"อีแนนเบาได้เบาโว้ย! แดกขนาดนั้นเดี๋วแม่งก็ตับแข็งตายห่าไปก่อนพอดี" ฉันกับเสน่ห์พร้อมใจกันยกมือห้ามอีแนนที่ในตอนนี้กำลังจะกระดกเหล้าฝรั่งทั้งขวดใส่ปากกันอย่างชุลมุน
"แม่ง! ไม่รู้จักพอ" มันพูดถึง 'จอนนี่ อัครพล อภัยสุขแสน' แฟนของมันนะคะทุกคน คนหัวทองๆ หน้าตาก็พอไปวัดไปวาที่ได้รับฉายาว่าขุนแผนแดนนครศรีธรรมราชบ้านเรา
ไอ้คนนั้นมันคบหากับอีแนนมาเกือบสี่ปี ผลตอบแทนของความรักที่อีแนนได้มาคือน้ำตาล้วนๆ เพราะตาคนนี้มันเอาไม่เลือก แล้วยังซุกกิ๊กเก่งที่หนึ่งอีกต่างหาก
มันถึงได้รับฉายาว่าขุนแผนแดนนครศรียังไงละ!
ตอนแรกที่นัดมาเจอกันคนที่อาการหนักมันก็เป็นฉันเองนี่แหละแต่ไปๆ มาๆ ดันกลายมาเป็นมันที่ตกอยู่ในอาการน่าเป็นห่วงแทน
"โลกแม่งก็โหดร้าย" ฉันพูดขึ้นอย่างจริงจัง "ดูอย่างอีเหน่สิไม่เคยจริงจังกับใครซักคน แต่พอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกลับได้คนที่จริงใจ อีแนนนี่แฟนสักคนก็ไม่เคยมี ได้แฟนทั้งทีแทนที่จะเป็นเจ้าชายที่แสนดี กลับได้ผีห่าซาตานมาแทนซะงั้น" ฉันถอนใจออกมาเสียงดังอย่างนึกไม่เข้าใจในคำว่าโชคชะตาเท่าไหร่นัก
"เวรกรรมมันเล่นงานผิดคนมั้งอีหวาน" แนนซี่ว่าขำๆ แต่ฉันและทุกคนในที่นี้ต่างก็รู้ดีว่าภายใต้เสียงหัวเราะของมันล้วนแต่มีน้ำตาแห่งความแหลกสลายซ่อนตัวอยู่ในนั้น
"อ้าวอีพวกบ้านี่! ไหงสาวมาถึงกูได้วะ" เสน่ห์ยู่ปากอย่างขัดใจเมื่อได้ยินอยู่ทนโท่ว่าฉันกำลังกระแนะกระแหนมันอยู่
ติ๊ด.
"ไม่รู้ใครว่ะ" ฉันชูโทรศัพท์มือถือให้ทุกคนได่ดูเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา "เดี๋ยวกูรับแล้วเปิดลำโพงดีกว่า เผื่อจะเป็นพวกโรคจิตพวกมึงจะได้ช่วยกูด่า"
(สวัสดีค่ะ)
(น้องที่เป็นเพื่อนเสน่ห์รึเปล่าครับ)
(ค่ะ ใช่ค่ะน้ำหวานเอง)
(พี่จะโทรมาบอกว่า พี่ไม่อยากแกล้งเป็นแฟนน้องครับ)
(อ้าว จริงเหรอคะ งั้นไม่เป็นไรค่ะ สวัสดีค่ะ)
(เดี๋ยว!)
(คะ?)
(คือพี่ไม่อยากแกล้งเป็นแฟนน้องครับ)
(ค่ะ... หนูก็ทราบแล้วค่ะ)
(คือ...เพราะว่าพี่อยากจะเป็นผัวของน้องจริงๆ ครับ)
(ค่ะ ทราบแล้วค่ะ ห๊า! พี่ว่าอะไรนะคะ!!!!)
(เอ่อ...ถ้าน้องไม่อยากเป็นเมียพี่ก็ไม่เป็นไรนะครับ)
(ตกลงค่ะ พรุ่งนี้สิบโมงเจอกันที่เซ็นทรัลค่ะ สวัสดีค่ะ)
ติ๊ด.
"พวกมึงหัวเราะอะไรกัน" ฉันถลึงตาใส่เพื่อนสาวสองคนที่กำลังพากันหัวเราะฉันอย่างเอาเป็นเอาตายหลังจากผู้ชายคนนั้นวางสายไปแล้ว
"เชรดเด้! มึงจะมาตกลงเป็นผัวเมียกันง่ายๆ อย่างนั้นได้เหรอวะอีหวาน อีบ้า!" แนนซี่ว่าจบก็หัวเราะฉันจนตัวงออีกครั้ง ถึงจะรู้สึกหมั่นไส้มันอยู่บ้างแต่ลึกๆ ก็แอบดีใจที่ได้เห็นว่ามันยังยิ้มได้
"ทำไม" ฉันถลึงตาใส่มันอย่างไม่พอใจ "ทีมึงกับอีเหน่ยังทำได้ แล้วมีเหตุผลอะไรที่กูจะทำบ้างไม่ได้"
"ฮัลโหล สติค่ะสาว! คือของพวกกูนี่แค่แฟนนะคะ มันคนละเรื่องกับผัวเมียเลยเนอะ" เสน่ห์เดินมาผลักหัวฉันเบาๆ นางก็คงจะหมั่นไส้ในความมั่นของฉันแหละแต่ใครสนกันคนเขาอยากมีผัวแล้วจะทำไมมัน
"แล้วไงวะ" ฉันยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ "มันก็เหมือนๆกันแหละวะ" ก่อนจะหันไปคว้ากระเป๋าใบโปรดขึ้นมาเพื่อจะกลับไปเตรียมตัวสำหรับการนัดเจอกับผู้ชายในปลายสายวันพรุ่งนี้
หมับ
"มึงจะไปไหน,มึงจะไปไหน" เสียงหวานจากเพื่อนรักของฉันสองคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันจนฉันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะหลุดยิ้มออกมา
"พวกพี่นี่ก็ถามแปลกๆ เขาก็จะไปเตรียมตัวเพื่อไปหาผัว ฃเขาพรุ่งนี้ยังไงละครับ พวกพี่เองก็กลับกันได้แล้วนะอั๋นว่า มันดึกแล้ว" อั๋นเน้นคำว่าผัวจนฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขิน ก่อนที่ฉันจะสังเกตเห็นแล้วน้องเขาหันไปกระตุกแขนให้เสน่ห์ลุกขึ้นและส่งสัญญาณบางอย่างมาที่ฉันอีกที
"น้องอั๋นอ่า..." ฉันแกล้งกระแทกเท้าเบาๆ ออกมาจากตรงนั้นอย่างเขินๆ ก่อนจะรีบวิ่งอย่างเร็วมาในนาทีต่อมาเพื่อที่จะปล่อยให้บริกรมาเช็คบิลกับแนนซี่นั่งยังคงนั่งซื่อบื้ออยู่คนเดียวที่โต๊ะ ฮ่าๆ ละมันแสบกันทั้งผัวทั้งเมียจริงๆ คู่อีเหน่เนี่ย!
หมับ
"ว้าย!!" หลังจากเดินห่างออกมาจนใกล้จะถึงรถมอเตอร์ไซค์คันเก่งของฉัน ก็มีอันให้น้องน้ำหวานคนนี้ต้องหวีดร้องออกมาเสียงหลงราวกับเปรตขอส่วนบุญเมื่อจู่ๆ ก็มีมือปริศนาพุ่งเข้ามาทางด้านหลังก่อนจะยกฉันขึ้นไปอุ้มพาดบ่า
"ตกใจอะไรคะเมียขา... นี่ผัวขาเองค่ะ" ก็คงจะเป็นใครไปได้นอกซะจากโฮปที่ฉันพึ่งตกลงคบด้วยเมื่อห้านาทีที่แล้ว
"ไอ้บ้า! ฉันยังโสดนะแล้วจะมีผัวได้ยังไงยะ แล้วก็รีบวางฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะโฮป!" ฉันตวาดเสียงดังอย่างไม่พอใจเพราะถึงแม้ในตอนนั้นฉันจะตกลงเป็นเมียเขาแล้วก็จริง แต่นั่นมันก็เป็นแค่การแสดงเท่านั้นนี่นา...
"แล้วแมวตัวไหนมันตอบตกลงว่าจะเป็นเมียฉันเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วละคะคนสวย"
เพี๊ยะ!
"ไอ้บ้า! ตีมาได้เจ็บนะ มันเป็นแค่การแสดงนายก็รู้นี่"
ตุบๆ
ฉันกระหน่ำหมัดเล็กๆ ลงบนหลังบึกบึนของเขาจนเต็มแรง แต่ดูเหมือนจะไม่ระคายหนังหนาๆ ของเขาเลยแม้แต่สักนิดเดียว
"นั่งเงียบๆ ค่ะเมียขา" เขายัดฉันเข้ามาในรถสปอร์ตคันหนึ่งก่อนจะยกนิ้วชี้มาเพื่อปิดปากให้ฉันหยุดพูด
"ฉันไม่อยากแกล้งเป็นแฟนกับนายแล้ว ฉัน..ฉันขอตัว และฉันจะก็จะไม่ยุ่งวุ่นวายอะไรกับนายอีก" ทันทีที่เขากำลังขึ้นจะมานั่งฝั่งคนขับฉันก็ทำท่าจะเปิดประตูเพื่อหนีลงมาในทันที
หมับ!
"โอ๊ย อะไรอีก!" เป็นอีกครั้งที่ฉันต้องร้องออกมาจนสุดเสียง เพราะรู้สึกเจ็บข้อมือที่เขากำลังออกแรงบีบจนมันแทบจะแหลกคามือใหญ่ๆ ของเขส
"เป็นเมียผัวขาแล้วเลิกเป็นไม่ได้ค่ะ ถ้ายังอยากมีชีวิตต่อก็กลับมานั่งเงียบๆ บนที่ของเมียขาไปเถอะนะคะ" เขาว่าก่อนจะกระตุกแขนฉันจนสุดแรงเพื่อให้ฉันหันกลับมานั่งประจำที่เดิม
"นี่! ฟังนะ! ฉันแค่จะหาผู้ชายไปแกล้งเป็นแฟนฉัน ถ้านายไม่พอใจที่ได้แค่แกล้ง นายก็แค่ออกไป และฉันก็จะไปหาคนอื่นที่เขาพร้อมใจที่จะแสดงละครกับฉันเอง ยูโน๊ว"
"ก็ลองดูสิคะ..."
"โอ๊ย เอ็บอ๊ะ" มือหนาของชายที่ได้ชื่อว่า 'จ้าวโฮป ชนะพล จักยิ่งรุ่งเรือง' กดลงบนคางมนของน้ำหวานเสียจนสุดแรงจนหญิงสาวรู้สึกปวดระบมไปหมดทั้งใบหน้า
"หุบปากค่ะ" ก็ถ้าใครลองได้มาอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตายแบบฉันตอนนี้เป็นใครก็ต้องยอมกันทั้งนั้นแหละ เชื่อฉันสิ...
"รถฉัน..." ฉันกระซิบเสียงแผ่วเพราะยังรู้สึกเจ็บคางที่เขาออกแรงบีบเมื่อครู่อยู่ไม่หาย
"จะเอากี่คันคะ? เอารุ่นไหนเอ่ย? ผัวขาจะซื้อให้เองขอแค่เมียขาเอ่ยปากขอ" เขาพูดกับฉันแต่สองตาคมๆ นั้นก็ยังจ้องอยู่บนถนนลาดยางตรงหน้าเหมือนเดิม
"รวยมากมั้ง!"
"รวยมากค่ะ รวยขนาดที่ควักเงินล้านห้าเพื่อปิดหนี้ให้พ่อเมียขาตอนนี้ได้อะค่ะจบนะคะ"
ดูพูดเข้าเถอะ! นี่เขาพูดเหมือนกับว่าการควักเงินล้านห้ามาปิดหนี้ให้กับใครสักคนที่ไม่มีความเกี่ยวพันธ์อันใดกับตัวเองมันเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ เขาก็ทำกัน
"นี่นายรู้จักบ้านฉันได้ไงกัน!" สองตาของฉันเบิกโพลงขึ้นมาอย่างเริ่มตื่นตระหนกเพราะพอที่จะสัมผัสได้แล้วว่าผู้ชายคนนี้คือบุคคลอันตราย!
"ก็พ่อเมียขาเที่ยวหาเงินกู้ยืมไปทั่ว ใครหน้าไหนบ้างที่มันจะไม่รู้จัก" พอได้ยินเขาตอบมาอย่างนี้แล้วก็ทำให้ฉันรู้สึกอับอายเขาขึ้นมาเลย แย่เนอะ...มีพ่อแบบนี้...
"พ่อติดหนี้นายด้วยอย่างนั้นนะเหรอ" ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามไปตรงๆ
"ผัวขาไม่เอาลูกสาวใครมาเพียงเพราะพ่อเขามาติดหนี้ผัวขาหรอกนะคะ ถ้าผัวขาจะเอาใคร คนๆ นั้นก็คือคนที่ผัวขารักค่ะ" เขาตอบอย่างชัดเจนก่อนจะลงจากรถเพื่อมาเปิดประตูรถให้ฉันกับฉัน
"ขอบคุณค่ะ ยังไงก็ขับรถดีๆนะ" ฉันก้มหัวให้เขานิดหน่อยก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในบ้านของตัวเอง
หมับ!
"นายจะอะไรกับฉันนักหนานะ" ฉันตวาดแว้ดอย่างเหลืออดเพราะจู่ๆ เขาก็ถือวิสาสะเดินเข้ามาโอบเอวฉันอีกครั้งอย่างหน้าด้านๆ
"ผัวขาก็ว่าจะเข้าไปไหว้คุณพ่อตาขาสักหน่อยยังไงละคะ ผัวขาเป็นผัวเมียขานี่ลืมไปแล้วรึไงคะ"
"นายพูดว่าอะไรนะ!!!"
เอาแล้วน้ำหวาน เขาไม่อยากเป็นแฟนกับแกอะ ดูปากพี่เหยินนะคะ "เขาอยากจะเป็นผัวของแกมากกว่า" ยอมเป็นเมียพี่แกเถอะน้ำหวาน ถึงจะดูโหดแต่ก็อยู่ในโหมดนะคะนะเออ ฮ่าๆๆ
ไอ้จ้าวคือผู้ชายที่พูดนะคะแล้วน่าขนลุกมากที่สุด! 😆