พบเจอ

1273 Words
-ประเทศไทย- วาทยาเดินเข้ามาในบ้านของเธออย่างเงียบเชียบไม่บอกล่วงหน้าว่าเธอจะกลับมาแต่อย่างใด มือเธอกำลังจูงเด็กน้อยจินนี่เดินเข้ามาในบ้านอย่างไม่ได้นึกหวั่นใจอะไร เพราะเธอเตรียมตัวมาเรียบร้อยแล้ว "คุณแม่คะ!" "หนูวา!" ผู้สูงอายุกว่าเมื่อเห็นบุตรสาวที่จากไปห้าปีถึงกับดีใจโผเข้าไปกอดลูกสาวด้วยความคิดถึงทันที น้ำตาไหลหยดลงมาอย่างห้ามไว้ไม่ได้ "แม่คิดถึงลูก" พลันสายตาของคุณนุชนารถไปหยุดอยู่ที่เด็กน้อยจินนี่ แล้วหันมาหาวาทยาอีกครั้งอย่างต้องการคำตอบ "เอ่อ จินนี่ลูกไปหาขนมกินก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวค่อยมากราบคุณยายนะ" วาทยามองหน้าผู้เป็นมารดาส่งสัญญานให้รู้ว่าไม่ควรพูดกันต่อหน้าเด็ก "ค่ะคุณแม่" เด็กน้อยพยักหน้าตอบ "ใครก็ได้มาพาหลานชั้นไปหาขนมกินหน่อย" สาวใช้รีบออกมาจูงหนูน้อยไปออกไปทันที ถึงจะยังไม่ได้คำตอบแต่คุณนุชนารถก็พอจะรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือหลานของตนเอง "คุณพ่อล่ะคะ" "อยู่โรงพยาบาลน่ะลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้หมอก็ให้กลับแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรมากพอรู้ว่าลูกจะกลับมาก็หายวันหายคืน ไหนอธิบายกับแม่มาสิ ว่าหนูน้อยจินนี่ ความเป็นมาเป็นยังไง?" วาทยานึกแปลกใจที่มารดาของเธอกลับมีเหตุผลในเรื่องนี้ขึ้นมา ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนนั้นท่านจะดูซีเรียสกับเรื่องนี้มากก็ตาม "ลูกวากับพี่หมอธันวาค่ะ" "ห๊า! อะไรนะหนูวา?" คุณนุชนารถทรุดนั่งลงบนโซฟา วาทยาเลยนั่งลงข้างๆท่าน ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพียงว่า เธอกับเขาคบกันแล้วเกิดพลาดมีอะไรกันในตอนนั้น พอเลิกลากันเธอก็ไปเรียนต่อเมืองนอกเลยได้รับรู้ว่าตั้งท้องแต่ก็ไม่ได้บอกกับใครให้รู้ "แม่จะไปเอาเรื่องฝั่งโน้นให้เค้ามารับผิดชอบ" "ไม่ได้นะคะแม่...ทางโน้นเค้าไม่ได้ผิดอะไร อย่าบอกเรื่องนี้ให้เค้ารู้นะคะ ไม่งั้นวาจะกลับอเมริกา" "ทำไมละหนูวา ในเมื่อจินนี่ก็คือลูกของธันวาแม่เชื่อว่าอย่างไรซะ ธันวาก็ต้องรักลูกเขา" "แต่พี่หมอไม่ได้รักวาไงคะ" "โธ่..หนูวา เอาเถอะๆแม่จะยอมไม่บอกก็ได้ แต่อย่างไรลูกก็ไม่สามารถปิดเรื่องนี้ไว้ได้นานหรอกนะ" "ค่ะ...หนูขอเวลาสักหน่อย" วาทยาตอบผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เป็นครั้งแรกที่เธอเปิดใจคุยกับมารดาในเรื่องแบบนี้ แทบไม่น่าเชื่อว่ามารดาของเธอเข้าใจเธอเป็นอย่างดี ต่างกับที่วาทยาคาดการณ์เอาไว้มากมาย หรือว่าในอดีตเป็นเพราะเธอกลัวมารดาผิดหวังในตัวเธอ หญิงสาวเลยไม่ค่อยเอาเรื่องอะไรมาปรึกษา "ไม่เป็นไรๆ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว แม่ไม่รู้ว่าลูกเจออะไรมาบ้าง ลำบากมากมั้ยหือทำไมไม่บอกแม่สักคำ?" ผู้เป็นมารดาโอบกอดลูกสาวเอาไว้ในอกต่างคนต่างก็น้ำตาร่วง ทั้งดีใจเสียใจอิ่มเอมใจปะปนกัน "หนูขอโทษค่ะคุณแม่" "คุณแม่ขาาา " สาวน้อยจินนี้วิ่งถือขนมมาให้ผู้เป็นมารดา แต่เมื่อเห็นแม่ร้องไห้เลยรีบเข้ามาเช็ดน้ำตาทันที "จินนี่หลานยาย มาหายายมา" คุณนุชนารถอ้าแขนออกเพื่อรับร่างน้อยๆเข้ามาใน้อ้อมอก เด็กน้อยก็ยอมให้ผู้เป็นยายกอดแต่โดยดี "กราบคุณยายสิคะจินนี่" จินนี่ลุกออกมาจากอกคุณยายแล้วก้มกราบลงบนตักอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ผู้เป็นยายถึงกับน้ำตาตกอีกครั้งเมื่อเห็นแบบนั้น "เหมือนพ่อของเค้าเนอะ ถ้าธันวามาเจอก็ต้องรู้แน่นอน" "วาก็กลัวอยู่ค่ะ แต่หากบังเอิญต้องเจอก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าถึงวันนั้นจริงๆวาก็คงจะปิดบังไม่ได้ แต่ตอนนี้วายังไม่พร้อม" "ไม่เป็นไร แม่เข้าใจ" ที่วาทยาบอกผู้เป็นมารดาว่าไม่พร้อมนั้น เพราะวาทยาไม่พร้อมรับกับความเสียใจอีกครั้ง หากเขายังไร้เยื่อใยและไม่ยอมรับลูกของเธอล่ะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นวาทยาก็ไม่รู้ว่าจะทนรับความเจ็บปวดเสียใจได้อีกมั้ย -สองเดือนต่อมา- ตอนนี้พ่อของวาทยาออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้านเลี้ยงหลานได้เต็มที่และอาการจากโรคหัวใจก็ดีขึ้นมาก เนื่องจากมีหลานสาวตัวน้อยคอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ ถึงแม้ว่าจะกลายเป็นคุณภากรเสียเองที่โกรธผู้เป็นหมอธันวาเอามากๆก็ตาม วาทยาได้กลับมาทำงานแทนผู้เป็นบิดาบริหารงานโรงงานของเธอในตำแหน่งผู้บริหาร ผ่านมากว่าสองเดือนแล้วที่เธอพยายามอย่างหนักในการทำงานจนร่างกายเริ่มรับไม่ไหวเกิดอาการมึนหัวเนื่องจากพักผ่อนน้อยอยู่ตลอดเวลา วันนี้วาทยาเลยตั้งใจมาพบหมอสักหน่อยตามคำแนะนำของพราวรุ้ง แต่ว่าเจ้าตัวน้อยจินนี่กลับตามมาด้วยนี่สิเนื่องจากว่าสาวน้อยจินนี่อยากกินไอศกรีมเจ้าประจำในห้างแห่งหนึ่ง วาทยาเลยขัดลูกสาวไม่ได้เพราะว่าเลื่อนนัดกับเธอมาหลายครั้งแล้ว หลังจากหาหมอเสร็จทั้งคู่เลยเดินกันเข้ามาในร้านไอศกรีม ในขณะที่วาทยากำลังรับโทรศัพท์จากเลขาหันมาอีกทีลูกสาวของเธอก็หายไป "จินนี่ อยู่ไหนลูก!?" วาทยาพยายามตะโกนเรียกหาลูกสาว "อยู่นี่ค่ะคุณแม่" วาทยารีบเดินตามไปทันที "พอดีหนูเก็บลูกบอลมาให้น้องค่ะคุณแม่" วาทยาหันไปมองเด็กชายตัวน้อยอายุประมานสามขวบ แต่ทว่า "น้องวา!" "พี่หมอมุกดา" หมอมุกดายิ้มกว้างออกมา "น้องวา" เสียงอีกคนเรียกออกมาเหมือนกัน วาทยายิ่งตกใจหนักไปกว่าเดิมเธอไม่คิดว่าจะเจอเร็วขนาดนี้ในสภาพที่มีเด็กชายตัวเล็กและหมอมุกดาหรือว่า'พวกเขาจะแต่งงานมีลูกด้วยกัน' วาทยาตั้งคำถามขึ้นมาในใจด้วยความเจ็บจี๊ด "ไหนธันวาว่าน้องวาอยู่เมืองนอกอ่ะ แล้วนี่กลับมาทั้งแต่เมื่อไหร่จ้ะน้องวา?" "เอ่อ สองเดือนได้แล้วค่ะ" "คุณแม่คะจินนี่หิวแล้ว" ทุกคนต่างจับจ้องมาที่จินนี่น้อยโดยเฉพาะหมอธันวา "ลูกของวาเหรอ?" หมอธันวาถามขึ้นมาบ้าง เขามองจินนี่พร้อมกับหน้าของวาทยาสลับไปมา "ใช่ค่ะ" "หืม สมกับเป็นหลานธันวาเลยเนอะ หน้าเหมือนกันเปี๊ยบเลย" พอได้ยินหมอมุกดาพูดแบบนั้น หมอธันวายิ่งหันไปจ้องหน้าของวาทยาเขม็ง จนวาทยารู้สึกสั่นสะท้านไปหมดกลัวเขาจะรู้ความจริง "เอ่อ จินนี่แม่ว่าเรากลับกันดีกว่านะ แม่ไม่ค่อยสบาย" "ไม่เอาจินนี่จะกินไอศกรีม" วาทยาไม่ฟังรีบอุ้มลูกขึ้นมาเดินออกไปอย่างไว สร้างความแปลกใจให้หมอมุกดามากมาย "เอ้า จะไปไหน?" หมอมุกดาถามขึ้นมาเมื่อเห็นหมอธันวาลุกขึ้นจะตามออกไป "ว่าจะกลับแล้วล่ะ" หมอธันวาเดินตามวาทยาออกไปทันทีอย่างร้อนใจ เขาต้องการพบวาทยาและพูดจากับเธอให้รู้เรื่องภายในวันนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD