
“ผู้หญิงไทยว่ากันว่าสวยแล้ว แต่นีน่าพ่วงด้วยความน่ารักน่าทะนุถนอมมาก…ว่ามั้ย พีท” จอนนี่พูดขึ้นมาพร้อมถามปีเตอร์ด้วยแววตาเจ้าเล่ห์สื่อความหมายบางอย่าง
“ไม่รู้สิ...คงต้องไปถามแคทรีนดูนะ” คำตอบของปีเตอร์ ทำเอาจอนนี่หุบยิ้มทันที
“ไอ้นี่! เล่นของสูง...แฮะ” จอนนี่ร้องออกมา
“Ha..Ha...Ha” เหล่ามาชิกที่เหลือต่างหัวเราะชอบใจ
“ก็อก...ก็อก...” เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งพร้อมเอียน ผู้จัดการก็ก้าวเข้ามาพร้อมปิดประตู
“ขอโทษ...ผมติดประชุมพึ่งเสร็จเลยให้นีน่าแวะเข้ามาแนะนำตัวกับพวกคุณก่อน” แล้วสายตาก็กวาดมองไปทั่วห้องเพื่อมองหาหญิงสาวที่เอ่ยนามออกไป
“เธอออกไปจัดการอาหารเที่ยงให้พวกเรา” ปีเตอร์ตอบข้อสงสัยจากสายตาของเอียน
“อืม!...ดี...ผมดีใจที่พวกคุณโอเคกับเธอ เธอเป็นเด็กดีและขยันมาก” เอียนพยักหน้ารับรู้พร้อมให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวหญิงสาวเพิ่ม
“นีน่า...มีแฟนหรือคนรักเหรอยัง?” สตีฟที่เงียบอยู่นานถามขึ้น พร้อมชายตาแอบไปมองนักร้องนำของวง เห็นว่ากำลังก้มหน้า แต่ท่าทางนิ่งๆแบบนั้น เขารู้ได้ทันทีว่าคงตั้งใจฟังคำตอบอยู่
“HA..HA...Ha เป็นคำถามที่ดีสตีฟ แต่ผมไม่แน่ใจในเรื่องนี้ มันเรื่องส่วนตัวของเธอ...แต่เท่าที่รู้จักเธอมากว่าสองสัปดาห์ ผมไม่เคยเห็นใครที่นี่ที่เธอจะสนิทเป็นพิเศษ เพราะเท่าที่รู้คือเธอทำงานสองที่ คือที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนกับที่นี่และไปเรียน เพราะฉะนั้นเสียใจด้วยนะ ผมไม่รู้จริงๆพวกคุณคงต้องสังเกตและถามเธอเอง...”
“เฮ้ย!!!...” สตีฟร้องอย่างเสียดาย “ว่าแต่ว่าคุณเอียน มีอะไรเหรอเปล่าครับ” ถามต่อทันที
“ไม่มีอะไร...พวกคุณซ้อมต่อเถอะ ผมไม่กวนแล้ว แค่เข้ามาดูความเรียบร้อย...ถ้างั้นผมขอตัว” ก่อนจะเดินออกจากห้องเอียนหันกลับมาพูด“ ผมลืมบอก นีน่าเขาจะมีเรียนด้วย เดี๋ยวพวกคุณถามกันเองนะ เพราะเธอมีหน้าที่ดูแลพวกคุณกับห้องนี้” พูดจบก็เดินออกจากห้องไป ทุกคนเพียงพยักหน้ารับทราบไม่มีใครกล่าวอะไรกันอีก ต่างก็ซ้อมเพลงกันต่อจนกว่ามื้อเที่ยงจะพร้อม
เมื่อทุกคนจัดการอาหารมื้อเที่ยงเรียบร้อยวันนี้เป็นอาหารอิตาเลี่ยนจากข้อมูลที่ได้รับจากเอียน คงเดากันได้ทันทีว่ามาจากร้านที่เธอเคยทำงาน หลังจากเสร็จแล้วทุกอย่างต่างก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง กลุ่มศิลปินก็เข้าไปในส่วนของการซ้อม ส่วน หนูนาหลังจากเก็บทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็มานั่งที่โซฟา เพื่อรอรับคำสั่งว่าใครต้องการอะไร เธอไม่เคยเห็นการซ้อมดนตรีกันมาก่อนและอีกสามวันศิลปินกลุ่มนี้ต้องออกงาน พวกเขาซ้อมเพลงที่จะไปเล่นและมีมุขน่ารักกล่าวทักทายแฟนเพลงบรรยากาศเป็นไปอย่างสบายๆ เพราะพวกเขาเหล่านี้ร่วมงานรู้จักกันมาหลายปีแล้วนั้นเอง หนูนานั่งดูมาได้สักพัก ไหนๆก็ไหนๆไม่มีใครเรียกใช้เธอก็เลยตัดสินใจหยิบ MacBook ในกระเป๋าออกมา