"กูคิดเอาเองว่าบางทีโฮป เอ่อ... อาจจะเพราะในตอนนั้นพี่โฮปแกหลงเข้าไปในถิ่นของอั๋นเขามากกว่า"
"กรี๊ด!"
"ฉิบหาย! เป็นบ้ากันไปหมดแล้วรึยังไงกันวะ" 'พสุธา ดั่งดวงหฤทัย หรืออีฟ้าใส' สบถดังลั่นด้วยความรู้สึกโมโห ก่อนที่มันยกมือขึ้นมาอุดหูพร้อมๆ กันกับพวกเราอีกสี่คนเพื่อหลีกหนีเสียงกรี๊ดที่กำลังดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งแคนทีนของมหาวิทยาลัย
"จ้าวโฮป กรี๊ด!"
แต่เพราะชื่อนี้ที่คุ้นเคย จึงทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นขึ้นมามองก่อนจะได้เห็นนักบาสเกตบอลทีมชาติที่นำทีมมาโดยจ้าว สามีกำมะลอของฉันที่ถือเจ้าลูกกลมๆ สีส้มเอาไว้ในอ้อมแขน ซึ่งในขณะนี้มีสาวสวยมากหน้าหลายตาเข้าไปเกาะแกะแขนกำยำนั้นจนดูยั้วะเยี้ยเต็มไปหมด
อย่างพวกหล่อนมันก็ได้แต่ฝันเท่านั้นแหละย่ะ ชิ!
"ไหนบอกว่าผัวกำมะลอวะ" เสียงของอีแนนซี่ดังขึ้นถึงทำให้ฉันพึ่งจพรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังนั่งกำสองหมัดเข้าหากันแน่นเพราะรู้สึกหวงสามีกำมะลอของตัวเองขึ้นมาเอาซะดื้อๆ
"ก็เออนะสิวะ" ฉันตอบปัดๆ และรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นในทันที
"จ้องผู้หญิงที่มาใกล้เขาตาถลนขนาดนั้น มึงยังจะบอกว่ามึงไม่รู้สึกมันก็ดูตอแหลไปหน่อยป๊ะ" ซันนี่เดินเข้ามาผลักหัวฉันเบาๆ อย่างรู้เท่าทันในความคิดตามประสาคนที่เป็นเพื่อนกันมานานหลายปี
"กูเปล่าสักหน่อย" พูดจบฉันรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อหนีอีพวกบ้านี่ทั้งสี่นี้ทันที
พรืด!
"ว้าย!"
ฟึ่บ!
"เป็นอะไรมากไหมครับ" แต่เพราะรีบเดินมากไปหน่อยจึงทำให้ฉันพลาดลื่นจนเกือบที่จะล้มคะมำลง แต่ถือว่าดวงฉันมีดีเพราะมีคนเข้ามาช่วยเหลือได้อย่างทันเวลาพอดิบพอดี
"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ เอ่อ...ขอบคุณค่ะ" ฉันไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไรก็เลยได้แต่เอ่ยขอบคุณ
"พายุครับ คณะแพทย์ศาตร์ปีสี่ครับ"
พระเจ้า! ช่วงนี้โลกใบนี้มันเป็นบ้าอะไรนะ ถึงได้ช่างสรรหาเทพบุตรสุดหล่อให้มาเจอกับฉันซึ่งเป็นนางฟ้าแสนสวยบ่อยเอาซะเหลือเกิน~
พ่อหนุ่มร่างสูงหุ่นล่ำกำยำบึกบึนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันในตอนนี้เขาหล่อจังเลยค่ะทุกคน~ เพราะตาของเขาเป็นสีฟ้าจึงทำให้ฉันคาดเดาเอาไปเองว่าบางทีเขาอาจจะเป็นลูกครึ่งอะไรสักอย่าง ผมริงทรงสีบรอนด์มันช่างเข้ากันผิวพรรณอันขาวผ่องนั่น ประกอบดกับทรงจมูกโด่งเป็รสันที่รับกับปากสีชมพูจัดนั้น...
อื้อหือ! อีหวานแทบจะกระอักเลือดตาย!
ปั๊ก!
"ว้าย" ฉันร้องออกมาเสียงหลงด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ ร่างสูงใหญ่ของพี่พายุก็ล้มตึงลงไปตามแรงหมัดปริศนาที่เหวี่ยงเข้ามาทางด้านข้างของเราสองคน
"เป็นอะไรมากไหมคะพี่พายุ" ฉันรีบตรงเข้าไปพยุงแขนหนานั้นอย่างนึกเป็นห่วง ก่อนจะปรายตามองไปยังต้นเหตุที่ทำให้พี่พายุล้มลงด้วยความไม่พอใจ
"ทำบ้าอะไรของจ้าวกัน!" เจอหน้าทีก็ต้องมีเหตุให้ตวาดกันที น้ำหวานเหนื่อยจังเลยค่ะทุกคน
"พี่พายุเขาแค่ช่วยเข้ามาช่วยพยุงเพราะฉันกำลังจะลื่นล้ม มันก็แค่นั้นเองค่ะจ้าว"
"แต่ผัวขาได้ยินเหมือนกับว่ากำลังยืนทำความรู้จักกันเลยนะคะ" เขาส่งสายตาอาฆาตมาดร้ายมาให้ฉันที่ยังคงยืนเกาะกุมแขนพี่พายุอยู่อย่างเก่า
"ผัว?" พี่พายุที่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหันมองหน้าฉันกับจ้าวโฮปสลับกันด้วยความสงสัย
"มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยค่ะพี่พายุ" ฉันสงยิ้มอ่อนๆ ไปให้พี่พายุ
"ฉันจะขอบคุณพี่เขาแต่ฉันไม่รู้จักชื่อและพี่เขาก็แค่บอก แค่นั้นค่ะจ้าว" ก่อนจะหันมาอธิบายกับตัวต้นเหตุให้เข้าใจ
"ยังไงก็ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ" ฉันเอ่ยขอบคุณพี่พายุอีกทีก่อนจะรีบลากแขนหนาของจ้าวโฮปออกมาจากตรงนั้นในทันที
"มันไม่มีอะไรค่ะผัวขา" ฉันบอกกล่าวให้เขาได้เข้าใจอีกครั้งเมื่อเราสองคนออกห่างมาจากพี่พายุพอสมควร
"ถ้ามันทำให้ผัวขาไม่สบายใจครั้งหลังเมียขาก็จะไม่ทำค่ะ" ฉันก้มหัวให้เขาน้อยๆ เชิงขอโทษ
"อยู่ต่อหน้าคนอื่นไม่เห็นจะพูดดีๆแบบนี้กับผัวขาเลยนะคะ!"
"ก็ผัวขาจะประกาศออกไปแบบนั้นทำไม ไม่กลัวใครเขาจะมาได้ยินหรือไงกันเล่า" ฉันอธิบายให้เขาเข้าใจ เพราะเข้าใจว่ายังไงเสียฉันกับเขามันก็คนละชั้นกัน...
"งั้นเดี๋ยวพอผัวขาแข่งเสร็จเดี๋ยวผัวขาจะประกาศให้คนเขารู้กันไปแม่งทั้ง ม. เลยว่า เมียขากับผัวขาเป็นอะไรกัน ละจะได้ไม่มีใครหน้าไหนมันจะบังอาจมารุ่มรามกับเมียขาของผัวขาอีก!"
"ผัวขา จ้าว! เดี๋ยวก่อน! ไอ้จ้าวโว้ย!"
ว่าเสร็จเขาก็เดินขวับกลับไปหาลูกทีมของตัวเองในทันที ปล่อยให้ฉันยืนตะโกนโหวกเหวกโวยวายเป็นอีผีบ้าผีบออยู่คนเดียว
ไงละน้ำหวาน เขาจะเปิดเผยสถานะของแกกับเขาแล้วนั่น ยอมๆ มันไปเถอะ สัปดาห์ละแสนแกจะหาได้จากไหนอีก ตอบ!!
แท้จริงแล้วจ้าวโฮปนั้นก็คือตำนานทายาทมาเฟียที่เล่นบาสเกตบอลได้นิดหน่อย ฮ่าๆ
ป.ล. ครอบครัวนี้เถื่อนรักแรงหึงแรงมาตั้งแต่รุ่นพ่อยันรุ่นหลาน ถ้าถามว่าใครที่พอจะคว้ามาทำผัวได้ในตระกูลนี้ กล้าบอกได้เลยว่ามีแค่นายอินทร์เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่น เราจะไม่พูดถึง🤣