บ่ายวันถัดมา
ฉันลงเวรมารู้สึกมึนๆ เลยอยากเติมน้ำตาลเลยชวนยายแก้มมาซื้ออะไรกินที่ร้านกาแฟหน้าโรงพยาบาล
เราเดินไปเลือกขนมที่ตู้กระจกหยอกล้อกันเล่นจนไม่ได้รู้สึกว่าใครเดินเข้าร้านมาตามหลัง ร่างสูงชะงักเล็กน้อยหลังจากสังเกตเห็นคนตัวเล็กที่คุ้นตาว่าเคยเจอเมื่อไม่นานมานี้
แถมยังมีท่าทางแปลกๆ กับเขาจนน่าสนใจไม่น้อย
“ลัล แกว่าช็อคหน้านิ่มหรือเค้กมะพร้าวอ่อน” ยายแก้มหันมาถามขณะเราสองคนโน้มตัวลงไปดูเค้ก
“เค้ากินเค้กมะพร้าวดีกว่า” ฉันตอบยิ้มๆ พลางคิดถึงความนุ่มของครีมกับมะพร้าวชิ้นโต แป้งเนียนๆ อ่า~
“เออ แกกินช็อคโกแลตมากไม่ได้นี่นา” ยายแก้มพยักหน้ากับตัวเอง
“หืม ลัลลาแพ้ช็อคโกแลตเหรอครับ” เสียงนุ่มทุ้มพูดขึ้นช้าๆ
“??” เราสองคนหันไปมองต้นเสียงทันที
“เฮ้ย” ฉัน
“//ตารูปหัวใจ//” ยายแก้ม
แล้วก็พบคนตัวสูงในเสื้อกาวน์สั้นปักชื่อแผนกศัลยกรรมโน้มตัวลงมาใกล้ๆ ฉัน มุมปากคลี่ยิ้มจางๆ
ฉันรีบดีดตัวตรงแล้วก้าวถอยหลังจนเกือบล้ม มือหนาคว้าแขนฉันไว้ได้ ประคองให้ยืนดีๆ
เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น แต่ส่งผลให้หัวใจฉันเต้นแรงจนเกือบกระเด็นออกมาจากอก
ฉันขอบคุณเขาเบาๆ แล้วรีบชักมือกลับอย่างร้อนรน
อ่า แสดงออกมากไปแล้วนะตัวฉัน!
“หึๆ” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ
ยายแก้มกระตุกเสื้อฉันไม่หยุด
“ใครอะแก๊” แถมเสียงสูงที่ท้ายประโยคบ่งบอกถึงความอยากรู้ถึงขีดสุด
เขาก็ยืนยิ้มออร่ากระจายอยู่กลางร้านนี่แหละ ไม่คิดจะพูดอะไรเลย
“เอ่อ แก้ม นี่หมอแซม หมอวอร์ดศัลย์ที่มาใหม่อะ หมอแซม
นี่แก้ม MT ประจำแล็บรพ.ค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ยิ้มกว้าง ก้มศีรษะให้อย่างสุภาพ
“ยินดีที่ได้รู้จักมากๆ ค่ะ” ยายแก้มยิ้มกว้างประจำตัวอย่างสดใส
“ขอผมเลี้ยงขนมได้มั้ยครับ ถือว่าฝากตัวด้วย” ยิ้มมุมปาก
“ไม่เป็นไรค่ะ/ยินดีเลยค่ะพี่หมอ” พูดประสานกับยายแก้ม
ฉันรีบส่งสายตาดุๆ ไปปรามคนข้างๆ
แน่นอนว่ายายนั่นไม่ฟังฉันสักนิด
“ของแก้มขอเค้กช็อคโกแลตหน้านิ่ม ของลัลเค้กมะพร้าวค่ะ รบกวนด้วยนะคะ” แก้มหันไปสั่งขนมยิ้มแป้น
“ผมขอเอสเปรสโซร้อนแก้วนึงครับ”
เขาว่าแล้วจ่ายเงินรวมของเราสองคนแบบไม่รอให้ฉันปฏิเสธด้วยซ้ำ
เรายืนรอสักพักก็ได้ขนมกับกาแฟ ฉันขอบคุณคุณหมอเบาๆ รีบลากยายแก้มกลับ แต่..
“แก้มขอเรียกพี่หมอนะคะ” ยายแก้มกลับลากฉันไปยืนข้างหมอแซมเฉย
แล้วตัวเองก็ยืนประกบอีกข้าง
ขณะเดินออกจากเคาท์เตอร์ไปนั่งกินที่โต๊ะ ออ ที่นี่เรานิยมนั่งกินที่โต๊ะกัน บรรยากาศร่มรื่น น่านั่งพักผ่อน
“ได้ครับ” เขายกกาแฟขึ้นจิบยิ้มๆ
“ขอบคุณค่ะ พี่หมอมีเวรต่อมั้ยคะ” พูดแล้วก้มไปชื่นชมเค้กหน้าตาน่ากิน
“วันนี้ไม่มีแล้วครับ แล้วแก้มกับลัลลาละ”
“แก้มมีเวรดึกค่ะ ส่วนลัลลาไม่มีแล้ว” ยายบ๊องนี่ ฉันส่งสายตาดุๆ ไปให้คนที่มีเค้กช็อคโกแลตเต็มแก้มป่องๆ
ฉันละเลียดเค้กกินเงียบๆ ปล่อยให้สองคนคุยกันไป
“ลัลลาทำกับข้าวกับขนมอร่อยมากค่ะพี่หมอ”
หืม.. อุตส่าห์อยู่เงียบๆ
“เหรอครับ ไว้ทำมาให้พี่ชิมบ้างนะครับ”
สายตามีเสน่ห์เลื่อนมามองที่ฉันอีกครั้ง
ตัดภาพมาที่ฉันเหรอ ว้าวครีมเค้กละมุนอะ!
“พี่หมอชอบกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ”
....เขาชอบกินข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาวสุกๆ หมูชิ้นมันเหนียว
“พี่กินได้หมดนะ เป็นคนกินง่าย ถ้าเร็วๆ คงข้าวกะเพราครับ” ยิ้มน้อยๆ
“โหยย สูตรของลัลลาอร่อยมากกกก แก้มยังชอบให้ลัลทำมาให้กินบ่อยๆ”
“ไว้ทำมาให้พี่ชิมบ้างนะครับลัลลา” เขาส่งยิ้มมา ฉันยิ้มกลับแห้งๆ
บลาๆ ล้วนเป็นการโฆษณาเรื่องการทำอาหารของฉันทั้งนั้น
จน..
“พี่ได้ยินว่าลัลลาแพ้ช็อคโกแลตเหรอครับ” หันมาถามฉัน
แอทแทคอีกครั้งติดๆ ด้วยการจ้องเข้ามาในตาฉันขณะที่ช้อนตามอง
ด้วยประกายตาพราวระยับราวกับกำลังขำ
ฉันเม้มปากเลียครีมนิดหน่อยๆ หายใจลึกๆ และแน่นอน หลบตา..
“ค่ะ ตอนเด็กๆ เคยกินมากๆ แล้วผื่นขึ้น”
“แย่เลยนะครับ”
“พอกินได้ค่ะ ไม่แย่ขนานนั้น”
...คงเหมือนหมอที่แพ้อาหารทะเลแต่พอกินได้นั่นแหละ
ฉันแหล่มองยายแก้มที่นั่งตักเค้กกินอย่างสบายอารมณ์ แถมยิ้มเล็กยิ้มน้อย จนขนมของเรากับกาแฟของเขาหมด
“ขอบคุณพี่หมอมากนะคะที่เลี้ยงขนมเราสองคน ไว้จะให้ลัลลาทำกับข้าวไปให้ลองชิมนะคะ” ยัยตัวยุ่งยิ้มกว้าง
เขาส่งยิ้มน้อยๆ ที่ดูหล่อเปล่งประกายจนสาวๆ พยาบาลที่ออกเวรเดินผ่านหันมามองคอแทบเคล็ด
แล้วพูดสิ่งที่ทำเอาหัวใจฉันแทบหยุดเต้น
“งั้น.. เป็นพรุ่งนี้เลยได้มั้ยครับ”
“!!!!!!!!”