2 สัปดาห์ผ่านไป
มณฑลส่านซี ณ.เมืองซีอาน
ซีอาน เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน และเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของโลกเมืองหนึ่ง มีความหมายว่า ความสงบสุขทางตะวันตก เป็นเมืองหลวงของมณฑลส่านซี ในประเทศจีน และเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญในประวัติศาสตร์จีน ในอดีตซีอานได้เป็นเมืองหลวงของ 13 ราชวงศ์รวมทั้ง โจว ชิน ฮั่น และ ถัง
ซีอานยังเป็นเมืองปลายทางของเส้นทางสายไหม ซีอานมีประวัติอันยาวนานมากกว่า 3,100 ปี โดยชื่อเดิมว่า ฉางอาน ซึ่งมีความหมายว่า "ความสงบสุขชั่วนิรันดร์" ซีอานเป็นเป็นเมืองที่เจริญและใหญ่ที่สุดในส่วนตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน และเป็น 1 ใน 10 เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
ภายในโรงแรมขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองหลวงซีอาน ใกล้สนามบินนานาชาติซีอาน-เสียนหยาง ร่างของมี่อิงนอนหงายเหยียดยาวอยู่บนเตียงนอนของโรงแรม อากาศในเดือนสิงหาคมของเมืองซีอาน เป็นช่วงฤดูร้อนที่มีระยะเวลา 3.7 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม ถึงวันที่ 9 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 26°C วันที่ที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีคือเดือนกรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 32°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 23°C
ภายในห้องพักของโรงแรมของหญิงสาวเปิดเครื่องปรับอากาศที่มีความเย็นอยู่ที่ 18 องศา ทั่วห้องเย็นสบายจนทำให้คนงามซึ่งเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาตลอดระยะเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมาหลับสนิทชนิดที่เรียกว่านอนยาวตั้งแต่หกโมงเช้าจนเกือบถึงหกโมงเย็นเลยทีเดียว
ใบหน้าสวยของจ้าวมี่อิงกำลังปรากฏรอยยิ้มออกมาบางๆ เมื่อเธอกำลังตกอยู่ในห้วงเวลาแห่งความฝัน ในฝันนั้นเธอกำลังนอนอยู่ภายในห้องหอ เทียนคู่หงส์มังกรส่องสว่างไปทั่วทุกมุมห้อง มี่อิงหรี่ตาพลางลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนหลังใหญ่ ใบหน้าเรียวงามก้มลงมองร่างกายของตนเอง
หญิงสาวสวมใส่ชุดเจ้าสาวสีแดงที่ตัดเย็บได้อย่างประณีตและงดงามยิ่งนัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบุรุษที่เปิดประตูก้าวเข้ามาภายในห้อง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเจ้าบ่าว
‘นี่เรากำลังฝันอยู่ใช่ไหม’ หญิงสาวถามกับตัวเอง
ร่างสูงใหญ่กำยำใบหน้าหล่อเหลาก้าวเดินเข้ามาหาช้าๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่โต๊ะที่มีสุรามงคลวางตั้งอยู่ มือเรียวใหญ่ยกแก้วสุราขึ้นมาทั้งสองมือ หันกลับมาแล้วเดินมานั่งลงข้างๆ เจ้าสาว มี่อิงมองทุกท่วงท่ากิริยาของชายหนุ่มราวกับต้องมนตร์ ดวงตาหวานซึ้งจับจ้องมองชายหนุ่มอย่างไม่วางตาจนกระทั่งเสียงของอีกฝ่ายดังขึ้น
“สุรามงคลของเราสอง” เสียงทุ้มนุ่มนวลเอ่ยขึ้นและมันบ่งบอกถึงความปรารถนาอย่างไม่ปิดบังพร้อมกับยื่นจอกสุรามาให้แก่เธอ
มี่อิงยื่นมือออกไปรับสุรามงคลที่อีกฝ่ายส่งมาให้ พร้อมกับคล้องแขนสลับไขว้แขนกันเพื่อดื่มมันเข้าไป ใบหน้าหญิงสาวแดงก่ำด้วยความเขินอาย ในใจพร่ำถามตัวเองไม่หยุด ‘ดื่มสุราแล้วก็ต้องทำเรื่องอย่างว่าใช่ไหมๆ’
แขนเรียวค่อยๆ คลายออกจากวงแขนแข็งแกร่งช้าๆ ใบหน้างามยังคงก้มงุดไม่กล้าเงยมองอีกฝ่าย ก่อนที่จอกสุราในมือเรียวจะถูกชายหนุ่มดึงมันออกไปจากมือเบาๆ มี่อิงเงยหน้าขึ้นมองโดยอัตโนมัติ ดวงตาหวานซึ้งสบเข้ากับดวงตาคมกล้าที่จ้องมองมาอยู่ก่อนแล้ว อิงอิงถึงกับสะเทิ้นอาย เพราะสายตาที่มองมามันช่างร้อนแรง แสดงออกถึงความรักใคร่ หลงใหลและหวงแหนอย่างไม่ปิดบัง แก้มนวลเห่อร้อนแดงปลั่งขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าแดงปลั่ง ริมฝีปากยกยิ้มนิดๆ มือเรียวใหญ่ยกขึ้นลูบไล้สัมผัสแก้มนวลที่แดงปลั่งอย่างชอบใจ หัวใจของมี่อิงเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ กับสัมผัสของอีกฝ่าย อยากจะผละถอยห่างหนีจากแต่ก็ถูกอ้อมแขนแข็งแกร่งกอดกระชับรัดรอบเอวคอดกิ่วเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวแน่น ก่อนที่มือที่ลูบไล้แก้มนวลอยู่ก่อนหน้านั้นจะเปลี่ยนมาเป็นกดรั้งท้ายทอยของหญิงสาวให้อยู่นิ่งพร้อมกับก้มหน้าลงมาประทับริมฝีปากแทน
อื้อ! ใบหน้าหญิงสาวแดงก่ำไปหมด อยากผลักไสให้อีกฝ่ายออกห่างแต่ก็ทำไม่ได้ ชายหนุ่มประกบปากแนบสนิท รุกไล่จู่โจมอย่างเอาแต่ใจ จุมพิตแสนเนิ่นนานจนหญิงสาวหายใจไม่ออก มือเรียวเกาะกุมไหล่หนาเอาไว้เพื่อใช้พยุงตัวไว้
ร่างสูงใหญ่โถมกายเข้าหาร่างงามระหงแล้วผลักให้เอนนอนลงบนเตียงโดยที่ริมฝีปากยังคงระดมจูบมาอย่างต่อเนื่อง มือเรียวใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างงามอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะค่อยๆ ปลดเปลื้องชุดเจ้าสาวออกให้พ้นกายจนร่างงามเปลือยเปล่าไร้ซึ่งอาภรณ์ใดปกปิด มือเรียวใหญ่ยังคงลูบไล้ต้นขานุ่มเนียนสัมผัสร่างกายของหญิงสาวไปเรื่อยๆ ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งสัมผัสไปที่เนินเนื้ออวบอูมของหญิงสาว เคล้นคลึงอย่างเบามือโดยมีมือเรียวสวยของอิงอิงคอยจับและพยายามผลักออกไม่ให้นิ้วแกร่งชำแรกแทรกผ่านเข้าไปข้างในได้
ในตอนที่ริมฝีปากของคนทั้งคู่ผละออกจากกัน ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่แดงก่ำและมีน้ำตาเอ่อคลอตรงหางตา ซึ่งนั่นล้วนเกิดจากการกระทำของชายหนุ่มทั้งสิ้น ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะก้มลงมากระซิบแผ่วที่ใบหูขาวสะอาดเบาๆ ว่า
“ไม่ต้องกลัว” พูดจบมือข้างที่กอดรัดเอวบางไว้อยู่นั้นก็ถูกกอดรัดให้แน่นขึ้นไปอีก พร้อมกับริมฝีปากที่ประกบปิดลงมาอีกครั้งโดยไม่รอฟังว่าหญิงสาวจะพูดอะไรออกมาทั้งสิ้น ส่วนอีกมือก็ยังคงทำหน้าที่เคล้นคลึงลูบวนที่เนินเนื้ออวบอูมด้วยปลายนิ้วอย่างเบามือ ก่อนจะชำแรกแทรกผ่านเข้าไปภายในได้ในเวลาต่อมา
นิ้วแกร่งค่อยๆ คลึงเคล้าสลับกับบดขยี้ลงน้ำหนักมือจนร่างงามระหงสั่นสะท้านและหดเกร็งไปทั้งตัว เส้นสีเงินยวงยืดยาวออกมาจากริมฝีปากของคนทั้งคู่ในวินาทีที่แยกออกจากกัน กว่าชายหนุ่มจะยอมผละริมฝีปากออกได้มี่อิงก็แทบจะหมดลมหายใจ
อะ...อา! มี่อิงร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ใจเต้นโครมคราม เนื้อตัวสั่นระริกเมื่อชายหนุ่มจงใจขยับนิ้วเข้าออกกระตุ้นหยอกเย้าตรงส่วนไวสัมผัสที่สุดของหญิงสาว มี่อิงรีบเบือนหน้าหลบด้วยความอาย แต่อีกฝ่ายกลับก้มลงมาจุมพิตเข้าที่ซอกคอแล้วลากไล้ริมฝีปากถูไถไปมาโดยที่นิ้วใหญ่ยังขยับว่องไวไม่ยอมหยุดสร้างความกระสันอยากให้กับหญิงสาวเป็นยิ่งนัก ใบหน้างามแดงก่ำ มือเรียวค่อยๆ ยกขึ้นโอบรอบคอของชายหนุ่มแล้วสบใบหน้าลงกับไหล่กว้างพร้อมกับแยกขาออกให้กว้างขึ้นอีกอย่างลืมตัว
อืม...อา... เสียงครวญครางดังขึ้นเมื่อนิ้วเรียวใหญ่ของชายหนุ่มเริ่มขยับเร่งจังหวะถูไถเข้าออกจากเนิบช้าเปลี่ยนให้มันเร็วขึ้นมากว่าเดิมหลายเท่า น้ำหวานหลั่งไหลออกมาจนเอ่อล้นกลีบกุหลาบแสนสวย
ร่างกายมี่อิงร้อนผ่าวไปทั้งตัว สะโพกสวยแอ่นลอยขึ้นสูงตามแรงขยับเข้าออกของเรียวนิ้วใหญ่ ริมฝีปากถูกขบกัดกลั้นเสียงครางเอาไว้อย่างเต็มที่ สมองเริ่มเบลอพอๆ กับอารมณ์ข้างในที่ใกล้จะล้นทะลักออกมาในอีกไม่ช้า
อะ...อ๊ะ...อื๊อออ...อ๊า! มี่อิงเนื้อตัวสั่นสะท้านพร้อมกับร้องครางออกมา ช่องทางอ่อนนุ่มขมิบตอดตุบๆ ที่บีบรัดนิ้วเรียวใหญ่ของเขาเอาไว้อย่างแสนร้ายกาจ น้ำหวานหลั่งรินออกมาอย่างไม่อาจบังคับร่างกายเอาไว้ได้ ทำให้เส้นความอดกลั้นของชายหนุ่มแทบขาดสะบั้นลง
หากเปลี่ยนเป็นแกนกายของเขาแทนที่กำลังถูกบีบรัดแทนนิ้วมันจะสุดแสนวิเศษสักเพียงไหนกัน และเมื่อสัมผัสได้ถึงความพร้อมในร่างกายของหญิงสาวแล้ว ร่างสูงใหญ่จึงผละลุกขึ้นเพื่อเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองออกในทันที
ร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าของชายหนุ่มที่ปรากฏต่อหน้าทำให้มี่อิงมองจ้องตาค้าง เพราะมันเต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัดๆ แผงอกกว้างที่แสนจะบึกบึน ไหนจะกล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนสวยช่างจัดวางได้อย่างเหมาะเจาะแบบไม่ขาดไม่เกินเสียนี่กระไร
ดวงตาคู่งามที่ฉ่ำปรือมองร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่มอย่างสำรวจ ก่อนที่หัวใจดวงน้อยแทบจะหยุดเต้นไปในทันที เมื่อสายตาซุกซนเลื่อนต่ำลงไปปะทะเข้ากับเจ้าสิ่งที่อยู่กลางหว่างขาของชายหนุ่ม มี่อิงถอยหนีอย่างหวาดกลัว แต่ร่างสูงใหญ่กลับขึ้นมาทาบทับตัวเธอเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้ พร้อมกับมอบจุมพิตแสนวาบหวามให้อีกเพื่อให้หญิงสาวได้ผ่อนคลายจากอาการตื่นกลัว
“ข้าจะอ่อนโยนต่อเจ้า เราจะมีความสุขด้วยกัน” ชายหนุ่มก้มลงกระซิบเสียงพร่าที่ข้างใบหู
เจ้าบ่าวสุดหล่อถูไถจมูกโด่งคมสันไปตามซอกหูไล้เล็มไปทั่วก่อนจะมาจบลงที่ริมฝีปากอิ่มเบาๆ อย่างหลงใหล มือใหญ่บีบเคล้นคลึงอกอวบหยุ่นสู้มือไม่ยอมหยุดจนมันเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มด้วยฝีมือของเขา
ปลายลิ้นร้อนจัดเข้าครอบดูดดึงยอดอกอวบอิ่มเข้าไว้ในปาก ดูดเลียอยู่ซ้ำๆ ราวกับว่าจะมีน้ำนมไหลออกมาได้ หญิงสาวใบหน้าแดงก่ำ กัดปากข่มกลั้นเสียงครางเอาไว้ด้วยความอาย ความรู้สึกซาบซ่านวาบหวิวจนนางแทบอดกลั้นความกระสันอยากเอาไว้ไม่ได้
เพียงไม่นานทั่วร่างงามก็ปรากฏรอยจ้ำสีกุหลาบไปทั่ว ดวงตาชายหนุ่มเข้มจัดด้วยแรงอารมณ์ปรารถนา ชายหนุ่มช้อนเรียวขาหนึ่งของอิงอิงขึ้นพาดบ่า นำพาแกนกายใหญ่โตเกินมาตรฐานกว่าปกติค่อยๆ ขยับเคลื่อนเข้าไปภายในช่องทางที่คับแคบของหญิงสาวไปอย่างช้าๆ ชายหนุ่มไม่ต้องการให้หญิงสาวเจ็บมากจนเกินไปเพราะเขารู้ดีว่าอาวุธของตัวเองนั้นมันใหญ่เกินที่หญิงสาวจะรับไหวในครั้งแรกแบบนี้
“เจ็บ!...เจ็บ!” มี่อิงร้องบอกออกมาด้วยความเจ็บ
ชายหนุ่มหยุดนิ่งไม่ขยับร่างกายที่เขาเพิ่งจะฝ่าผ่านคับแคบมาได้เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ริมฝีปากหนาจูบลงไปที่ขมับอีกฝ่ายเบาๆ เป็นเชิงปลอบโยนก่อนจะไล้จูบไปตามแก้มนวลเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของหญิงสาวออกไป เมื่อดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเคลิบเคลิ้มกับรสสัมผัสของเขาไปแล้ว
สองมือแกร่งก็จับเรียวขาที่ข้างหนึ่งพาดบ่าอีกข้างเกี่ยวไว้ที่เอวสอบออกก่อนจะแยกให้อ้าออกกว้างยิ่งกว่าเดิม แล้วกดสะโพกหนาโถมกายบุกทะลวงผ่านม่านพรหมจรรย์ที่คับแน่นเข้าไปจนสุดเพียงชั่วอึดใจ
อ๊ะ!...กรี๊ด! หญิงสาวกรีดร้องออกมาเสียงดัง สองมือเรียวกำหมัดทุบลงที่ไหล่แกร่งเป็นพัลวันเพื่อระบายความเจ็บที่เกิดขึ้น หยาดน้ำตาเม็ดโตไหลรินออกมาทางหางตา ชายหนุ่มกอดรัดร่างงามเอาไว้แน่นจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน เขารู้ว่าหญิงสาวเจ็บและตัวเขาเองก็ปวดหนึบไม่แพ้กันเมื่อช่องทางคับแคบของหญิงสาวบีบรัดแกนกายเขาเอาไว้จนแทบหายใจไม่ออกเช่นกัน
สองร่างหยุดนิ่งอยู่เช่นนั้นไปพักใหญ่ก่อนที่ชายหนุ่มจะเริ่มขยับสะโพกค่อยๆ กระแซะๆ เข้าออกอย่างช้าๆ สัมผัสเนิบนาบเป็นไปอย่างช้าๆ และทะนุถนอมจนหญิงสาวเริ่มผ่อนคลายและโอนอ่อนผ่อนตามชายหนุ่มอย่างว่าง่าย
เพียงไม่นานจังหวะรักที่นุ่มนวลก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไป
ร่างงามเริ่มสั่นไหวขึ้นๆ ลงๆ ด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้น ปลายนิ้วทั้งสิบจิกลงที่แผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มเพื่อระบายความอึดอัดและทรมาน ทว่าในขณะเดียวกันก็บังเกิดความวาบหวิวจนแทบจะทนไม่ไหว มี่อิงหอบหายใจหนัก ทั่วทั้งร่างปริตึงจนเหมือนกับจะแตกสลาย
อือ...อา...ร่างงามกระเด้งกระดอนขึ้นลงอย่างรุนแรง ก่อนที่อยู่ๆ ร่างสูงใหญ่จะลุกขึ้นพร้อมๆ กับช้อนสะโพกของหญิงสาวขึ้นอุ้มมาพาลงมายืนที่ข้างเตียงเช่นกัน ท่านี้ทำให้แกนกายใหญ่โตของชายหนุ่มสอดลึกเข้าไปภายในมากขึ้นกว่าเดิม หญิงสาวรู้สึกเหมือนกับว่ามันกำลังกระแทกกึกๆ ชนกับผนังมดลูกของนางอยู่ในตอนนี้
“ละ...ลึก...เกินไป...แล้วว...อา...” หญิงสาวร้องครางบอกเสียงกระท่อนกระแท่น สบหน้าลงกัดไหล่หนาเพื่อบรรเทาความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น ยิ่งชายหนุ่มขยับสะโพกซอยเข้าออกถี่ๆ แถมเน้นหนักในทุกๆ จังหวะจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้อง
อ๊า!... ร่างงามครางกระเส่าสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งเมื่อชายหนุ่มกระแทกเสียบเสยเน้นๆ เข้าไปที่จุดกระสันอย่างรุนแรงจนหญิงสาวแทบคลั่งเจียนบ้า ร่องรักภายในตอดตุบๆ บีบรัดถี่รัวไม่หยุด
อึก...อ๊า...อ๊า หญิงสาวครวญครางไม่เป็นหยุดปาก
“อิงอิง...เจ้ารัดข้าแน่นเหลือเกิน” ชายหนุ่มพูดบอกเสียงพร่า ก่อนจะเพิ่มแรงซอยถี่ๆ เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ มือเรียวจิกข่วนลงบนแผ่นหลังกว้างเป็นทางยาว ปลายเท้ายกชี้ขึ้นสูงเกร็งกระตุกอยู่หลายทีเป็นการส่งสัญญาณบอกให้รู้ว่านางกำลังจะเดินทางไปแตะขอบสวรรค์ในเวลาอันใกล้นี้แล้ว
“ไม่ไหว...ไม่ไหวแล้ว...” ใบหน้างามแหงนเชิดร้องบอกออกมาเมื่อไม่สามารถทนต่อความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นอีกต่อไปได้
ดวงตาคู่สวยพร่าเบลอ ในสมองขาวโพลนเลือนลอยไปหมดไม่สามารถรับรู้อะไรได้ชั่วขณะ ก่อนที่ร่างงามจะเกร็งกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะปลายเท้าที่ชะงักค้างจิกขึ้นสูง ช่องทางรักตอดตุบๆ บีบรัดแกนกายใหญ่โตเอาไว้แน่น
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด หายใจถี่ด้วยความปวดหนึบ เขากัดฟันกระแทกสะโพกเข้าใส่หนักๆ สวนกลับเข้าไปอยู่อีกสี่ห้าครั้งก่อนที่น้ำสีขาวขุ่นจะถูกฉีดพุ่งเข้ามาภายในจนเต็มช่องทางรักของหญิงสาวเมื่อชายหนุ่มเองก็เดินทางมาแต่ขอบสวรรค์แล้วเช่นเดียวกัน
“เจ้าเป็นของข้า...เป็นของข้า” ชายหนุ่มพร่ำบอกไม่หยุด ในยามนี้แกนกายใหญ่โตยังฝังอยู่ภายในช่องทางรักของหญิงสาว ก่อนจะค่อยๆ ประคองสะโพกสวยพาเดินกลับไปที่เตียง
ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ นั่งลงบนเตียงก่อนจะเอนตัวลงนอนหงายโดยมีร่างงามนอนคร่อมทับอยู่ด้านบน ไม่ต้องบอกหญิงสาวก็รู้ว่าชายหนุ่มกำลังจะทำอะไรต่อ ‘ท่านี้มันช่างล่อแหลมนัก’ มี่อิงอ้าปากจะประท้วงแต่ก็ทำได้เพียงอ้าปากเท่านั้น เพราะในเวลาต่อมาเสียงครวญครางวาบหวามก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง และอีกครั้ง
กริ้ง!กริ้ง!กริ้ง! เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือของเธอที่ตั้งเวลาเอาไว้ดังกระหึ่มขึ้นมาทันที