ตอนที่ 6 ความท้าทาย

1352 Words
หลังจากพยายามถอดแหวนแต่งงานมาทั้งสัปดาห์และมัวแต่ยุ่งกับการเปิดตัวบริษัทจนไม่มีเวลาจัดการเรื่องนี้ ในที่สุดพีรมนก็มีเวลาที่จะจัดการกับสิ่งที่เป็นความทรงจำที่ผูกพันเธอเอาไว้ “ฉันต้องการเอาแหวนออกค่ะ” เธอบอกกับหมอที่ห้องฉุกเฉินที่กำลังสำรวจนิ้วเรียวยาวของเธอที่ปราศจากบาดแผล “แต่ว่าแหวนก็ไม่ได้รัดนิ้วนี่ครับ หากตัดออกไม่เสียดายเหรอครับ” หมอห้องฉุกเฉินถามเพื่อความแน่ใจ เขาไม่กล้าที่จะทำลายสิ่งแทนใจของใครเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบของคนไข้ “ไม่เสียดายค่ะหมอ ฉันไปร้านจิวเวอรี่มาแล้วเขาไม่สามารถตัดออกได้ และแนะนำให้มาที่โรงพยาบาลแทน รบกวนด้วยนะคะ” เธอบอกแล้วยื่นมือให้ หมอจึงใช้เครื่องมือในการตัดออกไปแล้วคืนซากแหวนแต่งงานวงนั้นให้แก่เธอ หญิงสาวรับเอาไว้แล้วหย่อนลงในกระเป๋าสะพายอย่างไม่แยแส คิดว่าอย่างไรก็ต้องหาโอกาสเอาไปคืนอติรุจในภายหลัง ขณะที่เธอกำลังขับรถกลับบ้าน สายโทรศัพท์ของมารดาก็โทรเข้ามา หญิงสาวจึงกดรับสายผ่านปุ่มบลูทูธในรถเพื่อพูดคุยผ่านลำโพง “ค่ะแม่” “พลอย วันนี้คุณวิมลเชิญเราไปรับประทานมื้อเย็นที่บ้าน พ่อกับแม่กำลังออกไป ลูกรีบตามมานะ” ผกาบอกกึ่งมัดมือชก “ค่ะ” ตอนแรกเธอจะปฏิเสธ แต่เมื่อนึกได้ถึงเรื่องแหวนก็ตั้งใจจะเอาไปคืนต่อหน้าพ่อแม่ของสองครอบครัว พวกท่านจะได้เลิกหวังเรื่องการคืนดีเสียที เมื่อไปถึงบ้านยิ่งยศนิรันดร์ เธอก็จอดรถไว้ด้านหน้าแล้วเดินเข้าไปในบ้าน ครอบครัวของเธอและเขามีฐานะใกล้เคียงกัน ไม่ได้ร่ำรวยล้นฟ้าแต่ก็ถือว่าพอมีฐานะอยู่บ้าง สาวใช้เดินมาต้อนรับแล้วเชิญให้เข้าไปในบ้านที่กำลังนั่งคุยกันในห้องนั่งเล่น พอเห็นว่าพีรมนมาถึงอติรุจก็รีบลุกไปต้อนรับเธอ หญิงสาวไหว้ทักทายเจ้าบ้านทั้งสอง จากนั้นก็ล้วงหาแหวนที่ตนเพิ่งตัดออกจากนิ้วออกมาแล้วยื่นคืนให้แก่เขาต่อหน้าทั้งสองครอบครัว “แหวนแต่งงานค่ะ ฉันขอคืนให้คุณ” เธอยังคงใช้สรรพนามที่ห่างเหิน ยืนแหวนที่ถูกตัดออกคืนให้แก่เขา แต่อติรุจไม่ได้รับเอาไว้ “พี่ไม่รับคืน” เขาพูดเสียงเบา หลายวันที่ผ่านมาเธอไม่ยอมใจอ่อน ยิ่งเขาตามเธอมากเท่าไรก็รู้สึกว่าตนเองกำลังพบกับความสูญเสีย ญาดากำลังจะแต่งงาน ส่วนเจ้าสาวของตัวเองก็ไม่ยอมรับสถานะสามีภรรยา ตอนนี้รู้สึกแย่กับตัวเองและอยากได้พีรมนกลับมาครอบครอง อยากเอาชนะเธอเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียหน้าที่ถูกผู้หญิงสองคนทิ้งไปในเวลาไล่เลี่ยกัน “งั้นฉันวางไว้ที่นี่นะคะ” เธอวางแหวนไว้ที่โต๊ะรับแขกที่ใช้วางเครื่องดื่ม จากนั้นก็นั่งลงข้างมารดาที่กำลังทำหน้าเจื่อนลง คงรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่เธอคืนแหวนแต่งงานแสดงถึงเจตจำนงว่าจะไม่มีวันคืนดีแน่แล้ว “หนูพลอย ให้โอกาสตาอาร์ตไม่ได้จริง ๆ เหรอลูก คนเรารักกันหนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันได้” วิมลพยายามจะเกลี้ยกล่อม “ขอโทษนะคะคุณป้า” พีรมนยกมือไหว้ก่อนที่จะพูดในสิ่งที่คิดว่าเสียมารยาทออกมาตามตรง “ที่ลูกชายคุณป้าทำ พลอยรับไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เรื่องธุรกิจที่เราสองครอบครัวร่วมทุนกัน ตอนนี้ก็เป็นไปได้ดี พลอยว่าถึงไม่มีสถานะเป็นสามีภรรยา เราก็สามารถร่วมงานกันได้ในฐานะผู้ถือหุ้น ให้มันเป็นแบบนี้ดีกว่าค่ะ” เธอพูดตามตรง อย่างไรก็ใจแข็งไม่ยอมไว้หน้าพ่อแม่ของเธอและเขา “พลอย” ผกาแตะที่ขาลูกสาวปรามเอาไว้ “ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ แต่ก็จะไม่ละความพยายาม” เขาพูดเสียงเบา มองใบหน้าที่เฉยชาของอดีตเจ้าสาวด้วยความรู้สึกเสียดายที่ไม่น่าคว้ากรวดมาเชยชมทั้ง ๆ ที่มีเพชรอยู่ในมือ เขาจะต้องเอาชนะใจเธอได้อีกครั้ง หากไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องด้วยวิธีมัดมือชกที่เธอจะปฏิเสธไม่ออก ************************ ข่าวลือเรื่องที่พีรมนล้มเลิกงานแต่งงานเพราะถูกอติรุจนอกใจเริ่มเป็นที่พูดถึง หลายคนสังเกตเห็นว่าทั้งสองไม่ได้ใกล้ชิดหรือสนิทสนมกันเกินไปกว่าเรื่องงาน โดยเฉพาะแหวนแต่งงานที่อติรุจสวมใส่ฝ่ายเดียว แต่พีรมนไม่มีแหวนสวมที่นิ้วนางข้างซ้าย แต่กลับมีแหวนสวมที่นิ้วอื่นตามปกติ แต่ถึงอย่างนั้นอติรุจก็ไม่ได้แก้ข่าวลือ ตอนนี้เขาต้องการที่จะปรับปรุงตัวเองเพื่อที่จะเอาเธอกลับมา ไม่รู้เพราะว่าเขาเกิดรู้สึกดีกับเธอจากใจจริง หรือจะเป็นเพราะเสียดายผู้หญิงอย่างเธอ หรือแค่เป็นการอยากเอาชนะก็ตามที แต่ว่าตอนนี้เขาปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้พีรมนกลับมาเป็นของเขา ในขณะเดียวกัน ธนัทที่เอาแค่คิดถึงเรื่องในคืนนั้น ประกอบกับความท้าทายที่เกิดจากพีรมนที่เขาไม่เคยเจอก็กำลังกระวนกระวายจนไม่มีสมาธิจะทำงาน “คุณธนัท คุณมาริสาขอ..” “ไล่เธอกลับไป แล้วอย่าให้ฉันได้ยินชื่อผู้หญิงคนนี้อีก” เขาพูดตัดก่อนที่กพลจะพูดจบ “แต่เธอเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเรานะครับ จะดีเหรอถ้า..” เมื่อเจอสายตาที่แข็งกร้าวของเจ้านายลูกเสี้ยวไทยฮ่องกงก็ต้องหยุดพูด แล้วค่อย ๆ ถอยออกไปทำตามคำสั่ง “เดี๋ยว” เขาเรียกกพลเอาไว้ “ครับ” กพลคิดว่าเขาจะเปลี่ยนใจ “ไล่เธอกลับไปแล้วเตรียมรถให้ฉัน ฉันจะไปบริษัทเอพีกรูป” เขาบอกเสียงเรียบ “จะไปหาคุณพีรมนเหรอครับ แต่ผมว่า...” สายตาที่ส่งไอเย็นชานั้นมาทำให้กพลต้องเงียบไปอีกครั้ง ค่อย ๆ ออกไปจากห้องแล้วทำตามในสิ่งที่เขาต้องการ รถคันหรูที่กำลังวิ่งไปตามท้องถนน ธนัทนั่งกระวนกระวายใจอยู่บนรถด้วยความรู้สึกที่หงุดหงิดใจ “เอ่อ ขอโทษนะครับคุณธนัท การที่คุณจะไปพบคุณพีรมนอีกครั้งพร้อมกับดอกไม้ช่อนั้น ยิ่งจะไม่เป็นการตอกย้ำเหรอครับว่าคุณกำลังสนใจผู้หญิงที่ เอ่อ... แบบว่ายังเคลียร์สถานะไม่ชัดเจน” “นายบอกเองนี้ว่าเธอยังไม่ได้จดทะเบียน แล้วงานแต่งก็ถูกประกาศยกเลิกไปแล้ว” เขาย้อนประโยคที่กพลเคยพูด น้ำเสียงยังคงมีความลังเลว่าตัวเองกำลังทำบ้าอะไรอยู่ “แต่คุณเอาดอกไม้ไปผูกสัมพันธ์กับเธออย่างเปิดเผย จะยิ่งดูไม่ดีเอานะครับ ผมว่าคุณธนัทเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน” กพลห่วงภาพลักษณ์ของผู้เป็นนาย จึงตัดสินใจพูดเตือนออกไปตามตรง “ฉันไม่สน ตอนนี้ฉันพุ่งเป้าแล้วว่าพีรมนต้องเป็นผู้หญิงของฉัน ขับรถไปเถอะอย่าพูดมาก” ตอนแรกรู้สึกเสียหน้าที่ตัวเองมีสัมพันธ์กับเธอในขณะที่สถานะของหญิงสาวยังไม่ชัดเจน แต่หลายวันที่ผ่านมาจะพาผู้หญิงคนไหนมาเสวยสุขแต่ก็มีใบหน้าเธอลอยมาแทรกจนเขาหมดอารมณ์กับผู้หญิงเหล่านั้นไปเสียทุกครั้ง ชายชู้อะไรกัน เขามีความสัมพันธ์กับเธอหลังจากที่เธอประกาศเลิกกับเจ้าบ่าว จริง ๆ เขามีสถานะเป็นสามีของเธอ เขามีสิทธิ์ในตัวเธอมากกว่าผู้ชายคนไหนเสียอีก หลังจากนี้ไปไม่ใช่การรับผิดชอบ… แต่เป็นการทวงสิทธิ์ของสามีทางพฤตินัย ************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD