ขอจูบได้มั้ย?

1185 Words
วาทยาเดินออกมาจากในห้องน้ำ บนเรือนร่างของเธอเปลี่ยนเป็นชุดนอนบางเบา จะเลือกใส่ชุดหนาๆก็ไม่ได้ เพราะคนเลือกชุดมาให้คือมารดาของเธอ เมื่อเห็นว่าคนบนเตียงนั้นหลับไปแล้ว เธอจึงค่อยๆย่องขึ้นไปบนเตียงนอนลงข้างๆอย่างแผ่วเบา เพราะกลัวเขาจะตื่นขึ้นมาทำมิดีมิร้ายกับเธอ เพราะว่าครั้งก่อนนั้นมันสร้างความเจ็บปวดทางร่างกายและจิตใจให้เธออยู่ไม่น้อย วาทยาเอาหมอนข้างมาดักเอาไว้ตรงกลางไม่ให้หมอธันวาล้ำเส้นเข้ามา หญิงสาวค่อยๆล้มตัวลงนอนซุกกายไปใต้ผ้าห่มอย่างแผ่วเบาเงียบเชียบที่สุด แต่เธอหารู้ไม่ว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆนั้นยังไม่ได้หลับแต่อย่างใด เขายังคงนอนอมยิ้มกลั้นขำกับท่าทีของวาทยาอยู่ อยู่ๆวงแขนแข็งแรงของเขาก็กอดลงมาบนร่างบางของวาทยาเหมือนกับคนกำลังนอนละเมอ วาทยาไม่กล้าโวยวายเพราะคิดว่าเขานอนละเมอจริงๆ หญิงสาวนอนตัวเกร็งไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักเธอรู้สึกว่าหมอนข้างที่เธอวางเอาไว้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะดูเหมือนเขาจะขยับมากอดเธอไว้ได้ทั้งร่างแล้ว เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเขาดังรดลงมาตรงซอกคอของเธอ เพราะตอนนี้เธอนอนหันหลังให้หมอธันวาอยู่ แต่เขาอยู่ในสภาพที่กอดเธอจากข้างหลังทั้งตัว เมื่อโดนลมหายใจอุ่นๆของเขารดลงมาทำให้ความรู้สึกประหลาดบางอย่างเกิดขึ้น เพราะเป็นครั้งแรกที่เธอโดนผู้ชายนอนกอดแบบนี้ แถมเป็นคนที่เธอรักอีกจะให้ไม่ให้รู้สึกอย่างไรบ้างมันก็แปลกแล้ว วาทยาพลิกร่างกลับมาหาเจ้าคนร่างใหญ่ที่กำลังยึดร่างเธอเป็นหมอนข้างอยู่ในขณะนี้ ใบหน้าหล่อเหลาที่หลับตาพริ้มนอนหลับอย่างไม่รู้ไม่ชี้ จมูกโด่งเป็นสันกับปากอวบอิ่มยามหลับนั้นน่ามองยิ่งนัก วาทยากลืนน้ำลายอึกเมื่อนึกถึงรอยจูบนั้น อารมณ์ร้อนวูบวาบจู่โจมเข้ามาสู่เบื้องลึกในจิตใจ เธอรู้สึกอยากให้เขากอดจูบอีกครั้ง "ไม่ง่วงเหรอ?" อยู่ๆเขาก็เอ่ยขึ้นมาในขณะที่ยังนอนหลับตา "พี่หมอ..ยะ ยังไม่หลับเหรอคะ?" วาทยาตอบเขาอย่างอึกอักเมื่อโดนจับได้ว่าแอบมองเขาอยู่ เธอจะพลิกตัวกลับแต่ถูกวงแขนใหญ่ตึงเอาไว้แน่น "ยัง...พี่ขอจูบวาได้มั้ย?" เสียงสั่นพร่าเบาหวิวนั้นถามขึ้นมา ตาคมวาวโรจน์แห่งความเสน่หาดุจดั่งเปลวไฟที่กำลังโลมเลียเธออยู่ทำให้วาทยารู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาทันที "ไหนเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอคะ?" "ก็พี่กำลังขอวาอยู่นี่ไงคะ..ที่รัก" เสียงอันอ่อนหวานเซ็กซี่ของเขาเอ่ยออกมา ทำให้วาทยาขนลุกซู่ ภายในใจนั้นอยากจะให้เขาจูบนักแต่ไม่กล้าบอกไปเพราะเธอเป็นคนคาดโทษเขาเอาไว้เอง "ว่าไงคะ จูบได้มั้ย?" เขาเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง คำพูดออดอ้อนหวานปานจะหยดนั้นทำให้เธอหลงไหลนัก วาทยาหน้าแดงก่ำไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ตรงไหนถ้าตอนนี้เขาเกิดบ้าจะทำอะไรเธอขึ้นมาจริงๆ เขาก็คงไม่ผิด แต่เป็นเพราะใจของเธอต่างหากที่อ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมกอดของเขาในตอนนี้ "ไม่ปฏิเสธงั้นพี่จูบนะ" หมอธันวาเชยคางวาทยาขึ้นมาเขาจ้องไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มชมพูระเรื่อของหญิงสาว แล้วค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ๆ ทาบทับลงไปที่ริมฝีปากอย่างอ่อนโยนอ่อนหวานดื่มด่ำและนุ่มนวล เพราะครั้งนี้หมอธันวาจะทำให้มันดีที่สุด ให้เธอรู้สึกมีความสุขและประทับใจกับบทรักที่อ่อนหวานและตั้งใจจากเขา จูบอ่อนหวานยังคงรุกล้ำเข้าไปในโพลงปากดูดดื่มกับลิ้นเล็กกระดกเล่นลิ้นเกี่ยวกระหวัด วาทยารู้สึกหวาบหวานซาบซ่านไปหมดทั้งร่าง เมื่อมือร้อนของเขาลูบไล้ลงมาบนเรือนร่างอย่างปรารถนา เขาถอนริมฝีปากออกมาใบหน้าของเขายังคงจ้องมองมาที่ดวงตากลมโตของวาทยาอย่างลึกซึ้ง "วาสวยเหลือเกินรู้มั้ยคะ?" เขายังคงป้อนคำหวานมาไม่หยุดอย่างที่วาทยาไม่เคยได้ยินมาก่อนแล้วใครบ้างล่ะจะไม่ใจอ่อน "คืนนี้มามีความสุขด้วยกันนะ" "วากลัว.." "พี่สัญญาว่าวาจะมีความสุขมากๆ" "วาท้องอีกในตอนนี้ไม่ไหวนะคะ" "กี่คนๆพี่ก็เลี้ยงไหว.." สิ้นเสียงคำบอกกล่าวของเขา ร่างของเธอก็ถูกคร่อมขึ้นมาทันที จมูกโด่งซุกไซ้ไปบนซอกคอขาวเนียนหอมกรุ่น ริมฝีปากอุ่นของเขานั้นพรมจูบไปทั่วทุกซอกทุกมุมบนร่างกายของเธอ ตอนนี้ชุดนอนของเธอนั้นโดนถกหลุดไปทั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นไร้อาภรณ์ใดๆปิดบัง แม้ว่าอุณหภูมิของห้องจะเย็นฉ่ำแต่ทั้งคู่กลับรู้สึกว่าเร่าร้อน ลิ้นสากถูกลากมาหยุดอยู่ที่สองเต้าที่อวบอิ่มที่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะมีขนาดใหญ่กว่าแต่ก่อนมาก คงอาจจะเป็นเพราะเธอมีลูกด้วยจึงทำให้มันขยายใหญ่ขึ้น ปทุมถันสีชมพูกำลังลุกชูชันเชิญชวนเขาให้ลองดูดดื่ม หมอธันวาไม่รอช้าเขาใช้ลิ้นเลียวนลงไปพร้อมกับมือใหญ่ที่ขยำบีบเคล้นคลึงทั้งสองเต้า ปากก็ดูดดื่มตรงยอดปทุมอย่างหิวกระหายและไม่มีวันที่จะอิ่มหนำลงได้ วาทยาแอ่นกายขึ้นรับลิ้นของเขาอย่างอัตโนมัติ ความเสียวซ่านกำลังเล่นงานเธออย่างหนักถึงกับต้องครางออกมาเป็นระยะๆ "อูยย~พี่หมอขาา" วาทยาเผลอครางเรียกชื่อเขาออกมาอย่างพึงพอใจกับการกระทำของเขาตอนนี้เป็นที่สุด มือใหญ่ยังคงกอบกุมสองเต้าเข้าปากวาทยาก็บิดกายส่ายไปมาโดยที่ไม่รู้สึกอายอีกต่อไป "เดี๋ยววาจะมีความสุขมากกว่านี้อีกรู้มั้ย?" ลิ้นสากของเขาลากจูบลงไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสะดือบุ๋ม และหน้าท้องแบนราบเรียบที่มีแผลเป็นเป็นรอยกรีดเล็กๆ เขาก็รู้ได้ทันทีว่านั่นคือแผลผ่าคลอดของเธอ เขาจูบลงไปบนแผลเป็นนั้นอย่างแสนรักเพราะมันคือสิ่งที่เธอต้องมาเจ็บปวดเพราะเขาคือต้นเหตุ หมอธันวาลากลิ้นมาจนถึงจุดกึ่งกลางที่มีขนไรๆขึ้นอยู่ เขาแหวกกลีบแคมนั้นออกเพื่อดูดดื่มกับน้ำหวานที่ไหลออกมาเจิ่งนองเต็มร่องสวาทของหญิงสาว ดั่งภมรตัวผู้ที่กำลังดูดน้ำหวานจากกลีบเกสรของดอกไม้งาม ต่อตอนต่อไปค่าาา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD