-ประเทศไทย-
วาทยาเดินเข้ามาในบ้านของเธออย่างเงียบเชียบไม่บอกล่วงหน้าว่าเธอจะกลับมาแต่อย่างใด มือเธอกำลังจูงเด็กน้อยจินนี่เดินเข้ามาในบ้านอย่างไม่ได้นึกหวั่นใจอะไร เพราะเธอเตรียมตัวมาเรียบร้อยแล้ว
"คุณแม่คะ!"
"หนูวา!"
ผู้สูงอายุกว่าเมื่อเห็นบุตรสาวที่จากไปห้าปีถึงกับดีใจโผเข้าไปกอดลูกสาวด้วยความคิดถึงทันที น้ำตาไหลหยดลงมาอย่างห้ามไว้ไม่ได้
"แม่คิดถึงลูก"
พลันสายตาของคุณนุชนารถไปหยุดอยู่ที่เด็กน้อยจินนี่ แล้วหันมาหาวาทยาอีกครั้งอย่างต้องการคำตอบ
"เอ่อ จินนี่ลูกไปหาขนมกินก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวค่อยมากราบคุณยายนะ"
วาทยามองหน้าผู้เป็นมารดาส่งสัญญานให้รู้ว่าไม่ควรพูดกันต่อหน้าเด็ก
"ค่ะคุณแม่"
เด็กน้อยพยักหน้าตอบ
"ใครก็ได้มาพาหลานชั้นไปหาขนมกินหน่อย"
สาวใช้รีบออกมาจูงหนูน้อยไปออกไปทันที ถึงจะยังไม่ได้คำตอบแต่คุณนุชนารถก็พอจะรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือหลานของตนเอง
"คุณพ่อล่ะคะ"
"อยู่โรงพยาบาลน่ะลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้หมอก็ให้กลับแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรมากพอรู้ว่าลูกจะกลับมาก็หายวันหายคืน ไหนอธิบายกับแม่มาสิ ว่าหนูน้อยจินนี่ ความเป็นมาเป็นยังไง?"
วาทยานึกแปลกใจที่มารดาของเธอกลับมีเหตุผลในเรื่องนี้ขึ้นมา ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนนั้นท่านจะดูซีเรียสกับเรื่องนี้มากก็ตาม
"ลูกวากับพี่หมอธันวาค่ะ"
"ห๊า! อะไรนะหนูวา?"
คุณนุชนารถทรุดนั่งลงบนโซฟา วาทยาเลยนั่งลงข้างๆท่าน ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพียงว่า เธอกับเขาคบกันแล้วเกิดพลาดมีอะไรกันในตอนนั้น พอเลิกลากันเธอก็ไปเรียนต่อเมืองนอกเลยได้รับรู้ว่าตั้งท้องแต่ก็ไม่ได้บอกกับใครให้รู้
"แม่จะไปเอาเรื่องฝั่งโน้นให้เค้ามารับผิดชอบ"
"ไม่ได้นะคะแม่...ทางโน้นเค้าไม่ได้ผิดอะไร อย่าบอกเรื่องนี้ให้เค้ารู้นะคะ ไม่งั้นวาจะกลับอเมริกา"
"ทำไมละหนูวา ในเมื่อจินนี่ก็คือลูกของธันวาแม่เชื่อว่าอย่างไรซะ ธันวาก็ต้องรักลูกเขา"
"แต่พี่หมอไม่ได้รักวาไงคะ"
"โธ่..หนูวา เอาเถอะๆแม่จะยอมไม่บอกก็ได้ แต่อย่างไรลูกก็ไม่สามารถปิดเรื่องนี้ไว้ได้นานหรอกนะ"
"ค่ะ...หนูขอเวลาสักหน่อย"
วาทยาตอบผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เป็นครั้งแรกที่เธอเปิดใจคุยกับมารดาในเรื่องแบบนี้ แทบไม่น่าเชื่อว่ามารดาของเธอเข้าใจเธอเป็นอย่างดี ต่างกับที่วาทยาคาดการณ์เอาไว้มากมาย หรือว่าในอดีตเป็นเพราะเธอกลัวมารดาผิดหวังในตัวเธอ หญิงสาวเลยไม่ค่อยเอาเรื่องอะไรมาปรึกษา
"ไม่เป็นไรๆ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว แม่ไม่รู้ว่าลูกเจออะไรมาบ้าง ลำบากมากมั้ยหือทำไมไม่บอกแม่สักคำ?"
ผู้เป็นมารดาโอบกอดลูกสาวเอาไว้ในอกต่างคนต่างก็น้ำตาร่วง ทั้งดีใจเสียใจอิ่มเอมใจปะปนกัน
"หนูขอโทษค่ะคุณแม่"
"คุณแม่ขาาา "
สาวน้อยจินนี้วิ่งถือขนมมาให้ผู้เป็นมารดา แต่เมื่อเห็นแม่ร้องไห้เลยรีบเข้ามาเช็ดน้ำตาทันที
"จินนี่หลานยาย มาหายายมา"
คุณนุชนารถอ้าแขนออกเพื่อรับร่างน้อยๆเข้ามาใน้อ้อมอก เด็กน้อยก็ยอมให้ผู้เป็นยายกอดแต่โดยดี
"กราบคุณยายสิคะจินนี่"
จินนี่ลุกออกมาจากอกคุณยายแล้วก้มกราบลงบนตักอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ผู้เป็นยายถึงกับน้ำตาตกอีกครั้งเมื่อเห็นแบบนั้น
"เหมือนพ่อของเค้าเนอะ ถ้าธันวามาเจอก็ต้องรู้แน่นอน"
"วาก็กลัวอยู่ค่ะ แต่หากบังเอิญต้องเจอก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าถึงวันนั้นจริงๆวาก็คงจะปิดบังไม่ได้ แต่ตอนนี้วายังไม่พร้อม"
"ไม่เป็นไร แม่เข้าใจ"
ที่วาทยาบอกผู้เป็นมารดาว่าไม่พร้อมนั้น เพราะวาทยาไม่พร้อมรับกับความเสียใจอีกครั้ง หากเขายังไร้เยื่อใยและไม่ยอมรับลูกของเธอล่ะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นวาทยาก็ไม่รู้ว่าจะทนรับความเจ็บปวดเสียใจได้อีกมั้ย
-สองเดือนต่อมา-
ตอนนี้พ่อของวาทยาออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้านเลี้ยงหลานได้เต็มที่และอาการจากโรคหัวใจก็ดีขึ้นมาก เนื่องจากมีหลานสาวตัวน้อยคอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ ถึงแม้ว่าจะกลายเป็นคุณภากรเสียเองที่โกรธผู้เป็นหมอธันวาเอามากๆก็ตาม
วาทยาได้กลับมาทำงานแทนผู้เป็นบิดาบริหารงานโรงงานของเธอในตำแหน่งผู้บริหาร ผ่านมากว่าสองเดือนแล้วที่เธอพยายามอย่างหนักในการทำงานจนร่างกายเริ่มรับไม่ไหวเกิดอาการมึนหัวเนื่องจากพักผ่อนน้อยอยู่ตลอดเวลา
วันนี้วาทยาเลยตั้งใจมาพบหมอสักหน่อยตามคำแนะนำของพราวรุ้ง แต่ว่าเจ้าตัวน้อยจินนี่กลับตามมาด้วยนี่สิเนื่องจากว่าสาวน้อยจินนี่อยากกินไอศกรีมเจ้าประจำในห้างแห่งหนึ่ง วาทยาเลยขัดลูกสาวไม่ได้เพราะว่าเลื่อนนัดกับเธอมาหลายครั้งแล้ว
หลังจากหาหมอเสร็จทั้งคู่เลยเดินกันเข้ามาในร้านไอศกรีม ในขณะที่วาทยากำลังรับโทรศัพท์จากเลขาหันมาอีกทีลูกสาวของเธอก็หายไป
"จินนี่ อยู่ไหนลูก!?"
วาทยาพยายามตะโกนเรียกหาลูกสาว
"อยู่นี่ค่ะคุณแม่"
วาทยารีบเดินตามไปทันที
"พอดีหนูเก็บลูกบอลมาให้น้องค่ะคุณแม่"
วาทยาหันไปมองเด็กชายตัวน้อยอายุประมานสามขวบ แต่ทว่า
"น้องวา!"
"พี่หมอมุกดา"
หมอมุกดายิ้มกว้างออกมา
"น้องวา"
เสียงอีกคนเรียกออกมาเหมือนกัน วาทยายิ่งตกใจหนักไปกว่าเดิมเธอไม่คิดว่าจะเจอเร็วขนาดนี้ในสภาพที่มีเด็กชายตัวเล็กและหมอมุกดาหรือว่า'พวกเขาจะแต่งงานมีลูกด้วยกัน' วาทยาตั้งคำถามขึ้นมาในใจด้วยความเจ็บจี๊ด
"ไหนธันวาว่าน้องวาอยู่เมืองนอกอ่ะ แล้วนี่กลับมาทั้งแต่เมื่อไหร่จ้ะน้องวา?"
"เอ่อ สองเดือนได้แล้วค่ะ"
"คุณแม่คะจินนี่หิวแล้ว"
ทุกคนต่างจับจ้องมาที่จินนี่น้อยโดยเฉพาะหมอธันวา
"ลูกของวาเหรอ?"
หมอธันวาถามขึ้นมาบ้าง เขามองจินนี่พร้อมกับหน้าของวาทยาสลับไปมา
"ใช่ค่ะ"
"หืม สมกับเป็นหลานธันวาเลยเนอะ หน้าเหมือนกันเปี๊ยบเลย"
พอได้ยินหมอมุกดาพูดแบบนั้น หมอธันวายิ่งหันไปจ้องหน้าของวาทยาเขม็ง จนวาทยารู้สึกสั่นสะท้านไปหมดกลัวเขาจะรู้ความจริง
"เอ่อ จินนี่แม่ว่าเรากลับกันดีกว่านะ แม่ไม่ค่อยสบาย"
"ไม่เอาจินนี่จะกินไอศกรีม"
วาทยาไม่ฟังรีบอุ้มลูกขึ้นมาเดินออกไปอย่างไว สร้างความแปลกใจให้หมอมุกดามากมาย
"เอ้า จะไปไหน?"
หมอมุกดาถามขึ้นมาเมื่อเห็นหมอธันวาลุกขึ้นจะตามออกไป
"ว่าจะกลับแล้วล่ะ"
หมอธันวาเดินตามวาทยาออกไปทันทีอย่างร้อนใจ เขาต้องการพบวาทยาและพูดจากับเธอให้รู้เรื่องภายในวันนี้