ตอนที่ 4 วิวาห์สายฟ้าแลบ
สนามกว้างหน้าบ้านของดนัยถูกจัดขึ้นเป็นงานเลี้ยงฉลองสมรสของเขากับที่รัก สถานที่ถูกเนรมิตขึ้นอย่างสวยงามและตระการตา ดอกไม้ประดับสีขาวชมพู ที่พื้นโรยด้วยกลีบกุหลาบสีเดียวกัน บ้างก็เป็นช่อเล็กๆ ห้อยลงมาจากข้างบนที่ใช้เสาสูงสี่มุมใหญ่ๆ ยึดไว้ จึงดูเหมือนเป็นเพดานดอกไม้ ตรงกลางมีเค้กสิบชั้น ฉากหลังของเค้กแต่งด้วยไฟดวงเล็กสีขาวอมฟ้าเป็นสายม่านลงมาจากเพดานดอกไม้
ทั้งบริเวณอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมหวาน ดั่งอยู่ในเมืองเนรมิต ที่รักเป็นเจ้าหญิงที่โชคดีที่สุดในสาวตาสาวๆ และแขกเหรื่อที่มาร่วมฉลอง แขกเกินครึ่งเป็นคนใหญ่คนโตที่รู้จักกับผู้ว่าฯ ดี เพราะสมศักดิ์ไม่มีลูกเมีย เขาเลยรักดนัยมาก รักเหมือนลูกแท้ๆ ซึ่งคนที่ใกล้ชิดกันจะรู้ดีว่าดนัยสำคัญกับสมศักดิ์มาก เพราะฉะนั้นงานแต่งของหลานรักทั้งคนจึงยิ่งใหญ่สมฐานะและหน้าตา
บ่าวสาวเดินทักทายแขกทั่วทุกคนก็ปาไปค่อนคืนแล้ว ต่างยินดีปรีดิ์เปรมร่วมอวยพร สมศักดิ์ขึ้นกล่าวอวยพรบ่าวสาว
ที่รักอ้าปากหาวหวอดๆ ดนัยยกมือขึ้นป้องปากให้ อย่างน้อยๆ เขาก็จำเป็นต้องรักษาหน้าตาลุงของเขาไว้ ภรรยาของเขาช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ยายทอมบ้า!
“นี่ไอ้คุณยักษ์ เมื่อไรงานจะเลิกสักที ง่วงจะบ้าตาย” ที่รักถามเขาตาปรือเพราะห่วงจัด
“กรุณาเรียกผมว่าพี่แดน เฮียแดน สามี ที่รัก หรืออะไรก็ว่าไป อย่าเรียกไอ้ยักษ์อีก เข้าใจไหม”
“เรื่องมากจริง” ที่รักยกมือขึ้นเกาหัว ดนัยปัดมือทิ้ง
“ผมหลุด อุตส่าห์นั่งทำตั้งชั่วโมงไม่ใช่หรือ อย่าขยี้ตา แต่งหน้าก็เป็นชั่วโมง” ดนัยว่าให้พร้อมทั้งปัดไม้ปัดมือของที่รัก
“ไอ้รัก!” เสียงคุณนายมะนาวดังมาแต่ไกล พร้อมกับสามีผู้แสนร่ำรวยล้นฟ้า คุณนายมะนาวเจิดจรัสอีกตามเคย เครื่องแต่งกายรึก็ไม่ให้น้อยหน้าเจ้าสาวสักนิด
“มึงแต่งสวยกว่ากูอีกไอ้นาว” ดนัยโอบไหล่ที่รักไว้และดีดหน้าผากเบาๆ หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นแขกคนไหนหันมาสนใจ เขาเลยกระซิบข้างหูที่รัก “รักษาหน้าตาลุงผมหน่อยเถอะ มึงกู โว้ยว้าย เอาไว้พูดให้งานเสร็จก่อนจะได้ไหมคุณที่รัก”
“ก็ได้อยู่หรอกนะ” ท่าทางที่รักเลิกคิ้วเอียงคอ ไม่ได้บ่งบอกสักนิดว่าง่วงนอนเหมือนที่เจ้าตัวแสร้งทำก่อนหน้านี้
“เฮียแดนสวัสดีค่ะ เนรมิตเสียสวยเชียวค่ะ อยากกลับไปแต่งงานอีกรอบเลย”
“อือ ขอบคุณที่มานะ”
“แหม ไอ้ทอมแต่งงานทั้งที จะพลาดได้ไงคะ นี่พวกเราทุกคนมีของขวัญให้ไอ้รักด้วย เดี๋ยวพวกนั้นก็ตามมา” มะนาวพูดและมองไปข้างหลัง “มาพอดี”
“พวกแกจะทำอะไร?” ที่รักถามเพราะรู้จักนิสัยเพื่อนๆ ดี
“ของขวัญจากเพื่อนรัก ใช้ซะด้วย” มะนาวขยิบตาให้ทีหนึ่ง แต่ที่รักกลับเบ้ปากใส่
“บ้าบออะไร กล่องใหญ่เท่าตู้เย็น”
“ของทุกคนรวมกัน ต่างคนต่างซื้อน่ะเลยมากหน่อย” มะนาวปิดปากหัวเราะ มาดคุณนายมาเต็ม
“พวกบ้านี่” ที่รักรู้ว่าต้องมีอะไรในกล่องใบใหญ่นั้นแน่
“ไงพวก ว้ายๆ ยังกับเจ้าหญิง” ชินเสียงดังมาแต่ไกล โวยวายจนแขกเหรื่อต่างหันมาสนใจ
“ไอ้ที่โวยวายน่ะ ไอ้บ้านั่นต่างหาก” ที่รักพูดกับดนัย เขายิ้มน้อยๆ ก่อนจะหุบฉับเมื่อได้ยินประโยคต่อมา “พวกริยำ!” ดนัยขมวดคิ้วและมองไปรอบๆ อีก ดีหน่อยที่ที่รักพูดเบาๆ เลยไม่มีใครทันสนใจ
“ไอ้รักสลักคราบทอมออกว่ะ กูขนลุก” กรทองลูบแขนป้อยๆ
“นี่ไอ้รัก ของขวัญจากพวกเรา แกต้องชอบแน่” ภามพูดขณะที่เขย่ากล่องใบใหญ่ไปด้วย
“ไม่ชอบ! เอากลับไป”
“เพ่ ของดีทั้งนั้นแหละ” ชาติชายเชิดหน้าบอกพร้อมทั้งยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มยังกับน้ำเปล่า ที่รักชี้หน้าและเลิกสนใจมองไปหลังภามแล้วสาวเท้ายาวๆ ไปกอดเอวสาวงามร่างบางไว้ “สวยเป็นบ้า” กระซิบพร้อมทั้งดมๆ ดอมๆ อยู่ที่ซอกคอ ภามเข้ามาดึงที่รักออกและดันให้ดนัยจับไว้
“เมียกู! อย่ายุ่ง”
“กูจะจับเมียมึงกดให้ได้ สวยยังกับนางฟ้า แม่เจ้าโว้ย” พูดยังไม่ทันจบ ดนัยดีดหน้าผากให้อีกทีหนึ่ง ที่รักได้แต่ชักสีหน้าแต่ไม่กล้าโวยใส่ดนัย
“พี่ที่รัก ยินดีด้วยค่ะ”
“จ้ะ เสียงก็หวานเฉียบ อิๆ”
“เมียกูท้องอยู่ อย่ามาทำบ้าบอ เมียกับลูกกูเป็นไรไป กูจะให้มึงทำลูกให้”
“กลัวตาย” ที่รักลอยหน้าลอยตาใส่เพื่อน
“นี่ ลืมธรรมเนียมของเราแล้วหรือไง” มะนาวร้องทัก
มะนาว ภาม ชิน กรทอง ชาติชาย กอดคอล้อมที่รักไว้ตรงกลาง ตั้งวงบูมตามธรรมเนียมกลุ่ม “ที่รักๆ สาวทอมๆ แต่งงานๆ เหลือเชื่อๆ ฮูเล่ๆ” พร้อมทั้งร้องเพลงก็กระทืบเท้าตามจังหวะ บ้างก็ย้ายสะโพกยึกยัก ทำซ้ำถึงสามรอบ เมื่อจบที่รักเคาะศีรษะคนละทีเพื่อให้รางวัล
“เจ็บนะโว้ย!” คนที่ร้องคือคุณนายมะนาว
“อาย! จะบ้าตาย”
ดนัยหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ เพื่อนๆ ทุกคนเลยผลักที่รักเข้ามาในอ้อมอกเขา “เฮียแดน พวกเราฝากมันด้วย” ภามเอ่ยเสียงราบเรียบ ดูจริงจัง
“อย่าห่วง ขอบคุณทุกคน” ดนัยส่งมือให้เพื่อนๆ ของที่รักจับคนละที
“มา ดื่มกันหน่อย” ชินคว้าถาดเครื่องดื่มมาและแจกจ่ายทุกคนที่นั่น ที่รักเอาแก้วไปจ่อริมฝีปากนิลดาภรรยาของภาม แต่ภามปาดมือที่รักออก
“ห้ามดื่ม! น้ำผลไม้พอ” ว่าแล้วก็ส่งน้ำส้มให้ภรรยา ที่รักบ่นอุบและต้องถอยออกมาเมื่อภามตาขวางใส่
“ทำหวงเมีย ชิ” ที่รักยกแก้วไวน์ขาวดื่มจนหมด และคว้าแก้วใหม่ขึ้นมา แต่ไม่ใช่ไวน์ กลับเป็นเหล้าอย่างดี ดื่มอึกๆ แล้ววางแก้ว ตั้งใจจะคว้าแก้วต่อไปแต่ดนัยดึงมือมาเสียก่อน
“อย่าเพิ่งเมา ถ้าอยากเมาเอาไว้ดื่มกันสองคนหลังงานเสร็จเข้าใจไหมที่รัก”
ที่รักทำปากยื่น แต่ก็ไม่คว้าเหล้ามาดื่มอีก เพื่อนๆ ต่างแปลกใจ ไม่ทันไรสาวทอมก็อยู่ในโอวาทเสียแล้ว ทุกคนมองบ่าวสาวตาเป็นประกายพลางคิดว่าดนัยเด็ดจริงๆ
งานเลี้ยงดำเนินต่อไปจนสี่ทุ่ม แขกส่วนมากเริ่มทยอยกันกลับ ที่รักกับดนัยยืนส่งอยู่ที่ประตู เพื่อนๆ ของที่รักตั้งใจจะอยู่ต่อ แต่พอปรึกษากันเลยตกลงกลับ
“ขึ้นห้องแล้วเปิดของขวัญด้วยล่ะ” ชินเข้ามากอดคอและกระซิบ
“ถ้ามีสาวสักคนจะฟาดให้ถึงเช้าเลย”
“กูว่า มึงจะถูกเฮียแดนฟาดมากว่า เอวเคล็ดแน่มึงเอ๊ย” ก่อนผละไป ชินตบก้นที่รักหนักๆ ทีหนึ่ง ที่รักก็ยกเท้าเตะไปกลางอากาศและเสียหลักหงายหลัง ดีที่ดนัยคว้าไว้ทัน ชินหัวเราะชอบใจและวิ่งตามหลังเพื่อนๆ ไปขึ้นรถ
“เพราะไอ้ชุดบ้าบอ ทั้งหนา ทั้งหนัก รุ่มร่ามไปหมด”
“เอานา งานเลิกแล้ว แขกก็กลับกันเกือบหมดแล้ว อดทนอีกสักครึ่งชั่วโมงนะ” ดนัยปลอบขณะที่คล้องแขนที่รักให้ยืนตรงๆ
พักใหญ่ๆ แขกก็กลับกันหมด ดนัยโอบเอวที่รักขึ้นห้องหอ ซึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ของดนัยที่บนชั้นสาม ภายในห้องถูกจัดดอกไม้ไว้เต็มไปหมด ไฟถูกดับทุกดวง เหลือเทียนหอมถูกจุดทิ้งไว้ก่อนบ่าวสาวจะเข้ามาเพียงไม่นาน มันถูกวางเรียงกันอยู่ที่พื้นเป็นรูปหัวใจ ที่รักแน่ใจว่าต้องเป็นฝีมือมารดาของตนแน่นอน
“แม่ยายโรแมนติกไม่หยอก”
“แก่ป่านนี้” ที่รักพูดเบาๆ
ที่รักทิ้งกายแผ่หลาอยู่บนพื้นใกล้ๆ กับเทียนหอม นอนหงายมือประสานกันบนหน้าท้อง เสียงเคาะประตูดังขึ้น ดนัยไปเปิดประตูและรับถาดเครื่องดื่มและอาหารสองถาดจากแม่บ้านที่นำมาส่ง
“มา ถึงเวลาดื่ม” ดนัยวางถาดเครื่องดื่มลงข้างๆ ที่รัก
สาวทอมได้ยินดังนั้นก็เด้งตัวลุกขึ้นทันที และชงเหล้าเอง ดนัยตักเกี๊ยวกุ้งชิ้นหนึ่งจ่อที่ปากที่รัก ปากรูปกระจับอ้าออกและรับเกี๊ยวกุ้งเข้าไปเคี้ยวและดื่มเหล้าตาม
ดนัยตักอาหารเข้าปากตัวเองบ้างและรับแก้วจากที่รักมาดื่ม เจ้าสาวถลกชายกระโปรงฟูๆ ขึ้นจนเห็นขาเรียวยาวขาวผ่อง ดนัยเลยเอามาลัยมงคลของตัวเองและที่รักออกไปวางข้างๆ และถอดสูทออก ถลกแขนเสื้อ ปลดกระดุมออกสองเม็ด ดึงชายเสื้อออกมา
ที่รักนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง ไม่กลัวว่าดนัยจะเห็นไปถึงไหนๆ อีกมือหนึ่งแก้ผมตัวเองไปด้วย สิ่งที่หลุดมาก่อนคือผมปลอมกับดอกไม้ที่ติดผมไว้ ที่รักโยนไปข้างๆ ค่อยๆ สางผมตัวเองและดึงกิ๊บทีละตัว ดนัยขยับเข้ามาช่วยดึงให้ได้สามตัวที่รักปัดมือเขา เพราะเขาดึงแรงจนเจ็บหนังหัวไปหมด
“มือหนักจะตายห่...” ที่รักพูดยังไม่จบ ดนัยกระแอมมาก่อน “อยู่กันสองคนก็ยังพูดไม่ได้อีก”
“ไม่พูดเลยจะดีกว่า มันหยาบไปสำหรับผู้หญิงนะ”
“ไม่ใช่ผู้หญิง!” ที่รักขมวดคิ้วท่าทางเอาเรื่อง
“อย่างน้อยๆ รูปร่างหน้าตาก็ผู้หญิงนะ เป็นหลานสะใภ้ผู้ว่าฯ ที่มีคนนับหน้าถือตามากมาย สำรวมไว้หน่อยก็ดี”
“ทำมาสั่งสอน” ที่รักเลิกยุ่งกับศีรษะตัวเอง ยกขวดเหล้าดื่มทั้งขวด ดนัยได้แต่ส่ายหน้า แต่ก็ยอมรับขวดมาดื่มบ้างเมื่อที่รักยื่นมาให้
“นี่คุณยักษ์ ถามจริงเถอะ อยู่มาตั้งสามสิบเจ็ดปีแล้ว ไม่คิดแต่งเมียบ้างเหรอ”
“ก็ยังไม่เคยเจอคนที่ถูกใจ” ดนัยตักสปาเกตตี้เข้าปาก
“เห็นสาวๆ ตามหน้าตามหลังอย่างนั้น คืนหนึ่งมากสุดกี่คน”
ดนัยทำท่าคิด “อือ มากสุดก็แปดคน”
“เอาแรงมาจากไหน โด๊ปเหรอ” ขณะที่ถามก็ยังคงดื่มและไม่แตะต้องกับแกล้มแม้แต่น้อย
“ระดับนี้แล้วไม่จำเป็นต้องโด๊ป ผมต่อยมวยทุกวัน พละกำลังเลยอยู่ตัว”
“แล้วแต่งงานอย่างนี้ เอาสาวๆ ไปไว้ไหนหมด” ถามเพราะอยากรู้จริง ถึงยังไงก็คงตัดกันได้ไม่ง่ายนัก
ดนัยยักไหล่ “ก็อยู่ที่เดิม เหมือนเดิม”
ที่รักเบ้ปากและก็ไม่ถามต่อ
ดนัยขยับเข้ามาใกล้ “ถ้างั้นผมขอถามบ้าง ทำไมถึงไม่แต่งงานกับใครสักคนล่ะ”
“ก็พอจะแต่ง พ่อกับแม่ก็ไล่ส่งไปหมด” เอ่ยแล้วก็ทำเสียงขัดใจ
“ผู้หญิง?” ดนัยเลิกคิ้ว
ที่รักยักคิ้วข้างหนึ่งขณะตอบเขา “ใช่”
“ไม่ชอบผู้ชายจริงๆ หรือ?”
“ไม่ล่ะ”
“ตีฉิ่งคืนหนึ่งกี่ครั้ง?”
“มากสุดสามครั้ง”
ดนัยสำลัก ไม่คิดว่าที่รักจะตอบเขามาตรงๆ เขาแกล้งถามไปอย่างนั้นเอง เขาไม่ได้หวังจะรู้คำตอบจริงๆ หรอก
“นี่! จริงหรือ คุณทำจริงๆ คุณทำกันข้างนอกจริงๆ มันสนุกตรงไหน”
“ก็ดีนะ” ที่รักยิ้มเมื่อคิดถึงสาวๆ อกตูมๆ ที่เธอเคยได้กอดจูบลูบคลำมานักต่อนักแล้ว
“ให้ตาย” ดนัยตบหน้าผากตัวเองทีหนึ่ง เขาจ้องหน้าที่รักเขม็ง “อย่าให้เมาล่ะ”
“ทำไม?”
“เดี๋ยวจะทำให้ดู ไอ้ที่เรียกว่าสนุกน่ะ ต่อจากนี้ต่างหาก กับผม สองคน”
“โน ไม่มีอารมณ์”
ดนัยขยับเข้ามาใกล้อีก คว้าต้นคอที่รักและก้มลงจรดริมฝีปากประกบลงไป เขาเริ่มขยับปากทันที บดเบียด สอดปลายลิ้นเข้าไปรัวกับลิ้นที่รัก
“อือ ปล่อย” ที่รักพูดทั้งที่ดนัยยังคงสอดลิ้นเข้าไป สองมือยันอกเขาไว้
ดนัยไม่สน เขายังคงบดขยี้ริมฝีปากชื้นต่อไป เขาดูดเอาอากาศไปหมด หมดทั้งเรี่ยวแรงจะต้านเขาด้วย ที่รักดันอกเขาหนักๆ อีกครั้ง ได้ผล ดนัยถอนจูบออก แต่กลับฝังหน้าลงกลางเนินอกที่รัก ชุดแต่งงานแบบเกาะอกทำให้เนินเนื้อโผล่ออกมาให้เห็นได้ชัด มือใหญ่ลูบไล้ไปตามเนื้อผ้า ชุดแต่งงานทำด้วยผ้าชั้นดี เย็บเป็นริ้วตั้งแต่ส่วนบนลงมาถึงช่วงเอว ตรงเอวด้านหลังมือโบว์ใหญ่ ตัวกระโปรงฟู เป็นเนื้อผ้าหลายชั้น ชั้นนอกสุดเป็นผ้ามันวาว สีขาวทั้งชุด
“นี่! ไอ้ยักษ์หื่น เอาหน้าออกไปดิ”
“ไม่เอา” ดนัยยังคงฝั่งใบหน้าอยู่กลางอกของที่รัก มือยังคงไล้ไปตามชุดสวยนั้น
“อย่ามาทำบ้านา ออกไป!”
“ไม่!” ดนัยเบียดใบหน้า ส่ายไปมา สูดเอากลิ่นหอมเข้าปอด มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปยังผมของที่รัก มันยังคงมีกิ๊บติดอยู่หลายตัว เขาเลยดึงอย่างเบามือที่สุด ตัวแล้วตัวเล่า “เจ็บไหม?”
“นิดหน่อย” ที่รักยกขวดเหล้าขึ้นดื่มแล้วก็เอามันมาพักไว้กับไหล่หนาๆ ของดนัย ใช้ก้นขวดคลึงเล่นกับไหล่เขา
“ทำไมมาแต่งกับฉันล่ะ รู้นี่นาว่าฉันเป็นทอม ชอบผู้หญิง ทำอย่างนี้ก็เหมือนปิดโอกาสทั้งคุณและฉันนะ”
“ผมชอบคุณ”
“ชอบๆ แล้วได้อะไรเล่า ฉันพาสาวเข้าบ้าน อย่าว่าแล้วกัน เอาสักคืนละสองคนพอ ไม่มีพ่อแม่ห้ามแล้ว” ที่รักนิ่งและกระดกขวดดื่มอีก “คิดๆ แล้วก็น่าน้อยใจ อายุตั้งขนาดนี้ พ่อกับแม่ยังไม่ยอมปล่อยอีก”
“คุณเป็นผู้หญิง ไม่ให้พ่อแม่ห่วงได้ไง”
“หญิงแค่ตัวโว้ย!”
ดนัยเงยหน้าขึ้นมา กิ๊บตัวสุดท้ายถูกโยนไปเสียไกล ขยับนั่งตรงๆ และดึงขวดจากมือที่รักไปวาง จับให้เจ้าสาวของเขานั่งตัวตรงต่อหน้าเขา สองมือกุมอยู่ที่ไหล่เปลือย
“อยากลองอะไรไหม”
“อะไร?”
“เอาหน้ามาซบตรงนี้” ดนัยชี้ไปที่คอเขา “ทำสิ” สั่งมาอีกเมื่อที่รักเลิกคิ้วสงสัย
ที่รักขยับและทำตามเขา ดนัยเลยสั่งอีก “ลองเลียดู”
“เลียอะไรเล่า?”
“ตรงที่ซบนั่นแหละ” และเขาก็รู้สึกถึงลิ้นชื้นๆ เจ้าทอมหัวอ่อนยอมเชื่อเขาด้วย ดนัยได้ใจ เลยออกคำสั่งอีก “กัดเบาๆ” ที่รักบ่นอุบและก็อ้าปากงับเขาตามที่สั่งและขยับตัวออก
ดนัยอมยิ้ม “รู้สึกยังไง?”
“ก็แปลก”
เขาหัวเราะเบาๆ “ผมทำให้คุณดู” เขาก้มลงไปซบซอกคอที่รัก ไซ้เบาๆ ปลายลิ้นเลียลากไล้จนเปียกชื้นไปหมด ตามด้วยกัดเบาๆ ที่รักเผลอครางออกมา ดนัยถอนใบหน้าและยิ้มให้
“คราวนี้รู้สึกยังไง?” เสียงดนัยเปลี่ยนไป ฟังดูแหบพร่าชอบกล
“ไม่รู้!”.
“งั้นเอาใหม่”
“ไม่!” ที่รักลุกขึ้นและตรงไปที่กล่องของขวัญใบใหญ่ที่เพื่อนๆ แบกมาให้ “จะเปิดของขวัญ”
“ดีเหมือนกัน ผมก็อยากจะรู้ว่าเพื่อนคุณเอาอะไรมาให้ เห็นกำชับหนักหนาว่าให้เปิดในคืนนี้”
ที่รักนั่งลงกับพื้นและฉีกกระดาษห่อของขวัญ ดนัยเดินไปหากรรไกรมากรีดเทปที่ปิดปากกล่องไว้ เมื่อเปิดอ้าออกกลับเจอกระดาษฝอย
“เล่นบ้าเหมือนเด็กๆ” ที่รักบ่นพำและควานมือลงไป เจอเข้ากับกล่องใบไม่เล็กนัก ดนัยช่วยยกออกมาให้ที่รักฉีกห่อและเปิด
“ไอ้บ้า!”
ภายในกล่องมีชุดนอนซีทรูไล่สิบสองเฉดสีสองโหล ดนัยหัวเราะลั่นและดึงขึ้นมาดูชุดหนึ่ง ยิ้มอย่างถูกใจในของขวัญนัก เขาเร่งให้ที่รักความมือลงไปอีก เชื่อว่าต้องมีอีก
ที่รักคว้าออกมาอีกกล่อง คราวนี้เป็นชุดว่ายน้ำและชุดชั้นในแบบทูพีช “พวกมึงกล้ามาก” ที่รักขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ตรงนั้น ดนัยเลยหยิบอีกกล่องขึ้นมา เขาแกะกล่องเองเจอชุดเดรสทั้งสั้นยาวเป็นชุดลำลองหมด
“รู้ว่าไม่ชอบยังส่งมาทำซาก” ที่รักกระชากขึ้นมาจากกล่องทีละชุดและเหวี่ยงทิ้งอย่างขัดใจ
ดนัยเห็นยังมีอีกกล่องเขาแกะเองอีกตามเคย เพราะชักสนุกและอยากรู้ กล่องใบสุดท้ายทำให้เขาขำก๊าก ที่รักแย่งมาหน้ายุ่ง เทของในกล่องออก
“ไอ้ชินกับไอ้ชาติหมาสองตัวนั้น” ที่รักหยิบขึ้นมาดูทีละอย่าง มันเป็นของช่วยเสริมความแปลกใหม่ของคู่รัก ดนัยนั่งลงมองของเล่นพวกนั้นแล้วยิ้มกริ่ม
“จะลองใช้ดูไหม? คืนนี้เลย”
“คนเดียวสิ”
“มันไว้ใช้สำหรับคุณ ไม่ใช่กับผมหรอก”
“ไอ้บ้าเอ๊ย! ทุเรศ ลามกจกเปรตที่สุด” ที่รักอดไม่ไหวจนต้องด่าทอเขาไปอีก
ดนัยขยับเข้ามากอดที่รัก สองขายังคงชันคร่อมขาของที่รักที่วางประสานกันที่พื้น “อย่าบ่ายเบี่ยงเลย ยังไงวันนี้เราก็ต้องเข้าหอกันอยู่แล้ว”
ที่รักผลักอกดนัย แต่เขาไม่ยอม ที่รักเลยดันเขาจนหน้าหงายและลุกขึ้นไปนั่งที่เดิม คว้าขวดเหล้าเหมือนนักเมา กระดกขึ้นดื่มอึกๆ ดนัยตามเข้ามานั่งซ้อนหลังและกอดเอวไว้หลวมๆ
“จะดื่ม”
“ก็ดื่มไป ถ้าอยากให้ดื่มเป็นเพื่อนก็อย่าได้ขยับไปไหน” ดนัยเอ่ยเชิงข่มขู่
“เรื่องมากจริง”
“หิวแล้ว อยากกินหอยอบซอส” ดนัยบุ้ยปากไปยังจานหอยอบซอสจานใหญ่
ที่รักขมวดคิ้วเมื่อเขาแกล้มก้มลงมาที่ซอกคอ ที่รักเลยวางขวดเหล้าลงคว้าจานหยิบหอยมาทั้งเปลือกและยื่นไปตรงหน้าดนัย เขาส่ายศีรษะ ที่รักเลยหยิบหอยออกจากเปลือกและชูขึ้น ดนัยอ้าปากรับและงับเอาปลายนิ้วของที่รักเข้าไปด้วย เขาดูดแรงๆ ที่รักเลยดึงออกด้วยความรวดเร็ว
“จะกินก็กินให้ดี อย่าดูดนิ้วอีก” ที่รักทำท่าดีดนิ้วใส่หน้าเขา
“เอาอีก ตัวเดียวจะอิ่มได้ไง นั่น อาหารตั้งหลายอย่าง ป้อนให้ครบด้วย”
“กินเองสิ!” ที่รักชักทนไม่ไหว
“ไม่! ป้อนเร็วๆ เข้า อย่าให้โมโหหิวเชียว”
ที่รักจำยอมป้อนดนัยอีกเมื่อมือเขาเลื่อนขึ้นมากุมหน้าอกเธอและลงแรงบีบ ทีรักปัดออก ศอกกลับเขาไปแรงๆหลายที ดนัยเลยยอมอยู่นิ่งๆ