สตรีประหลาด

1224 Words
เสียงเคาะเกราะไม้ส่งสัญญาณเตือนภัย ดังมาจากหมู่บ้าน คฤหาสน์หลังงามตั้งอยู่เชิงเขา ห่างจากหมู่บ้านพอสมควรแต่ยังได้ยินเสียงนั้น บ่าวรับใช้ที่มีอยู่ไม่กี่คนได้ยินเสียงชัดเจนต่างจับกลุ่มพูดคุยกัน คนเหล่านี้เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นานก็จริง พื้นเพเป็นชาวบ้านธรรมดาที่ไร้ที่ไปจำใจขายตัวเป็นทาส มิใช่บ่าวรับใช้ที่เดินทางจากเมืองหลวง เดิมทีเยว่ซินตั้งใจว่า หลังกินมื้อเย็นแล้วจะเจรจากับฉู่ห่าวหรานอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเสียที ทว่าเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยทำให้เปลี่ยนใจเรียกบ่าวมาสอบถาม นางนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยกับพ่อบ้าน “ขอยืมม้าสักประเดี๋ยว ข้าจะเข้าไปดูในหมู่บ้านหน่อย” “หา! เอ่อ ...แม่นาง เอ่อ คุณหนูเยว่ซินว่าอะไรนะขอรับ” “หาอะไรของเจ้า” เยว่ซินทำตาดุใส่ “เจ้าอยู่ที่นี่ดูแลท่านราชครู ข้าไปครู่เดียว” นางไม่รอฟังคำอนุญาตของใครทั้งสิ้น ยกชายกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งเร็วๆ จากไปทันที “เกิดเรื่องใดขึ้น” ฉู่ห่าวหรานเอ่ยถาม หันซูจึงรายงานเท่าที่ทราบ อยู่ที่นี่มาปีเศษ ไม่ค่อยมีเรื่องร้ายใดนัก แรกๆ ชาวบ้านมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่บ้าง แต่นานไปเมื่อเห็นว่าเขาเป็นเพียงอดีตขุนนางตกอับยากจนไร้บารมีจะส่งเสริมผู้ใด จึงค่อยๆ ห่างหายเลิกสนใจไปเอง “ไม่ทราบขอรับ น่าจะเกิดเรื่องที่หมู่บ้าน คุณหนูเยว่ซินไปดูแล้วขอรับ” ฉู่ห่าวหรานยกน้ำชาขึ้นจิบแล้วเอ่ยถาม “เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับแม่นางเหอ” “ตอนอยู่ที่เมืองหลวงเคยได้ยินเรื่องของนางมาบ้าง แต่บ่าวไม่เคยเห็นใบหน้านางสักครั้ง อันที่จริง คนที่อยากได้ยินแค่เสียงของนางยังต้องจ่ายหลายตำลึงทอง ผู้ที่จะได้พบหน้านางยิ่งน้อยนัก ข้าเองก็ไม่มั่นใจว่าใช่ตัวจริงหรือไม่” “หรือฮ่องเต้ส่งผู้อื่นมาแทน” ฉู่ห่าวหรานขมวดคิ้ว “บ่าวก็คิดเช่นนั้นขอรับ” ใบหน้านางแม้มิได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่ไม่ถึงกับเรียกว่าหญิงงาม ยิ่งลักษณะนิสัยแล้ว เขากลับรู้สึกนางไม่มีทางเชี่ยวชาญดีดพิณ ผีผา ชงชาหรือร่ายรำใดๆ ได้เลย “ข้าไม่มีอำนาจใดในกำมือ ซ้ำยังอยู่ในภาพร่างกายเช่นนี้ คนผู้นั้นยังไม่คิดจะปล่อยข้าไปอีกหรือ” “ใต้เท้า” “ช่างเถอะ” เขาถอนหายใจเบาๆ “ข้าจะเข้าไปพักผ่อน หากนางกลับมาแล้วให้มารายงานข้าทันที” “ขอรับ” ผ่านไปราวสองชั่วยาม หญิงสาวจึงควบม้ากลับมาพร้อมหมาป่าตัวใหญ่ที่สิ้นใจแล้ว นางกระโดดลงจากหลังม้า พยักหน้ากับบ่าวรับใช้ที่ยืนสัพหงกอยู่หน้าประตูให้จูงม้าไปที่คอกม้า นางบิดตัวไปมาแล้วหาวปากกว้าง ทว่าสายตาปะทะกับร่างสูงใหญ่ของพ่อบ้านที่ยืนรออยู่นานแค่ไหนไม่รู้ “เหตุใดยังไม่หลับไม่นอน” เยว่ซินถามน้ำเสียงระรื่น “อย่าบอกว่ารอข้านะ” “เป็นคำสั่งของใต้เท้าขอรับ” “อ่อ...” นางพยักหน้ารับ “มีฝูงหมาป่าบุกเข้ามาในหมู่บ้าน คงมีคนไปขโมยลูกมันมา พวกมันจึงพากันบุกเข้าหมู่บ้านอย่างไม่กลัวตาย” “หมาป่า?” เขารู้ว่าแถบนี้มีหมาป่า เคยเจอบ้างแต่ไม่เคยไล่ล่าด้วยตนเอง “อืม” นางพยักหน้าอีกครั้ง “เจ้าไปรายงานท่านราชครูเถอะ ข้าดีใจยิ่งที่เขาเป็นห่วง ข้าปลอดภัยดี เข้านอนได้แล้ว อ้อ!ถึงช่วงนี้อากาศจะร้อน แต่ใกล้รุ่งอากาศกลับเย็น เจ้าดูแลท่านราชครูให้ดี” “ขะ...ขอรับ” “ไปเถอะๆ” นางโบกมือไล่ “ข้าจะไปพักผ่อนเช่นกัน” หันซูมองหญิงสาวเดินผ่านไปไม่สนใจอะไรเขาอีก เขาถอนหายใจหนักๆ หรือชีวิตเขาไม่ค่อยได้ใกล้ชิดสตรี จึงไม่รู้ว่าโลกนี้มีสตรีแปลกประหลาดเช่นนี้ เขาโคลงศีรษะไปมาแล้วเดินกลับไปรายงานฉู่ห่าวหราน แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าตลอดทั้งคืนเยว่ซินจัดการถลกหนังหมาป่าอย่างประณีต เนื้อก็นำมาตุ๋นเครื่องยาจีน กว่าจะเสร็จฟ้าก็สางแล้ว นางผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินไปทิ้งตัวนอน เวลาที่นางเข้าสู่ห้วงนิทราคือเวลาเดียวกับที่ฉู่ห่าวหรานตื่นนอนแล้ว แม้ไม่ต้องตื่นเช้าเข้าวังหลวง แต่เขาก็ตื่นเช้าเป็นปกติ หากไม่เขียนตำราก็อ่านหนังสือ สมบัติที่ขนมาจากเมืองหลวงคือหนังสือหลายสิบหีบ เช้านี้มีโจ๊กธัญญพืช รสชาติที่เปลี่ยนไปทำให้ฉู่ห่าวหรานรู้สึกแปลกพิกล หันซูเห็นสีหน้าของผู้เป็นนายแล้วรีบเอ่ยถาม “ไม่ถูกปากหรือขอรับ” “ไม่คุ้นลิ้น” เขาตอบ ข้าวเคี่ยวจนกลายเป็นโจ๊กผสานกับธัญพืชได้อย่างพอดี เขารู้ว่าสถานการณ์การเงินของที่นี่ไม่สู้ดีนัก อาหารแต่ละมื้อแทบไม่เคยมีเนื้อสัตว์ และในบางวันโจ๊กก็ใสราวน้ำเปล่า ทว่าวันนี้กลับมีโจ๊กธัญพืชชามโต แรกทีเดียวเขาคิดว่าตนเองจะกินไม่หมด แต่ไม่รู้ว่าเพราะรสขาติที่ถูกปากหรือเพราะร่างกายไม่ได้กินของดีมานานทำให้กินได้มากกว่าปกติ “แม่นาง เอ่อ คุณหนูเยว่ซินทำไว้ก่อนเข้านอน นางให้แม่ครัวช่วยอุ่นให้ใต้เท้าขอรับ” “นางทำเองรึ” นางทำให้เขาประหลาดใจอีกแล้ว สตรีเชี่ยวชาญเรื่องทำอาหารนั้นไม่แปลก แต่เมื่อคืนนางไป ‘ไล่ล่า’ หมาป่าแล้วยังกลับมาทำอาหารเช้าให้เขาอีกหรือ? “นางเข้านอนเมื่อใดกัน” “ได้ยินว่า ตอนนี้นางยังนอนอยู่ขอรับ” ชายนหนุ่มเริ่มอยากรู้เรื่องของนางมากขึ้น ทว่าเมื่อรู้ว่านางเพิ่งเข้านอนไปตอนฟ้าสาง เขาไม่คิดรบกวนนาง เอาเถิด ชีวิตมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นมากมาย หากจะมีอีกสักเรื่องสองเรื่องคงไม่หนักหนาไปกว่านี้ กว่าหญิงสาวจะตื่นก็เที่ยงวันพอดี เมื่อหลับเต็มอิ่มร่างกายก็สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ตื่นมาก็หิวมาก โชคดีที่คฤหาสน์หลังนี้ไม่ได้ใหญ่โตจนเกินไป ล้างหน้าและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็รีบวิ่งมาที่ห้องครัว “ท่านป้าลี่จือ” เยว่ซินส่งเสียงเรียกก่อนที่ตัวเองจะยื่นหน้าเข้าไปในห้องครัว “คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” “เที่ยงแล้วไม่ตื่นได้เหรอ” นางหัวเราะเสียงใสพูดคุยอย่างเป็นกันเองราวกับอยู่ที่นี่มานานนับปี “ข้าหิวแล้ว พอมีอะไรกินบ้างไหม” “กินบะหมี่ดีไหมเจ้าคะ” “อะไรก็ได้ ท่านป้าทำมาเลย ข้านั่งกินที่นี่แหละ ประเดี๋ยวต้องไปดูหนังหมาป่าที่ตากไว้อีก” “ฝีมือคุณหนูถลกหนังได้ดีเยี่ยมจริงๆ” “แน่นอนอยู่แล้วก็ข้านะคือ...” “คือ?” “คือ...คือเยว่ซินไงล่ะ” นางหัวเราะร่ากลบเกลื่อนแล้วเดินเลี่ยงไปดูหนังหมาป่าที่ตากไว้ ไม่ได้ทำนานนับปี ได้ทำอีกครั้งกลับจดจำได้แม่นยำ ต่อให้ปิดตานางก็ยังคงทำได้ดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD